“เขื่อนลำตะคอง” น้ำแล้ง เหลือใช้แค่ 22%

โคราช 15 ก.ย.- หลายพื้นที่ประสบปัญหาน้ำท่วม แต่เขื่อนลำตะคอง โคราช น่าห่วง ปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อยวิกฤติ” เหลือใช้แค่ 22% เท่านั้น หวั่นไม่มีน้ำผลิตประปา รอฝนช่วยเติมน้ำ


ศูนย์บัญชาการเหตุการณ์จังหวัดนครราชสีมา โดยโครงการชลประทานนครราชสีมา ได้รายงานสถานการณ์น้ำเก็บกักในพื้นที่จังหวัดนครราชสีมา ว่า ปริมาณน้ำเก็บกักในอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง เหลือน้ำเฉลี่ย 353.35 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 39.91 % และเป็นน้ำใช้การได้แค่ 315.91 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 37.25 % โดยอ่างเก็บน้ำลำตะคองที่ส่งจ่ายน้ำหล่อเลี้ยงชาวโคราชถึง 5 อำเภอ ปัจจุบันเหลือน้ำอยู่ที่ 88.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 28.28 % เท่านั้น และเป็นน้ำใช้การได้แค่ 66.20 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 22.69 %

ถือว่าปริมาณน้ำอยู่ในเกณฑ์ “น้ำน้อยวิกฤติ” ขณะที่อ่างเก็บน้ำลำพระเพลิง เหลือน้ำอยู่ที่ 60.11 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 38.79 % เป็นน้ำใช้การได้ 59.39 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 38.50% ส่วนอ่างเก็บน้ำมูลบน เหลือน้ำอยู่ที่ 71.39 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 50.64 % เป็นน้ำใช้การได้ 64.39 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48.06 % และอ่างเก็บน้ำลำแชะ เหลือน้ำอยู่ที่ 132.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 48.33 % และเป็นน้ำใช้การได้ 125.92 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 46.99 % ส่วนอ่างเก็บน้ำขนาดกลางอีก 23 แห่ง เหลือน้ำเก็บกักรวม ล่าสุดอยู่ที่ 137.99 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 30.73 % และเป็นน้ำใช้การได้ 20.82 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 23.47 %


สรุปอ่างเก็บน้ำขนาดใหญ่ 4 แห่ง และขนาดกลาง 23 แห่ง รวมทั้งหมด 27 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา ปัจจุบันมีน้ำเก็บกักรวมเฉลี่ยอยู่ที่ 491.35 ล้านลูกบาศก์เมตร หรือ 40.25 % จึงต้องบริหารจัดการน้ำอย่างรัดกุม โดยส่งจ่ายให้ประชาชนได้ใช้อุปโภค-บริโภคเป็นลำดับแรก ส่วนภาคการเกษตรในช่วงฤดูกาลเพาะปลูกนี้ ให้ใช้น้ำฝนไปก่อน แต่หากฝนไม่ตกหรือฝนทิ้งช่วงนาน ก็ต้องส่งจ่ายน้ำไปช่วยพื้นที่เกษตรในเขตชลประทานด้วย ซึ่งมีอยู่กว่า 150,000 ไร่ทำให้ปริมาณลดลงอย่างรวดเร็ว อ่างเก็บน้ำทั้ง 27 แห่งของจังหวัดนครราชสีมา จึงยังสามารถรองรับปริมาณน้ำได้อีกจำนวนมาก

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ได้ออกประกาศล่าสุด ฉบับที่ 4 (43/2567) เช้าวันนี้ เวลา 06.00 น. เรื่อง ฝนตกหนักถึงหนักมากบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง มีผลกระทบตั้งแต่วันที่ 15-17 กันยายน 2567 โดยจังหวัดที่คาดว่า จะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก ในช่วงวันที่ 15 กันยายน 2567 มีโอกาสเกิดฝน 80 % ของพื้นที่ ได้แก่ บริเวณจังหวัดมุกดาหาร ร้อยเอ็ด ยโสธร อำนาจเจริญ นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี ส่วนช่วงวันที่ 16-17 กันยายน 2567 คาดว่าจะมีฝนตกหนักถึงหนักมาก มีโอกาสเกิดฝน 60-70 % ของพื้นที่ ได้แก่ บริเวณจังหวัดร้อยเอ็ด นครราชสีมา บุรีรัมย์ สุรินทร์ ศรีสะเกษ และจังหวัดอุบลราชธานี – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย