เจ้าของร้านผัดไทยรัวปืนดับน้องชายภรรยาร้านเป็ดพะโล้กลางเมืองสุราษฎร์ฯ

สุราษฎร์ธานี 20 ส.ค. – เจ้าของร้านผัดไทย รัวปืนหมดแม็กดับชีวิตน้องชายภรรยาเจ้าของร้านเป็ดพะโล้ชื่อดังกลางเมืองสุราษฎร์ธานี เคยแจ้งความแล้ว 2 ครั้ง ชาวบ้านเผยทั้งคู่มีเรื่องกันมานานแล้ว


กล้องวงจรปิดของร้านเป็ดพะโล้ ต.มะขามเตี้ย อ.เมืองสุราษฎร์ธานี เผยให้เห็นเหตุการณ์ขณะภรรยาของร้านเป็ดพะโล้และลูกจ้าง กำลังล้างหน้าบ้านอยู่ ทำให้มีน้ำไหลไปหน้าร้านข้างเคียง ซึ่งเป็นร้านขายผัดไทย จนนายธนาวุฒิ อายุ 37 ปี เจ้าของร้านผัดไทย ไม่พอใจ ออกมาต่อว่าถึงขั้นทะเลาะและทำร้ายร่างกายเจ้าของร้านเป็ดพะโล้

หลังจากนั้นภรรยาเจ้าของร้านเป็ดพะโล้โทรตามนายไก่ อายุ 51 ปี น้องชาย มาช่วยเคลียร์ พอนายไก่มาถึง ตะโกนเรียกนายธนาวุฒิให้ออกมาเคลียร์กัน แต่นายธนาวุฒิไม่เคลียร์ กลับคว้าปืนออกมายิงใส่จนหมดแม็ก จนนายไก่ล้มลง ส่วนนายธนาวุฒิเดินกลับเข้าร้านไป ไม่ได้หนีไปไหน เหตุเกิดเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา


หลังเกิดเหตุตำรวจ สภ.เมืองสุราษฎร์ธานี เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ พบเจ้าหน้าที่กู้ภัยกำลังปั๊มหัวใจช่วยชีวิตนายไก่ ก่อนรีบพาส่งโรงพยาบาล แต่ไม่สามารถยื้อชีวิตไว้ได้ จากนั้นตำรวจได้ควบคุมตัวนายธนาวุฒิ ที่อยู่ในร้านผัดไทยหอยทอด ไปสอบสวนที่โรงพัก

นายสมเกียรติ อายุ 56 ปี เจ้าของร้านเป็ดพะโล้ เล่าว่า ช่วงเช้าตนทำเป็ดตามออเดอร์ของลูกค้า จากนั้นภรรยาล้างพื้นหน้าบ้าน น้ำได้ไหลไปทางหน้าร้านของนายธนาวุฒิ แล้วเขาเดินมาต่อว่าจนเกิดการทะเลาะวิวาทกัน จนถูกนายธนาวุฒิทำร้ายร่างกาย ภรรยาจึงโทรหาน้องชาย คือนายไก่ พอนายไก่มาถึงก็ไปตะโกนเรียกให้นายธนาวุฒิออกมาเคลียร์กัน แต่กลับถูกยิงจนหมดแม็ก

ทั้งนี้ ผู้ก่อเหตุย้ายมาอยู่ที่นี่ได้ 1 ปี ตอนแรกที่เขามาอยู่ตนเคยให้เขาทำที่ป้องกันน้ำไหล เพราะตนล้างหน้าบ้านทุกวัน ไม่เช่นนั้นจะมีแมลงวันเยอะ แต่เขาบอกว่าไม่เป็นไร สุดท้ายก็มีปัญหากันเรื่องนี้ ถึงขั้นต้องแจ้งความมาแล้วถึง 2 ครั้ง


ส่วนนายธนาวุฒิ เจ้าของร้านผัดไทย ทราบว่าอดีตเป็นทหารอากาศ ยศจ่าอากาศ หลังถูกคุมตัวไปสอบปากคำ ขณะนี้ยังถูกคุมตัวอยู่ในห้องสอบสวน เบื้องต้นถูกตั้งข้อหาฆ่าคนตายโดยเจตนา

ขณะที่ น.ส.ณัชชยา อายุ 28 ปี ภรรยานายธนาวุฒิ มือยิง เข้าแจ้งความเพื่อให้ดำเนินคดีกับคู่กรณี ข้อหาทำร้ายร่างกายตน โดย น.ส.ณัชชยา บอกกับตำรวจว่าถูกลูกสาวของคู่กรณีใช้ไม้หน้าสามตีศีรษะบาดเจ็บ หลังจากให้ปากคำแล้วพนักงานสอบสวนได้ส่งตัวเข้าตรวจร่างกายที่โรงพยาบาลสุราษฎร์ธานี

ส่วนพื้นที่จุดเกิดเหตุ พนักงานเทศบาลนครสุราษฎร์ธานี นำรถดับเพลิงมาฉีดน้ำทำความสะอาดรอยเลือด ส่วนประเด็นชนวนการเกิดเหตุ ชาวบ้านใกล้จุดเกิดเหตุบอกว่าทั้ง 2 ฝ่ายมีปากเสียงกันมานานแล้ว ทั้งเรื่องการจอดรถของลูกค้าที่ไม่ใช่ลูกค้าของตนเอง และเรื่องการล้างหน้าร้าน ก่อนเกิเหตุ นายธนาวุฒิ มือยิง ติดป้ายประกาศขายบ้านเพื่อย้ายไปอยู่ที่อื่น แต่ยังขายไม่ได้ สุดท้ายมาเกิดเรื่องขึ้นก่อน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผ่าไชน่า เรลเวย์ คว้า 3 โครงการรัฐในภูเก็ต

เหตุการณ์ตึก สตง.ถล่ม กลายเป็นปฐมบทในการปูพรมตรวจสอบบริษัท ไชน่า เรลเวย์ หลังพบเป็นผู้ชนะการประมูลโครงการก่อสร้างตึก สตง. และโครงการรัฐหลายแห่งทั่วประเทศ ล่าสุดที่ จ.ภูเก็ต ตรวจพบ 3 โครงการ และหนึ่งในนั้นกำลังมีปัญหาก่อสร้างที่ไม่ได้มาตรฐาน

มหาสงครามโลก

นักวิชาการชี้ “มหาสงครามโลกครั้งที่ 3” เกิดแน่ถ้าโลกยังตึงเครียด

นักวิชาการด้านความมั่นคงและการต่างประเทศระดับแนวหน้าของไทย มีความเห็นตรงกันว่า หากผู้นำชาติมหาอำนาจไม่เร่งลดระดับความตึงเครียดสถานการณ์โลก

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว

กู้ภัยนานาชาติ เครือข่าย USAR ถอนกำลังแล้ว หลังอยู่ปฏิบัติภารกิจค้นหา-กู้ชีพ สนับสนุนกู้ภัยไทย เหตุตึก สตง.ถล่ม กว่า 1 สัปดาห์

ธรรมชาติใต้ดินเปลี่ยนไป หลังแผ่นดินไหว 1 สัปดาห์

แผ่นดินไหวที่เกิดขึ้นเมื่อสัปดาห์ที่แล้ว ส่งแรงสั่นสะเทือนในหลายพื้นที่ของภาคเหนือ แม้บนพื้นผิวดินจะไม่ได้สร้างความเสียหายมากนัก แต่พบความเปลี่ยนแปลงสภาพใต้ดินจนเกิดปรากฏการณ์ที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน ทั้งหลุมยุบขนาดใหญ่ น้ำพุร้อนที่เคยพุ่งจากใต้ดินหายไป แต่น้ำตกที่แห้งในหน้าแล้งกลับมีน้ำไหลออกมา ซึ่งนักธรณีวิทยายืนยันเป็นผลพวงจากแผ่นดินไหวครั้งนี้

ข่าวแนะนำ

“ไฮโซกำมะลอ” กระโดดชั้น 3 สน.โคกคราม

“ไฮโซเก๊” โลก 2 ใบ เครียดปีนตึก หลังถูก “คะน้า” ดาราสาว ออกมาแฉกลางรายการดัง จนตำรวจต้องเข้าเกลี้ยกล่อมพาไปโรงพัก แต่ยังวิ่งหนีการควบคุม กระโดดลงมาจากชั้น 3 สน.โครกคราม บาดเจ็บ

วันที่ 11 ปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. ถล่ม

วันที่ 11 ของปฏิบัติการกู้ซากตึก สตง. พังถล่ม เจ้าหน้าที่เดินหน้าใช้เครื่องจักรหนักเข้า เคลียร์ซากต่อเนื่อง โดยเฉพาะโซนบี และซี ที่คาดว่าเป็นจุดที่มีผู้ติดค้างอยู่จำนวนมาก

ชุดค้นหาลงโพรงโซน B, C ลึก 5-6 เมตร ได้กลิ่นแรง ไม่พบผู้สูญหาย

“กู้ภัย” เผยเจาะโพรงพื้นที่โซน B และ C ได้แล้ว พร้อมส่งชุดค้นหาลงโพรงไปตรวจสอบลึก 5-6 เมตร ยังไม่พบผู้สูญหายเพิ่ม แต่ได้กลิ่นแรง เร่งเดินหน้าเครื่องจักรหนักเคลียร์ซากต่อเนื่อง ยันจะช่วยเหลือจนกว่านำร่างสุดท้ายออกมาครบ