คุมตัวผู้ต้องหาขโมยทารก ฝากขังศาลจังหวัดนครปฐม แม่ร่ำไห้เข่าทรุด

นครปฐม 15 ส.ค. – พนักงานสอบสวน นำตัวนายนันทจักร ผู้ต้องหาคดีลักเด็ก มาสอบสวน ก่อนนำตัวส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง ร่ำไห้โผเข้ากอดลูกชายหลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ


คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีมีคนร้ายเข้าไปขโมยทารกเพศชาย เพิ่งคลอดได้ 2 วัน จากห้องคลอด รพ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค. ตำรวจรู้ตัวคนร้ายคือนายนันทจักษ์ หรือนัน อายุ 43 ปี ที่ขโมยเด็กไปไว้ที่บ้าน แต่ประเด็นที่สังคมจับตาคือ บ้านนายนัน อยู่ตรงข้ามบ้าน “น้องต่อ” เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายตัวไปเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งนายนันสารภาพขโมยเด็กจริง เพราะอยากมีลูก และคิดว่าเด็กเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการหายตัวของน้องต่อ

เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดอาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบรูปเด็กจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของนายนัน หนึ่งในนั้นมีรูปของน้องต่อด้วย รวมทั้งยังมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีนายนัน ในช่วงที่น้องต่อหายตัว อีกทั้งมีประวัติติดยาเสพติดและพนันออนไลน์


พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจนครปฐม และเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 คุมตัวนายนันไปค้นบ้านพัก เก็บเส้นผมและเส้นขน เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ หาความเชื่อมโยงคดีนี้ และคดีน้องต่อด้วย

พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา สังเกตได้ว่าเป็นคำให้การที่วกวน ในตอนแรกนายนันทจักษ์อ้างว่าต้องการแก้แค้น เพราะคิดว่าทารกเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ภายหลังกลับบอกว่าเดินสุ่มเข้าไปดูเด็ก โดยไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหากับนายนัน คือ “ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ฯ, กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ, บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาลฯ” และต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กชายวัย 2 วันก่อนด้วยว่า จะแจ้งข้อหาทารุณกรรมเพิ่มเติมหรือไม่


ด้านนางดา แม่ผู้ต้องหา กล่าวว่า วันที่ลูกชายเอาเด็กกลับมาบ้านตนไม่รู้เรื่อง กระทั่งหลานโทรศัพท์มาถาม เพราะเห็นข่าวว่ามีคนขโมยเด็กจากโรงพยาบาลและผู้ต้องสงสัยคล้ายกับลูกชาย จึงตั้งใจเคาะประตูห้องถามความจริง แต่เมื่อประตูเปิดออก ลูกชายก็ส่งเด็กมาให้อุ้มเอาไปคืน แต่ตำรวจก็มาตรวจค้นบ้านก่อน และเอาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุน่าจะเพราะความเครียดเรื่องแฟนเก่าที่เลิกกันไปกว่า 10 ปี และที่ไปเอาเด็กมานั้นลูกชายก็บอกตำรวจว่าเสพยาบ้า และดื่มเบียร์ก่อนไปก่อเหตุ

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ สภ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามคดีขโมยเด็ก พร้อมกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดไว้กว่า 10 บัญชี เร่งสอบเส้นทางการเงิน เพราะในวันที่น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายตัวไป เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 มีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา 60,000 บาท โอน 3 ครั้ง ผู้ต้องหาตอบไม่ได้ว่าเงินมาจากไหน และเพื่อให้ความจริงปรากฏจะสืบสวนต่อไปว่าเคยก่อเหตุขโมยเด็กคนอื่นหรือไม่ ให้นำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลทั้งหมด ตรวจสอบภาพเด็กในโทรศัพท์ว่าเด็กเหล่านี้มีตัวตนหรือไม่ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เกี่ยวพันกับคดีลักเด็กหรือไม่ หรือรับจ้างใครมา เชื่อมโยงกับคดีน้องต่อหายตัวหรือไม่ ขณะนี้ให้น้ำหนักในเรื่องการลักเด็กทารกเพียงรายเดียวก่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามา 60,000 บาท เกี่ยวพันกับเด็กแน่นอน และตรวจสอบบัญชีล่าสุดยังพบมีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาอีก 100,000 บาท โอน 5 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท และอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวหลังคดีน้องต่อหายตัวไป รวมยอดเงินปริศนา 160,000 บาท ผู้ต้องหาต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเงินจำนวนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

ขณะแม่ของน้องต่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องเด็กที่นายนันขโมยมาจากโรงพยาบาล ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีของน้องต่อ เนื่องจากตนให้ข้อมูลตามเดิมที่เคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่า ตนเป็นคนทำลูกหล่นพื้นเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำ ตนกับนายนันไม่เคยเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้รู้จักกับนายนัน เป็นการส่วนตัว

พนักงานสอบสวนนำตัวนายนัน มาสอบสวน ก่อนส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง และนำข้าวผัดกะเพราทะเลรวมมิตร มาให้ลูกชาย หลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ ตำรวจนำผู้ต้องหาเข้าไปควบคุมตัวในห้องขัง แม่ผู้ต้องหาโผเข้าไปกอดร่ำให้ พร้อมปลอบใจลูก ไม่น่าทำเลยลูกเอ๋ย ทำไมไม่คิดถึงแม่บ้าง แม่รักหนูนะ แม่จะไปเยี่ยมบ่อยๆ

ผู้ต้องหาตอบคำถามของผู้สื่อข่าว เรื่องเงินที่โอนเข้ามาในบัญชี ยืนยันมีเงินเข้ามาเพียงบาทเดียว เงิน 160,000 บาท ที่ตำรวจกล่าวอ้างไม่มีจริงๆ และยืนยันเรื่องของน้องต่อ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเลย และขอให้ตำรวจนำเงินมาให้ดูด้วย ที่อ้างว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี ผมขอให้นักข่าวช่วยตามเรื่องนี้ด้วย

ตำรวจนำผู้ต้องหาขึ้นรถห้องขัง แม่เดินออกมาส่งลูก พร้อมกำชับลูกว่า ให้ทำความดีเยอะๆ จะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ หลังจากรถเคลื่อนออกไปแม่ถึงกลับเป็นลม ล้มลงไปนอนกับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันประคองและนำเข้าไปพักในห้องแอร์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 10 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

Chinese foreign ministry in January 2025

ถอดบทเรียนจากจีน แก้ปัญหาฝุ่นพิษ PM 2.5 จริงจัง

ปักกิ่ง 23 ม.ค. – สถานการณ์ฝุ่นพิษ PM 2.5 ที่กำลังเป็นปัญหาใหญ่และเร่งด่วนในไทยอยู่ในขณะนี้ หลายฝ่ายกำลังหาทางแก้ไขด้วยการมุ่งไปที่ต้นตอที่ทำให้เกิดฝุ่น จากข้อมูลขององค์การอนามัยโลกระบุว่า ในปี พ.ศ. 2542 ประชากรโลกมากถึง 92% ได้รับฝุ่น PM2.5 ในระดับความเข้มข้นสูงกว่าที่องค์การอนามัยโลกกำหนด และถ้ารัฐบาลทุกประเทศไม่เร่งแก้ปัญหาอย่างเอาจริงเอาจัง ภายในอีก 7 ปีข้างหน้า หรือ พ.ศ. 2573 คุณภาพชีวิตคนทั่วโลกจะยิ่งเลวร้ายสุดขีด เพราะปริมาณ PM2.5 จะเพิ่มขึ้นจากเดิม 50% และประเทศที่สามารถพิสูจน์ให้เห็นเป็นตัวอย่างว่า หากรัฐบาลตั้งใจจริงจัง ทุ่มสรรพกำลังความพยายาม จะสามารถกำจัดปัญหาฝุ่นควันพิษได้อย่างแน่นอนนั่นก็คือ จีน   จีนเคยมีคนเสียชีวิตเพราะมลพิษในอากาศปีละหลายล้านคน แต่ทุกวันนี้แม้แต่ธนาคารโลกยังยกย่องจีนว่า เป็นแบบอย่างของความพยายาม สามารถพลิกฟ้าหม่นเพราะฝุ่น PM2.5 ให้กลับเป็นฟ้าใสได้สำเร็จ ความพยายามของเหมา เจ๋อตุง ผู้นำจีนที่มุ่งเปลี่ยนสังคมเกษตรกรรมเป็นสังคมอุตสาหกรรม ทำให้จำนวนโรงงานในจีนเพิ่มขึ้นทวีคูณภายใน พ.ศ. 2502 แน่นอนว่า นโยบายเศรษฐกิจของผู้นำจีนช่วยให้คนจีนหลายล้านหลุดพ้นจากขีดความยากจน แต่ก็ต้องแลกกับชีวิตและสุขภาพ เพราะควันพิษจากโรงงานทำให้ฝุ่น PM2.5 พุ่งในระดับเกินกว่าจะรับไหว กว่ารัฐบาลจะรู้ตัวว่าปัญหามาถึงขั้นวิกฤต […]

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ผู้ป่วยเสียชีวิต

รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก-เสียชีวิต จากเหตุชายผิวสีคลุ้มคลั่ง

ผอ.รพ.สิรินธร ยืนยันไม่มีผู้ป่วยช็อก หรือเสียชีวิต จากเหตุต่างชาติผิวสีคลุ้มคลั่ง มีเพียงเจ้าหน้าที่ รพ.บาดเจ็บจากการถูกต่อยเล็กน้อย

ข่าวแนะนำ

ตร.ทางหลวงไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าวลักลอบเข้าไทย

ระทึก! ตำรวจทางหลวงขับรถไล่ล่ากระบะขนแรงงานต่างด้าว 2 คัน สุดท้ายไม่รอด จนมุมบริเวณ ต.หาดท่าเสา อ.เมือง จ.ชัยนาท ตรวจสอบพบแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก จึงนำตัวทั้งหมด พร้อมกับคนขับรถทั้ง 2 คัน ส่งดำเนินคดีที่ สภ.เมืองชัยนาท

คุมพ่อชาวรัสเซียฝากขัง จับลูกชายวัย 13 โยนลงทะเลเสียชีวิต

ตำรวจคุมตัว “หนุ่มรัสเซีย” ฝากขัง หลังก่อเหตุโยนลูกวัย 13 ปี ออกจากเรือ บริเวณหมู่เกาะสุรินทร์ จ.พังงา จนถูกใบพัดเรือบาดเจ็บสาหัส ก่อนเสียชีวิตในเวลาต่อมา อ้างเสียความทรงจำ ไม่รู้ทำอะไรลงไป

ดีเอสไอจ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ สืบคดี “แตงโม”

ดีเอสไอ นำผู้เชี่ยวชาญหลายด้านเปิดประชุมนัดแรก ลุยสืบสวน “คดีแตงโม” จ่อล่องเรือใช้เลเซอร์สแกนจำลอง 3 มิติ หาพยานหลักฐานใหม่ และบินเก็บข้อมูลระบบ Cloud ในมือถือทุกคนบนเรือ-นอกเรือ

แก้ปัญหาฝุ่น

นายกฯ สั่งการด่วนคมนาคมออกมาตรการหยุด PM 2.5

นายกฯ สั่งการคมนาคมออกมาตรการเร่งด่วน หยุด PM 2.5 ให้ประชาชนนั่งรถไฟฟ้าทุกสาย-ขสมก.ฟรี 7 วัน 25-31 ม.ค.นี้ เตรียมใช้งบกลางกว่า 140 ล้านบาท ชดเชยผู้ประกอบการ เข้มตั้งจุดตรวจควันดำ 8 จุด รอบ กทม.-ปริมณฑล