กาฬสินธุ์ 20 ส.ค.-ผอ.สพป.กาฬสินธุ์ เขต 3 มีคำสั่งย้ายครูโรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์ วัย 57 ปี ก่อเหตุปีนห้องน้ำล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์วัย 11ปี พร้อมสั่งตั้งคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงโดยเร็วที่สุด
ผู้ปกครองแจ้งจับครูประจำชั้นชายอายุ 57 ปี หลังปีนกำแพงห้องน้ำล่วงละเมิดทางเพศลูกศิษย์วัย 11ปี นักเรียนชั้นป.5 ภายในโรงเรียน ขณะที่แม่แฉหลังเกิดเหตุยื่นข้อเสนอจ่ายเงิน 2 แสน ให้จบเรื่อง แต่ไม่ยอมยืนยันดำเนินคดีถึงที่สุด
วันนี้ ผู้ปกครองเด็กหญิงวัย 11 ปี นักเรียนชั้น ป.5 โรงเรียนแห่งหนึ่งใน อ.คำม่วง จ.กาฬสินธุ์เข้าร้องเรียนว่าลูกสาวถูกครูประจำชั้นชายอายุ 57 ปี ล่วงละเมิดทางเพศในห้องน้ำภายในโรงเรียน และยื่นข้อเสนอเป็นเงิน 200,000 บาท เพื่อให้จบเรื่อง แต่ทางผู้ปกครองไม่ยอมรับ และต้องการให้ดำเนินคดีทางวินัยและอาญาอย่างถึงที่สุด
พร้อมเล่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อวันที่ 11 สิงหาคมที่ผ่านมา หลังจากลูกสาวเลิกเรียนกลับมาบ้านพบว่ามีอาการผิดปกติ จากนิสัยร่าเริงยิ้มแย้มแจ่มใสและช่วยงานบ้าน แต่กลับซึมเศร้าและนอนห่มผ้าร้องไห้ ตนจึงแปลกใจและพยายามสอบถาม ลูกสาวจึงเล่าให้ฟังว่า ถูกครูประจำชั้นล่วงละเมิดทางเพศ ช่วงเวลาประมาณ 14.00 น.ขณะกำลังนั่งเรียนหนังสือได้ขออนุญาตครูประจำชั้นไปเข้าห้องน้ำ อยู่ด้านหลังอาคารเรียน จากนั้นครูประจำชั้นคนดังกล่าวได้เดินตามมาแล้วปีนกำแพงห้องน้ำครูที่อยู่ติดกันเข้ามาบังคับใช้มือปิดปากไม่ไห้ส่งเสียงร้อง และล่วงละเมิดทางเพศ ก่อนที่จะดิ้นหลุดมือและวิ่งหนีออกมาได้แล้วครูก็เข้ามาสอนตามปกติเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น
ทั้งนี้หลังเกิดเหตุตนได้เข้าแจ้งความกับตำรวจ สภ.คำม่วง เจ้าหน้าที่ได้นำตัวลูกสาวไปตรวจร่างกาย พบว่าอวัยวะฉีกขาด หลังจากนั้นได้ไปที่โรงเรียนพร้อมกับผู้ใหญ่บ้าน เพื่อสอบถามเรื่องราวที่เกิดขึ้นกับผู้อำนวยการโรงเรียน ซึ่งครูประจำชั้น ยอมรับว่าได้กระทำเด็กจริง และยื่นข้อเสนอให้เงินจำนวน 200,000 บาท เพื่อไม่ให้เอาเรื่อง ซึ่งตนและครอบครัวไม่ยินยอม เนื่องจากต้องการที่จะดำเนินคดีให้ถึงที่สุด เพราะเป็นพฤติกรรมที่ครูทำกับลูกศิษย์ได้ลงคอ ไม่มีคำขอโทษ และไม่อยากให้เป็นก่อเหตุกับใครอีก หลังเกิดเหตุสงสารลูกสาวอย่างมาก เพราะยังคงมีอาการหวาดผวา ซึมเศร้า และร้องไห้ทุกวัน อีกทั้งไม่กล้าที่จะไปโรงเรียน อย่างไรก็ตามหลังเกิดเหตุนายภัณฑ์รักษ์ พลตื้อ ผู้อำนวยการสำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาประถมศึกษากาฬสินธุ์ เขต 3 ได้สั่งการให้ตั้งคณะกรรมการสืบสวนข้อเท็จจริงลงพื้นที่ พร้อมให้นักจิตวิทยาและเจ้าหน้าที่ชุดเฉพาะกิจ ลงพื้นที่เพื่อตรวจสอบข้อเท็จจริง พร้อมให้กำลังใจเยียวยาเด็กและผู้ปกครองเป็นการเบื้องต้นแล้ว พร้อมกับมีหนังสื่อคำสั่งย้ายครูประจำชั้นคนดังกล่าวมาราชการที่สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษาโดยไม่มีกำหนด และสั่งการให้คณะกรรมการเร่งรัดดำเนินการตรวจสอบโดยเร็วที่สุด.-สำนักข่าวไทย