ภูเก็ต 4 ม.ค. – เจ้าท่าฯ ภูเก็ต เตรียมเชิญผู้เกี่ยวข้องให้ปากคำเหตุสปีดโบ๊ทเช่าเหมาชนโขดหินเกาะไม้ท่อน มีผู้บาดเจ็บ 8 คน เสียชีวิต 1 คน พร้อมเร่งหามาตรการป้องกันเกิดเหตุซ้ำ
จากกรณีเรือสปีดโบ๊ทเช่าเหมาลำ ชนโขดหินริมฝั่งทิศตะวันออกของเกาะไม้ท่อน ต.วิชิต อ.เมือง จ.ภูเก็ต ส่งผลให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ จำนวน 8 คน และเสียชีวิต 1 คน เป็นเด็กหญิงชาวรัสเซีย โดยปัจจุบันมีผู้บาดเจ็บยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 3 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 2 คน และคนไทย 1 คน ซึ่งเป็นกัปตันเรือ เหตุเกิดเมื่อช่วงบ่ายวันที่ 31 ธันวาคม 2566 ที่ผ่านมา
นายณชพงศ ประนิตย์ เจ้าท่าภูมิภาค สาขาภูเก็ต กล่าวว่า ขณะนี้สำนักงานเจ้าท่าภูมิภาคที่ 5 ได้แต่งตั้งคณะทำงานสอบสวนอุบัติเหตุทางน้ำ กรณีสปีดโบ๊ทชนโขดหินเกาะไม้ท่อน เพื่อสอบสวนข้อเท็จจริงที่เกิดขึ้น คาดว่าจะมีการเรียกประชุมในสัปดาห์หน้า ในส่วนที่ดำเนินการไปแล้ว คือ การตรวจสภาพความเสียหายของเรือในจุดเกิดเหตุตั้งแต่วันแรก (31 ธ.ค.66) และหลังจากนำเรือขึ้นฝั่งก็ได้มีการเก็บรายละเอียดของสภาพความเสียหายเพิ่มเติม เพื่อเป็นข้อมูลประกอบการพิจารณาดำเนินคดี นอกจากนี้ยังได้มีการเข้าไปดูแลในส่วนของผู้บาดเจ็บ ซึ่งขณะนี้ยังรักษาตัวอยู่ที่โรงพยาบาล 3 คน เป็นนักท่องเที่ยวชาวรัสเซีย 2 คน และคนไทย 1 คน ซึ่งเป็นกัปตันหรือคนควบคุมเรือ คาดว่าจะสามารถเชิญผู้ที่เกี่ยวข้อง ไม่ว่าจะเป็นเจ้าของเรือ ผู้โดยสารในเรือมีทั้งนักท่องเที่ยวซึ่งมีความพร้อม ผู้ควบคุมเรือและคนประจำเรือ มาให้ปากคำเกี่ยวกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นเพื่อประมวลหาสาเหตุที่เกิดขึ้น
“ในส่วนของเจ้าท่าฯ จะดูในเรื่องที่เกี่ยวข้องกับกฎหมายทางน้ำ เช่น ใบอนุญาตขาดอายุ ความพร้อมของเรือ ประกาศนียบัตรนายท้าย เป็นต้น เพื่อพิจารณาว่าสาเหตุของการเกิดอุบัติครั้งนี้เกิดจากความบกพร่องของเรือหรือเกิดจากผู้ควบคุมเรือ หรือมีปัจจัยอื่นๆ มาเกี่ยวข้อง ส่วนคดีอาญาจะเป็นหน้าที่ของทางพนักงานสอบสวนที่จะดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ต่อไป”
ส่วนมาตรการป้องกันเพื่อไม่ให้เกิดเหตุซ้ำ จะเรียกประชุมผู้ประกอบการเรือนำเที่ยว เพื่อสร้างความเข้าใจเกี่ยวกับการใช้ระบบสมาร์ทเพียร์ หรือ ระบบท่าเรืออัจฉริยะเพื่อสร้างความเชื่อมั่นให้กับผู้ใช้บริการ นอกจากนี้จะบูรณาการร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องสุ่มตรวจหาสารเสพติด โดยเฉพาะในส่วนของกัปตันเรือ และเด็กเรือ รวมทั้งเร่งอบรมให้ความรู้คนประจำเรือ มัคคุเทศก์และผู้ประกอบการเรือนำเที่ยวให้ตระหนักถึงความพร้อมในการให้บริการ และขอความร่วมมือเจ้าของเรือนำเที่ยวที่จะต้องสุ่มตรวจสารเสพติของพนักงาน เป็นระยะๆ .-สำนักข่าวไทย