27 ต.ค. – ตำรวจออกหมายจับ “ทราย” อายุ 30 ปี ภรรยาของ “บิ๊ก” ทีมพา “เสี่ยแป้ง นาโหนด” หลบหนีจากโรงพยาบาล ข้อหาร่วมกันกระทำการด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการคุมขังไป
ภาพส่วนหนึ่งจากกล้องวงจรปิดภายในหอผู้ป่วยอายุกรรม 6 ชั้น 6 โรงพยาบาลมหาราชนครศรีธรรมราช เมื่อช่วงเวลา 04.04 น. คืนวันที่ 20 ต.ค. 66 ขณะนายคเณศ หรือบอย 1 ใน 5 ที่ช่วยเหลือนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง นักโทษคดีอุกฉกรรจ์ หลบหนีออกจากโรงพยาบาล
นายคเณศ หรือบอย รับสารภาพว่า เสี่ยแป้งใช้โทรศัพท์มือถือของ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม คนเฝ้าไข้ โทรไปหาจึงมาเยี่ยม เพราะเคยช่วยเหลือตนขณะที่อยู่ในเรือนจำ หลังจากพ้นโทษออกมาก็ยังมีการติดต่อกัน โดยคืนนั้นไปนั่งปะปนกับญาติผู้ป่วยรายอื่น กระทั่งนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง เรียกให้ไปหา และบอกว่าให้ไปรับกระเป๋าจากนายจักรี หรือบิ๊ก ที่หน้าลิฟต์ แล้วนำมาให้ โดยขณะนั้นไม่รู้ว่าข้างในมีอะไรบ้าง แต่มารู้ภายหลังว่าเป็นคีมและอาวุธปืน กระทั่งเช้าได้กลับบ้านมาทราบอีกทีว่านายเชาวลิตหลบหนีในคืนถัดมา หลังจากนั้นตนได้เดินทางไป อ.หาดใหญ่ เพื่อไปหาภรรยาและไปดูหนัง กระทั่งถูกเจ้าหน้าที่เข้าจับกุม หลังนายเชาวลิตหลบหนีไม่ได้ติดต่อกันอีก
ล่าสุด พ.ต.อ.นัษฐวุฒิ ทองทิพย์ รองผู้บังคับการตำรวจภูธรนครศรีธรรมราช สั่งการให้เจ้าหน้าที่คุมตัวนายคเณศ หรือบอย ไปสอบข้อมูลเชิงลึกเพิ่มเติม เพื่อขยายผลความเชื่อมโยงข้อมูลทั้งในและนอกเรือนจำอย่างละเอียด
สำหรับการออกหมายจับในคดีดังกล่าว นอกจากนายเชาวลิต หรือเสี่ยแป้ง แล้ว มีผู้เกี่ยวข้องถูกออกหมายจับอีก 5 ราย คือ น.ส.วิลาวัลย์ หรือไหม ผู้รับจ้างเฝ้าไข้, นางยุวเรศ หรือหมวย ผู้ประสานงาน ทั้งคู่ถูกจับกุมแล้ว, นายจีระวุฒิ หรือปอย และนายจักรี หรือบิ๊ก ยังหลบหนี ส่วนนายคเณศ หรือบอย ล่าสุดถูกจับเมื่อวาน (26 ต.ค.) นอกจากนี้ยังมีผู้ที่มีแนวโน้มว่าจะออกหมายเรียกหรือหมายจับอีกรายคือ นักการเมืองท้องถิ่นรายหนึ่งใน จ.สตูล ด้วย
“บอย” ทีมช่วย “เสี่ยแป้ง” รับสิ้นหลังถูกสอบเครียด
นอกจากนี้ช่วงเช้าที่ผ่านมา ตำรวจนำตัวนายบอยไปตรวจยึดรถจักรยานยนต์ที่บ้านพักของหญิงอายุ 55 ปี ซึ่งเป็นมารดาของนายบอย ซึ่งเป็นบ้านเช่าในพื้นที่ ต.ท่าวัง อ.เมือง จ.นครศรีธรรมราช ด้านมารดาของนายบอย กล่าวว่า สงสารผู้คุมที่นามสกุลเดียวกันและถูกโยงในคดีนี้ จริงๆ เขาไม่ได้รู้เรื่อง นามสกุลเดียวกันก็จริงแต่ไม่ได้สนิทกัน แต่รู้จักกันตอนลูกติดคุกว่านามสกุลเดียวกันกับผู้คุม หลังพ้นโทษออกมาทำให้ทุกอย่าง เพราะอยากให้ลูกเป็นคนดี เมื่อมาทำแบบนี้รู้สึกเสียใจเป็นอย่างมาก แต่เชื่อลูกโดนหลอกใช้ในคดีนี้
ยังไร้เงา “เสี่ยแป้ง-ลูกน้อง” หลังพบกระบะจอดทิ้ง จ.พัทลุง
ส่วนความคืบหน้าในการไล่ล่าติดตามตัวเสี่ยแป้งและลูกน้องที่ยังหลบหนี คือ นายจักรี หรือบิ๊ก และนายจีระวุฒิ หรือปอย หลังนำรถกระบะมิตซูบิชิสีขาว ซึ่งเป็นรถคันที่ใช้พาเสี่ยแป้งหลบหนีออกจากโรงพยาบาล จอดทิ้งที่สำนักสงฆ์ใหม่ยางยายขลุย ต.ร่มเมือง อ.เมืองพัทลุง ซึ่งตำรวจคาดว่าเป็นนายปอยนำมาจอดทิ้ง และหลบหนีขึ้นรถยนต์อีกคันหนึ่งที่ขับตามหลังมา คาดว่านายบิ๊กเป็นคนขับ
เจ้าหน้าที่ได้เข้าตรวจค้นบริเวณใกล้เคียง เนื่องจากบริเวณที่จอดทิ้งรถกระบะดังกล่าวห่างจากบ้านของเสี่ยแป้ง เพียง 5 กิโลเมตรเท่านั้น แต่จนถึงขณะนี้ยังไม่พบตัวผู้ต้องหาทั้งหมด และเช้าวันนี้ (27 ต.ค.) เจ้าหน้าที่ตำรวจกองปราบ 6 ได้เชิญตัวนางวิลาวัลย์ หรือทราย ภรรยาของนายจักรี หรือบิ๊ก มาสอบปากคำเกี่ยวเส้นทางการหลบหนีและการไปพบกับใครมาบ้างในพื้นที่ใด เบื้องต้นนางวิลาวัลย์ให้การกับเจ้าหน้าที่ว่าไม่ได้ไปกับบิ๊ก ยืนยันว่าตนอยู่ที่บ้านตลอด ไม่ได้ไปไหน หลังเจ้าหน้าที่ตำรวจกดดันไล่ล่ากลุ่มผู้ต้องอย่างหนัก ทำให้พ่อแม่และญาติๆ ติดต่อเจ้าหน้าที่ตำรวจที่สนิทเพื่อทพาตัวนายบิ๊ก และนายปอย เข้ามอบตัว แต่ทางพ่อแม่และญาติๆ มีข้อแม้ว่าขอให้เจ้าหน้าที่ตำรวจกันทั้ง 2 คนไว้เป็นเพียงพยานเท่านั้น แต่เจ้าหน้าที่ตำรวจบอกว่าไม่สามารถทำได้ เนื่องจากทั้ง 2 คน เป็นผู้ช่วยเหลือนักโทษหลบหนี ซึ่งเป็นคดีสำคัญ ขณะที่ทางเจ้าหน้าที่ได้แนะนำให้ติดต่อทั้ง 2 คนออกมามอบตัวโดยเร็ว
จับเพิ่มอีก 1 “ทราย” เมีย “บิ๊ก” ทีมพา “เสี่ยแป้ง” หนี
ล่าสุดช่วงเย็นที่ผ่านมา (27 ต.ค.) ตำรวจสืบสวนภาค 9 ร่วมภาค 8 และกองปราบฯ ออกหมายจับ น.ส.วิลาวัลย์ อายุ 30 ปี หรือทราย ภรรยาของนายบิ๊ก ในข้อหาร่วมกันกระทำการด้วยประการใดให้ผู้ถูกคุมขังตามอำนาจศาล ซึ่งเป็นบุคคลที่ต้องคำพิพากษาให้จำคุกตั้งแต่ 15 ปีขึ้นไป หลุดพ้นจากการคุมขังไป.-สำนักข่าวไทย