ปลัด มท. ตรวจเยี่ยมแปลงโคก หนอง นา จ.อุดรฯ

อุดรธานี 16 มี.ค. – ปลัด มท. ลงพื้นที่ตรวจเยี่ยมแปลงโคก หนอง นา นางสุมาลี คุลิหา บ้านหมากตูม อ.เมืองอุดรธานี เน้นย้ำ ขยายผลสิ่งที่ดีให้เกิดการรวมกลุ่มอย่างเป็นรูปธรรมและต่อเนื่อง เพื่อทำให้พี่น้องประชาชนในพื้นที่ได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน


วันนี้ (16 มี.ค. 67) เวลา 12.40 น. ที่แปลงโคก หนอง นา นางสุมาลี คุลิหา เลขที่ 215 บ้านหมากตูม ตำบลนาข่า อำเภอเมืองอุดรธานี จังหวัดอุดรธานี นายกองเอก สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย ตรวจติดตามการขับเคลื่อนการพัฒนาพื้นที่ตามโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา โดยมี นายวันชัย คงเกษม ผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายราชันย์ ซุ้นหั้ว ผู้ว่าราชการจังหวัดหนองคาย นายสุรศักดิ์  อักษรกุล รองผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานี นายกฤต อรรคศรีวร หัวหน้าสำนักงานจังหวัดอุดรธานี นายไพโรจน์ โสภาพร ผู้ตรวจราชการกรมการพัฒนาชุมชน นายภควัตร คำพวง พัฒนาการจังหวัดอุดรธานี นายสาจิต จันทรศิริ ท้องถิ่นจังหวัดอุดรธานี โอกาสนี้ นายวิมล สุระเสน นายอำเภอเมืองอุดรธานี พร้อมด้วยข้าราชการในพื้นที่ นายเสถียร รอดบุญมา กำนันตำบลนาข่า นายจิรวัฒน์ โพธิ์ศรี ผู้ใหญ่บ้านหมากตูม หมู่ที่ 16 และกำนัน ผู้ใหญ่บ้านในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี นายวิโรจน์ ศรีพันธุ์ นายกองค์การบริหารส่วนตำบลนาข่า นางสุมาลี คุลิหา เจ้าของแปลกโคก หนอง นา พร้อมภาคีเครือข่ายโคก หนอง นาในพื้นที่อำเภอเมืองอุดรธานี รวมกว่า 100 คน ร่วมให้การต้อนรับ

นายกองเอก สุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า วันนี้มาเป็นกำลังใจ และมาเยี่ยมเพื่อที่ให้เรื่องที่มาเยี่ยมได้กระจายไปทั่วประเทศว่า พี่สุมาลี คุลิหา และสามี ผู้เป็นแบบอย่าง “คนมีความสุข” จากการทำโคก หนอง นา กระทั่งหมดหนี้หมดสิน เป็นต้นแบบการยึดเอาหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงตรัสไว้ว่า ต้องมีบันได 9 ขั้น พอกิน พออยู่ พอใช้ พอร่มเย็น แล้วตามด้วยทำบุญ ทำทาน รู้จักแปรรูป ถนอมอาหาร เพื่อเก็บไว้กินไว้ใช้ได้นาน ๆ หลังจากนั้นก็นำไปขาย และประการสุดท้าย คือ การรวมกลุ่มภาคีเครือข่าย บางคนมี 1 ไร่ 2 ไร่ 3 ไร่ 6 ไร่ เพื่อให้เกิดพลังการพัฒนาต่อยอด เช่น ถ้าเรามี 100 บ้าน ฟักทองบ้านละ 20 ลูก เก็บไว้กิน 10 ลูก พอรวมกันเราก็จะมี 1,000 ลูก เอาไปแปรรูป ไปขายผลสด ก็สามารถทำการตลาดขายส่งได้ และสามารถต่อรองราคาขายได้ ที่สำคัญเป็นอาหารที่มีความปลอดภัยจากสารเคมี อันจะทำให้ชุมชนสังคมเรามีความสุขมีความเจริญ


“ทั้งหลายทั้งปวงนี้ พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ทรงอรรถาธิบายว่า เป็น “อารยเกษตร” อารยะ แปลว่า เจริญ เกษตร แปลว่า แผ่นดิน แผ่นดินเป็นที่มาของอาหารของทุกอย่าง ดังนั้น แผ่นดินที่เจริญรุ่งเรืองก็จะมีความสวยงาม มีคลองไส้ไก่ที่คดเคี้ยวเลี้ยวลด มีที่ดินสูงกลางต่ำเตี้ยเรี่ยดิน เป็นเนิน เป็นโคก เป็นที่ราบ ที่ลุ่ม เพื่อพัฒนาคุณภาพชีวิตของพวกเราด้วยการปรับปรุงพื้นที่ ปรับปรุงดิน ให้พื้นที่ดินมีความอุดมสมบูรณ์ ซึ่งพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวทรงมีพระราชปณิธานที่อยากเห็น “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข” โดยวิธีการที่จะทำให้ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุขได้ คือ ต้องแก้ไขในสิ่งผิด ดังพระบรมราชโองการองค์ที่ 2 ที่พระราชทานแก่ข้าราชบริพารว่า “ประเทศชาติมั่นคง ประชาชนมีความสุข แก้ไขในสิ่งผิด สืบสานในพระราชปณิธาน ภายใต้ปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง” ด้วยการสืบสาน รักษา และต่อยอด พระราชดำริของพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ดังพระปฐมบรมราชโองการ “เราจะสืบสาน รักษา และต่อยอด และครองแผ่นดินโดยธรรม เพื่อประโยชน์สุขแห่งอาณาราษฎรตลอดไป” ซึ่งคำว่า “ต่อยอด” คือการทำให้เหมาะสมต่อจริตหรือความชอบหรือภูมิสังคมของเราได้ แต่ขั้นต้นพื้นฐานต้องเป็นแบบพี่สุมาลี คือ ชีวิตแต่เดิมทำอะไรมาก็มีแต่หนี้สิน จนกระทั่งมาทำโคก หนอง นา จนชีวิตหมดหนี้สิน กระทั้งมีความสุข ซึ่งหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียง มีหลักการที่สำคัญ คือ การพึ่งพาตนเอง ปลูกพืช 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่าง คือ “พอกิน” มีพืชผักผลไม้ กล้วย ข้าว มัน อ้อย และสัตว์เลี้ยงเป็นองค์ประกอบ เพราะอาหารมาจากพืชเป็นหลัก “พอใช้” มีพืชจำพวกนำมาทำเครื่องใช้ไม้สอย ให้มีเก้าอี้ มีฟืนไม้ มีถ่าน สานตะกร้า สานกระบุง สานเสื่อสาด “พออยู่” คือ ไม้ใช้ทำที่อยู่อาศัย จำพวกไม้ไผ่ ไม้สัก และประโยชน์อย่างที่ 4 “พอร่มเย็น” ทำให้เราร่มเย็น ลดโลกร้อน ฝนฟ้าอากาศฝนตกต้องตามฤดูกาล ซึ่ง 4 อย่างนี้จะทำให้ตนเองและครอบครัวมีความสุข แต่ถ้าเรา “ทำบุญทำทาน” ผลก็จะทำให้สังคมมีคุณธรรมจริยธรรม มีจิตใจที่ดีงาม เกรงกลัวต่อการทำบาป ทั้งการ “ทำบุญ” กับพระ ทำบุญกับนักบวช ทำบุญกับศาสนาตามความเชื่อที่เรานับถือก็จะทำให้มีคนคอยดูแลกันและกันคอยอบรมสั่งสอน รักษาประเพณีวัฒนธรรมไว้ในสังคม ทำให้สังคมมีความสุข “ทำทาน” แบ่งปันให้เพื่อนบ้าน ให้คนยากไร้ ให้คนเดือดร้อน บนพื้นฐานพอประมาณ คือ ไม่ทำให้ตนเองเดือดร้อน มันก็จะเกิดความสุขที่เหนือกว่าความสุขในครอบครัว ก็คือการทำให้สังคมมีความสุข เพราะเกิด “เมตตาธรรมค้ำจุนโลก” ด้วยความเอื้อเฟื้อเผื่อแผ่ ด้วยความเสียสละ นอกจากนี้ ที่เหลือกินเหลือใช้ก็ต้องรู้จักถนอมอาหาร เพราะผลผลิตที่ออกมา กว่าจะออกมาใช้ระยะเวลานาน หรือบางทีก็สุกไปก่อน ยังกินไม่หมด เช่น กล้วย ในระยะสั้นทำกล้วยบวชชี ทำกล้วยเชื่อม ระยะยาวทำกล้วยตาก หรือทำกล้วยผงใช้แทนข้าวแทนยาลดกรดไหลย้อน ด้วยการเอามาตากให้แห้งแล้วป่นให้เป็นผง และที่เหลือก็ใช้หารายได้ ซึ่งพี่สุมาลี คุลิหาได้นำผลผลิตจากโคก หนอง นา ไปจำหน่ายจนมีรายรับเป็นรายได้รายวัน รายเดือน รายปี แต่สิ่งที่ต้องเพิ่มพูน เรื่องใหญ่คือจะต้องทำยังไงให้เกิดการรวมกลุ่มกัน เช่นที่จังหวัดเพชรบูรณ์ มีการรวมกลุ่ม ภาคีเครือข่ายโคก หนอง นา โดยตกลงกันว่าจะปลูกพืชผักสวนครัวอย่างน้อย 2 อย่างที่เป็นชนิดเดียวกันที่ตรงกับตลาดต้องการ โดยได้ติดต่อเลมอนฟาร์ม ซึ่งมุ่งเน้นการปลูกผักปลอดสารพิษ แล้วรวมกลุ่มกันไปขาย จนกลายเป็นว่าทุกวันนี้ ปลูกพืชที่ตกลงกันในกลุ่มทุกบ้าน แล้วเก็บผลผลิต เอาไปส่ง กลายเป็นหมู่บ้านนี้มีส่วนแบ่งทางการตลาด (Market Share) จากเลมอนฟาร์มกว่า 12% ซึ่งทำให้เกิดประโยชน์คือ 1) ชาวบ้านไม่ต้องหาตลาด 2) ชาวบ้านได้การประกันราคาที่เป็นธรรม และผู้ประกอบการขนาดใหญ่คือ Modern Trade ก็ไม่ต้องหาผลผลิต เพราะหมู่บ้านนี้ไปส่งให้เรียบร้อย จนปัจจุบันกลุ่มนี้สามารถซื้อรถห้องเย็นขนผักไปส่งในกรุงเทพฯ ได้เอง” นายกองเอก สุทธิพงษ์ฯ กล่าวเพิ่มเติม

นายกองเอก สุทธิพงษ์ กล่าวต่ออีกว่า วันนี้ต้องช่วยกันคิดว่าทำอย่างไรให้เกิดการรวมกลุ่มให้มีพลัง เกิดพลังต่อรองด้านการตลาด พลังในการสร้างฐานะให้มีคุณภาพชีวิตดีขึ้น “เดินทีละก้าว กินข้าวทีละคำ” ทำพื้นฐานให้พอเพียง ซึ่งทุกขั้นตอนนี้สามารถเกิดขึ้นได้พร้อมกัน ต้องไปช่วยกันชักชวน ไปช่วยกันบอกให้พี่น้องในหมู่บ้านช่วยกัน รวมกลุ่มด้วยคนตัวเล็ก ๆ จะทำให้เกิดพลังที่ยิ่งใหญ่ โดยขอให้ท่านผู้ว่าราชการจังหวัดอุดรธานีและนายอำเภอเมืองอุดรธานี ส่งเสริมให้เกิดการรวมกลุ่ม ตั้งแต่ 10 บ้าน ให้เกิดผลเป็นรูปธรรม รวมทั้งร่วมกับศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี ชวนชาวบ้านที่ไม่มีที่มีทางไปร่วมกันปลูกกล้วย ปลูกไม้ให้ผลผลิตในช่วงฤดูฝน ทั้งพืชสมุนไพร พืชอายุสั้น หรือใครจะเลี้ยงกบ เลี้ยงปลา ในพื้นที่โคก หนอง นา ของศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี และให้ชาวบ้านเก็บผลผลิตเพื่อให้เกิดประโยชน์ต่อประชาชน ซึ่งจะทำให้พื้นที่ศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนได้ช่วยเหลือประชาชน และเป็นพื้นที่แหล่งเรียนรู้ในการศึกษาดูงานของประชาชนกลุ่มต่าง ๆ รวมถึงภาคีเครือข่ายโคก หนอง นา ด้วย

นายกองเอก สุทธิพงษ์ กล่าวในช่วงท้ายว่า นอกจากนี้ ประการที่ 1 ถ้าเรามีกำลัง ต้องทำหลุมขนมครก หรือ หนองน้ำเพิ่ม เพื่อให้มีพื้นที่กักเก็บน้ำ ประการที่ 2 สิ่งที่พระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทรงสอนไว้ว่า ป่า 3 อย่าง ประโยชน์ 4 อย่างมาจากไม้ 5 ระดับ ไม้สูง ไม้กลาง ไม้เตี้ย ไม้เลื้อยเรี่ยดิน และไม้หัวใต้ดิน ควรปลูกให้ครบสร้างป่าที่สมบูรณ์รวมถึงไม้มรดก พวกต้นยางนา ต้นตาล เพราะยังมีน้อย และประการสุดท้าย ให้มีไก่พื้นเมือง ไก่ไข่ ซึ่งในปัจจุบันกระทรวงมหาดไทยได้แจ้งไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด ส่งเสริมให้เด็กนักเรียนทุกคน และพี่น้องประชาชน ได้รับประทานไข่ไก่หรือไข่เป็ดอย่างน้อยวันละ 2 ฟอง เพื่อความสมบูรณ์ทางโภชนาการ และเกิดความมั่นคงทางอาหาร ควบคู่การปลูกพืชผักสวนครัว ตามแนวพระราชดำริด้านการเสริมสร้างความมั่นคงทางอาหารของสมเด็จพระกนิษฐาธิราชเจ้า กรมสมเด็จพระเทพรัตนราชสุดา ฯ สยามบรมราชกุมารี “บ้านนี้มีรัก ปลูกผักกินเอง” และตลอดจนถึงธนาคารน้ำใต้ดิน เพื่อให้พื้นที่เกิดความชุ่มชื้น ซึ่งสิ่งเหล่านี้จะสัมฤทธิ์ผลได้ ผู้ว่าราชการจังหวัดและนายอำเภอ ต้องเป็นผู้นำการบูรณาการและหล่อหลอมพลังภาคีเครือข่ายในพื้นที่ ช่วยกันหนุนเสริมและขับเคลื่อนให้เกิดผลเป็นรูปธรรม ด้วยการร่วมคิดและพูดคุย ร่วมวางแผน ร่วมทำอย่างต่อเนื่อง เพื่อให้เกิดการร่วมรับประโยชน์ อันจะทำให้พี่น้องประชาชนได้มีคุณภาพชีวิตที่ดีอย่างยั่งยืน


นางสุมาลี คุลิหา กล่าวว่า ตั้งแต่ทำโคก หนอง นา มา เมื่อก่อนทำแต่นาอย่างเดียว พอได้โครงการโคก หนอง นา มา รู้สึกว่าชีวิตดีขึ้นทุกด้าน ได้ปลูกผัก ได้ทำอะไรหลายอย่าง ได้กิน ได้แบ่งปัน ทำบุญ เหลือก็ได้ขาย สมาชิกในกลุ่มก็ได้แลกเปลี่ยนกัน สนับสนุนกันมาตลอด ผู้หลักผู้ใหญ่ก็มาเยี่ยมเรื่อย ๆ ดีใจ ภูมิใจ พูดไม่ถูก ตื้นตันใจ เมื่อก่อนเลี้ยงหมูป่า หมูขาว แต่หมูราคาตกและเป็นโรค จึงหยุดเลี้ยง ทุกวันนี้ มีไก่ มีวัว มีหอย กุ้ง ปลาหมุนเวียนกัน ได้ของขายทุกวัน มีเงินทั้งรายวัน รายเดือน รายปี แต่ก่อนเป็นหนี้เยอะ เพราะเมื่อก่อนทำแต่นา ค่าปุ๋ย ค่ายาแพง เลยหันมาปลูกมันกับปลูกอ้อยก็ไม่เหลือเหมือนเดิม จากนั้นไปซื้อผักมาขาย ขายหมดก็ได้กำไร ขายไม่หมดก็ไม่ได้กำไร พอผู้ใหญ่บ้านประกาศมีโครงการโคก หนอง นา จึงสมัครและไปอบรมกับศูนย์ศึกษาและพัฒนาชุมชนอุดรธานี มาตอนนี้หมดหนี้หมดสินแล้ว มีความสุขกาย สุขใจมาก ยินดีเห็นเจ้าหน้าที่มาลงเยี่ยมตลอด ทำให้มีขวัญกำลังใจและจะต่อสู้ต่อไปตลอด ไม่ยอมถอย เพราะท่านสนับสนุนมาตลอด ท่านนายอำเภอ ปลัดอาวุโส พัฒนากร แวะมาเยี่ยมอยู่เรื่อย ๆ ดีใจภูมิใจที่ได้เข้าร่วมโครงการนี้ของพระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัวและพระบาทสมเด็จพระบรมชนกาธิเบศร มหาภูมิพลอดุลยเดชมหาราช บรมนาถบพิตร ทำให้มีกิน เหลือกินก็ได้เก็บ แจกจ่าย ดีใจว่าโครงการนี้ยั่งยืน เมื่อก่อนต้องไปซื้อเขาแต่ไม่เหลืออะไร หาเงิน ทำแค่ไหนถ้าไม่เหลือเพราะต้องซื้อ มาตอนนี้ไม่ได้ซื้อ วันนึงขายผักได้ 400-500 บาท ก็ได้เก็บ ไม่มีอะไรต้องจ่าย เพราะเป็นของในแปลงตัวเอง

นายประพันธ์ ศรีอินทร์ ผู้ใหญ่บ้านโนนสูงภู่ทอง หมู่ 11 ตำบลบ้านจั่น กล่าวว่า ตนสมัครเข้าร่วมโครงการพัฒนาพื้นที่ต้นแบบการพัฒนาคุณภาพชีวิตตามหลักทฤษฎีใหม่ประยุกต์สู่โคก หนอง นา แปลงโคก หนอง นา บ้านจั่น ซึ่งตนได้รับการสนับสนุนงบประมาณ 1 ไร่ แต่ด้วยส่วนตัวตนมีความศรัทธาและหลงใหลในหลักปรัชญาของเศรษฐกิจพอเพียงและทฤษฎีใหม่อยู่ก่อนแล้ว จึงลงมือทำทีละเล็กละน้อย จนครบพื้นที่ของตนทั้ง 6 ไร่ จนทุกวันนี้มีพี่น้องประชาชนเจ้าของที่ดินแปลงข้าง ๆ อีก 4 แปลง ก็ทำตาม ส่งผลทำให้ปัจจุบันชาวบ้านอยู่ดี กินดี มีพืชผักสวนครัว ไม่ต้องซื้อ มีมะเขือ ข่า ตะไคร้ กล้วย มะพร้าว มะม่วง และมีปลาไว้บริโภคเยอะมาก จนทานไม่หมด ซึ่งถือเป็นความยั่งยืนอย่างแท้จริง.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เขยโหดบุกยิงแม่ยาย-ญาติ ดับ 3 ก่อนจบชีวิตตัวเอง

ปทุมธานี 3 ก.ย. – เขยปืนโหด ถูกจับได้ว่าแอบคบกับน้องเมียวัย 13 ปี บุกยิงยกครัวเมียที่บ้านพัก ย่านปทุมธานี แม่ยาย-น้องเมีย-น้า เสียชีวิต ก่อนจบชีวิตตัวเองหนีความผิด เหตุดังกล่าว เกิดขึ้นเมื่อเวลา 23.10 น. ที่ผ่านมา พนักงานสอบสวน สภ.คลองห้า จ.ปทุมธานี ประสานเจ้าหน้าที่ตำรวจพิสูจน์หลักฐาน และอาสาสมัครมูลนิธิร่วมกตัญญู ร่วมตรวจสอบบ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่หมู่ 7 ต.คลองเจ็ด อ.คลองหลวง จ.ปทุมธานี จุดเกิดเหตุอยู่ด้านหลังบ้าน ซึ่งเป็นพื้นที่เปิดโล่ง พบร่างนางทัศนี อายุ 46 ปี นอนเสียชีวิตอยู่ด้านข้างโต๊ะกินข้าว ตามร่างกาย มีบาดแผลถูกยิงเข้าที่ศีรษะ ข้างกันพบปลอกกระสุนปืนขนาด.380 ตกอยู่จำนวนหนึ่ง นอกจากนี้ ยังพบร่างนายชัยวัฒน์ อายุ 43 ปี น้องชายนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บ ส่วนในบ้านพบ ด.ญ.วันเพ็ญ อายุ 13 ปี ลูกสาวนางทัศนีย์ ได้รับบาดเจ็บอีกราย เจ้าหน้าที่กู้ชีพและกู้ภัยฯ […]

พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย”

รัฐสภา 3 ก.ย.-พรรคร่วมฯ ใหม่ ตบเท้าร่วมแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลกับ “ภูมิใจไทย” ก๊วน “สุชาติ-ธรรมนัส-สันติ” ร่วมด้วย ด้านงูเห่า “เพื่อไทย-ปชป.” โผล่โชว์ตัว บรรยากาศการประชุมพรรคภูมิใจไทย ภายหลังพรรคประชาชนมีมติโหวตให้นายอนุทิน เป็นนายกรัฐมนตรี ซึ่งพรรคร่วมรัฐบาลต่างทยอยเดินทางมาเพื่อรอแถลงข่าวจัดตั้งรัฐบาลในเวลา 11:00 น. โดยมีนายสุชาติ ชมกลิ่น สส.รวมไทยสร้างชาติ นำกลุ่ม 18 สส. เดินทางมาเป็นกลุ่มแรก อย่างไรก็ตามไม่พบว่ามี สส.ของพรรครวมไทยสร้างชาติ ของกลุ่มนายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค หัวหน้าพรรครวมไทยสร้างชาติ เดินทางมาร่วมแต่อย่างใด ขณะที่ตัวแทนจากพรรคพลังประชารัฐ นำโดย ชัยมงคล ไชยรบ สส.สกลนคร และรองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ตามมาด้วยนายสันติ พร้อมพัฒน์ รองหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐ ที่นำ สส.เพชรบูรณ์ มาร่วมด้วย จากนั้น พรรคกล้าธรรม นำโดย ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม พร้อมแกนนำพรรค เช่น นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ หัวหน้าพรรค นายไผ่ […]

“ทักษิณ” รับผิดไว้ใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป

กรุงเทพฯ 2 ก.ย.- “ทักษิณ” ยอมรับผิด ไว้วางใจ “ธรรมนัส” มากเกินไป ส่วนการจัดตั้งรัฐบาล ต้องรอดูพรรคประชาชน ผู้สื่อข่าวรายงานว่า เมื่อช่วงค่ำวันที่ 1 ก.ย. สส.พรรคเพื่อไทย ประมาณ 10 คน ได้นัดเลี้ยงสังสรรค์ให้นายฉลาด ขามช่วง ที่ได้รับเลือกให้เป็นดำรงตำแหน่งรองประธานสภาฯ คนที่ 1 เมื่อเรื่องรู้ถึงนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี นายทักษิณ จึงเดินทางมาร่วมแสดงความยินดีกับนายฉลาด ด้วย โดยในวงรับประทานอาหาร นายทักษิณ พูดถึงกรณีที่ ร.อ.ธรรมนัส พรหมเผ่า ประธานที่ปรึกษาพรรคกล้าธรรม ถอนตัวจากรัฐบาลพรรคเพื่อไทย โดยยอมรับผิดว่า “ไว้วางใจ ร.อ.ธรรมนัส มากเกินไป พี่ผิดไปแล้ว พี่ดูคนผิด” ทำให้ สส. ที่ร่วมวงอยู่นั้นสวนทันทีว่านายทักษิณ โดนคนหลอกตลอด ซึ่ง สส.ที่ร่วมวง ต่างเห็นตรงกันว่า ไม่เคยเห็นนายทักษิณ ยอมรับผิดแบบนี้มาก่อน เห็นได้ว่านายทักษิณ ได้แสดงท่าทีรู้สึกผิดมาก พร้อมกันนี้ สส. […]

เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย ส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ

พรรคเพื่อไทย 2 ก.ย.- เปิดชื่อ 20 สส.เพื่อไทย เข้าชื่อส่งศาล รธน. ปมตุลาการหมดวาระ แต่ยังปฏิบัติหน้าที่ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า 20 สส.เพื่อไทย นำโดย นายวิสุทธิ์ ไชยณรุณ สส.บัญชีรายชื่อ ประธานวิปรัฐบาล ได้ทำหนังสือถึงประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้ส่งคำร้องไปยังศาลรัฐธรรมนูญ เพื่อพิจารณาความชอบด้วยกฎหมายของกระบวนการพิจารณาวินิจฉัย เรื่องพิจารณาที่ 17/2568 กรณีที่ศาลรัฐธรรมนูญมีมติ 6 ต่อ 3 วินิจฉัยให้ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร สิ้นสุดความเป็นนายกรัฐมนตรี โดยเมื่อวันที่ 29 ส.ค.2568 ซึ่งเป็นวันวินิจฉัยคดีของศาลรัฐธรรมนูญ ได้มีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งให้ นายสราวุธ ทรงศิวิไล ดำรงตำแหน่งตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ตั้งแต่วันที่ 29 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป แทน นายปัญญา อุดชาชน ตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ ซึ่งพ้นจากตำแหน่งเนื่องจากครบวาระการดำรงตำแหน่ง ดังนั้น เมื่อได้รับทราบถึงการมีประกาศพระบรมราชโองการแต่งตั้งนายสราวุธ แทนนายปัญญา ซึ่งพ้นจากตำแหน่งตามวาระแล้ว จึงไม่ควรที่จะให้ นายปัญญา […]

ข่าวแนะนำ

“เท้ง” เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย มั่นใจ สส.ปชน.ไม่แตกแถว ย้ำไม่มีฟรีโหวต

รัฐสภา 4 ก.ย.- “เท้ง” ลั่น ไม่เสียดาย-ไม่ทบทวนมติโหวต “อนุทิน” นั่งนายกฯ เมินออปชันสุดท้ายเพื่อไทย ซัดไม่จริงใจ-ปล่อยข่าวชิงการเมือง มั่นใจ สส.พรรคประชาชน ไม่แตกแถว-ไม่มีฟรีโหวต นายณัฐพงษ์ เรืองปัญญาวุฒิ หัวหน้าพรรคประชาชน ปฏิเสธกรณีที่มีกระแสข่าวความเห็นต่างภายในพรรคฯ ต่อการลงมติเลือกนายอนุทิน ชาญวีรกูล หัวหน้าพรรคภูมิใจไทย เป็นนายกรัฐมนตรีในวันพรุ่งนี้ (5 ก.ย.) ว่า ไม่ได้มีความเห็นที่แตกต่างกันภายในพรรค และเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา จนถึงตลอดทั้งวัน ก็มีความชัดเจนแล้วว่า พรรคเพื่อไทย ยุติกระบวนการยุบสภา และเดินหน้าเสนอชื่อนายชัยเกษม นิติสิริ แคนดิเดตนายกรัฐมนตรีของพรรคเพื่อไทย ให้ที่ประชุมสภาผู้แทนราษฎร พิจารณาเป็นนายกรัฐมนตรี พร้อมย้ำว่า กระบวนการตัดสินใจของพรรคประชาชน สิ้นสุดลงตั้งแต่คณะกรรมการบริหารพรรคฯ แถลงข่าว และลงนามร่วมกับพรรคภูมิใจไทยแล้ว ส่วนข้อเสนอไพ่ใบสุดท้ายของพรรคเพื่อไทย ที่จะยุบสภาทันทีหากนายชัยเกษม ได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภานั้น หัวหน้าพรรคประชาชน ระบุว่า ถ้ามีการเสนอมาก่อนหน้านี้ และมีการพูดคุยอย่างเป็นทางการ ก่อนพรรคฯ จะมีมติ ตนเชื่อว่า ตน และสส.ภายในพรรค จะรับไว้พิจารณา แต่กระบวนการที่ผ่านมา ยังคงมีการให้ข่าวกลับไป […]

ทบ.ชี้กัมพูชายั่วยุละเมิดข้อตกลง เกณฑ์คนประท้วงบ้านหนองจาน

4 ก.ย.- ทบ. เผยกรณีชาวกัมพูชาประท้วงที่บ้านหนองจาน ชี้เป็นการยั่วยุละเมิดข้อตกลงหยุดยิง กองกำลังบูรพาพร้อมตำรวจควบคุมฝูงชนเตรียมกำลังเพื่อป้องกันอธิปไตยและการกระทำผิดกฎหมาย วันนี้ (4 ก.ย.68) กองทัพบกได้รับรายงานจากศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 ว่าพบประชาชนชาวกัมพูชาประมาณ 150 คน เข้ามารวมตัวประท้วงแสดงความไม่พอใจในบริเวณใกล้กับหลักเขตแดนที่ 46 บ้านหนองจาน อ.โคกสูง จ.สระแก้ว ซึ่งเป็นพื้นที่ที่ยังอยู่ในพื้นที่อ้างสิทธิ์ โดยพบว่าประชาชนบางส่วนมีลักษณะพฤติกรรมที่ไม่เหมาะสม แสดงท่าทียั่วยุเจ้าหน้าที่ พกพาไม้เป็นอาวุธ และบางรายมีลักษณะเป็นแกนนำของมวลชน ซึ่งสังเกตได้จากการใช้และพกพาวิทยุสื่อสารประจำตัว พร้อมพบว่ามีทหารกัมพูชาคอยสังเกตการณ์และร่วมอยู่ในกลุ่มมวลชนชาวกัมพูชาด้วย ซึ่งตั้งแต่เกิดเหตุ ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้จัดกำลังพลร่วมกับชุดควบคุมฝูงชนของเจ้าหน้าที่ตำรวจ สถานีตำรวจภูธรสระแก้ว เข้าควบคุมสถานการณ์ พร้อมเตรียมดำเนินการกับกลุ่มผู้ประท้วง หากพบว่ามีการรุกล้ำอธิปไตยไทยและกระทำผิดกฎหมายในทันที ล่าสุด พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก เปิดเผยถึงกรณีดังกล่าวว่าเมื่อเวลา 13.30 น. กองกำลังบูรพาได้รายงานเพิ่มเติมว่าทางกัมพูชามีการเกณฑ์ประชาชน ทั้งจากนอกพื้นที่ และที่สัญจรผ่านไปมา เข้ามาร่วมประท้วงและแสดงท่าทียั่วยุต่อทหารไทยในพื้นที่เพิ่มเติม ซึ่งการกระทำในครั้งนี้ ถือเป็นการละเมิดต่อข้อตกลงหยุดยิงที่ทั้งไทยและกัมพูชาได้มีมติเห็นพ้องร่วมกันในการดำเนินการ จากการประชุม GBC และ RBC ที่ผ่านมา รวมทั้งโฆษกกองทัพบกได้ย้ำว่า […]

“ภูมิธรรม” โพสต์แจง 2 ฉบับ ย้ำเจตนารมณ์รัฐบาลคืนอำนาจให้ ปชช.

กทม. 4 ก.ย.- “ภูมิธรรม” โพสต์ข้อความชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรี โพสต์เฟซบุ๊กชี้แจง 2 ฉบับ “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา – เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” โดยฉบับที่ 1 ระบุว่า “เพื่อความกระจ่างชัดเรื่องการยุบสภา” ในช่วงที่การเมืองยังสับสน ผมขอเรียนชี้แจงให้เกิดความกระจ่างชัดในประเด็นร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎรดังนี้ รัฐบาลได้ดำเนินการจัดทำร่างพระราชกฤษฎีกายุบสภาผู้แทนราษฎร และส่งให้สำนักงานองคมนตรีพิจารณาแล้วเมื่อเย็นวันที่ 2 กันยายน 2568 ต่อมาได้รับแจ้งจากสำนักงานองคมนตรี ว่ายังมีประเด็นข้อกฎหมายที่มีการโต้แย้งและยังไม่เป็นข้อยุติ โดยเฉพาะประเด็นอำนาจของรองนายกรัฐมนตรีผู้ปฏิบัติหน้าที่แทนนายกรัฐมนตรีในการถวายคำแนะนำ จึงยังไม่เห็นสมควรนำร่างพระราชกฤษฎีกาขึ้นทูลเกล้าฯ ถวายในเวลานี้ รัฐบาลเคารพในขั้นตอนและหลักนิติธรรมทุกประการ และจะนำกลับมาทบทวนและพิจารณาเพื่อให้เกิดความเหมาะสมถูกต้อง แต่ขอย้ำชัดว่า เจตนารมณ์ของรัฐบาลคือการคืนอำนาจให้ประชาชนโดยเร็วที่สุด จากนั้นได้โพสต์ ฉบับที่ 2 “เดินหน้าตามครรลองประชาธิปไตย” ระบุ เมื่อพรรคประชาชนได้แสดงจุดยืนชัดเจนว่าจะโหวตสนับสนุนพรรคภูมิใจไทย และมีการบรรจุวาระเลือกนายกรัฐมนตรีแล้ว ทุกพรรคการเมืองต้องแสดงความรับผิดชอบต่อการตัดสินใจของตน ให้ประชาชนได้เห็นว่ากลไกสภายังคงทำงานตามเจตนารมณ์ของรัฐธรรมนูญ สำหรับพรรคเพื่อไทย เราพร้อมเสนอชื่อศาสตราจารย์ชัยเกษม นิติสิริ เป็นนายกรัฐมนตรี และขอยืนยันต่อประชาชนว่า หากเราได้รับเสียงสนับสนุน […]

ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน

4 ก.ย. – สระแก้วตึงเครียด! ชาวกัมพูชาลุกฮือประชิดชายแดนบ้านหนองจาน หลังไทยปักป้ายประกาศให้ออกจากพื้นที่ ขณะที่จังหวัดสุรินทร์ เจ้าหน้าที่พบหลักฐานชิ้นสำคัญลูกเหล็กสะเก็ดระเบิด “Ball Bearing” ในบ้านประชาชนเหยื่อจรวด BM-21 สถานการณ์ล่าสุดบริเวณชายแดนไทย–กัมพูชา บ้านหนองจาน ตำบลโนนหมากมุ่น อำเภอโคกสูง จังหวัดสระแก้ว หลังจากเจ้าหน้าที่ฝ่ายไทย นำโดยกำลังทหาร กรมป่าไม้ ตำรวจตระเวนชายแดน และฝ่ายปกครองในพื้นที่ ได้ร่วมกันติดตั้งป้ายประกาศ 3 ภาษา (ไทย–อังกฤษ–เขมร) เพื่อแจ้งเตือนให้ชาวกัมพูชาที่บุกรุกเข้ามาในพื้นที่เขตไทย ออกจากบริเวณดังกล่าวโดยทันที หากฝ่าฝืนจำคุกไม่เกิน 5 ปี หรือปรับไม่เกิน 50,000 บาท หรือทั้งจำทั้งปรับ หากกระทำในพื้นที่เกินกว่า 25 ไร่ ต้องระวางโทษจำคุก ตั้งแต่ 2 ปี ถึง 15 ปี และปรับตั้งแต่ 10,000 ถึง 100,000 บาท ตั้งแต่บัดนี้เป็นต้นไป การติดตั้งป้ายดังกล่าว ทำให้กลุ่มชาวกัมพูชาที่อาศัยอยู่บริเวณแนวชายแดนไม่พอใจ และได้รวมตัวกันจำนวนหนึ่ง เคลื่อนเข้ามาใกล้แนวชายแดนฝั่งไทย […]