สามีฉุนถูกบอกเลิก ยิงภรรยา-ลูก ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเอง

สงขลา 23 พ.ย. – เกิดเหตุสลด สามีทะเลาะกับภรรยาที่ขอแยกทาง ใช้อาวุธปืนยิงภรรยาและลูกสาว 2 คน ก่อนลั่นไกปลิดชีพตัวเอง เสียชีวิต 3 ศพ เหลือเพียงลูกสาวคนโต อาการสาหัส


เหตุการณ์เกิดขึ้นที่บ้านหลังหนึ่งใน อ.รัตภูมิ จ.สงขลา ตำรวจ พร้อมเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 9 และกู้ภัยรัตภูมิ เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุเป็นบ้านเดี่ยว 2 ชั้น หลังใหญ่ พบบริเวณหน้าบ้านมีผู้ถูกยิงเสียชีวิต 2 ราย คือ น.ส.พรรณี อายุ 40 ปี อาชีพผู้ช่วยทันตแพทย์ ถูกยิงด้วยอาวุธปืน 9 มม. เข้าที่ศีรษะ 1 นัด ในมือขวายังมีกระเป๋าสะพายคล้องอยู่ นอนหงายเสียชีวิตอยู่ตรงเสาข้างประตูบ้าน อีกรายคือ เด็กหญิงอายุ 9 ปี ลูกสาวคนเล็ก ถูกยิงด้วยอาวุธปืนขนาดเดียวกันเข้าที่ศีรษะ 1 นัด นอนเสียชีวิตในลักษณะหมอบกราบอยู่ตรงเสาระเบียงหน้าบ้าน คล้ายกับพยายามร้องขอชีวิตก่อนถูกยิง และยังมีผู้ถูกยิงได้รับบาดเจ็บอีก 2 คน ญาติช่วยกันนำตัวส่งโรงพยาบาลรัตภูมิไปก่อนแล้ว คือ นายประทีป อายุ 39 ปี ซึ่งเป็นคนก่อเหตุและเป็นหัวหน้าครอบครัวนี้ ถูกยิงด้วยอาวุธปืนเข้าที่ศีรษะ และเสียชีวิตในเวลาต่อมา ส่วนอีกรายคือ เด็กหญิงอายุ 11 ปี ลูกสาวคนโต ถูกยิงเข้าที่ศีรษะ 1 นัด อาการสาหัส ถูกส่งต่อไปยังโรงพยาบาลหาดใหญ่

ในที่เกิดเหตุเจ้าหน้าที่พบอาวุธปืนขนาด 9 มม. ตกอยู่หน้าบ้าน 1 กระบอก ในแม็กกาซีนถูกยิงออกไปแล้ว 4 นัด เหลือค้างอยู่อีก 4 นัด และพบปลอกกระสุนปืนตกอยู่ 3 ปลอก พร้อมหัวกระสุน


จากการสอบสวนทราบว่า ก่อนเกิดเหตุ นายประทีป ขี่รถจักรยานยนต์ไปรับลูกสาวทั้ง 2 คน กลับจากโรงเรียน และเวลาไล่เลี่ยกัน น.ส.พรรณี ภรรยา กลับมาจากที่ทำงาน และกำลังจะเดินเข้าบ้าน แต่เกิดมีปากเสียงทะเลาะกัน ก่อนที่นายประทีป จะใช้อาวุธปืนยิงภรรยาจนล้มลง และยังยิงลูกสาวทั้ง 2 คน ที่ยืนอยู่หน้าบ้าน แล้วใช้อาวุธปืนกระบอกเดียวกันปลิดชีพตัวเอง ซึ่งจากเสียงปืนที่ดังขึ้นถึง 4 นัดซ้อน ทำให้พี่ชายของ น.ส.พรรณี ที่บ้านอยู่ใกล้กัน วิ่งมาดู และเห็นทั้ง 4 คน นอนจมกองเลือดเรียงรายกันอยู่ ก่อนพบว่า น.ส.พรรณี และลูกสาวคนเล็ก เสียชีวิตแล้ว ส่วนนายประทีป และลูกสาวคนโต ยังมีลมหายใจ จึงเรียกให้ญาติๆ พาทั้งสองคนไปส่งโรงพยาบาล ก่อนที่นายประทีปจะเสียชีวิตในเวลาต่อมา เหลือเพียงลูกสาวคนโตที่อาการสาหัส

ส่วนสาเหตุของการเกิดเหตุสลดครั้งนี้ ตำรวจสอบถามญาติและเพื่อนบ้าน ทราบว่า ก่อนหน้านี้ นายประทีป เคยถูกจับกุมในคดีจำหน่ายยาเสพติด คดีอยู่ระหว่างการพิจารณา และต้องใส่กำไลอีเอ็มที่ข้อเท้า พักหลังฝ่ายภรรยาต้องการขอแยกทาง แต่ฝ่ายสามีไม่ยอม ทำให้ทั้งคู่มีเรื่องระหองระแหงทะเลาะกันหลายครั้ง ทางญาติก็คอยช่วยกันพูดให้ทั้งคู่ปรับความเข้าใจกัน จนกระทั่งมาเกิดเหตุสลดดังกล่าว. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

ครู-ผู้ปกครอง ห่วงยกเลิก “ทรงผมนักเรียน” กระทบระเบียบวินัย

ครูและผู้ปกครองใน จ.ขอนแก่น แสดงความกังวล หลังศาลปกครองสูงสุด สั่งยกเลิกกฎกระทรวง ข้อกำหนด “ผมทรงนักเรียน” ห่วงการปล่อยเสรีอาจกระทบต่อระเบียบวินัยและความเรียบร้อยของนักเรียน ขณะที่นักเรียนจำนวนมากพอใจคำตัดสินดังกล่าว

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุด

อากาศร้อนจัด หนุ่มขับเก๋งย่องขโมยแอร์ครบชุดจากร้านแอร์ กลางเมืองสมุทรสงคราม เชื่อคนร้ายมีความรู้เรื่องแอร์ เพราะเลือกหยิบชุดเดียวกัน

นายกฯ ชูซอฟต์พาวเวอร์ไทย บนเวที “ITB Berlin 2025”

นายกฯ ชู soft power ไทย บนเวทีท่องเที่ยวโลก “ITB Berlin 2025” ผลักดันเมืองน่าเที่ยว 18 จังหวัด มุ่งขับเคลื่อนให้ประเทศไทยเป็นจุดหมายปลายทางการท่องเที่ยวระดับโลก ตั้งเป้าสร้างรายได้จากการท่องเที่ยว 3.5 ล้านล้านบาท

Trudeau tells Trump that tariffs are 'very dumb,' says Canada striking back

ประเทศคู่ค้าตอบโต้กำแพงภาษีสหรัฐ

ออตตาวา 5 มี.ค.- ประเทศคู่ค้าขนาดใหญ่ของสหรัฐ ทั้งแคนาดา เม็กซิโก และจีน ออกมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ ตอบโต้มาตรการขึ้นภาษีสินค้านำเข้าของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ของสหรัฐ ทั้งนี้หลังจากมาตรการของสหรัฐที่เก็บภาษีสินค้านำเข้าจากแคนาดาและเม็กซิโกเป็นร้อยละ 25 มีผลตั้งแต่วันที่ 4 มีนาคม นายจัสติน ทรูโด นายกรัฐมนตรีแคนาดาแถลงในอีกไม่กี่ชั่วโมงต่อมาว่า เป็นมาตรการที่โง่เขลาอย่างยิ่ง และแคนาดาได้มีมาตรการโต้กลับด้วยการเก็บภาษีในอัตราร้อยละ 25 ทันทีกับสินค้าของสหรัฐมูลค่า 30,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 701,115 ล้านบาท) และจะเก็บในอีก 21 วันกับสินค้าสหรัฐมูลค่า 125,000 ล้านดอลลาร์แคนาดา (ราว 2.9 ล้านล้านบาท)   ขณะที่ร้านจำหน่ายเครื่องดื่มแอลกอฮอล์ขนาดใหญ่ในแคนาดาต่างพร้อมใจกันเก็บเหล้าและไวน์ที่นำเข้าจากสหรัฐออกจากชั้นวางและยังเชิญชวนให้ผู้บริโภคหันไปซื้อสินค้าที่ผลิตเองในประเทศแทน  ผู้ผลิตคราฟต์เบียร์รายหนึ่งเปิดเผยว่า จะเพิ่มการใช้วัตถุดิบในประเทศเป็นหลัก แทนวัตถุดิบที่เคยนำเข้าจากสหรัฐ  แต่วัตถุดิบจำเป็นบางอย่างต้องนำเข้าจากเยอรมนี ส่วนกระป๋องอลูมิเนียมสำหรับบรรจุเบียร์ที่เคยนำเข้าจากสหรัฐเพราะแคนาดาไม่ได้ผลิตนั้น จะเปลี่ยนไปซื้อจากจีนแทนซึ่งมีราคาถูกกว่า ด้านเม็กซิโก ประธานาธิบดีคลอเดีย เชนบามแถลงว่า การขึ้นภาษีของสหรัฐไม่มีความชอบธรรม เพราะที่ผ่านมาเม็กซิโกให้ความร่วมมือกับสหรัฐมาโดยตลอดในการแก้ปัญหาต่าง ๆ ทั้งเรื่องผู้อพยพและยาเสพติด ดังนั้นรัฐบาลเม็กซิโกจะมีมาตรการตอบโต้สหรัฐด้วยมาตรการด้านภาษีและมาตรการอื่น ๆ  โดยจะมีการแถลงรายละเอียดเกี่ยวกับมาตรการตอบโต้อีกครั้งในวันที่ 9 […]