สมุทรสาคร 9 เม.ย. – เจอแคดเมียมอีกเกือบ 500 ตัน เช่าโกดังซุกในพื้นที่กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ยังคงเหลือที่ต้องตามหาอีก 4,900 ตัน
ที่โกดังลักษณะเป็นอาคารชั้นเดียวสร้างไว้ให้เช่า ต.คลองมะเดื่อ อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ค้นพบกากแร่แคดเมียมและสังกะสี ใส่อยู่ในถุงบิ๊กแบ็กขนาดใหญ่ เก็บกองอยู่ภายในเป็นจำนวนมาก แต่ละถุงมีสัญลักษณ์ตัว P ตามด้วยตัวเลข 3 ตัว และวันเดือนปี ที่ขนย้ายออก เหมือนกันกับที่พบใน 2 บริษัท ในพื้นที่ตำบลบางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร ซึ่งวันนี้ นายจุลพงษ์ ทวีศรี อธิบดีกรมโรงงานอุตสาหกรรม พร้อมเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง และเจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้อง และเจ้าหน้าที่จากหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง นำหมายค้นเข้าตรวจสอบโกดังดังกล่าว สืบเนื่องจากการสนธิกำลังกันของทางกระทรวงอุตสาหกรรม ร่วมกับ ตำรวจ ปทส. และหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง สืบสวนหาเส้นทางการขนย้ายกากแร่แคดเมียม จากจังหวัดตาก มาที่จังหวัดสมุทรสาคร ก่อนส่งต่อไปยังจังหวัดชลบุรีที่เข้าจับกุมไปก่อนหน้านี้
จากการสอบถาม นายกรณ์วัชพล เจ้าของโกดังให้เช่า ยอมรับว่า ทางบริษัทแรกที่พบแคดเมียม เช่าโกดังตามสัญญาเช่า เพื่อนำกากแคดเมียมที่บริษัทรับมาจากจังหวัดตาก เข้ามาเก็บไว้ภายในโกดังแห่งนี้ ตั้งแต่ประมาณ 5 เดือนที่ผ่านมา เพื่อรอจำหน่ายต่อไป
ทั้งนี้ เจ้าของผู้ให้เช่าโกดังแห่งนี้ มีความผิดในฐานครอบครองกากแร่ที่มีการปนเปื้อนของสังกะสีและแคดเมียม ตาม พ.ร.บ.วัตถุอันตราย มีโทษจำคุก 2 ปี หรือปรับไม่เกิน 200,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ ซึ่งกากแร่แคดเมียมที่พบในโกดังแห่งนี้มีอยู่ราว 312 ถุง หรือน้ำหนักโดยรวมประมาณ 500 ตัน แต่ในส่วนของสัญญาเช่าระบุไว้ 1,500 ตัน ซึ่งเจ้าของโกดังให้เช่า บอกว่า ส่งไปให้มิสเตอร์จางที่ถูกจับกุมได้เมื่อวันอาทิตย์ที่ผ่านมา เพราะฉะนั้น ยอดการขนส่งจากจังหวัดตากถึงโรงงาน จ.สมุทรสาคร ตามที่ระบุไว้ 13,800 ตัน รวมกับในส่วนที่ถูกตรวจพบแล้วทุกที่นั้น ยังคงเหลือต้องตามหาอีกราว 4,900 ตัน
นอกจากนี้ นายกรณ์วัชพล เจ้าของโกดังให้เช่า บอกไม่รู้จักแคดเมียม ไม่รู้มีผลร้ายแรงอย่างไร จึงรับไว้ จากนั้นก็มีการขนย้ายออกไปบ้างแล้ว ครั้งละประมาณ 10 เที่ยวต่อวัน ใช้รถบรรทุก 10 ล้อมาขน แต่ละเที่ยวน้ำหนักราว 15 ตัน โดยขนออกไปแล้ว 6 วัน ซึ่งในทุกครั้งที่จะมีการมานำของออกไปนั้นทางเจ้าของโรงงานที่เช่าไว้ จะเป็นผู้โทรศัพท์มาแจ้ง แต่ส่วนตนเองแทบติดต่อกับทางนั้นไม่ได้เลย
น.ส.พิมพ์ภัทรา วิชัยกุล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสาหกรรม เปิดเผยว่า นายเศรษฐา ทวีสิน นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง สั่งการในที่ประชุมคณะรัฐมนตรี ให้ตั้งคณะกรรมการร่วมกรณีการตรวจพบกากแร่แคดเมียม 6 หน่วยงาน ประกอบด้วย กระทรวงอุตสาหกรรม, กระทรวงมหาดไทย, กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม, กระทรวงสาธารณสุข, สำนักงานตำรวจแห่งชาติ และกรมสอบสวนคดี (ดีเอสไอ) โดยกระทรวงอุตสาหกรรมจะเป็นหน่วยงานหลัก
ในส่วนของนางเพ็ญโฉม แซ่ตั้ง ผู้อำนวยการมูลนิธิบูรณะนิเวศ และดาวัลย์ จันทรหัสดี เครือข่ายผู้ได้รับผลกระทบจากมลพิษอุตสาหกรรม ร่วมกันแถลงข้อเท็จและข้อเสนอแนะ เรื่อง “กากแคดเมียม แค่ปิดโรงงาน/ปิดพื้นที่/ขนย้าย เรื่องไม่จบ ถึงเวลาแก้ปัญหาแบบใช้ปัญญา” ว่า กรณีนี้สะท้อนถึงความล้มเหลวของระบบบริหาร กากอุตสาหกรรม ที่ไม่สามารถควบคุมติดตาม อย่างมีประสิทธิภาพได้ ก่อนหน้านี้ มีประกาศกรมโรงงานอุตสาหกรรม ที่อนุญาตให้อุตสาหกรรมทุกจังหวัดเป็นผู้อนุญาตนำวัสดุที่ไม่ใช้แล้วออกนอกโรงงาน
คำถามคืออุตสาหกรรมจังหวัดมีความเชี่ยวชาญกำกับดูแลกากอันตรายหรือไม่ เหตุใดจึงปล่อยให้มีการส่งต่อกากอันตรายจากสทุทรสาครไปได้อย่างสะดวก บริษัทอื่นๆ ที่เป็นผู้รับกากเท่ากับกระทำผิดกฎหมาย เนื่องจากไม่มีใบอนุญาตครอบครองวัตถุอันตราย และจากการติดตามการตรวจหาปริมาณสารพิษในแรงงานที่ ต.บางน้ำจืด อ.เมืองสมุทรสาคร พบว่า 8 คน ใน 11 คน มีปริมาณสารแคดเมียม จึงต้องตรวจสอบแรงงานที่โรงงานที่ คลองกิ่ว จ.ชลบุรี ด้วยว่ามีปริมาณสารแคดเมียมเกินด้วยหรือไม่ ยิ่งหากมีการหลอมไปแล้ว ยิ่งอันตราย หน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องตรวจทั้งสุขภาพ และสภาพแวดล้อมชุมชนโดยรอบที่อาจได้รับผลกระทบด้วย.-สำนักข่าวไทย