เหตุสายสื่อสารเกี่ยวคอ คาดรถบรรทุกเกี่ยวร่วงไว้ก่อน

ลำปาง 16 ก.พ. – เหตุสายสื่อสารเกี่ยวคออาจารย์สอนเสริมสวย จ.ลำปาง บาดเจ็บสาหัส ญาติเร่งตามหาสาเหตุจากกล้องวงจรปิด คาดรถบรรทุกเกี่ยวสายไฟหล่นลงมาก่อนผู้บาดเจ็บขี่ผ่าน จนถูกสายสื่อสารเกี่ยวล้มคว่ำ


ในช่วงสายวันนี้ (16 ก.พ.67) ญาติของนายนำพล อายุ 54 ปี ผู้ได้รับบาดเจ็บจากการถูกสายสื่อสารเกี่ยวคอ ขณะขี่ จยย. จะไปซื้ออาหาร และเป็นอาจารย์สอนทำผม รวมถึงเป็นลูกชายของเจ้าของโรงเรียนเสริมสวยมาลี ได้พยายามตามหาภาพจากกล้องวงจรปิดตามจุดที่เกิดเหตุ ในคืนเกิดเหตุ ช่วงประมาณ 02.00 น. ของวันที่ 9 ก.พ.67 ซึ่งภาพบางส่วนที่ได้มาก่อนหน้านี้พยายามเปิดดูภาพแต่ไม่เห็น จนกระทั่งวันนี้ได้ลองเปิดดูอีกรอบปรากฏว่าเห็นภาพช่วงเกิดเหตุ แม้จะมองเห็นจุดที่รถล้มไม่ชัดเจน แต่ก็พบว่าก่อนที่รถ จยย. จะล้มนั้นมีรถบรรทุกตู้ทึบขนาดใหญ่และสูงวิ่งผ่านไปก่อนจากนั้นไม่นานก็เห็นผู้บาดเจ็บขี่ตามไปและรถได้ล้มลง เมื่อญาติได้ยินเสียงจึงรีบวิ่งตามไปดูและเห็นสภาพที่รถล้มดังกล่าว ซึ่งจะเห็นว่าจุดที่รถล้ม กับจุดที่ร่างของผู้บาดเจ็บไถลไปนั้นห่างกันพอสมควร

หลังเกิดเหตุ นายฐิศิรักษ์ โพทธิ์ทอง นักวิชาการนโยบายและแผนปฏิบัติการระดับต้น เขต 31 ลำปาง พร้อม พนักงาน กสทช. เขต 31 ลำปาง และ พนักงาน กฟภ. ได้เข้ามาตรวจสอบจุดที่เกิดเหตุ หลังทราบจากข่าว ยังไม่ได้รับการประสานงานจากตำรวจเจ้าของคดี แต่ลงพื้นที่เพื่อมาพิสูจน์ว่าสายเป็นของบริษัทไหน โดยเบื้องต้นพบว่า สายที่หย่อนลงมานั้น ตำรวจได้ทำการตัดไปก่อนหน้านี้แล้ว ทำให้ต้องรอนำสายสื่อสารนั้นไปตรวจสอบอีกครั้ง ซึ่งทางเจ้าหน้าที่บอกว่าจะพยายามเร่งรัดตรวจสอบว่าเป็นสายของบริษัทไหน เพื่อประสานให้เข้ามารับผิดชอบเรื่องที่เกิดขึ้น และฝากประชาชนกาดพบสายสื่อสารหรือหย่อนและเกรงจะเกิดอันตรายในพื้นที่ลำปาง สามารถแจ้งได้ที่สายด่วน 1200 หรือ 054-313920


นายสราวุธ น้องชายผู้บาดเจ็บให้สัมภาษณ์ทางโทรศัพท์ถึงอาการล่าสุดของนายนำพล ว่า ตั้งแต่เกิดเหตุพี่ชายยังรู้สึกตัว และแพทย์ดูแลอย่างดี ผ่าตัดไปแล้ว 3 ครั้ง คือ ครั้งแรกผ่าตัดสมองเอาลิ่มเลือดออก ครั้งที่ 2 ผ่าตัดกระดูกใบหน้าเพราะใบหน้าแตก รอใส่แก้มเทียม ครั้งที่ 3 ต่อเนื่องจากครั้งแรกเอาลิ่มเลือดที่ค้างออกอีกรอบ และวันนี้ครั้งที่4 ผ่าตัดกระดูกส่วนขาและเจาะคอเพื่อให้ออกซิเจนทางหลอดลม ลดการติดเชื้อ ซึ่งแพทย์บอกให้ญาติมีความหวังว่าผู้ป่วยจะดีขึ้นและฟื้นกลับมา

น.ส.ฐิตารีย์ น้องสาว บอกว่า ผู้บาดเจ็บถือเป็นเสาหลักของครอบครัว คุณแม่รักมาก ที่ผ่านมามีผลงานมากมายโดยเฉพาะการเข้าประกวดเกี่ยวกับทรงผม การแต่งหน้า ซึ่งขณะนี้ทุกคนในบ้านก็ต้องยอมรับกับเรื่องที่เกิดขึ้น ขอเพียงให้พี่ฟื้นและหายโดยเร็ว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย