แม่เตรียมโสร่งไหมรอรับร่างลูกชายกลับจากอิสราเอล

บุรีรัมย์ 1 พ.ย. – สุดเศร้า! คุณยายวัย 75 ปี เตรียมผ้าขาวม้าและโสร่งไหมที่ทอเองกับมือ รอรับร่างลูกชาย หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตในอิสราเอล ที่จะถูกส่งกลับไทยมาบำเพ็ญกุศลที่บ้านเกิด จ.บุรีรัมย์


คุณยายจันทร์ อายุ 75 ปี ชาวบ้าน อ.ลำปลายมาศ จ.บุรีรัมย์ เตรียมเสื้อตัวโปรด พร้อมผ้าขาวม้าและโสร่งไหมที่ทอเองกับมือ ไว้รอรับร่างนายจรูญ อายุ 40 ปี ลูกชาย หนึ่งในแรงงานที่เสียชีวิตในอิสราเอล ขณะที่ญาติพี่น้อง ลูกหลาน และชาวบ้าน ต่างเดินทางมาให้กำลังใจคุณยายจันทร์อย่างต่อเนื่อง และช่วยกันเตรียมการจัดงานศพ ซึ่งนายจรูญ ถือเป็นศพแรกที่ถูกส่งกลับมาไทย เพื่อให้ญาตินำไปประกอบพิธีทางศาสนา จากทั้งหมด 3 ศพ

คุณยายจันทร์ เล่าว่า ลูกชายขาดการติดต่อตั้งแต่วันที่ 7 ต.ค.66 ที่เกิดเหตุสู้รบวันแรก แม้ทางพี่สาวพยายามติดต่อ แต่ก็ไม่สามารถติดต่อได้ กระทั่งเมื่อสัปดาห์ก่อน มีรายชื่อลูกชายเป็นผู้เสียชีวิต ก็ตกใจ เพราะที่ผ่านมามีความหวังว่าลูกชายจะรอดชีวิตกลับมาได้ ตอนนี้รู้สึกเสียใจที่ลูกชายได้กลับมาแบบไม่มีชีวิตแล้ว พยายามจะทำใจ แต่เวลาที่อยู่คนเดียวก็จะนั่งร้องไห้ เพราะนายจรูญ เป็นลูกชายคนเล็ก และเป็นเสาหลักที่ทำงานส่งเงินมาดูแลแม่ แต่ตอนนี้ไม่มีลูกชายอยู่ดูแลแล้ว


ด้านนางพิมพา อายุ 47 ปี พี่สาวคนที่ 3 บอกว่า หลังทราบข่าวยืนยันชัดเจนว่าน้องชายเสียชีวิต และทางการจะนำศพกลับมาให้ครอบครัวประกอบพิธีทางศาสนา ก็รู้สึกสงสารน้องที่ต้องมาเสียชีวิตจากเหตุการณ์ดังกล่าว แต่ที่เป็นห่วงคือสภาพจิตใจของแม่ เพราะอายุมากแล้ว ซึ่งลูกหลานก็ต้องผลัดเปลี่ยนกันมาคอยอยู่เป็นเพื่อนและให้กำลังใจ อยากให้ภาครัฐช่วยเหลือทั้งเรื่องงานศพ และอยากให้ดูแลแม่ด้วย เพราะหลังจากน้องชายเสียชีวิตก็เหมือนขาดเสาหลัก

ขณะที่แรงงานจังหวัดตราด ยังลงพื้นที่เข้าพบครอบครัวแรงงานไทยในอิสราเอล ขอให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทย โดยเมื่อวานนี้ (31 ต.ค.66) เดินทางลงพื้นที่ ต.ท่าโสม ต.สะตอ อ.เขาสมิง และ ต.ด่านชุมพล อ.บ่อไร่ รวม 3 ครอบครัว

ทั้งนี้ หน่วยงานในสังกัดกระทรวงแรงงาน ได้จัดทีมลงพื้นที่เยี่ยมครอบครัวแรงงานไทย และขอให้ตัดสินใจเดินทางกลับประเทศไทยโดยเร็วที่สุด เพื่อความปลอดภัย เนื่องจากกองทัพอิสราเอลได้เพิ่มปฏิบัติการภาคพื้นดินในบริเวณฉนวนกาซาอย่างเข้มข้น ซึ่งน่าจะส่งผลให้สถานการณ์สู้รบรุนแรงขึ้น อาจส่งผลต่อกระบวนการอพยพ พร้อมทั้งแจ้งสิทธิประโยชน์ต่างๆ เช่น การกู้ยืมเงินในวงเงิน 150,000 บาท ดอกเบี้ย 0.1% ระยะเวลากู้ 20 ปี ค่าใช้จ่ายในการเดินทางกลับ เงินชดเชยกรณีเกิดสงคราม


ส่วนที่ จ.อุดรธานี ผู้สื่อข่าวเดินทางไปที่บ้านหลังหนึ่ง ในพื้นที่ ต.ปะโค อ.กุดจับ พบนายวิษณุ อายุ 55 ปี และนางบรรพต อายุ 47 ปี พ่อแม่ของนายอนุศักดิ์ อายุ 27 ปี และนายฤทธิชัย อายุ 25 ปี สองพี่น้องแรงงานไทยที่เดินทางไปทำงานเกษตรในประเทศอิสราเอล ซึ่งพักและทำงานอยู่กับแรงงานบางส่วนที่มีความประสงค์ขออยู่ทำงานต่อ และยังไม่อยากกลับมาบ้าน เนื่องจากอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ไม่ได้อยู่ในเขตสงครามสู้รบ และขอดูสถานการณ์ไปก่อน โดยพ่อแม่สองพี่น้องแรงงานไทยก็คอยเกาะติดสถานการณ์ข่าวสารทุกวัน เพราะเป็นห่วงลูก

นายวิษณุ เล่าว่า ลูกชายคนโตทำงานในฟาร์มวัว ที่อยู่ภาคเหนือของอิสราเอล โดยทำงานได้ 2 ปีกว่า ได้เงินเดือน 5-6 หมื่นบาท และแต่งงานมีครอบครัวแล้ว ส่วนลูกชายคนเล็กยังไม่มีครอบครัว ทำงานภาคเกษตร ปลูกอินทผาลัม พริก และมะเขือเทศ เดินทางไปได้ 1 ปีกว่า เงินเดือน 4-6 หมื่นบาท ตอนนี้ลูกชายทั้ง 2 คน ยังอยู่ในพื้นที่ปลอดภัย ห่างไกลเขตสงครามหรือพื้นที่เสี่ยง และทำงานได้ตามปกติ ไม่มีอันตรายอะไร

ด้านนางบรรพต เล่าว่า ก่อนหน้านี้ลูกชายทำงานที่โรงแรม จ.ภูเก็ต แต่เจอพิษโควิด จึงตัดสินใจไปทำงานที่อิสราเอล เพราะเงินเดือนเยอะ โดยลูกชายคนโตเดินทางไปก่อน ส่วนลูกชายคนเล็กตามไป โดยลูกชายทั้ง 2 คน ไม่เคยไปทำงานต่างประเทศ และอยากได้ประสบการณ์ จึงตัดสินใจเดินทางไป ตนเห็นข่าวในอิสราเอลมีสงครามสู้รบกัน แต่ก็ยังติดต่อลูกชายทั้ง 2 คนได้ตลอดเวลา โดยจะโทรมาหาพ่อแม่ทุกวัน ช่วงเช้าและเย็น เพราะกลัวพ่อแม่เป็นห่วง

ต่อมานายฤทธิชัย ลูกชายคนเล็ก วิดีโอคอลมาหาพ่อ ผู้สื่อข่าวจึงได้สอบถาม นายฤทธิชัย บอกว่า ตนเองยังทำงานปกติ ตอนนี้อยู่ทางภาคกลางตอนบนของประเทศอิสราเอล ซึ่งยังปลอดภัยและไม่มีสงครามสู้รบกัน ตนเองยังไม่อยากกลับบ้าน และต้องการอยู่ทำงานต่อ เพื่อหาเงินสร้างอนาคต โดยมีคนไทย 10 คน ที่ทำงานอยู่ทางภาคใต้ของอิสราเอล และอยู่ใกล้พื้นที่สงคราม ก็ได้เปลี่ยนใจไม่กลับบ้าน แต่ขอย้ายมาทำงานทางภาคกลางตอนบนแล้ว. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ ตามยิงซ้ำที่ รพ. ดับ 2

ปทุมธานี 5 มิ.ย.- จับแล้ว! มือปืนโหดสวมชุดไรเดอร์ รัวกระสุนใส่หน้าบ้าน ก่อนตามไปยิงซ้ำที่ รพ. เสียชีวิต 2 ราย สารภาพอ้างแค้นถูกตีท้ายครัว ความคืบหน้าเหตุมือปืนชายแต่งกายไรเดอร์ ใช้รถจักรยานยนต์เป็นยานพาหนะ ยิงใส่กลุ่มวัยรุ่นชายหญิง ที่นั่งจับกลุ่มกันอยู่หน้าบ้าน ในพื้นที่ ต.ระแหง อ.ลาดหลุมแก้ว ทำให้มีผู้ได้รับบาดเจ็บ 2 ราย หลังเกิดเหตุกลุ่มเพื่อนได้นำคนเจ็บไปส่งโรงพยาบาล แต่คนร้าย ได้ขี่รถจักรยานยนต์ตามประกบ ใช้อาวุธปืนตามยิงซ้ำถึงในโรงพยาบาล ส่งผลให้ผู้ได้รับบาดเจ็บที่อยู่ท้ายกระบะเสียชีวิต 2 ราย ล่าสุดเจ้าหน้าที่สามารถจับกุมตัวมือปืน ทราบชื่อนายสมยศ อายุ 32 ปี พร้อมของกลางอาวุธปืนและเครื่องกระสุนปืนที่ใช้ในการก่อเหตุ โดยให้การรับสารภาพว่าตนเองจะมายิงนายมานะ หรือไอซ์ อายุ 33 ปี เพียงคนเดียว ซึ่งก่อนเกิดเหตุตนได้นั่งกินเบียร์มาก่อน และที่ทำไปนั้น เพราะจับได้ว่าผู้ตายเป็นชู้กับภรรยาตน หลังก่อเหตุขับรถหนีไปจังหวัดสมุทรปราการ ซึ่งขณะนี้ทางเจ้าหน้าที่ตำรวจกำลังหาพยานหลักฐานเพิ่มเติม .-สำนักข่าวไทย

“ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 ม. จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land

ทำเนียบ 5 มิ.ย.- “ภูมิธรรม” รับกัมพูชาล้ำ 200 เมตร จริง แต่เป็นจุด No Man’s Land ย้ำใช้เวที JBC เจรจา บอกไม่ใช่เรายอมศิโรราบ แต่ไทยมีข้อมูลหลักฐาน รอชัดเจน 14 มิ.ย. ขณะที่กองทัพเตรียมพร้อมตรึงกำลังแนวชายแดน ลั่นไม่ยอมใคร ยืนยันไทยเริ่มต้นจากสันติ ชี้หากประกาศกฏอัยการศึก แม่ทัพภาค 2 มีอำนาจสั่งได้ทันที นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม กล่าวถึงการลงพื้นที่ชายแดน ไทย-กัมพูชา บริเวณช่องบก จังหวัดอุบลราชธานีเมื่อวานนี้ ว่า ตนได้รับรายงานจากกองทัพภาคที่สอง ถึงข้อมูลที่ออกไปในปัจจุบัน ผิดไปจากสิ่งที่เป็นอยู่ ในปัจจุบันมากพอสมควร จึงอยากให้ระมัดระวังเรื่องข้อมูลข่าวสาร ยืนยันว่า ในพื้นที่ไม่ได้มีการวางทุ่นระเบิด จะเป็นภาพเก่าในอดีต ซึ่งตนมองว่าเป็นการสร้างความสับสน และทำลายศรัทธาความร่วมมือของประชาชน นายภูมิธรรม กล่าวถึงการรุกล้ำ 200 เมตร ว่า ทั้งหมดนี้อยู่ที่คณะกรรมการ JBC ซึ่งปัญหาที่เกิดขึ้นในพื้นที่ชายแดนกำหนดแต่ละฝ่ายมีจุดที่ค่อมกัน ดังนั้นจึงกำหนดให้เป็น […]

ดรามานิติไล่ไรเดอร์รับลูกค้าหน้าคอนโดฯ

5 มิ.ย. – สาวเรียกรถผ่านแอปฯ มารับหน้าคอนโดฯ หัวหน้าวินมอเตอร์ไซค์ถือวิทยุสื่อสารพร้อมไล่ให้ลงรถ ขู่ไม่อนุญาตให้เรียกรถผ่านแอปฯ ด้านไรเดอร์รู้ข่าวบุกรวมตัว ลั่นถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย คลิปจากผู้โดยสารคนหนึ่งถ่ายไว้ขณะเรียกรถมารับบริเวณด้านหน้าคอนโดฯ ย่านสาทร แต่กลับถูกชายรายหนึ่งถือวิทยุสื่อสาร ไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดขู่ว่าไม่ใช่วินห้ามเข้า แฟนเพจเฟซบุ๊กอยากดังเดี๋ยวจัดให้ รีเทริน์ part 6 ได้รับเรื่องร้องเรียนจากลูกบ้านคอนโดฯ แห่งหนึ่ง โพสต์ไว้หลังจากเรียกรถผ่านแอปพลิเคชัน แต่กลับถูกขัดขวาง ระบุว่า “เราได้เรียกรถจักรยานยนต์ผ่านแอปพลิเคชันเพื่อไปทำงานตามปกติ แต่มีชายคนหนึ่ง (คาดว่าเป็นวินในหมู่บ้าน มีวิทยุสื่อสารด้วย) เข้ามาไล่ให้ลงจากรถ พร้อมพูดในลักษณะข่มขู่ว่า “ไม่ให้เรียกผ่านแอปฯ เพราะที่นี่มีวินอยู่แล้ว” และยังไล่คนขับกลับไปทันที เหตุการณ์นี้ทำให้รู้สึกไม่ปลอดภัยและเสียเวลาในการเดินทาง รบกวนช่วยตรวจสอบ ขอความชัดเจนว่าในหมู่บ้านมีข้อกำหนดห้ามเรียกรถผ่านแอปฯ หรือไม่ หากมีรบกวนขอเอกสารหรือประกาศที่เป็นทางการด้วย หากไม่มีรบกวนช่วยดำเนินการกับบุคคลดังกล่าว เพราะพฤติกรรมที่เกิดขึ้นเข้าข่ายคุกคามและไม่เหมาะสม” หลังจากโพสต์ดังกล่าวถูกเผยแพร่ ปรารกฏว่าวานนี้ (4 มิ.ย.) มีไรเดอร์จำนวนมานัดรวมตัวกันและเดินทางไปยังคอนโดฯ ดังกล่าว โดยมีตำรวจเข้ามาพูดคุย ขณะที่ทางตัวแทนไรเดอร์ระบุว่า ถ้าคู่กรณีไม่ออกมาก็อย่าหวังว่าแยกย้าย และนิติคอนโดฯ ต้องออกมาพูดให้ชัดเจนว่าไรเดอร์เข้าไปรับผู้โดยสารได้ไหม” ต่อมาที่ สน.บางขุนเทียน เจ้าหน้าที่เรียกตัวนายพงษ์ อายุ 52 […]

คนขับหลับใน รถทัวร์เสียหลักตกร่องถนน ดับ 2 สาหัส 5

ประจวบคีรีขันธ์ 4 มิ.ย. – รถทัวร์ตกร่องกลางถนนชนเสาไฟ บนถนนเพชรเกษม อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ ผู้โดยสารเสียชีวิต 2 ราย บาดเจ็บสาหัส 5 คน คนขับยอมรับหลับใน วงจรปิดจับภาพขณะเกิดเหตุรถทัวร์ขับมาดีๆ จู่ๆ ไถลลงร่องกลางถนน โดยไม่มีคู่กรณี เหตุเกิดประมาณตี 04.30 น.ที่ผ่านมา (4 มิ.ย.) บนถนนเพชรเกษม บริเวณหน้าค่ายพระมงกุฎเกล้า อ.เมืองประจวบคีรีขันธ์ รถที่เกิดเหตุเป็นรถบัสโดยสารปรับอากาศ สายระยอง-มุกดาหาร พลิกตะแคงอยู่ในร่องกลาง มีร่องรอยชนกับเสาไฟและการ์ดเลนถนน สภาพรถด้านหน้าพังยับเยิน กระจกหน้าและด้านข้างแตกร้าว หลังคาฉีกขาด ที่เกิดเหตุมีผู้เสียชีวิต 2 คน เป็นชาย และอาการสาหัส 5 คน นอกจากนี้ยังมีผู้บาดเจ็บอีกจำนวนมาก เจ้าหน้าที่ปฐมพยาบาลเบื้องต้นและเร่งนำตัวนำส่งโรงพยาบาล ขณะที่ผู้โดยสารต่างอยู่ในอาการตกใจ บอกว่าก่อนเกิดเหตุรู้สึกว่ารถส่ายไปมา คนขับรถคือ นายทศพร อายุ 51 ปี ให้การว่า ในรถมีผู้โดยสารรวมคนขับแล้ว 28 คน รับผู้โดยสารจาก จ.ระยอง […]

ข่าวแนะนำ

ผบ.ทสส.นัดถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ ปมชายแดนไทย-กัมพูชา

กรุงเทพฯ 5 มิ.ย. – ถก ผบ.เหล่าทัพเฉพาะกิจ พรุ่งนี้ แก้ปัญหาชายแดนไทย-กัมพูชา คาด “ผบ.ทบ.” รับผิดชอบโดยตรง เตรียมแผนรับมือครอบคลุมทุกมิติแล้ว ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในวันพรุ่งนี้ (6 มิ.ย.68) พล.อ.ทรงวิทย์ หนุนภักดี ผู้บัญชาการทหารสูงสุด (ผบ.ทสส.) จะเป็นประธานการประชุมผู้บัญชาการเหล่าทัพ ครั้งที่ 4/2568 วาระเฉพาะกิจ ที่กองบัญชาการกองทัพอากาศ (บก.ทอ.) ในเวลา 14.00 น. คาดว่าจะมีการหารือถึงสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งเป็นความรับผิดชอบของกองทัพบกโดยตรง ทั้งการเตรียมกำลัง และดำเนินการเกี่ยวกับการใช้กำลังตามอำนาจหน้าที่ของกระทรวงกลาโหม โดยมี พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก เป็นผู้บังคับบัญชาโดยตรง และเตรียมแผนพร้อมรับมือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ครอบคลุมทุกมิติแล้ว สำหรับการประชุม ผบ.เหล่าทัพ ในครั้งนี้ กองทัพอากาศเป็นเจ้าภาพ และได้แจ้งสื่อมวลชน ขอยกเลิกการมาทำข่าวนี้ เนื่องจากเป็นการประชุมเฉพาะกิจ นอกจากนี้ สภาความมั่นคงแห่งชาติ (สมช.) จะมีการประชุม และคาดว่าจะมีการตั้งคณะทำงานเฉพาะกิจขึ้นมาดูแลแก้ปัญหาโดยเฉพาะ.-313-สำนักข่าวไทย

รวมพลังหยุดเหมืองพิษ คืนชีวิตคนลุ่มน้ำชายแดน

5 มิ.ย. – วันนี้เป็นวันสิ่งแวดล้อมโลก ซึ่งขณะนี้ผู้คนตามลุ่มน้ำชายแดนไทย-เมียนมา ทางภาคเหนือของไทย กำลังเผชิญกับวิกฤติสิ่งแวดล้อม หลัง 2 เดือนมานี้พบสารหนูปนเปื้อนเกินมาตรฐานในลำน้ำกกและน้ำสาย รวมถึงแม่น้ำรวกและแม่น้ำโขง เชื่อว่าเป็นผลมาจากการทำเหมืองแร่หลายแห่งบริเวณต้นน้ำในเมียนมา วันนี้ชาวเชียงใหม่และเชียงราย ร่วมกันออกมาแสดงพลังเรียกร้องให้รัฐบาลเร่งแก้ปัญหาที่ต้นเหตุ โดยเฉพาะการเจรจาให้หยุดเหมืองพิษและคืนชีวิตให้กับลุ่มน้ำต่างๆ .-สำนักข่าวไทย

แฉชนวนเหตุ ไรเดอร์บุกยิงดับ 2 ศพคา รพ.

ปทุมธานี 5 มิ.ย. – จากเหตุระทึกขวัญที่ลาดหลุมแก้ว ปทุมธานี เมื่อคืนที่ผ่านมา ไรเดอร์บุกยิงคนถึงในบ้าน แล้วยังขับรถตามไปยิงซ้ำที่โรงพยาบาลจนเสียชีวิต วันนี้ตำรวจจับกุมตัวได้แล้ว ชนวนเหตุมาจากอะไร ติดตามจากรายงาน.-สำนักข่าวไทย

นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา

ทำเนียบ 5 มิ.ย.-นายกฯ โพสต์หารือประเมินปมชายแดนไทย-กัมพูชา ยึดหลักการสันติวิธี ยันไทยไม่ยอมรับอำนาจศาลโลก ชี้ต้องคุยเฉพาะพื้นที่เป็นปัญหา ไม่ขยายประเด็น นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ถึงการหารือสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา ว่า “จากกรณีที่ทางรัฐบาลกัมพูชาออกแถลงการณ์เกี่ยวกับสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ดิฉันได้หารือร่วมกับรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ปลัดกระทรวงการต่างประเทศ และท่านรองนายกรัฐมนตรี นายภูมิธรรม เวชยชัย ซึ่งได้โทรศัพท์เข้ามารายงานเรื่องการลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์ ณ จังหวัดอุบลราชธานี อย่างใกล้ชิด เพื่อประเมินภาพรวมอย่างรอบด้าน รัฐบาลไทยขอยืนยันในหลักการแก้ไขปัญหาด้วยแนวทางสันติวิธี ภายใต้ความเคารพในอธิปไตยและดินแดนของกันและกัน ในกรณีที่กัมพูชาประสงค์จะเสนอให้ศาลยุติธรรมระหว่างประเทศ (ICJ) เข้ามามีบทบาท รัฐบาลไทยขอเรียนว่า ประเทศไทยไม่ได้ให้การยอมรับเขตอำนาจศาล ICJ ในกรณีพิพาทต่างๆ ตั้งแต่ปี พ.ศ. 2503 จนถึงปัจจุบัน และขอย้ำว่า ประเด็นที่เกิดขึ้นควรได้รับการแก้ไขปัญหาในบริเวณที่มีการกระทบกระทั่งกันเท่านั้น ไม่ขยายประเด็นปัญหาออกไป ประเทศไทยยังยึดมั่นในกลไกการหารือทวิภาคีที่ทั้งสองฝ่ายตกลงกันไว้มาโดยตลอด เพื่อรักษาความสัมพันธ์อันดีระหว่างประชาชนทั้งสองประเทศค่ะ.-315.-สำนักข่าวไทย