กกต.จับมือมท.-กรมประชาฯ พร้อมเลือกสว.

รร.ทีเค พาเลซ 17 พ.ค.-กกต. – มหาดไทย – กรมประชาฯ จัดเสวนาเตรียมพร้อมสว. 67. เลขาฯ กกต.เปิดทางให้ผ็สมัครแนะนำตัวผ่านโซเชียลได้ ให้ปชช.มีส่วนร่วม เชื่อมือพ่อเมืองมีศักยภาพ พร้อมจัดการพวกฮั้ว ขณะปลัดมท.เผยพร้อมตั้งแต่ยังไม่เริ่ม “อนุทิน” สั่งงานนี้พลาดไม่ได้


สำนักงานคณะกรรมการการเลือกตั้ง(กกต.) จัดกิจกรรม kick off การเลือกสมาชิกวุฒิสภา(สว.) ปี 2567 ” 20 กลุ่มอาชีพ ร่วมใจขับเคลื่อนประเทศไทย ไปพร้อมกัน”   พร้อมจัดเสวนา การเตรียมความพร้อมสมาชิกวุฒิสภา ปี 2567 โดยนายแสวง บุญมี เลขาธิการกกต. นายสุทธิพงษ์ จุลเจริญ ปลัดกระทรวงมหาดไทยและนางสุดฤทัย เลิศเกษม  อธิบดีกรมประชาสัมพันธ์ ร่วมเสวนา

นายแสวง กล่าวบนเวทีเสวนาเรื่องการเตรียมความพร้อม ว่า กกต.จะทำงานร่วมกับเครือข่ายทั้งกรมประชาสัมพันธ์ ไปรษณีย์ไทย เรามีความพร้อมโดยซักซ้อมกับทุกหน่วยงานที่เข้ามามีส่วนร่วม รวมถึงสื่อมวลชนที่มีส่วนที่ทำให้การเลือกสว.ประสบผลสำเร็จ เพราะช่องทางที่ประชาชนได้รับข้อมูลข่าวสารมากที่สุดคือสื่อมวลชน  กกต.ต้องอาศัยสื่อทุกแขนงเพื่อให้ประชาชนเข้าถึงการเลือกสว. เราต้องเดินไปด้วยกันจนได้สว. 200 คน ซึ่งได้เตรียมความพร้อมแผนโรดแมปขั้นตอนต่าง ๆ ส่วนที่สองคือคน โดยจะซักซ้อมทั้งระดับอำเภอ จังหวัด และประเทศ รวมถึงความพร้อมด้านงบประมาณด้วย


ขณะที่นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ในส่วนของกระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมตั้งแต่กกต.ยังไม่ได้เริ่มแล้ว เพราะนายอนุทิน ชาญวีรกูล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทยบอกไว้ว่างานต้องเสร็จตั้งแต่ยังไม่สั่ง

“ไม่ได้พูดเล่นนะ เพราะเราเตรียมเรื่องการทำให้คนมีทะเบียนบ้านที่ถูกต้อง มีบัตรประชาชนที่ถูกต้อง ทั้งระบบฮาร์ดก๊อปปี้และระบบดิจิทัล เราเป็นคนที่อาสาทำงานร่วมกับทุกกระทรวง ทบวง กรม  ความสำเร็จในพื้นที่ เราทำงานร่วมกับพี่น้องทุกกระทรวง ผู้นำท้องที่อย่างกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน ผู้นำองค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น นายกองคืการบริหารส่วนจังหวัด(อบจ.) นายกองค์การบริหารส่วนตำบล(อบต.) เทศบาล พระสงฆ์ เราทำหมด ความพร้อมที่เรามี ทำหน้าที่บำบัดทุกข์บำรุงสุข” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า มหาดไทยดำเนินการทุกช่องทาง ทั้งออนไซต์และออนไลน์ เรามีหอกระจายข่าววิทยุกระจายเสียงประจำหมู่บ้านที่ดูแลโดยกำนัน ผู้ใหญ่บ้าน นายกอบต. นายกเทศมนตรี


“เปิดกรอกหูทุกเช้าเย็น เลื่อนคลื่นหนีก็ไม่ได้ เมื่อวานนี้(16 พ.ค.) ก็ซักซ้อมกัน ท่าน มท.1 เป็นประธานพูดคุยกับผู้ว่าราชการจังหวัดทั้ง 77 จังหวัด ท่านย้ำเลยว่างานนี้ห้ามพลาด เพราะเป็นเรื่องใหญ่ของชาติ ที่สำคัญที่สุดตัวท่าน มท.1 อยากได้สว.ชุดใหม่เหมือนกัน ไม่ต้องห่วง เราเต็มที่ ส่วนในแง่ของการให้ความช่วยเหลือผู้ที่จะมาลงทะเบียนสมัคร เราก็ดำเนินการเรื่องแบบสอบถาม ตั้งทีมงานไว้ให้บริการ ซักไซ้ไล่เรียง ที่สำคัญเปิดสายฮอตไลน์แข่งกับ 1444 ของกกต. พร้อมบริการ 24 ชั่วโมง” ปลัดกระทรวงมหาดไทยกล่าว

นายสุทธิพงษ์ กล่าวว่า ต้องยอมรับว่าการเลือกสว. ครั้งนี้เป็นเรื่องใหม่ ไม่ใช่เฉพาะประชาชน แต่ใหม่สำหรับราชการด้วย นายอนุทินจึงให้นโยบายไว้ว่าห้ามผิดพลาด พร้อมเน้นย้ำว่าทางกระทรวงมหาดไทยและทุกหน่วยงานภายใต้การนำของผู้ว่าราชการจังหวัดทำเต็มที่

“เราก็ยกหางตัวเองว่าเป็นนายกรัฐมนตรีจังหวัด เพราะรัฐบาลมอบให้ผู้ว่าราชการจังหวัดช่วยขับเคลื่อนงานร่วมกับพี่น้องทุกกระทรวง เพราะฉะนั้นโปรดใช้บริการเราไปเรื่อย ๆ กระทรวงมหาดไทยจะได้ไม่ถูกยุบ” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว

ขณะที่นางสุดฤทัย กล่าวว่า กรมประชาสัมพันธ์เป็นกลุ่มสื่อสารของประเทศ เป็นกลุ่มของทุกกระทรวงและทุกหน่วยงานที่สำคัญ เป็นกลุ่มที่อำนวยความสะดวกให้กับพี่น้องสื่อมวลชน เรามีความพร้อม

จากนั้น เลขาธิการกกต. กล่าวอีกครั้งว่า เราเอาความโปร่งใสและความมีประสิทธิภาพมาอยู่ในทุกระเบียบ ความโปร่งใส คือการเห็นได้ด้วยตา อย่างการสังเกตการณ์ ส่วนที่ไม่เห็นด้วยตาคือตัวระบบสามารถสอบทานกันเองได้ ส่วนการมีส่วนร่วมถึงประชาชนไม่ได้มีสิทธิ์ในการเลือกโดยตรง แต่สามารถติดตามตรวจสอบช่วยเหลือ กกต.ให้การเลือกเป็นไปอย่างสุจริตและเที่ยงธรรม เราจะได้สว. 200 คนตามกำหนดเวลาแน่นอน

“ต้องขอบคุณกระทรวงมหาดไทย เพราะถือเป็นกระดูกสันหลังของเรา การเลือกตั้งสว.ครั้งนี้ ผมเชื่อว่าเอาพ่อเมืองแต่ละจังหวัดมาเป็นประธาน ไม่มีอะไรต้องกังวลแล้ว เพราะเอาคนมีศักยภาพมาเป็นประธาน ซึ่งหน้างานอาจจะมีปัญหา แต่กกต.สนับสนุนให้การทำงานมีประสิทธิภาพ ซึ่งยังไม่เห็นว่าการเลือกสว.ครั้งนี้จะมีปัญหาอะไร” นายแสวง กล่าว

เลขาธิการกกต. กล่าวเตือนด้วยว่า หากผู้สมัครไปจับกลุ่มขอคะแนน หรือฮั้วกัน สามารถส่งเรื่องให้ศาลฎีกาแผนกคดีเลือกตั้งตัดสิทธิ์การเลือกตั้งได้ เนื่องจากผิดกฎหมาย และในการเลือกสว.ทุกระดับทั้งอำเภอ จังหวัดและประเทศ จะติดตั้งกล้องโทรทัศน์วงจรปิด หรือจัดพื้นที่สังเกตการณ์ เพื่อให้ประชาชนร่วมติดตามตรวจสอบได้และหากประชาชนพบการทุจริตสามารถร้องเรียนผ่านแอปพลิเคชั่นตาสับปะรดของกกต.ซึ่งจะมีรางวัลชี้เบาะแสด้วย

นายสุทธิพงษ์ กล่าวย้ำเรื่องการมีส่วนร่วมว่า เรามีส่วนร่วมมาโดยตลอด มีเบอร์สายด่วน ที่สำคัญที่สุดมีผู้ว่าราชการจังหวัด นายอำเภอ รวมทั้งกระทรวง จัดตั้งศูนย์ประสานงานการเลือกสว. ถือเป็นอีกส่วนหนึ่งที่เป็นฝ่ายอำนวยการสนับสนุนให้กกต. ดำเนินการได้อย่างเรียบร้อยและสบายใจ แต่เรื่องใหญ่คือการทำให้พี่น้องประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมทางการเมืองในครั้งนี้อย่างกว้างขวาง

“20 กลุ่มอาชีพคือคนทุกคนในประเทศนี้ แต่บางทีอาจจะต้องอาศัยเวลาบ้าง เพราะเป็นเรื่องใหม่แบบที่ เลขาฯ กกต. เล่าให้พวกเราฟัง เป็นเรื่องใหม่ที่อยากให้กลุ่ม 20 อาชีพเข้ามามีส่วนในนิติบัญญัติ ผมมั่นใจว่าภายใต้การทำงานใกล้ชิดกับกกต.จะสามารถทำสิ่งที่ดี ๆ เพื่อไปถึงพี่น้องประชาชนและเปิดโอกาสให้ประชาชนเข้ามามีส่วนร่วมได้” ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าว.-314 .-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

เปิดเนื้อหาหนังสือแจง UNSC กัมพูชาวางทุ่นระเบิด-เริ่มยิงก่อน

25 ก.ค.- เปิดเนื้อหาหนังสือจากผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติที่นิวยอร์ก เพื่อชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทย ประจำสหประชาชาติ ณ นครนิวยอร์ก ส่งหนังสือชี้แจงต่อประธานคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติ ถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ระบุว่า ขอแจ้งให้ท่านและสมาชิกคณะมนตรีความมั่นคงแห่งสหประชาชาติทุกท่านทราบ ถึงสถานการณ์อันร้ายแรงที่ส่งผลกระทบต่ออธิปไตยและบูรณภาพแห่งดินแดนของไทย อันเป็นผลจากการรุกรานทางทหารของประเทศกัมพูชา โดยมีรายละเอียด ดังนี้ 1.     เมื่อวันที่ 16 และ 23 กรกฎาคม ค.ศ. 2025 ขณะที่เจ้าหน้าที่ทหารไทยกำลังลาดตระเวนตามเส้นทางปกติที่กำหนดไว้ ซึ่งอยู่ภายในอาณาเขตของประเทศไทย ทหารได้เหยียบทุ่นระเบิดชนิด PMN-2 ส่งผลให้ทหาร 2 นาย ได้รับบาดเจ็บอย่างสาหัสส่งผลถึงขั้นพิการถาวร ขณะที่ทหารนายอื่น ๆ ก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ทุ่นระเบิด PMN-2 ทั้งหมดที่พบอยู่ในสภาพใหม่ ยังมีเครื่องหมายที่มองเห็นได้ชัดเจน หลักฐานบ่งชี้ว่าทุ่นระเบิดเหล่านี้เพิ่งถูกวางใหม่ ในฐานะที่ประเทศไทยเป็นรัฐภาคีของอนุสัญญาห้ามทุ่นระเบิดสังหารบุคคล ไทยได้ยื่นรายงานประจำปีเกี่ยวกับความโปร่งใสในการดำเนินการตามพันธกรณีในอนุสัญญาดังกล่าว ตามมาตรา 7 ของอนุสัญญาฯ อย่างต่อเนื่อง รายงานดังกล่าวระบุว่าประเทศไทยได้ทำลายทุ่นระเบิดในคลังทั้งหมดแล้วตั้งแต่ปี ค.ศ. 2003 และต่อมา ได้ทำลายทุ่นระเบิดทั้งหมดที่เก็บไว้เพื่อการฝึกอบรมและการวิจัยในปี ค.ศ. […]

“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน”

ก.มหาดไทย 25 ก.ค.-“ภูมิธรรม” เชื่อประชาชนคิดเหมือน “ทักษิณ” ขอให้กองทัพลบเหลี่ยม “ฮุนเซน” ชี้รับฟังทุกความไม่พอใจ แต่ทุกอย่างเป็นไปตามยุทธวิธี ให้ทหารมีอิสระในการทำงาน มอง “ก่อแก้ว” ขอศาล รธน. คืนอำนาจให้ “แพทองธาร” เป็นความเห็นเหมือนประชาชนจำนวนมาก แต่ให้เป็นตามกระบวนการยุติธรรม นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รักษาการนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านทวิตเตอร์ ระบุถึง อยากให้กองทัพสั่งสอนความเจ้าเล่ห์ของฮุนเซนก่อน ว่า ก็เหมือนประชาชนทั่วไป ที่เวลานี้มีความรู้สึกเช่นนั้น หลายคนแสดงความเห็นให้ทำแบบนู้นแบบนี้ เราก็รับฟังความห่วงใยความไม่พอใจที่เราถูกกระทำ ตนเข้าใจความรู้สึกเหล่านั้น และเห็นว่าเป็นจุดมุ่งหมายเดียวกัน เพราะเรื่องอธิปไตยของประเทศ การรุกล้ำเข้ามา กระทบประชาชนเรายอมไม่ได้ ซึ่งที่ผ่านมาทุกฝ่ายจะเห็นว่าเราประนีประนอม (Compromise) ให้มากที่สุด แต่เมื่อสิ่งดังกล่าวไม่เกิดขึ้น และเป็นปัญหา วันนี้จึงได้สั่งการให้ทหารมีอิสระในพื้นที่ โดยผู้บัญชาการทหารบก (ผบ.ทบ.) เป็นผู้คุมยุทธการ ปฏิบัติได้ตามสถานการณ์ที่เกิดขึ้น รวมถึงได้มีการทำความเข้าใจกับ พลเอก ณัฐพล นาคพาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงกลาโหม ในฐานะรักษาการรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีการโทรคุยกับผู้บัญชาการทหารสูงสุด […]

เข้าสู่วันที่ 2 กัมพูชาเปิดฉากตั้งแต่เช้ามืด ที่ปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 25 ก.ค.-เข้าสู่วันที่ 2 เหตุปะทะไทย-กัมพูชา เริ่มเปิดฉากยิงกันตั้งแต่เช้ามืด บริเวณปราสาทตาเมือนธม และปราสาทตาควาย อ.พนมดงรัก จ.สุรินทร์ ขณะนี้เสียงยังดังต่อเนื่อง ก่อนขยายการสู้รบไปตลอดแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ด้านอีสานใต้ อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ เป็นพื้นที่แรกที่ฝ่ายกัมพูชาเปิดฉากยิงก่อนด้านปราสาทตาเมือนครับ เช้ามืดวันนี้ ราวตี 5 ครึ่ง ก็เริ่มปะทะกันอีก ขณะนี้ก็มีเสียงดังอย่างต่อเนื่อง เส้นทางจากอำเภอปราสาท จังหวัดสุรินทร์ เข้าสู่อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ แม้สายแล้ว ก็มีรถสัญจรไปมาค่อนข้างน้อย เนื่องจากเป็นพื้นที่เสี่ยงภัยการสู้รบ โดยอำเภอพนมดงรักเป็นหนึ่งใน 4 อำเภอ ที่ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ ประกาศให้ผู้ที่ไม่มีความจำเป็นเข้าพื้นที่ร่วมกับอำเภอกาบเชิง บัวเชดและสังขะ โดยตลอดช่วงเช้าที่ผ่านมา ในพื้นที่ตามแนวชายแดนได้ยินเสียงการปะทะด้วยกระสุนปืนใหญ่ดังอย่างต่อเนื่อง ผู้นำหมู่บ้านบันทึกสถิติเฉพาะฝั่งไทยตอบโต้เกินกว่า 100 ลูกแล้ว บ้านหนองแรด ตำบลบักได อำเภอพนมดงรัก ที่จรวดหลายลำกล้อง BM 21 ตกเยอะสุด 10 ลูก วานนี้โดยรอบหมู่บ้าน โชคดีไม่ลงบ้านเรือน มีกระจกแตกเล็กน้อยจากแรงอัดลูกจรวดเท่านั้น วันนี้ ยังมีชาวบ้านอยู่นับร้อยคนหลบอยู่ในหลุมหลบภัย จากทั้งหมด […]

เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวรองรับประชาชนพื้นที่เสี่ยงภัยชายแดน

ศรีสะเกษ 24 ก.ค. – บรรยากาศคืนแรกที่ศูนย์อพยพฯ อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ประชาชนต้องละทิ้งบ้านเรือนมาพักอาศัยชั่วคราว จากเหตุปะทะตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา นี่เป็นบรรยากาศค่ำคืนแรกที่ประชาชนในเขต อ.กันทรลักษ์ จ.ศรีสะเกษ ต้องออกมาพักอาศัยนอกบ้านเรือน ตั้งแต่เกิดเหตุกัมพูชายิงจรวดเข้าใส่เขตพักอาศัยของพลเรือน ซึ่งเป็นการละเมิดข้อตกลงระหว่างประเทศ ทำให้ตลอดทั้งวัน อ.กันทรลักษ์ มีการอพยพประชาชนแล้วมากกว่า 41,000 คน กระจายไปตามจุดต่างๆ โดยจุดนี้เป็นจุดที่น่าจะมีผู้อพยพมากที่สุด เพราะใกล้แนวชายแดนที่อยู่ในระยะปลอดภัยมากที่สุด คือ ประมาณ 40 กิโลเมตร จากแนวชายแดน มีประชาชนเข้ามาพักอาศัย 4,865 คน และยังมีจุดอื่นๆ ที่ใกล้เคียงกระจายกันไป ผลจากสถานการณ์ตึงเครียดและพลเรือนตกเป็นเป้าของการโจมตี ทำให้หลายคนอยู่ในอาการเครียดและกังวล เจ้าหน้าที่ต้องมีการประชาสัมพันธ์ให้กำลังใจเป็นระยะ รวมทั้งให้บริการยาและอุปกรณ์ต่างๆ ที่จำเป็นเบื้องต้น พร้อมกันนี้ได้ย้ำให้ปฏิบัติตามคำแนะนำของนายอนุพงศ์ สุขสมนิตย์ ผู้ว่าราชการจังหวัดศรีสะเกษ ที่ได้ฝากแจ้งประชาชนที่ยังลังเลไม่ยอมอพยพออกจากพื้นที่ เนื่องจากเป็นห่วงทรัพย์สินหรือสัตว์เลี้ยง ว่า ขณะนี้มีชุดรักษาความปลอดภัยหมู่บ้าน (ชรบ.) ผู้ใหญ่บ้าน และกำนัน ดูแลพื้นที่อย่างใกล้ชิดทุกหมู่บ้าน จึงขอให้ทุกคนให้ความร่วมมือ และออกมาจากพื้นที่เสี่ยงตามจุดนัดหมาย เพื่อความปลอดภัยของตนเองและครอบครัว. – สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

ทอ.ส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตีสกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา

26 ก.ค.- กองทัพอากาศส่ง F-16 และ กริพเพน โจมตียุทธบริเวณ “ภูมะเขือ” สกัดอาวุธวิถีโค้งกัมพูชา อีกจุดปราสาทตาเมือนธม ผลปฏิบัติลุล่วงกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย เมื่อวันที่ 26 ก.ค.68 กองทัพอากาศ ส่งเครื่องบินขับไล่ F-16 จำนวน 2 ลำ และเครื่องบินกริพเพน จำนวน 2 ลำ ออกปฏิบัติการโจมตี พื้นที่ยุทธบริเวณเป้าหมายทหาร ของทางทหารกัมพูชาบริเวณภูมะเขือ หลังทหารกัมพูชาเตรียมใช้อาวุธวิธีโค้งยิงใส่ฝ่ายไทยหวังยึดภูมะเขือ ส่วนอีกจุดบริเวณปราสาทตาเหมือนธม โดยเป็นจุดที่ทางทหารกัมพูชาได้ตั้งปืนใหญ่และกำลังพลยิงข้ามมายังฝั่งประเทศไทยโดยไร้ทิศทาง ทั้งนี้ผลการปฏิบัติการ ทำลายเป้าหมายได้ทั้งสองจุด ลุล่วงไปด้วยดี และได้บินกลับฐานปฏิบัติด้วยความปลอดภัย ผู้สื่อข่าวรายงานว่า การขึ้นบินกริพเพนของกองทัพ ในภารกิจสู้รบตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ครั้งนี้ ถือเป็น ‘ประวัติศาสตร์’ ของเครื่องบินขับไล่กริพเพนที่มีประจำการในหลายประเทศ ที่ใช้ในภารกิจสู้รบ-ใช้อาวุธจริงครั้งแรก ที่ผ่านมา กริพเพน ถูกใช้เพียงภารกิจบินรักษาอาณาเขต เช่น บริเวณทะเลบอลติกในทวีปยุโรป ในฐานะสมาชิก ‘นาโต้’ ผ่านเหตุการณ์สู้รบ ‘ยูเครน-รัสเซีย’ และภารกิจเฝ้าตรวจ-คุ้มกันน่านฟ้า ประเทศลิเบีย ที่กองทัพอากาศสวีเดนเข้าร่วมภารกิจ -สำนักข่าวไทย

“แพทองธาร” ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% ไม่พอใจเข้มปราบแก๊งคอลฯ

กระทรวงวัฒนธรรม 26 ก.ค.- “แพทองธาร” เปิดใจ ขอคนไทยรักกัน หันไปทะเลาะกับคนนอกประเทศก่อน ชี้ขัดแย้งกันเองยังรอได้ แฉกัมพูชาไม่พอใจไทยร่วมมือลาว – เมียนมา ปราบคอลเซ็นเตอร์ เผยสื่อนอกยังตั้งข้อสังเกต “กพช.” สั่งปิด รร.ยิงวันแรก เหมือนรู้ล่วงหน้าจะมีการรบ ย้ำชัดเขมรเริ่มก่อน 100% นางสาวแพทองธาร ชินวัตร รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม ให้สัมภาษณ์ภายหลังประชุมติดตามมาตรการการรับมือ และช่วยช่วยเหลือผู้ได้รับบาดเจ็บ และผู้เสียชีวิตในพื้นที่ที่ได้รับผลกระทบ 4 จังหวัด ที่กระทรวงวัฒนธรรม โดยนางสาวแพทองธารได้ยืนยันแถลงการณ์ของรัฐบาล ตามที่นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ได้แถลงไปเมื่อวานนี้ ที่ระบุว่ากัมพูชาถือว่าเป็นอาชญากรรมสงครามขั้นรุนแรง วิธีการต่าง ๆ ขัดต่อหลักสันติวิธีของกฎหมายระหว่างประเทศ และขัดหลักมนุษยธรรมที่ได้ปฏิบัติมาตลอด สถานการณ์ความรุนแรง เป็นสิ่งที่รัฐบาลได้ย้ำตลอดว่าไม่อยากให้เกิดขึ้น สิ่งสำคัญที่สุด คือชีวิตของประชาชน เป็นสิ่งที่เรายึดถือ และพยายามไม่ให้เกิดการเสียเลือดเสียเนื้อ จนฝ่ายกัมพูชาได้ยิงก่อน ตั้งแต่วันที่ 24 กรกฎาคมที่ผ่านมา นางสาวแพทองธารยังกล่าวว่า มีสำนักข่าวต่างประเทศตั้งข้อสังเกตว่า จริงๆ แล้วเรามีหลักฐาน มีดิจิทัลฟุตปริ้นท์ที่สามารถทำให้เห็นว่าใครเป็นคนเริ่มก่อน และมีการตั้งข้อสังเกตว่าในวันนั้นนักเรียนของเราที่อยู่ชายแดนไปโรงเรียนตามปกติ […]

“เสธ.เบิร์ด” ชี้เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” ถือเป็นภัยคุกคาม

26 ก.ค.- “เสธ.เบิร์ด” ชี้ เขมรขู่ขยับ “ขีปนาวุธ PHL-03” วิถีไกล 130 กม. ถือเป็นภัยคุกคาม มองไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากกรณีกองทัพภาคที่ 2 เตือนเฝ้าระวังกัมพูชายิงขีปนาวุธ PHL-03 วิถีไกล 130 กม. เพื่อพุ่งเป้าหมายพื้นที่ยุทธศาสตร์และที่ตั้งทหารนั้น ล่าสุด พล.ต.วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวว่า การขยับขีปนาวุธ PHL-03 เป็นการขู่ และถือเป็นภัยคุกคาม ดังนั้นถ้าไทยใช้การทำลายทางลึกถือว่าเหมาะสม จากการที่กัมพูชากล่าวหาว่า ไทยใช้ปฏิบัติการทางอากาศเกินกว่าเหตุนั้น เราไม่ทำเกินกว่าเหตุ แต่สิ่งที่เราทำนี้เป็นเหตุผล เพราะฝ่ายกัมพูชา เคลื่อนกำลังจำนวนมากมาประชิดชายแดน ใช้อาวุธยิงระยะไกลทำร้ายประชาชนของไทย ทั้งโรงพยาบาล โรงเรียน สถานีบริการน้ำมัน ทำให้ประชาชนชาวไทยบาดเจ็บ และเสียชีวิต จากการมีภาพข่าวการเคลื่อนอาวุธยิงระยะไกล ถือว่าเป็นการข่มขู่คุกคามความมั่นคงของไทยอย่างชัดเจน ดังนั้นการปฏิบัติการทางอากาศ เพื่อลดการสูญเสีย สถานการณ์คลี่คลายโดยเร็วที่สุด ทั้งนี้การปฏิบัติการทางอากาศของไทยทำลายเป้าหมายทางทหารเท่านั้น และมีความแม่นยำ -สำนักข่าวไทย

น้ำท่วมน่านลดต่อเนื่อง ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย

น่าน 26 ก.ค.- สถานการณ์น้ำท่วมตัวเมืองน่าน ลดลงต่อเนื่อง ส่วนอีกหลายจุดยังอ่วม ท่วมสูงกว่า 1 เมตร ชาวบ้านเริ่มสำรวจความเสียหาย ย่านการค้าและเศรษฐกิจสำคัญของเมืองน่าน บริเวณถนนสุมณเทวราช ซึ่งเคยน้ำท่วมสูงเกือบถึงคอ แต่ตอนนี้น้ำลดลงเหลือประมาณหน้าขา เท่ากับลดไปราว 1 เมตร แต่บริเวณโดยรอบยังมีน้ำท่วมเต็มพื้นที่ โดยเฉพาะที่ลุ่มต่ำ ยังท่วมสูงกว่า 1 เมตร ทีมข่าวได้เข้าไปสำรวจความเสียหายของโรงแรงแห่งหนึ่งกลางเมืองน่าน ซึ่งสภาพภายในเต็มไปด้วยคราบโคลน รถยนต์ รถมอเตอร์ไซค์ ที่จอดไว้เสียหายจำนวนมาก ขณะที่เจ้าของร้านค้าย่านนี้ เริ่มสำรวจความเสียหายจากน้ำท่วม อีกจุดหนึ่งที่ได้รับความเสียหายอย่างหนักคือที่โรงพยาบาลน่านที่ถูกน้ำท่วมสูงเต็มพื้นที่ 40 ไร่ บางจุดท่วมเกือบมิดหัว ตอนนี้น้ำลดแล้ว แต่ตามอาคารต่างๆ น้ำทะลักท่วมยาเวชภัณฑ์และอุปกรณ์การแพทย์ได้รับความเสียหาย แต่ผู้ป่วยใน ราว 3 ร้อยคน ยังปลอดภัย คุณหมอ พยาบาลและเจ้าหน้าที่เร่งช่วยกันเก็บกวาดทำความสะอาด เพื่อให้โรงพยาบาลกลับมาเปิดบริการตามปกติให้เร็วที่สุด ช่วงสายที่ผ่านมา นางสาวธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย ลงพื้นที่สำรวจความเสียหายใจกลางเขตเศรษฐกิจเมืองน่านด้วย -สำนักข่าวไทย