fbpx

แม่เหยื่อทัวร์มรณะรายที่ 15 แฉปมอุบัติเหตุ

10 ธ.ค. – แม่เหยื่อรถทัวร์มรณะรายที่ 15 เผยตอนเฝ้าอาการลูกสาวที่โรงพยาบาล ได้ยินตำรวจสอบปากคำคนขับรถบอกว่าไม่สบาย หนาวสั่น จึงกินยา ทำให้หลับในและมือปล่อยพวงมาลัย


จากกรณีเกิดอุบัติเหตุสลด รถทัวร์โดยสารประจำทางกรุงเทพฯ-นาทวี เสียหลักลงไหล่ทางชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่ บริเวณถนนเพชรเกษม ฝั่งขาล่องใต้ กม.331+450 หน้าอุทยานแห่งชาติหาดวนกร ต.ห้วยยาง อ.ทับสะแก จ.ประจวบคีรีขันธ์ เบื้องต้นมีผู้เสียชีวิตจำนวน 14 ราย และบาดเจ็บหลายราย

ผู้สื่อข่าวรายงานความคืบหน้าจากกรณีรถทัวร์มรณะดังกล่าวมีผู้บาดเจ็บเสียชีวิตเพิ่มอีก 1 ราย เป็นผู้โดยสารชื่อ น.ส.มณฑิรา หรือ “แตงโม” อายุ 29 ปี โดยญาติได้ไปรับศพกลับมาตั้งสวดอภิธรรมตามประเพณีที่วัดประชานิคม 2 ต.คุริง อ.ท่าแซะ จ.ชุมพร ตั้งแต่ตอนเย็นของวันที่ 9 ธันวาคมที่ผ่านมา ท่ามกลางความเศร้าโศกเสียใจของญาติๆ


นางพรทิพย์ แม่ของ น.ส.มณฑิรา กล่าวว่า ก่อนนี้ลูกสาวเคยเป็นครูสอนอยู่ที่โรงเรียนเอกชนแห่งหนึ่งและลาออกแล้ว ก่อนเกิดอุบัติเหตุลูกสาวได้เดินทางไปร่วมงานศพของย่า พร้อมกับแม่ ที่ จ.นครสวรรค์ ก่อนจะนั่งรถไปส่งแม่ที่ระยอง และเดินทางต่อมาที่สถานีขนส่งสายใต้ เพื่อเดินทางไปทำงานที่สงขลา

นางพรทิพย์ กล่าวว่า ก่อนเกิดเหตุลูกสาวกลับจาก จ.ระยอง และกำลังจะเดินทางไป จ.สงขลา บ้านแฟน เพื่อไปทำงานเป็นพี่เลี้ยงเด็ก ลูกสาวโทรมาบอกว่าขึ้นรถทัวร์แล้วเมื่อตอน 2 ทุ่ม และสั่งให้แฟนรอรับที่สงขลา หลังจากนั้นติดต่อไม่ได้ และมาทราบภายหลังว่าเกิดอุบัติเหตุรถทัวร์ชนกับต้นไม้ขนาดใหญ่

นางพรทิพย์ กล่าวว่า หลังเกิดเหตุตอนแรกตนได้รับแจ้งว่าลูกสาวเสียชีวิตแล้ว เพราะรายชื่อตามที่นั่งนั้นตรงกับคนตาย แต่สุดท้ายมารู้ทีหลังว่าลูกสาวยังไม่ตาย เพราะคนที่ตายเป็นชาวเมียนมา คาดว่าน่าจะสลับที่นั่งกัน โดยลูกสาวบาดเจ็บสาหัส ตอนนั้นตนยังมีความหวังว่าจะปลอดภัย แต่ลูกสาวอาการโคม่า หายใจด้วยตัวเองไม่ได้ และมีอาการคอหัก หมอพยายามยื้อชีวิตแล้วแต่ไม่สำเร็จ สุดท้ายก็เสียชีวิต โดยรักษาตัวประมาณ 3 วัน ลูกสาวของตนก็จากไปอย่างสงบ


ช่วงที่ตนเฝ้าอาการบาดเจ็บของลูกสาวอยู่ในโรงพยาบาล มีพนักงานสอบสวนเข้ามาสอบปากคำคนขับรถทัวร์คันเกิดเหตุ ที่นอนรักษาอยู่บนเตียงที่ใกล้กับลูกสาวตน ตนได้ยินว่าก่อนเกิดเหตุคนขับรถทัวร์มีอาการเป็นไข้ หนาวสั่น และได้กินยา ทำให้หลับในและมือปล่อยออกจากพวงมาลัย ทำให้เกิดอุบัติเหตุขึ้น ตนไม่รู้เหมือนกันว่าเมื่อร่างกายไม่พร้อมแล้วทำไมยังฝืนขับต่ออีก หรือขอให้คนขับมือสองมาขับแทนก็ได้ ซึ่งจะไม่ทำให้เกิดอุบัติเหตุดังกล่าวขึ้น.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โผ ครม. “เศรษฐา 2” ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้

โผ ครม. เศรษฐา 2 ลงตัว ก.คลัง จัด รมช. 3 เก้าอี้ เดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต ขณะที่ พปชร. ยึด ก.เกษตรฯ ด้าน “สุชาติ” นั่ง รมช.พาณิชย์ พร้อมทาบ “พวงเพ็ชร” ที่ปรึกษานายกฯ โค้งสุดท้ายสลับ “สุดาวรรณ” นั่ง ก.วัฒนธรรม “เสริมศักดิ์” ไป ก.ท่องเที่ยวฯ

รวบ 2 ใน 4 อุ้มฆ่าหนุ่มไทใหญ่ทิ้งป่า อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่

รวบแล้ว 2 ใน 4 ผู้ต้องหาอุ้มฆ่า “จ๋อมวัน” หนุ่มไทใหญ่ ก่อนนำศพไปทิ้งในป่าที่ จ.เชียงใหม่ ปมสังหารอ้างไม่พอใจถูกแซวเรื่องหญิงคนสนิท

มหาวิทยาลัยแจงเหตุ นศ.สาวปี 3 แทงแฟน นศ.ปี 1 สาหัส

มหาวิทยาลัยออกแถลงการณ์ชี้แจงกรณีนักศึกษาหญิงทำร้ายนักศึกษาชาย ในหอพักจนบาดเจ็บสาหัส ด้านตำรวจยืนยันนักศึกษาหญิงที่ก่อเหตุมอบตัวแล้ว ยอมรับเป็นแฟนและทะเลาะกัน

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ข่าวแนะนำ

Made in Thailand แดนไทยเท่ : ภูเก็ตฟิตเนสมวยไทยซูเปอร์ซอฟต์พาวเวอร์

ช่วง Made in Thailand แดนไทยเท่ วันนี้ จะพาไปที่จังหวัดภูเก็ต ที่นั่นมวยไทยไม่ได้เป็นแค่ศิลปะการต่อสู้เพื่อป้องกันตัว แต่ภูเก็ตยังเป็นแหล่งรวบรวมฟิตเนสมวยไทย ที่กำลังได้รับความสนใจจากนักท่องเที่ยว โดยเฉพาะชาวต่างชาติ ไปต่อยมวยเพื่อออกกำลังกาย จนทำให้มวยไทยกลายเป็นซอฟต์พาวเวอร์ ส่งออกไปไกลทั่วโลก

ถกประเด็น กกต. กำหนดกรอบ สว. ห้ามหาเสียง ?

27 เม.ย. – คุยกับนายสมชัย ศรีสุทธิยากร อดีต กกต. ประเด็นที่คณะกรรมการการเลือกตั้ง ออกคำสั่งเด็ดขาดให้ยกเลิกและยุติแคมเปญชักชวนคนมาสมัครเป็นสมาชิกวุฒิสภา ชี้ผิดกฎหมาย รวมถึงการแนะนำตัวในการเลือกสมาชิกวุฒิสภา ก็เป็นที่วิจารณ์อย่างกว้างขวาง .-สำนักข่าวไทย

ทหารอเมริกันยกพลเที่ยวเมืองพัทยาเงินสะพัด

พัทยาช่วงนี้คึกคัก เพราะทหารอเมริกันยกพลขึ้นบก บุกพัทยากว่า 6,000 คน ผู้ประกอบการยิ้มรับ คาดเงินสะพัดจำนวนมาก

จนท.นำหุ่นยนต์ 4 ขา ช่วยตรวจจับความร้อน

เหตุไฟไหม้โรงงานเก็บขยะเคมีอันตราย จ.ระยอง ก่อนที่ นายกฯ จะลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์บ่ายวันนี้ เจ้าหน้าที่หลายภาคส่วนยังคงระดมกำลังหล่อเย็นพื้นที่โรงงาน ด้านตำรวจพิสูจน์หลักฐาน นำหุ่นยนต์โรบอท 4 ขา ช่วยตรวจจับสัญญาณความร้อน