ยโสธร 14 ส.ค. – เหตุระทึก ตำรวจต้องตัดสินใจใช้ปืนยิงขู่ ชายคลุ้มคลั่ง ถือมีดพร้า วิ่งไล่ทำร้ายคน สุดท้ายจับตัวได้ ไม่มีใครได้รับบาดเจ็บ
ตำรวจสายตรวจ สภ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร พยายามเข้าระงับเหตุชายสวมคลุ้มคลั่ง ถือมีดพร้าออกอาละวาดจะทำร้ายคนอื่น ภายในพื้นที่ บ้านทุ่งเศรษฐี ต.ส้มผ่อ อ.ไทยเจริญ จ.ยโสธร โดยเมื่อตำรวจไปถึง ชายคนดังกล่าวพยายามถือมีดพร้าเข้ามาทำร้าย จากนั้นเจ้าหน้าที่ที่มีกล้องจึงสั่งให้ชายคนดังกล่าวหยุดแต่ไม่เป็นผล กลับถืออาวุธไล่ฟันชายชุดน้ำเงิน ซึ่งเป็นบิดา ที่อยู่หน้าบ้านพัก จนเจ้าหน้าที่ต้องยิงปืนเพื่อระงับเหตุ พร้อมวิ่งตะโกนบอกให้ชายที่อยู่ในอาการคลุ้มคลั่งหยุดวิ่งไล่ฟันชายชุดน้ำเงิน และได้ยิงปืนข่มขู่ไปอีก รวมทั้งหมด 3 นัด จนท้ายสุดชายคลั่งยอมทิ้งมีดพร้า ยอมให้ตำรวจเข้าจับกุม
เหตุการณ์นี้ เพจเฟซบุ๊ก “พระจันทร์ ลายกระต่าย V4” นำคลิปมาโพสต์ พร้อมระบุว่า ‘รับแจ้งเหตุผู้ป่วยจิตเวชคุ้มคลั่ง พื้นที่ สภ.ไทยเจริญ ภ.จว.ยโสธร พอตำรวจไปถึงที่เกิดเหตุก็ตามคลิปครับ สาธารณสุขควรแยกบัตรผู้ป่วยว่าบ้าแต่กำเนิดหรือบ้าเพราะยา ถ้าบ้าเพราะยาจะทำร้ายคนรอบข้าง
ผู้สื่อข่าวได้โทรศัพท์สอบถามไปยัง พ.ต.อ.ปัญญา มงคลการ ผกก.สภ.ไทยเจริญ ระบุว่าเหตุการณ์ดังกล่าวเกิดขึ้นเมื่อเวลาประมาณ 12.00 น. วันที่ 10 ส.ค. ที่ผ่านมา หลังรับแจ้งจาก 191 ตำรวจ สภ.ไทยเจริญ จึงนำกำลังไป 4 นาย เพื่อระงับเหตุ เมื่อไปถึงเจ้าหน้าที่ได้ลงจากรถจากรถ ชายคลุ้มคลั่งทราบชื่อ คือนายศักดิ์ดา อายุ 33 ปี ที่นั่งอยู่หน้าบ้าน ถือมือพร้าวิ่งออกมาจะฟันเจ้าหน้าที่ตำรวจ ทำให้ต้องตัดสินใจยิงปืนขู่ลงพื้นไป 1 นัด จนผู้ก่อเหตุหยุดนิ่งไปสักพักหนึ่ง จากนั้นผู้ก่อเหตุได้ถือมืดพร้าวิ่งไล่ฟันพ่อแท้ๆ เพราะคิดว่าพ่อเป็นคนแจ้งตำรวจ เจ้าหน้าที่ตำรวจจึงต้องวิ่งไล่เพื่อไปช่วยเหลือพร้อมตะโกนบอกให้หยุด และยิงปืนขู่อีก 2 นัด จนชายรายดังกล่าวทิ้งมืดพร้าที่อยู่ในมือ และเจ้าหน้าที่ตำรวจได้ควบคุมตัวไปรักษาอาการทางจิตเวชที่ รพ.ไทยเจริญ
สำหรับประวัติ ของชายคลุ้มคลั่งรายนี้ ทราบว่ามีอาการทางจิตตั้งแต่ปี 2563 เข้ารับการรักษาที่ รพ.พระศรีมหาโพธิ์ ต่อมา ปี2562 เริ่มมีอาการหูแว่ว ระแวงว่าจะมีคนมาทำร้าย และตำรวจเคยนำตัวส่งไปรักษษที่ รพ.จ.ยโสธร มาแล้วครั้งหนึ่ง
อย่างไรก็ตามการระงับเหตุครั้งนี้ตนมองว่าไม่เกินกว่าเหตุเนื่องจากผู้ก่อเหตุถือมือพร้าวิ่งเข้ามาจะทำร้าย ส่วนการยิงปืนเพื่อข่มขู่และระงับเหตุโดยไม่ได้หวังผลต่อชีวิตเพราะเจ้าหน้าที่ยิงลงพื้นไม่ได้ยิงใส่ตัวผู้ก่อเหตุ.-สำนักข่าวไทย