ระยอง 24 ส.ค.- “พล.อ.ประวิตร” ลงพื้นที่ระยองตรวจงานกำชับเข้ม ดูแลแรงงานประมง ปราบปรามค้ามนุษย์ เร่งบริหารน้ำ ดูแลสิ่งแวดล้อม เพื่อประโยชน์ประชาชน
วันจันทร์ที่ 24 สิงหาคม 2563 พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ลงพื้นที่ดูงานและมอบนโยบายที่ศาลากลางจังหวัดระยอง อ่างเก็บน้ำดอกกราย มูลนิธิสถาบันพระมหาชนก ศูนย์ฟื้นฟูสมรรถภาพคนงานภาคตะวันออก โดยในเวลา 09.30 น. รองนายกฯ เป็นประธานประชุมมอบนโยบาย ณ ห้องประชุมภักดีศรีสงคราม ชั้น 4 ศาลากลางจังหวัดระยอง พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงแรงงาน ปลัดกระทรวง ผู้ว่าราชการจังหวัดระยอง และหัวหน้าส่วนราชการ เข้าร่วมประชุม
พล.อ.ประวิตร กล่าวในการมอบนโยบานว่า การแก้ไขการทำประมงผิดกฎหมาย การบังคับใช้แรงงานในภาคประมง และปัญหาการค้ามนุษย์ในพื้นที่จังหวัดระยองดีขึ้นตามลำดับ ขอเน้นย้ำการปฏิบัติเพิ่มเติม ดังนี้ นโยบายการประมงแห่งชาติให้ตรวจสอบการเข้า ออก ท่าเทียบเรือของเรือประมงก่อนและหลังการทำประมง เจ้าหน้าที่ต้องตรวจสอบความถูกต้องของเรือ คนประจำเรือ เครื่องมือการทำประมง สัตว์น้ำ ที่ได้จากการทำประมง และเอกสารต่างๆ เพื่อให้มั่นใจว่าเป็นการทำประมงที่ถูกกฎหมาย ด้านการตรวจสอบแรงงานในภาคประมง ขอให้ตรวจตรามิให้มีการรับแรงงานต่างด้าวหลบหนีเข้าเมือง โดยไม่ผ่านมาตรการคัดกรอง ในสถานกักตัวที่รัฐจัดให้และการตรวจเชื้อไวรัส โควิด 19 เข้าทำงานอย่างเด็ดขาด. พร้อมให้สร้างการรับรู้และประชาสัมพันธ์ต่อชาวประมงที่ได้รับผลกระทบจากมาตรการของรัฐบาล ซึ่งผมได้เร่งรัดให้การเยียวยา ผ่านโครงการสินเชื่อเพื่อเสริมสภาพคล่องฯรวมถึงให้ใช้กลไกการทำงานของ ศรชล. จังหวัด ตั้งคณะทำงานเพื่อสนับสนุนภารกิจ ในการตรวจสอบประวัติเรือและเจ้าของเรือ ประเมินราคา ทำลายและจ่ายค่าชดเชยเรือประมงเพื่อเยียวยาผู้ได้รับผลกระทบจากมาตรการนำเรือออกนอกระบบฯ ตามนโยบายของรัฐบาล ระยะที่ 1 จำนวน 305 ลำ
ทั้งนี้ ให้กรมประมง และกรมเจ้าท่าเร่งดำเนินการให้แล้วเสร็จภายในเดือนกันยายน 63 นี้ สำหรับส่วนที่เหลือ จำนวน 263 ลำ ให้เร่งป้องกันปราบปรามการค้ามนุนษย์ ให้สะกัดกั้นการลักลอบพาคนต่างด้าว เข้าเมืองของขบวนการค้ามนุษย์ ทั้งทางน้ำและทางบก โดยห้ามมิให้มีเจ้าหน้าที่เข้าไปมีส่วน รู้เห็นกับขบวนการนำพาและนักค้ามนุษย์ หากฝ่าฝืนจะดำเนินการทั้งทางวินัยและทางอาญาอย่างเด็ดขาด ในด้านทรัพยากรธรรมชาติสิ่งแวดล้อม ให้บูรณาการแผนงานและมาตรการระหว่าง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องกับความมั่นคง ทางธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการอนุรักษ์ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์ในทรัพยากรที่เป็นสาธารณะ โดยเฉพาะในเขตพื้นที่ป่าไม้ ป่าชายเลน มิให้มีการบุกรุก การถือครอง และใช้ประโยชน์ในรูปแบบที่ไม่ถูกต้อง
สุดท้าย พล.อ.ประวิตร กล่าวย้ำว่าในระหว่างการใช้มาตรการเว้นระยะห่างทางสังคม พบว่ามีการใช้สื่อสังคมออนไลน์เป็นเครื่องมือในการกระทำผิดของขบวนการค้ามนุษย์เพื่อแสวงหาประโยชน์ทางเพศต่อเด็กและเยาวชนเพิ่มมากขึ้น ขอให้เพิ่มความเข้มข้นในการสืบสวนปราบปรามบนสื่อสังคมออนไลน์ ขอให้ทุกหน่วยงานร่วมกันปฏิบัติหน้าที่ให้เต็มความสามารถ มีการบูรณาการภารกิจระหว่างหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้ครอบคลุมและเชื่อมโยงในทุกมิติ สร้างการมีส่วนร่วมระหว่างประชาชนในรูปแบบจิตอาสา อาสาสมัคร และเครือข่ายภาคประชาชนเข้ามาช่วยในการรักษาความมั่นคงทางสังคมที่จะธำรงรักษาไว้ซึ่งสถาบันชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ ให้คงอยู่อย่างมั่นคงสืบไป ตลอดจนสร้างความผาสุกให้พี่น้องประชาชนชาวจังหวัดระยอง ในการพัฒนาชีวิตความเป็นอยู่ อย่างมั่นคง มั่งคั่ง และยั่งยืนต่อไป.-สำนักข่าวไทย