ตรัง 6 พ.ค.-หนุ่มวัย 28 ปีไลฟ์สดขับเก๋งพาลูกสาววัย 1 ขวบ 7 เดือนดิ่งแม่น้ำตรัง ชาวบ้านเร่งเข้าช่วยขึ้นจากน้ำในสภาพไม่มีชีพจร ก่อนทีมแพทย์เร่งช่วยยื้อชีวิต เบื้องต้นอาการยังโคม่า
เมื่อวานนี้ (5 พ.ค.67) เวลาประมาณ 16.30 น. ตำรวจ สภ.บ้านโคกยาง อ.กันตัง จ.ตรัง ได้รับแจ้งเหตุมีพ่อรายหนึ่งไลฟ์สดในเฟซบุ๊กส่วนตัว พาลูกสาววัย 1 ขวบ 7 เดือน ขับรถยนต์เก๋งพุ่งลงในแม่น้ำตรัง บริเวณใต้สะพานพระยารัษฎานุประดิษฐ์ หรือสะพานย่านซื่อ
ที่เกิดเหตุมีชาวบ้านไม่ต่ำกว่า 30 คน ได้ช่วยกันลากรถยนต์เก๋งคันดังกล่าวที่จมมิดหลังคาอยู่ติดกับตอม่อสะพาน ความลึกประมาณ 3 เมตร ห่างจากตลิ่งไปประมาณ 6 เมตร ขึ้นมาจากน้ำ พร้อมกับช่วยนำนายกวีวัฒน์ หรือโกแบงค์ อายุ 28 ปี ออกมาจากรถในสภาพที่ไม่รู้สึกตัว ก่อนจะนำตัวของเด็กหญิง อายุประมาณ 1 ขวบ 7 เดือน ซึ่งเป็นลูกสาวของนายกวีวัฒน์ ขึ้นมาจากน้ำในสภาพที่ไม่รู้สึกตัวเช่นกัน ซึ่งเจ้าหน้าที่ต้องเร่งปั๊มหัวใจยื้อชีวิตจนชีพจรกลับมาจึงนำตัวส่งโรงพยาบาลตรัง เบื้องต้นทั้งคู่อยู่ในอาการโคม่า ยังไม่รู้สึกตัว
จากการตรวจสอบพื้นที่เกิดเหตุและสภาพรถเป็นรถยนต์เก๋ง ยี่ห้อฮอนด้า รุ่นซีวิก (รุ่นเก่า) สีบรอนทอง สภาพกระจกหลังแตก กระจกข้างแตก มีเศษของกระจัดกระจาย และมีขวดนม อุปกรณ์สำหรับเลี้ยงเด็ก พร้อมกับธงพระจีนอยู่ภายในรถ เจ้าหน้าที่ต้องกั้นพื้นที่ห้ามบุคคลที่ไม่เกี่ยวข้อง
สอบถามนายประเสริฐ หรือโกสังข์ อายุ 43 ปี ชาวบ้านในจุดเกิดเหตุ เล่าว่า แฟนสาวของตนเห็นท้ายรถห้อยอยู่จึงบอกให้มาช่วย จังหวะนั้น ผู้ช่วยผู้ใหญ่บ้าน คือ นายอำพัน ศรีสุวรรณ จึงดำน้ำลงไปช่วยทันที โดยเอาค้อนทุบกระจก แล้วรีบนำลูกสาวซึ่งนั่งอยู่ใต้ที่พักเท้าเบาะข้างคนขับขึ้นมาก่อน แล้วจึงไปดึงผู้เป็นพ่อที่นั่งอยู่บนเบาะคนขับออกมาจากรถ ซึ่งตอนนั้นทั้งคู่ไม่รู้สึกตัวแล้ว เพราะกว่าจะมีคนมาช่วยก็เกือบครึ่งชั่วโมงแล้ว โดยมีระดับน้ำลึกประมาณ 3 เมตร โดยรถยนต์เก๋งจมมิดไปทั้งคัน แต่โชคดีที่น้ำใสทำให้มองเห็นท้ายรถ
ตำรวจได้สอบถามพี่ชายของนายกวีวัฒน์ ทราบว่านายกวีวัฒน์ มีอาการป่วยเป็นโรคไบโพล่า และโรคซึมเศร้า เลิกรากับภรรยาไปได้ประมาณ 1 ปีกว่า ส่วนลูกสาวยังคงอยู่ในความดูแลของพ่อ ก่อนหน้านี้มักจะเห็นคนเป็นพ่อตัดพ้อชีวิตผ่านเฟซบุ๊กส่วนตัวอยู่หลายครั้ง จนกระทั่งวันเกิดเหตุที่ขับรถลงแม่น้ำตรัง
สำหรับในคลิปไลฟ์ จะมีเสียงที่พ่อพูดคุยกับลูกสาวต่อเนื่อง และมีการหันกล้องสลับ เป็นทั้งกล้องหน้าที่เห็นคนเป็นพ่อและกล้องหลังที่เห็นแม่น้ำตรัง แต่ใจความการพูดคุยไม่สามารถจับใจความได้เนื่องจากสัญญาณเครือข่ายมือถือที่ไม่เสถียร ก่อนจะมีการถอยรถออกมา และขับรถพุ่งลงแม่น้ำ เมื่อรถลงน้ำปรากฏว่าผู้เป็นพ่อได้ยกมือถือมาไลฟ์สดต่อ ก่อนไลฟ์ดังกล่าวจะจบลงไป โดยมีชาวโซเซียลต่างห้ามปราม และให้กำลังใจ เพื่อไม่ให้กระทำในลักษณะนี้.-สำนักข่าวไทย