ภูเก็ต 3 ต.ค. – หลายพื้นที่มีพิธีเปิดงานเทศกาลกินเจยิ่งใหญ่ ที่ภูเก็ต รมว.แรงงาน เป็นประธานพิธียกเสาโกเต้ง เชิญตะเกียงเทวดาทั้ง 9 เริ่มต้นประเพณีถือศีลกินผัก ประชาชนและนักท่องเที่ยวแห่ร่วม คาดเงินสะพัด 1.5 หมื่นล้านบาท
เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (2 ต.ค.) นายพิพัฒน์ รัชกิจประการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน เป็นประธานในพิธียกเสาโกเต้ง และอัญเชิญตะเกียงเทวดาทั้ง 9 ดวง ที่ศาลเจ้าจุ้ยตุ่ยเต้าโบเก้ง ซอยภูธร ถ.ระนอง ต.ตลาดเหนือ อ.เมืองภูเก็ต ซึ่งเป็นหนึ่งในศาลเจ้าขนาดใหญ่และเก่าแก่ที่สุดแห่งหนึ่งของ จ.ภูเก็ต เป็นสัญลักษณ์การเริ่มต้นประเพณีถือศีลกินผัก ซึ่งกำหนดจัดขึ้นในวันนี้ (3 ต.ค.) เป็นวันแรก จนถึงวันที่ 11 ตุลาคม 2567 โดยมีหัวหน้าส่วนราชการ ภาครัฐ ภาคเอกชน ชาวไทยเชื้อสายจีน และนักท่องเที่ยว เดินทางมาร่วมงานจำนวนมาก
นอกจากพิธีกรรมที่ยิ่งใหญ่แล้ว ยังมีม้าทรงทั้งชาย-หญิง หลายคนมาร่วมในพิธีกรรม และต่างแสดงอภินิหาร โดยเฉพาะม้าทรงชาย มีการใช้ขวานและมีดดาบ ซึ่งเป็นอาวุธตามตำนานความเชื่อของชาวจีน ทิ่มแทงร่างกาย เป็นสัญลักษณ์ของการรับทุกข์แทนผู้เข้าร่วมถือศีลกินผักในปีนี้ สร้างความตื่นตาตื่นใจให้กับนักท่องเที่ยวทั้งชาวไทยและต่างชาติที่เดินทางมาร่วมงานอย่างมาก และเนื่องจากช่วงถือศีลกินผักปีนี้ตรงกับวันชาติจีน ทำให้มีการคาดการณ์ว่า บรรยากาศการท่องที่ยวภูเก็ตจะคึกคักมากในเทศกาลกินเจ 9 วัน 9 คืน
เบตงเปิดงานเทศกาลกินเจ กลางสายฝน
เช่นเดียวกับที่ อ.เบตง จ.ยะลา ใต้สุดแดนสยาม นายอำพล พงศ์สุวรรณ ผู้ว่าราชการจังหวัดยะลา เป็นประธานไหว้เทพเจ้า สิ่งศักดิ์สิทธิ์ ประจำเมืองเบตง โดยใช้พื้นที่บริเวณหอนาฬิกาเมืองเบตง จัดพิธี เพื่อเป็นการบอกกล่าว ขออนุญาตจัดงานเทศกาลถือศีลกินผัก (กินเจ) ของวัดโพธิสัตโตเจ้าแม่กวนอิมเบตง หรือ วัดกวนอิม ระหว่างวันที่ 2-11 ตุลาคม 2567
บรรยากาศเป็นไปอย่างเข้มขลัง มีฝนตกลงมาอย่างหนัก แต่ไม่กระทบกับพลังศรัทธาของชาวไทยเชื้อสายจีน รวมทั้งขบวนการแสดง ทั้งสิงโต มังกร และม้าทรง ที่ออกมาแสดงอภินิหาร และมีการแห่องค์เทพเจ้าต่างๆ ไปรอบเมืองเบตง เพื่อความเป็นสิริมงคล ซึ่งการจัดงานเทศกาลกินเจของที่นี่ แตกต่างจากพื้นที่อื่นๆ เพราะมีม้าทรงจากประเทศมาเลเซียมาร่วมงานด้วย ถือเป็นเทศกาลกินเจ เชื่อมสัมพันธ์ไทย-มาเลเซีย
เทศกาลกินเจ จัดในวันขึ้น 1 ค่ำ ถึง 9 ค่ำ เดือน 9 ตามปฏิทินจีน ถือเป็นหนึ่งในประเพณีที่มีความสำคัญต่อชาวไทยเชื้อสายจีน สืบทอดกันมาจากบรรพบุรุษ จากรุ่นสู่รุ่น โดยละเว้นการรับประทานเนื้อสัตว์ ผักที่มีกลิ่นแรง ผลิตภัณฑ์ที่ปรุงจากสัตว์ อาหารรสจัด อาหารปรุงแต่ง สุรา เพื่อสร้างบุญกุศล ไม่เบียดเบียนสัตว์ทั้งหลาย ร่วมกับการถือศีลและปฏิบัติธรรม ทำให้ได้สุขภาพกายดี ร่างกายสมดุล สุขภาพใจก็ดีตามมา. – สำนักข่าวไทย