สำนักงาน ป.ป.ท. 23 พ.ย. – เลขาฯ ป.ป.ท. ชี้ต้นตอการทุจริตภาครัฐ ระบุปัญหาไม่ใช่ระบบราชการ แต่เป็นตัวบุคคลที่ใช้ช่องโหว่ทางกฎหมายในการกระทำผิด ต้องกำชับให้หน่วยงานท้องถิ่นใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกฯ ปิดช่องทางการกระทำผิด
จากกรณีช่วงที่ผ่านมามีการล่อซื้อ-จับกุมผู้มีอิทธิพลระดับท้องถิ่นที่มีพฤติการณ์ทุจริตในหลายพื้นที่ นายภูมิวิศาล เกษมศุข เลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. ได้ให้ความเห็นว่า ต้นตอการทุจริตในภาครัฐ ไม่ใช่อยู่ที่ตัวกฎหมาย แต่เกิดจากความหย่อนยานในการบังคับใช้กฎหมายของเจ้าหน้าที่รัฐ จึงต้องคุมเข้มหน่วยงานท้องถิ่นไม่ให้ละเลยหรือละเว้นการใช้ พ.ร.บ.การอำนวยความสะดวกในการพิจารณาอนุญาตของทางราชการ พ.ศ.2558 ซึ่งได้ระบุกรอบระยะเวลาในการดำเนินการอนุญาตต่าง ๆ ในพื้นที่ไว้อย่างชัดเจน หากใช้ พ.ร.บ.ดังกล่าวมาควบคุม ก็จะเป็นการตัดวงจรการทุจริตตั้งแต่ต้นทาง
“จังหวัดใหญ่ที่ภูมิเศรษฐกิจมีโรงงาน มีผู้เข้ามาลงทุนเยอะทั้งไทยและต่างชาติ สิ่งที่ตามมาคือการขออนุมัติอนุญาตต่าง ๆ ซึ่งเป็นอำนาจของท้องถิ่น ปัญหาอยู่ที่การใช้ดุลยพินิจในการอนุญาต ทำให้เกิดความลำเอียงหรือเปิดช่องให้ทุจริต แต่ถ้าใช้ พ.ร.บ.มาคุมให้อยู่ในกรอบระยะเวลา ก็จะเป็นการตัดไฟตั้งแต่ต้นลม”
นอกจากนี้ นายภูมิวิศาล ยังได้ระบุถึงอำนาจและหน้าที่ของคณะกรรมการ ป.ป.ท. ว่า ป.ป.ท. เป็นเครื่องมือของรัฐที่ขึ้นตรงต่อนายกรัฐมนตรี มีอำนาจโดยตรงในการกระตุ้นกำชับหน่วยงานภาครัฐทุกองค์กรให้ทำหน้าที่ของตนอย่างเต็มที่ โดยเฉพาะในด้านการป้องกันและปราบปราม หากพบเจ้าหน้าที่เกี่ยวข้องกับการทุจริต ต้องดำเนินการทางวินัยทันที ไปจนถึงการพิจารณาคดีลงโทษทางกฎหมายตามพฤติการณ์ที่ปรากฏ เพื่อยับยั้งไม่ให้เกิดผลกระทบต่อประชาชน และหากประชาชนพบเห็นเหตุการณ์ทุจริต ก็สามารถร้องเรียนได้โดยตรงผ่านเว็บไซต์ศูนย์อำนวยการต่อต้านการทุจริตแห่งชาติ (ศอตช.) ได้เลยทันที. -สำนักข่าวไทย