21 ก.พ. – หลายจังหวัดในภาคเหนือและอีสาน เกิดไฟป่า และจุดความร้อนเพิ่มขึ้น โดยเฉพาะที่ลำปาง พบจุดความร้อนกว่า 80 จุด เจ้าหน้าที่ระดมกำลังดับอย่างต่อเนื่อง
สถานการณ์ไฟป่าในพื้นที่จังหวัดลำปาง ยังน่าเป็นห่วง หลังจากเมื่อวานนี้ ศูนย์ warroom จังหวัดลำปางรายงานพบการเกิดจุดความร้อน หรือ Hot spot ในพื้นที่ ถึง 82 จุดใน 13 อำเภอ โดยเฉพาะพื้นที อ.สบปราบ พบสูงสุดถึง 14 จุด รองลงมาคือในพื้นที่ อ.เมืองลำปาง และ อ.แม่เมาะ อำเภอละ 9 จุด ทำให้ต้องมีการระดมกำลังเจ้าหน้าที่ ทั้งจากสำนักบริหารพื้นที่อนุรักษ์ที่ 13 สาขาลำปาง สำนักทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ศูนย์บัญชาการควบคุมไฟป่า (ส่วนหน้า) กรมป่าไม้ และเจ้าหน้าที่จากหน่วยควบคุมไฟป่าในพื้นที่ และชุดเหยี่ยวไฟสงขลา ที่มาช่วยสนับสนุนภารกิจ ร่วมกันออกปฏิบัติการควบคุมไฟป่าในพื้นที่
โดยเฉพาะบริเวณดอยพระบาท ดอยโตน ดอยม่วงคำ ห้วยน้ำขาว และบริเวณวัดม่วงคำ อ.เมือง จ.ลำปาง ซึ่งพบไฟป่าเป็นแนวยาว และเส้นทางลาดชัน ทำให้เจ้าหน้าที่ต้องใช้ความระมัดระวังและปฏิบัติงานด้วยความยากลำบาก เพื่อควบคุมสถานการณ์ไม่ให้ลุกลาม ขยายวงกว้าง
จับชาวบ้านเผาป่า 3 ราย
เจ้าหน้าที่อุทยานแห่งชาติออบขาน และเจ้าหน้าที่หน่วยป้องกันรักษาป่าเชียงใหม่ที่ 13 ที่ร่วมกันดับไฟป่า ได้จับกุมชาวบ้าน 3 ราย ขณะกำลังเผาป่า ในเขตป่าสงวนแห่งชาติ ป่าแม่ท่าช้างและแม่ขนิน ในพื้นที่อำเภอหางดง จังหวัดเชียงใหม่ ผู้ต้องหาสารภาพว่า จุดไฟเผาป่าในพื้นที่ป่าที่อยู่ติดกับสวนลำไยของตนเองเพราะ เกรงว่าหากเกิดไฟป่าจะลุกลามเข้ามาในสวน ส่วนอีกรายยอมรับว่า เผาวัชพืช และใบไม้ เพื่อกำจัดเชื้อเพลิง ซึ่งเจ้าหน้าที่ได้นำตัวทั้ง 3 รายส่งพนักงานสอบสวนสภ.หางดง เพื่อดำเนินคดีตามกฎหมาย ต่อไป
จังหวัดเชียงใหม่ ยังอยู่ในช่วงประกาศห้ามเผาทุกชนิดในพื้นที่โล่งแจ้ง ไปจนถึงวันที่ 30 เมษายน 2567 เพื่อลดปัญหาหมอกควันจากไฟป่า และหวังเป็นโมเดลต้นแบบให้กับจังหวัดอื่นๆ ในการบริหารจัดการปัญหา แต่จนถึงขณะนี้ยังมีรายงานพบจุดความร้อนเพิ่มขึ้นทุกวัน
เร่งดับไฟป่าเทือกเขาป่าเขาภูแลนคา
ไฟไหม้ป่าในพื้นที่ จ.ชัยภูมิ เริ่มขยายวงกว้าง จากเขตออุทยานแห่งชาติภูแลนคา ลุกลามไปในเขตอุทยานแห่งชาติน้ำตกตาดโตน เจ้าหน้าที่ต้องเร่งควบคุม เพราะเกรงว่าจะลุกลามเข้าไปในพื้นที่ชุมชน โดยเฉพาะในเขตหมู่บ้านหินหนีบ ทำให้องค์การบริหารส่วนตำบลท่าหินโงมและเจ้าหน้าไฟป่า เจ้าหน้าอุทยานแห่งชาติกว่า 100 นาย เร่งออกไปช่วยดับไฟป่า พร้อมประสานขอสนับสนุนรถดับเพลิงจาก อบจ.ชัยภูมิ และพื้นที่ใกล้เคียง มาร่วมดับไฟป่า ซึ่งคาดว่าจะใช้เวลา 1-2 วัน จะสามารถควบคุมไฟป่าได้
โดยสาเหตุของการเกิดไฟป่าในครั้งนี้ เจ้าหน้าที่เชื่อว่า เกิดจากฝีมือมนุษย์ ซึ่งทุกปีในช่วงนี้จะเป็นฤดูเก็บผักหวานป่า ซึ่งชาวบ้านมักจะพากันเผาป่า เพื่อให้ผักหวานป่าแตกยอด ก่อนจะออกหาเก็บผักหวานมาขาย แต่ปีนี้นับว่าสถานการณ์รุนแรงกว่าทุกปี เพราะมีพื้นที่ป่าเสียหายไปแล้วหลายร้อยไร่ .-สำนักข่าวไทย