คุมตัวผู้ต้องหาขโมยทารก ฝากขังศาลจังหวัดนครปฐม แม่ร่ำไห้เข่าทรุด

นครปฐม 15 ส.ค. – พนักงานสอบสวน นำตัวนายนันทจักร ผู้ต้องหาคดีลักเด็ก มาสอบสวน ก่อนนำตัวส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง ร่ำไห้โผเข้ากอดลูกชายหลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ


คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีมีคนร้ายเข้าไปขโมยทารกเพศชาย เพิ่งคลอดได้ 2 วัน จากห้องคลอด รพ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค. ตำรวจรู้ตัวคนร้ายคือนายนันทจักษ์ หรือนัน อายุ 43 ปี ที่ขโมยเด็กไปไว้ที่บ้าน แต่ประเด็นที่สังคมจับตาคือ บ้านนายนัน อยู่ตรงข้ามบ้าน “น้องต่อ” เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายตัวไปเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งนายนันสารภาพขโมยเด็กจริง เพราะอยากมีลูก และคิดว่าเด็กเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการหายตัวของน้องต่อ

เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดอาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบรูปเด็กจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของนายนัน หนึ่งในนั้นมีรูปของน้องต่อด้วย รวมทั้งยังมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีนายนัน ในช่วงที่น้องต่อหายตัว อีกทั้งมีประวัติติดยาเสพติดและพนันออนไลน์


พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจนครปฐม และเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 คุมตัวนายนันไปค้นบ้านพัก เก็บเส้นผมและเส้นขน เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ หาความเชื่อมโยงคดีนี้ และคดีน้องต่อด้วย

พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา สังเกตได้ว่าเป็นคำให้การที่วกวน ในตอนแรกนายนันทจักษ์อ้างว่าต้องการแก้แค้น เพราะคิดว่าทารกเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ภายหลังกลับบอกว่าเดินสุ่มเข้าไปดูเด็ก โดยไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหากับนายนัน คือ “ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ฯ, กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ, บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาลฯ” และต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กชายวัย 2 วันก่อนด้วยว่า จะแจ้งข้อหาทารุณกรรมเพิ่มเติมหรือไม่


ด้านนางดา แม่ผู้ต้องหา กล่าวว่า วันที่ลูกชายเอาเด็กกลับมาบ้านตนไม่รู้เรื่อง กระทั่งหลานโทรศัพท์มาถาม เพราะเห็นข่าวว่ามีคนขโมยเด็กจากโรงพยาบาลและผู้ต้องสงสัยคล้ายกับลูกชาย จึงตั้งใจเคาะประตูห้องถามความจริง แต่เมื่อประตูเปิดออก ลูกชายก็ส่งเด็กมาให้อุ้มเอาไปคืน แต่ตำรวจก็มาตรวจค้นบ้านก่อน และเอาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุน่าจะเพราะความเครียดเรื่องแฟนเก่าที่เลิกกันไปกว่า 10 ปี และที่ไปเอาเด็กมานั้นลูกชายก็บอกตำรวจว่าเสพยาบ้า และดื่มเบียร์ก่อนไปก่อเหตุ

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ สภ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามคดีขโมยเด็ก พร้อมกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดไว้กว่า 10 บัญชี เร่งสอบเส้นทางการเงิน เพราะในวันที่น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายตัวไป เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 มีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา 60,000 บาท โอน 3 ครั้ง ผู้ต้องหาตอบไม่ได้ว่าเงินมาจากไหน และเพื่อให้ความจริงปรากฏจะสืบสวนต่อไปว่าเคยก่อเหตุขโมยเด็กคนอื่นหรือไม่ ให้นำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลทั้งหมด ตรวจสอบภาพเด็กในโทรศัพท์ว่าเด็กเหล่านี้มีตัวตนหรือไม่ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เกี่ยวพันกับคดีลักเด็กหรือไม่ หรือรับจ้างใครมา เชื่อมโยงกับคดีน้องต่อหายตัวหรือไม่ ขณะนี้ให้น้ำหนักในเรื่องการลักเด็กทารกเพียงรายเดียวก่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามา 60,000 บาท เกี่ยวพันกับเด็กแน่นอน และตรวจสอบบัญชีล่าสุดยังพบมีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาอีก 100,000 บาท โอน 5 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท และอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวหลังคดีน้องต่อหายตัวไป รวมยอดเงินปริศนา 160,000 บาท ผู้ต้องหาต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเงินจำนวนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

ขณะแม่ของน้องต่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องเด็กที่นายนันขโมยมาจากโรงพยาบาล ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีของน้องต่อ เนื่องจากตนให้ข้อมูลตามเดิมที่เคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่า ตนเป็นคนทำลูกหล่นพื้นเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำ ตนกับนายนันไม่เคยเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้รู้จักกับนายนัน เป็นการส่วนตัว

พนักงานสอบสวนนำตัวนายนัน มาสอบสวน ก่อนส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง และนำข้าวผัดกะเพราทะเลรวมมิตร มาให้ลูกชาย หลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ ตำรวจนำผู้ต้องหาเข้าไปควบคุมตัวในห้องขัง แม่ผู้ต้องหาโผเข้าไปกอดร่ำให้ พร้อมปลอบใจลูก ไม่น่าทำเลยลูกเอ๋ย ทำไมไม่คิดถึงแม่บ้าง แม่รักหนูนะ แม่จะไปเยี่ยมบ่อยๆ

ผู้ต้องหาตอบคำถามของผู้สื่อข่าว เรื่องเงินที่โอนเข้ามาในบัญชี ยืนยันมีเงินเข้ามาเพียงบาทเดียว เงิน 160,000 บาท ที่ตำรวจกล่าวอ้างไม่มีจริงๆ และยืนยันเรื่องของน้องต่อ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเลย และขอให้ตำรวจนำเงินมาให้ดูด้วย ที่อ้างว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี ผมขอให้นักข่าวช่วยตามเรื่องนี้ด้วย

ตำรวจนำผู้ต้องหาขึ้นรถห้องขัง แม่เดินออกมาส่งลูก พร้อมกำชับลูกว่า ให้ทำความดีเยอะๆ จะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ หลังจากรถเคลื่อนออกไปแม่ถึงกลับเป็นลม ล้มลงไปนอนกับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันประคองและนำเข้าไปพักในห้องแอร์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

โปรดเกล้าฯ พล.ท.บุญสิน เป็นทหารราชองครักษ์พิเศษ

กทม. 27 ก.ย.-โปรดเกล้าฯ แต่งตั้งนายทหาร-นายตำรวจ เป็นราชองครักษ์พิเศษ 38 นาย พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 อยู่ในลำดับที่ 20 เมื่อวันที่ 27 ก.ย.2568 เว็บไซต์ราชกิจจานุเบกษา เผยแพร่ประกาศให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้นายทหารสัญญาบัตรและนายตำรวจชั้นสัญญาบัตร แต่งตั้งเป็นนายทหารราชองครักษ์พิเศษและนายตำรวจราชองครักษ์พิเศษ จำนวน 38 นาย อาศัยอำนาจตามความในมาตรา 7 แห่งพระราชบัญญัติการถวายความปลอดภัย พ.ศ. 2560 มาตรา 6 มาตรา 7 และมาตรา 10 แห่งพระราชบัญญัติราชองครักษ์ พุทธศักราช 2480 มาตรา 4 มาตรา 5 และมาตรา 6 แห่งพระราชบัญญัตินายตำรวจราชสำนัก พ.ศ. 2495 และข้อ 6 ของระเบียบกระทรวงกลาโหมว่าด้วยการแต่งตั้งราชองครักษ์ พ.ศ.2559 .-313.-สำนักข่าวไทย

ไฟไหม้ จยย. ลามวอดทั้งลานจอด

กทม. 27 ก.ย.-วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟไหม้รถจักรยานยนต์ที่ลานจอด ก่อนลุกลามระเบิดวอดรถจักรยานยนต์ 29 คัน รถยนต์ 3 คัน และจักรยาน 3 คัน วงจรปิดจับภาพวินาทีไฟเริ่มลุกไหม้รถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่ด้านในสุด ก่อนจะลุกลามมาคันข้างๆ และระเบิด จนควันปกคลุมไปทั่ว แล้วไฟได้ลุกลามไปอย่างรวดเร็ว ทำให้รถจักรยายนต์ที่จอดอยู่เสียหายถึง 29 คัน รถยนต์ 2 คัน รถกระบะ 1 คัน และจักรยานอีก 3 คัน เหตุการณ์เกิดขึ้นเวลาประมาณ 01.40 น. เช้าวันนี้ (27 กย.68) ที่ลานจอดรถ ของพี.อาร์.เค แมนชั่น ใกล้ปากซอยสุขสวัสดิ์ 17 เเขวงบางปะกอก เขตราษฎร์บูรณะ กรุงเทพฯ ตำรวจพร้อมเจ้าหน้าที่ดับเพลิงเร่งเข้าช่วยเหลือฉีดน้ำสกัดท่ามกลางเปวดพลิงที่และกำลังลุกลามต่อเนื่องไปยังลานจอดรถยนต์ด้านในอาคาร โดยใช้เวลานานกว่า 20 นาที จึงควบคุมเพลิงเอาไว้ได้ ซึ่งรถจักรยานยนต์ที่จอดอยู่เสียหายทั้งหมด เบื้องต้นตำรวจยังไม่สรุปสาเหตุ ต้องรอให้เจ้าหน้าส่วนเกี่ยวข้องตรวจสอบอย่างละเอียดอีกครั้ง แต่โชคดีที่ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต.-สำนักข่าวไทย

กัมพูชาเปิดฉากยิงป่วน 2 พื้นที่ ปราสาทตาควาย-ช่องบก

26 ก.ย. – กัมพูชาเปิดฉากยิงไทยแล้ว 2 จุด บริเวณพื้นที่ปราสาทตาควาย จ.สุรินทร์ และเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี เวลาประมาณ 16.40 น. รับแจ้งจากหน่วยทหารในพื้นที่ ระบุว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ ได้ยินเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด คาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา ล่าสุดเหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติ อยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่ ขณะที่บริเวณเนิน 498 ช่องบก จ.อุบลราชธานี พลโท บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ยอมรับว่า ไทยถูกกัมพูชายิงระเบิดใส่จริง ขณะนี้กำลังเร่งตรวจสอบ เก็บหลักฐานไปประท้วง พร้อมขอให้ประชาชนช่วยรักษาความลับราชการ ไม่เผยแพร่ภาพพิกัดยุทโธปกรณ์ของทหาร.-สำนักข่าวไทย

กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกช่วยงานประธานรัฐสภา

กทม 26 ก.ย.- กรมการปกครอง ไม่อนุมัติ “ผู้กองแคท” โยกไปช่วยงานประธานรัฐสภา ชี้นโยบายชัด ปลัดอำเภอใหม่ต้องปฏิบัติงานในพื้นที่จริง เพื่อสั่งสมประสบการณ์ นายรณรงค์ ทิพย์ศิริ รองอธิบดี ปฏิบัติราชการแทน อธิบดีกรมการปกครอง ทำหนังที่ มท 302.13481 ถึงเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร เรื่องขอยืมตัวข้าราชการช่วยราชการ โดย อ้างถึง หนังสือสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ด่วนที่สุด ที่ สผ001.02/479 ลงวันที่ 25 กันยายน 2568 โดยมีรายละเอียดว่า ตามหนังสือที่อ้างถึง สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร แจ้งว่า มีความประสงค์ขอยืมตัวข้าราชการสังกัดกรมการปกครองราย ร้อยตำรวจเอกหญิง อาทิติยา เบ็ญจะปัก ตำแหน่ง นักประชาสัมพันธ์ปฏิบัติการ ส่วนประชาสัมพันธ์ สำนักงานเลขานุการกรม กรมการปกครอง มาช่วยราชการที่สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร ในส่วนงานของประธานรัฐสภาและประธานสภาผู้แทนราษฎร เป็นกรณีพิเศษเฉพาะราย อีกหน้าที่หนึ่ง โดยไม่ขาดจากตำแหน่งหน้าที่เดิม ทั้งนี้ ตั้งแต่วันที่1ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป นั้น กรมการปกครอง ขอเรียนว่า […]

ข่าวแนะนำ

กองทัพภาคที่ 2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า

อุบลราชธานี 27 ก.ย.-กองทัพภาคที่2 ซัดเขมรใช้แผนยั่วยุซ้ำแล้วซ้ำเล่า ย้ำรู้ทันแผนโฆษณาชวนเชื่อต่อนานาชาติ เมื่อเวลา 14.40 น. วันที่ 27 ก.ย. 68 ศูนย์ปฏิบัติการกองทัพภาคที่ 2 ได้สรุปสถานการณ์ตามแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ประจำวันที่ 27 ก.ย. ณ เวลา 14.00 น. ว่าสถานการณ์โดยรวมเมื่อเวลา 12.02 น. ฝ่ายกัมพูชาได้พยายามสร้างสถานการณ์ความตึงเครียด ขึ้นอีกครั้งบริเวณพื้นที่ช่องอานม้า อ.น้ำยืน จ.อุบลราชธานี โดยใช้อาวุธสงครามยิงเข้ามายังพื้นที่ ของฝ่ายไทยจากบริเวณเนิน 677 มายังเนิน 600 และ เนิน 527 พร้อมทั้งใช้อาวุธปืนเล็กยิงปะทะเป็นระยะ ก่อนที่สถานการณ์จะยุติลง ทั้งนี้ การปะทะจำกัดวงอยู่เฉพาะบริเวณดังกล่าว แต่ทั้งสองฝ่ายยังคงตรึงกำลังควบคุมพื้นที่อย่างใกล้ชิด ต่อมาในช่วงบ่ายวันเดียวกัน ฝ่ายไทยได้รับแจ้งจากกัมพูชา ว่า คณะสังเกตการณ์ระหว่างประเทศ (IOT) ของกัมพูชา จะเดินทางเข้าพื้นที่ช่องอานม้า กองทัพภาคที่ 2 ประเมินว่าเป็นความพยายามของกัมพูชา ในการสร้างเงื่อนไขและยั่วยุให้เกิดสถานการณ์ เพื่อให้สอดคล้องกับช่วงเวลาที่คณะ IOT […]

นายกฯ ลงพื้นที่ตรวจน้ำท่วมอยุธยาฯ

พระนครศรีอยุธยา 27 ก.ย.-นายกฯ ลงพื้นที่พระนครศรีอยุธยา ตรวจน้ำท่วม เร่งเยียวยาแก้ไขปัญหาอย่างยั่งยืน เดินหน้าบูรณาการหน่วยงานใช้งบแสนล้านบาท พัฒนาระบบชลประทานและการจัดการน้ำ นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยรัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี และ สส.ของพรรค ให้การต้อนรับ และในโอกาสนี้ นายทวิวงศ์ โตทวิวงศ์ สส.พรรคประชาชน เขต1 ที่มาร่วมงานด้วย ทันทีที่นายกรัฐมนตรีได้เดินทางมาถึงบริเวณวัดโคกหิรัญ มีประชาชนมารอให้การต้อนรับ มอบดอกกุหลาบให้กำลังใจ พร้อมร้องเพลง มาร์ช อสม.ต้อนรับนายกรัฐมนตรี พร้อมกับถ่ายรูปเซลฟี่ อย่างเป็นกันเอง ก่อนที่จะรับฟังการรายงานสถานการณ์น้ำในพื้นที่จากผู้ว่าราชการจังหวัดพระนครศรีอยุธยา โดยผู้ว่าราชการจังหวัดยืนยันว่า พื้นที่แห่งนี้เป็นพื้นที่ลุ่มต่ำ ไม่ใช่พื้นที่ทุ่งรับน้ำ พื้นที่มีโฉนดที่ดินทั้งหมด ไม่ใช่ที่สาธารณะ หรือแก้มลิง พร้อมขอให้มีการพิจารณาจ่ายเงินเยียวยาเพื่อบรรเทาปัญหาผู้ที่ได้รับผลกระทบจากอุทกภัย เนื่องจากไม่ได้รับความสะดวกในการประกอบอาชีพ นายกรัฐมนตรี กล่าวขอบคุณที่ได้รับการต้อนรับอย่างอบอุ่น มาในสถานะนายกรัฐมนตรี ถือว่าสามารถที่จะมาตอบสนองความต้องการของประชาชนในทุกๆ มิติ รัฐบาลชุดนี้เป็นรัฐบาลที่ทำงานร่วมกันเป็นทีมเดียวกัน กับพรรคร่วมรัฐบาล เป้าหมายคือประโยชน์สูงสุดของประชาชน นายกรัฐมนตรี ยังกล่าวว่า ทราบดีอยู่แล้วว่าจังหวัดพระนครศรีอยุธยาแห่งนี้ มีน้ำท่วมทุกปี น้ำท่วมซ้ำซาก […]

น้ำเซาะใต้วิหารสมเด็จโต หวั่นทรุด

อ่างทอง 27 ก.ย.-น้ำแม่น้ำเจ้าพระยา เซาะเขื่อนทะลุใต้วิหารสมเด็จโต วัดดังอ่างทอง พระชาวบ้านหวั่นทรุด เร่งแก้ปัญหา ส่วนอุบลราชธานี เร่งสูบน้ำในชุมชนวารินชำราบ รักษาพื้นที่ชั้นใน บริเวณพื้นใต้วิหารสมเด็จพระพุฒาจารย์ โต พรหมรังสี วัดไชโยวรวิหาร อ.ไชโย จ.อ่างทอง ที่อยู่ติดกับเขื่อนริมแม่น้ำเจ้าพระยา พบว่ามีน้ำไหลเซาะแนวเขื่อนเข้ามาขังอยู่ด้านล่างความสูงกว่า 50 ซม. และเพิ่มสูงขึ้นเรื่อยๆ ทางวัดแก้ไขเบื้องต้น ด้วยการนำเครื่องสูบน้ำขนาดเล็กเร่งสูบน้ำออก เนื่องจากเกรงว่าจะทำให้โครงสร้างเกิดความเสียหาย หรือวิหารทรุดตัวลงได้ แม้ระดับน้ำในแม่น้ำเจ้าพระยาจะทรงตัวหลังเขื่อนเจ้าพระยาลดการระบายน้ำมาอยู่ที่ 2,100 ลบ.เมตร/วินาที เป็นวันที่ 3 แต่ยังคงมีระดับสูง จนทำให้ไหลทะลุแนวเขื่อนเข้ามาหลายจุด และเพิ่มปริมาณขึ้นเรื่อยๆ ส่วนที่จังหวัดอุบลราชธานี เพื่อเตรียมพร้อมรับมือกับพายุบัวลอย ประกอบกับ ระดับน้ำแม่น้ำมูลอยู่ในภาวะวิกฤต เจ้าหน้าที่เร่งระดมเดินเครื่องสูบน้ำ ระบายน้ำออกจากจากชุมชนริมแม่น้ำมูล ฝั่งอำเภอวารินชำราบ ทั้งอพยพประชาชนในพื้นที่ลุ่มต่ำกว่า 75 ครัวเรือน ให้ไปอยู่ในพื้นที่ที่จัดเตรียมไว้ ขณะที่เทศบาลเมือวารินชำราบได้ปิดประตูน้ำ ไม่ให้แม่น้ำมูลไหลเข้าสู่พื้นที่ชั้นใน ซึ่งปัจจุบันระดับน้ำยังอยู่ในภาวะที่บริหารจัดการได้ อย่างไรก็ตาม เทศบาลได้ประสานงานกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องติดตั้งเครื่องสูบน้ำ 16 นิ้ว 2 เครื่อง เดินเครื่องสูบตั้งแต่ช่วงเช้าจนถึง 24.00 […]

กองทัพบก ย้ำกัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์

สุรินทร์ 27 ก.ย.-เกาะติดสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา หลังวานนี้ได้ยินเสียงระเบิดและเสียงปืน ด้านกองทัพบกย้ำ กัมพูชาเจตนาสร้างปัญหาเพื่อผลประโยชน์ สถานการณ์ล่าสุดหลังจากเมื่อวานนี้เวลาประมาณ 16.40 น. หน่วยทหารในพื้นที่ชายแดน จ.สุรินทร์ แจ้งว่า บริเวณเนิน 350 พื้นที่ประสาทตาควาย จังหวัดสุรินทร์ พบเสียงระเบิด 1 ครั้ง และพื้นที่ “จุ๊บอั่งกุย” ได้ยินเสียงปืนเล็ก 5-6 นัด เบื้องต้นคาดว่าเป็นการก่อเหตุยั่วยุจากทางฝั่งกัมพูชา แต่เหตุการณ์กลับสู่ภาวะปกติแล้ว ซึ่งหลังจากนั้น เพจกองทัพบก ทันกระแส ได้ออกมาโพสต์ว่า ยืนยันไม่มีการปะทะ เสียงระเบิดที่ได้ยิน เพราะกัมพูชาเหยียบกับระเบิดตัวเอง แต่ก็ยังอยู่ระหว่างตรวจสอบเพิ่มเติมจากหน่วยทหารในพื้นที่เตือนประชาชนอย่าเพิ่งตื่นตระหนก นอกจากสถานการณ์ในฝั่งไทยแล้ว กองทัพบกได้กล่าวถึงการที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ได้โพสต์ข้อความเกี่ยวกับการปักปันเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ในพื้นที่ จ.สระแก้ว โดยในหลายประเด็นพบว่ามีการกล่าวอ้างและตอบโต้ต่อคำชี้แจงของฝ่ายไทยด้วยข้อมูลที่ไม่ถูกต้องและอาจทำให้สาธารณชนเกิดความสับสน พลตรี วินธัย สุวารี โฆษกกองทัพบก ได้ออกมาชี้แจงว่า ข้อมูลที่ ฮุน มาเนต นายกรัฐมนตรีกัมพูชา ออกมาเปิดเผยนั้น มีทั้งส่วนที่เป็นข้อเท็จจริงที่ถูกต้อง และก็มีอีกหลายส่วนที่ยังเป็นลักษณะของการกล่าวอ้างเฉพาะในมุมที่ต้องการของตัวเองฝ่ายเดียว […]