รถบรรทุกเมาแล้วขับ พุ่งชนหัวจ่ายปั๊มน้ำมันไฟลุกท่วม 

ลพบุรี 16 ธ.ค.-รถบรรทุกผงปูนเมาแล้วขับ พุ่งชนหัวจ่ายปั๊มน้ำมัน ริมถนนพหลโยธิน ต.ท่าศาลา อ.เมืองลพบุรี ไฟลุกท่วม คนขับสารภาพดื่มเหล้ามาและหลับใน 


เมื่อเวลา 01.30 น. วันที่ 16 ธ.ค. 2566 ตำรวจ สภ.เมืองลพบุรี ได้รับแจ้งเกิดเหตุไฟไหม้ปั๊มน้ำมันริมถนนพหลโยธิน หลักกิโลเมตรที่ 51 ต.ท่าศาลา อ.เมือง เนื่องจากรถบรรทุกพุ่งชนหัวจ่ายน้ำมันพังราบ จึงประสานรถน้ำดับเพลิงจากพื้นที่ใกล้เคียง และจังหวัดใกล้เคียง 12 คัน เข้าควบคุมเพลิง และประสานเจ้าหน้าที่การไฟฟ้าทำการตัดกระแสไฟ พร้อมปิดเส้นทางการจราจรทั้ง 2 เส้นทาง เพื่อความปลอดภัย

ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกผงปูน 18 ล้อ ไม่ทราบยี่ห้อ พุ่งชนหัวจ่ายไฟลุกท่วม เจ้าหน้าที่ต้องทำงานอย่างรัดกุม กู้ภัยฯ ได้เร่งเข้าช่วยเหลือพนักงานเติมน้ำมัน เจ้าหน้าที่ร้านสะดวกซื้อ และประชาชนผู้ที่ยังติดอยู่ภายในปั๊มนำออกไปอยู่ในที่ปลอดภัย ส่วนคนขับรถบรรทุก ทราบว่าหนีออกมาจากรถได้แล้ว ทราบชื่อนายมาโนช อายุ 44 ปี ชาวกำแพงเพชร สภาพยังงัวเงียคล้ายคนเมา พร้อมเล่าว่า ไม่รู้ว่าเกิดเหตุอะไร เพราะขับรถส่งผงปูนทั้งวันทั้งคืนตั้งแต่ลำปาง ไปส่งที่กรุงเทพฯ ล่าสุดนำปูนจาก จ.สระบุรี จะไปส่ง จ.ตาก ก่อนเกิดเหตุยอมรับดื่มเหล้ามา และเกิดหลับใน รถเสียหลักพุ่งชนเสาไฟฟ้าหน้าปั๊ม ก่อนเข้าพุ่งชนหัวจ่ายในปั๊มพังราบทั้งแถบ หนีตายออกมาได้อย่างเหลือเชื่อ 


นายอนุสรณ์ อายุ 34 ปี ไลน์แมน เล่าว่า รถปูนคันดังกล่าวขับมาเร็วมาก ขับตามหลังเบียดตนเองจนเกือบชน ยังตกใจไม่หาย เช่นเดียวกันกับนายวรรษเมฆา อายุ 22 ปี ที่มาซื้อของร้านสะดวกซื้อในปั๊ม เล่าว่า กำลังออกจากร้าน รถบรรทุกปูนวิ่งมาอย่างเร็วพุ่งชนเสาไฟฟ้าเสียงดังลั่น และพุ่งเช้าชนหัวจ่ายน้ำมัน ไฟลุกท่วม พยายามใช้ถังดับเพลิงเข้าดับเพลิงแต่สู้ไม่ไหว และมีเสียงระเบิดมาเป็นระยะ ก่อนพากันหลบหนี เดชะบุญที่หัวปั๊มที่ถูกชนขณะเกิดเหตุไม่มีเด็กปั๊ม และผู้เติมน้ำมันอยู่จุดนั้น

ด้านนายปรัชญา เปปะตัง รอง ผวจ. ลพบุรี เป็นผู้บัญชาการเหตุการณ์ จนเวลาประมาณ 02.30 น. เจ้าหน้าที่สามารถควบคุมเพลิงไว้ได้ในวงจำกัด เบื้องต้นไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บ หรือเสียชีวิต นำตัวนายมาโนช ไปตรวจวัดปริมาณแอลกอฮอล์ในเลือด พบมากถึง 171 มิลลิกรัมเปอร์เซ็นต์ ส่วนค่าเสียหายอยู่ระหว่างตรวจสอบ ในเบื้องต้นค่าเสียหายสำหรับการไฟฟ้ากว่า 3 แสนบาท จึงได้แจ้งข้อกล่าวหาเมาสุรา ขณะขับรถทำให้ทรัพย์สินผู้อื่นได้รับความเสียหาย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้ขออำนาจศาลควบคุมตัวนำฝากขังที่เรือนจำเมื่อช่วงเช้าที่ผ่านมา.-สำนักข่าวไทย  


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ประหารชีวิตแอมไซยาไนด์

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์”

ศาลอาญาพิพากษาประหารชีวิต “แอม ไซยาไนด์” ส่วนอดีตสามี คุก 1 ปี 4 เดือน “ทนายพัช” คุก 2 ปี ไม่รอลงอาญา ชดใช้ ให้ผู้เสียหายกว่า 2 ล้านบาท

นายกฯ ถกตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก

นายกฯ ถกแต่งตั้งนายพลตำรวจ 41 ตำแหน่ง ยันไม่มีการเมืองแทรก ยึดตาม พ.ร.บ.ตำรวจ ฉบับใหม่ พลิกโผ ‘สยาม บุญสม’ ผงาดคุมนครบาล ‘สันติ ชัยนิรามัย’ นั่ง ผบช.ปส. ‘ไตรรงค์ ผิวพรรณ’ โยกคุมไซเบอร์ ‘ภาณุมาศ บุญญลักษม์’ ขึ้นเป็น ผบช.สตม.

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้าน

ดีเอสไอพบเส้นเงินโอนจากแม่ถึงนักการเมือง ส. เกือบ 100 ล้านบาท จำนวนนี้พบโอนจาก “บอสพอล-บอสปีเตอร์” ด้วย เร่งขยายผลมีบอสรายอื่นโอนเข้าบัญชีดังกล่าวอีกหรือไม่

ข่าวแนะนำ

“เอวา” เสือโคร่งสายแบ๊ว ดาวรุ่งดวงใหม่

หน้าตาที่น่ารักบ้องแบ๊วเหมือนแมวตัวโต ตกหัวใจคนรักสัตว์กันไปเต็มๆ สำหรับน้องเอวา เสือโคร่งสายแบ๊วของเชียงใหม่ไนท์ซาฟารี นอกจากหน้าตาน่ารักแล้วยังมีความสามารถหลายอย่าง จนกลายเป็นดาวรุ่งดวงใหม่ ที่ผู้คนแห่ไปชมความน่ารักกันอย่างคึกคัก คาดจะช่วยดึงนักท่องเที่ยวไปที่เชียงใหม่ไนท์ซาฟารีเพิ่มขึ้นเรื่อยๆ

ต้อนรับอบอุ่น “โอปอล” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ถึงไทย

กลับถึงไทยแล้ว “โอปอล สุชาตา” รองอันดับ 3 มิสยูนิเวิร์ส 2024 ปรากฏตัวในชุดไทย สวยสง่า แฟนนางงามต้อนรับอย่างอบอุ่น

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

นายกฯ โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์

“นายกฯ แพทองธาร” โชว์วิสัยทัศน์บนเวที Forbes Global CEO Conference ครั้งที่ 22 ดันเศรษฐกิจไทย ส่งเสริมซอฟต์พาวเวอร์ รับมือความท้าทาย ชูจุดเด่นไทยอยู่ตรงกลางของเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ มีภาคการเกษตรที่เข้มแข็งดึงดูดนักลงทุน บอกกระตุ​้นเศรษฐกิจ​แจกเงินหมื่นเฟส​ 2 พุ่งเป้าเงินสะพัด ลั่น​จุดยืนไทยวางตัวเป็นทูตสันติภาพ พร้อมปรับตัวตามนโยบาย “ทรัมป์”