คุมตัวผู้ต้องหาขโมยทารก ฝากขังศาลจังหวัดนครปฐม แม่ร่ำไห้เข่าทรุด

นครปฐม 15 ส.ค. – พนักงานสอบสวน นำตัวนายนันทจักร ผู้ต้องหาคดีลักเด็ก มาสอบสวน ก่อนนำตัวส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง ร่ำไห้โผเข้ากอดลูกชายหลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ


คดีนี้สืบเนื่องจากกรณีมีคนร้ายเข้าไปขโมยทารกเพศชาย เพิ่งคลอดได้ 2 วัน จากห้องคลอด รพ.บางเลน จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค. ตำรวจรู้ตัวคนร้ายคือนายนันทจักษ์ หรือนัน อายุ 43 ปี ที่ขโมยเด็กไปไว้ที่บ้าน แต่ประเด็นที่สังคมจับตาคือ บ้านนายนัน อยู่ตรงข้ามบ้าน “น้องต่อ” เด็กชายวัย 8 เดือนที่หายตัวไปเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งนายนันสารภาพขโมยเด็กจริง เพราะอยากมีลูก และคิดว่าเด็กเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการหายตัวของน้องต่อ

เบื้องต้น ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ คาดอาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบรูปเด็กจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของนายนัน หนึ่งในนั้นมีรูปของน้องต่อด้วย รวมทั้งยังมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีนายนัน ในช่วงที่น้องต่อหายตัว อีกทั้งมีประวัติติดยาเสพติดและพนันออนไลน์


พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจนครปฐม และเจ้าหน้าที่ ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 คุมตัวนายนันไปค้นบ้านพัก เก็บเส้นผมและเส้นขน เพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ หาความเชื่อมโยงคดีนี้ และคดีน้องต่อด้วย

พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหา สังเกตได้ว่าเป็นคำให้การที่วกวน ในตอนแรกนายนันทจักษ์อ้างว่าต้องการแก้แค้น เพราะคิดว่าทารกเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ภายหลังกลับบอกว่าเดินสุ่มเข้าไปดูเด็ก โดยไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร

เบื้องต้นตำรวจได้แจ้ง 3 ข้อหากับนายนัน คือ “ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ฯ, กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ, บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาลฯ” และต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กชายวัย 2 วันก่อนด้วยว่า จะแจ้งข้อหาทารุณกรรมเพิ่มเติมหรือไม่


ด้านนางดา แม่ผู้ต้องหา กล่าวว่า วันที่ลูกชายเอาเด็กกลับมาบ้านตนไม่รู้เรื่อง กระทั่งหลานโทรศัพท์มาถาม เพราะเห็นข่าวว่ามีคนขโมยเด็กจากโรงพยาบาลและผู้ต้องสงสัยคล้ายกับลูกชาย จึงตั้งใจเคาะประตูห้องถามความจริง แต่เมื่อประตูเปิดออก ลูกชายก็ส่งเด็กมาให้อุ้มเอาไปคืน แต่ตำรวจก็มาตรวจค้นบ้านก่อน และเอาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุน่าจะเพราะความเครียดเรื่องแฟนเก่าที่เลิกกันไปกว่า 10 ปี และที่ไปเอาเด็กมานั้นลูกชายก็บอกตำรวจว่าเสพยาบ้า และดื่มเบียร์ก่อนไปก่อเหตุ

ต่อมา พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. ลงพื้นที่ สภ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามคดีขโมยเด็ก พร้อมกล่าวว่า ได้มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดไว้กว่า 10 บัญชี เร่งสอบเส้นทางการเงิน เพราะในวันที่น้องต่อ เด็ก 8 เดือนหายตัวไป เมื่อวันที่ 5 ก.พ.66 มีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา 60,000 บาท โอน 3 ครั้ง ผู้ต้องหาตอบไม่ได้ว่าเงินมาจากไหน และเพื่อให้ความจริงปรากฏจะสืบสวนต่อไปว่าเคยก่อเหตุขโมยเด็กคนอื่นหรือไม่ ให้นำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลทั้งหมด ตรวจสอบภาพเด็กในโทรศัพท์ว่าเด็กเหล่านี้มีตัวตนหรือไม่ ยังมีชีวิตอยู่หรือไม่ เกี่ยวพันกับคดีลักเด็กหรือไม่ หรือรับจ้างใครมา เชื่อมโยงกับคดีน้องต่อหายตัวหรือไม่ ขณะนี้ให้น้ำหนักในเรื่องการลักเด็กทารกเพียงรายเดียวก่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามา 60,000 บาท เกี่ยวพันกับเด็กแน่นอน และตรวจสอบบัญชีล่าสุดยังพบมีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาอีก 100,000 บาท โอน 5 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท และอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวหลังคดีน้องต่อหายตัวไป รวมยอดเงินปริศนา 160,000 บาท ผู้ต้องหาต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเงินจำนวนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร

ขณะแม่ของน้องต่อ เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องเด็กที่นายนันขโมยมาจากโรงพยาบาล ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีของน้องต่อ เนื่องจากตนให้ข้อมูลตามเดิมที่เคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่า ตนเป็นคนทำลูกหล่นพื้นเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำ ตนกับนายนันไม่เคยเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้รู้จักกับนายนัน เป็นการส่วนตัว

พนักงานสอบสวนนำตัวนายนัน มาสอบสวน ก่อนส่งไปฝากขังที่ศาลจังหวัดนครปฐม โดยมีแม่ของผู้ต้องหานั่งเฝ้าอยู่หน้าห้อง และนำข้าวผัดกะเพราทะเลรวมมิตร มาให้ลูกชาย หลังสอบปากคำเพิ่มเติมเสร็จ ตำรวจนำผู้ต้องหาเข้าไปควบคุมตัวในห้องขัง แม่ผู้ต้องหาโผเข้าไปกอดร่ำให้ พร้อมปลอบใจลูก ไม่น่าทำเลยลูกเอ๋ย ทำไมไม่คิดถึงแม่บ้าง แม่รักหนูนะ แม่จะไปเยี่ยมบ่อยๆ

ผู้ต้องหาตอบคำถามของผู้สื่อข่าว เรื่องเงินที่โอนเข้ามาในบัญชี ยืนยันมีเงินเข้ามาเพียงบาทเดียว เงิน 160,000 บาท ที่ตำรวจกล่าวอ้างไม่มีจริงๆ และยืนยันเรื่องของน้องต่อ ไม่ได้เข้าไปเกี่ยวข้องเลย และขอให้ตำรวจนำเงินมาให้ดูด้วย ที่อ้างว่ามีเงินเข้ามาในบัญชี ผมขอให้นักข่าวช่วยตามเรื่องนี้ด้วย

ตำรวจนำผู้ต้องหาขึ้นรถห้องขัง แม่เดินออกมาส่งลูก พร้อมกำชับลูกว่า ให้ทำความดีเยอะๆ จะได้รับการปล่อยตัวเร็วๆ หลังจากรถเคลื่อนออกไปแม่ถึงกลับเป็นลม ล้มลงไปนอนกับพื้น เจ้าหน้าที่ตำรวจต้องช่วยกันประคองและนำเข้าไปพักในห้องแอร์. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มขี่จยย. พุ่งชนฝาคอนกรีต ตกบ่อร้อยสายไฟดับสลด

11 ส.ค.- หนุ่มวัย 26 ขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าแนวกั้นพุ่งชนฝาคอนกรีต ร่างกระเด็นตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ลึก 10 เมตร จมน้ำดับสลด เมื่อเวลา 00.30 น.วันที่ 11 ส.ค.68 ร.ต.ท.เจนวิทย์ เหลือผล รองสารวัตร(สอบสวน) สน.ทุ่งสองห้อง รับแจ้งอุบัติเหตุรถจักรยานยนต์พุ่งตกบ่อร้อยสายไฟใต้ดิน ถนนแจ้งวัฒนะ ขาออก บริเวณหน้าศาลปกครอง แขวงทุ่งสองห้อง เขตหลักสี่ กทม. จึงรุดตรวจสอบพร้อมอาสาสมัครมูลนิธิป่อเต็กตึ๊ง ที่เกิดเหตุใกล้สถานีรถไฟฟ้า ศูนย์ราชการเฉลิมพระเกียรติ เป็นถนน 5 เลน บริเวณช่องทางซ้าย 3 เลนปิดเป็นพื้นที่ก่อสร้างโครงการร้อยสายไฟใต้ดิน พบรถจักรยานยนต์สีครีม ทะเบียน กทม. ล้มคว่ำหน้ารถพังยับพุ่งชนเครื่องปั่นไฟฟ้า ใกล้บ่อมีความลึก 10 เมตร เจ้าหน้าที่จึงใช้อุปกรณ์โรยตัวลงไปตรวจสอบพบผู้ขับขี่จมน้ำเสียชีวิต นำร่างขึ้นมาทราบชื่อนายสันติสุข (สงวนนามสกุล) อายุ 26 ปี สวมเสื้อยืดคอกลม แขนสั้น นุ่งกางเกงกีฬาขาสั้นสีน้ำเงิน ตามร่างกายมีบาดแผล กระโหลกศีรษะแตก เจ้าหน้าที่จึงบันทึกรวบรวมที่เกิดเหตุไว้เป็นหลักฐาน สอบถามคนงานที่อยู่บริเวณจุดเกิดเหตุให้การว่า […]

“ขัตติยา” ชี้ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก.

กทม. 10 ส.ค.-“ขัตติยา” สส.เพื่อไทย ชี้โพลฯ ประชาชนเชื่อมั่นกองทัพสูง แต่ภารกิจชายแดนเป็นผลงานร่วมทุกฝ่าย ใต้ร่ม ศบ.ทก. น.ส.ขัตติยา สวัสดิผล สส.บัญชีรายชื่อและรองโฆษกพรรคเพื่อไทย โพสต์ X ถึงผลสำรวจล่าสุดของนิด้าโพล ที่ให้ความไว้วางใจกองทัพสูงกว่ารัฐบาลและกระทรวงการต่างประเทศ ว่าอยากชวนมองภาพให้ครบว่า ทุกหน่วยงานของรัฐที่เกี่ยวข้อง ล้วนทำงานร่วมเป็นทีมเดียวกัน ภายใต้ศูนย์เฉพาะกิจบริหารสถานการณ์บริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา หรือ ศบ.ทก. ศูนย์นี้จัดตั้งขึ้นตั้งแต่เดือนมิถุนายน โดยรวมเอาหลายภาคส่วนเข้ามาทำงานร่วมกัน ทั้งกระทรวงกลาโหม สภาความมั่นคงแห่งชาติ กระทรวงมหาดไทย กระทรวงการต่างประเทศ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม กระทรวงพาณิชย์ กระทรวงแรงงาน กองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกา สำนักข่าวกรองแห่งชาติ ผู้บัญชาการทหารสูงสุด และผู้บัญชาการทหารบก ทุกฝ่าย คือทีมไทยแลนด์ ที่แบ่งบทบาทหน้าที่และประสานงาน เพื่อเป้าหมายเดียวกัน คือ การรักษาอธิปไตยของประเทศ และปกป้องความปลอดภัยของชีวิตประชาชน แม้กองทัพจะมีบทบาทสำคัญเป็นด่านหน้าในพื้นที่ชายแดน แต่ก็ไม่ได้ทำงานแยกเดี่ยวหรือเป็นอิสระจากภาคส่วนอื่นๆ หากทำงานเคียงบ่าเคียงไหล่กับทุกหน่วยงานภายใต้ร่มของ ศบ.ทก. ในสถานการณ์ที่ท้าทายเช่นนี้ ไม่มีหน่วยงานใดสามารถทำงานบรรลุเป้าหมายได้เพียงลำพัง ความสำเร็จต้องเกิดจากการร่วมแรงร่วมใจของทุกภาคส่วน.-314.-สำนักข่าวไทย

วันแม่แห่งชาติ ขึ้นทางด่วนฟรี 𝟯 สายทาง

กทม. 9 ส.ค.-วันแม่แห่งชาติ 12 สิงหาคม 2568 กทพ. แจ้งยกเว้นค่าผ่านทางพิเศษของทางพิเศษรวม 𝟯 สายทาง ดังนี้ ทางพิเศษเฉลิมมหานคร จำนวน 𝟮𝟭 ด่าน ทางพิเศษศรีรัช จำนวน 𝟯𝟮 ด่าน และทางพิเศษอุดรรัถยา จำนวน 𝟭𝟬 ด่าน นายอนุกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า ตามที่รัฐบาลประกาศให้วันจันทร์ ที่ 11 สิงหาคม 2568 เป็นวันหยุดพิเศษ ทำให้มีวันหยุดต่อเนื่องกันรวม 4 วัน (9-12 สิงหาคม 2568) เพื่อให้ประชาชนเดินทางท่องเที่ยวภายในประเทศ และช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจของประเทศในภาพรวม โดยการท่องเที่ยวแห่งประเทศไทย (ททท.) คาดการณ์สถานการณ์ “คนไทย” เดินทาง “ท่องเที่ยวภายในประเทศ” วันหยุดยาวช่วงวันแม่แห่งชาติ ระหว่างวันที่ 9-12 สิงหาคม 2568 จะสร้างรายได้สะพัดทั่วประเทศ 13,750 ล้านบาท […]

“มาริษ” แจงโทรเคลียร์ รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ปมถูกบิดเบือนคำพูด

สุรินทร์ 9 ส.ค. – “มาริษ” แจงโทรเคลียร์ “วิเวียน” รมว.ต่างประเทศสิงคโปร์ ถูกบิดเบือนคำพูด ย้ำไม่ได้วิจารณ์เชิงลบ แต่ห่วงภาวะผู้นำทำงานได้ไม่เต็มที่เพราะมีอุปสรรคขัดขวาง นายมาริษ เสงี่ยมพงษ์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ให้สัมภาษณ์ถึงกรณีที่มีบางสื่อบิดเบือนคำพูดของนายวิเวียน บาลากริชนิน (Vivian Balakrishnan) รัฐมนตรีว่าการกระทรวงต่างประเทศสิงคโปร์ ซึ่งตนไม่สบายใจตั้งแต่ต้น และได้สะท้อนไปว่าการแสดงความคิดเห็นในเรื่องที่ละเอียดอ่อนเหล่านี้มักจะทำให้เกิดความเข้าใจผิด และจะมีคนเอาคำพูดท่านไปใช้ประโยชน์ในการโจมตีทางการเมือง นายมาริษ เปิดเผยว่า ได้คุยโทรศัพท์กับนายวิเวียน เพื่อแสดงความห่วงกังวล เขายอมรับแล้วอนุญาตให้ช่วยชี้แจง อธิบายกับสื่อมวลชนที่เป็นสื่อหลัก เพราะข้อความที่แปลผิดได้แพร่สะพัดอยู่ในโซเชียลมีเดีย “นายวิเวียนไม่ได้มีความประสงค์ที่จะไปตั้งคำถามในเรื่องภาวะผู้นำของใครทั้งสิ้น เขาเพียงแต่พูดว่าอยากเห็นการทูตทำงานอย่างเต็มที่ เพราะการทูตจะแก้ไขปัญหาได้หากอยู่ในจุดที่สมดุล และเมื่อไรที่ภาวะผู้นำถูกขัดขวาง ไม่ว่าจะด้วยปัจจัยอะไรก็ตาม มันจะมีผลกระทบให้การแก้ไขปัญหาซับซ้อนมากยิ่งขึ้น” นายมาริษ กล่าว นายมาริษ กล่าวย้ำว่า สิ่งที่นายวิเวียนพูด จะพยายามสื่อสารเพื่อให้ทุกคนได้ตระหนักว่าอยากเห็นผู้นำได้ทำงานอย่างเต็มที่ ไม่มีอุปสรรคขัดขวาง ซึ่งจะเป็นสิ่งสำคัญที่จะทำให้การแก้ไขปัญหาลุล่วงไปได้อย่างสมบูรณ์.-319-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณอีสาน-ตะวันออก-ใต้ฝั่งตะวันตก

กรุงเทพฯ 13 ส.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคอีสาน ภาคตะวันออก ภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณ จ.จันทบุรี ตราด ระนอง พังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนัก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 60% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางพื้นที่บริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดจันทบุรี ตราด ระนอง และพังงา ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่มไว้ด้วย เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาว เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาว และประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบน มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนอ่าวไทยตอนบนและทะเลอันดามันตอนล่างมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย อนึ่ง […]

“ภูมิธรรม” นำจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในวันเฉลิมพระชนมพรรษา 12 สิงหาคม 2568

สนามหลวง 12 ส.ค.- “ภูมิธรรม” และภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 เวลา 20.05 น. ณ เวทีใหญ่ ท้องสนามหลวง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี พร้อมด้วย นางอภิญญา เวชยชัย ภริยา เป็นประธานในพิธีถวายเครื่องราชสักการะและพิธีจุดเทียนถวายพระพรชัยมงคล เนื่องในโอกาสวันเฉลิมพระชนมพรรษา สมเด็จพระนางเจ้าสิริกิติ์ พระบรมราชินีนาถ พระบรมราชชนนีพันปีหลวง 12 สิงหาคม 2568 โดยมีประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกาและคู่สมรส ประธานองค์กรตามรัฐธรรมนูญพร้อมคู่สมรส คณะรัฐมนตรีและคู่สมรส เลขาธิการนายกรัฐมนตรี ข้าราชการชั้นผู้ใหญ่ ทหาร ตำรวจ พลเรือน และภาคประชาชน เข้าร่วมพิธีอย่างพร้อมเพรียง เมื่อรักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี และภริยา ถึงบริเวณพิธีท้องสนามหลวง ขึ้นสู่เวที รักษาราชการแทนนายกรัฐมนตรี ประธานวุฒิสภา (ผู้แทนประธานรัฐสภา) ประธานศาลฎีกา […]

จากแม่ถึงลูกทหารบาดเจ็บ เหตุปะทะไทย-กัมพูชา

ขอนแก่น 12 ส.ค. – ครอบครัวตระกูลบุญธรรมในอำเภอบ้านไผ่ จังหวัดขอนแก่น ที่ลูกชายทหารเกณฑ์บาดเจ็บจากเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา แม้สื่อสารกันน้อย แต่ความรักของแม่ลูก ไม่ได้ลดน้อยลง และพร้อมสนับสนุนลูกชายสู่เส้นทางทหารอาชีพตามความตั้งใจ หลังไปเป็นรั้วของชาติ แล้วเปลี่ยนแปลงไปในทางที่ดีขึ้น.-สำนักข่าวไทย

มทภ.2 ลั่นพร้อมใช้สิทธิปกป้องกำลังพล-ปรับแผนลาดตระเวน

12 ส.ค.- “แม่ทัพภาค2” ชี้เขมรแอบลอบวางทุ่นระเบิด ละเมิดเงื่อนไขหยุดยิง หวังยั่วยุ พร้อมใช้สิทธิปกป้องคุ้มครองกำลังพล เป็นเรื่องหน้างานไม่เกี่ยวเจรจา เชื่อเขมรไม่ยอมรับตามเงื่อนไขที่ไทยเสนอ เล็งใช้กล้องวงจรปิด ปรับแผนการลาดตระเวน เผยรายงานรัฐบาล-ผบ.ทบ.แล้ว จ่อประท้วงระดับสากล เมื่อวันที่ 12 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า เหตุการณ์ที่ทหารพราน ร้อย.ทพ.2610 เหยียบกับระเบิดระหว่างปฏิบัติภารกิจลาดตระเวน ในพื้นที่บริเวณปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ ส่งผลให้กำลังพลได้รับบาดเจ็บสูญเสียขาซ้าย 1 นาย คือ ส.อ.ธีรพล เพียขันที ขณะนี้ปลอดภัยแล้ว ซึ่งเหตุเกิดในจุดแนววางรั้วลวดหนามทางด้านทิศตะวันตก ถ้าหันหน้าเข้าเขมรจะอยู่ฝั่งขวาของตัวปราสาท และห่างจากตัวปราสาทประมาณ 1 กิโลเมตร เรียกว่าช่องจุ๊บตาโมก สันนิษฐานว่าเขมรลักลอบมาวางระกับเบิดช่วงที่ถอนกำลังทหารออกไป ซึ่งวันนี้ทหารไปตรวจสอบแนววางลวดหนาม บริเวณดังกล่าวอยู่ในเขตแดนไทย เป็นเส้นทางที่ใช้ลาดตระเวนประจำอยู่ในฝั่งไทยอยู่แล้ว อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ที่เกิดขึ้น ถือเป็นการยั่วยุ ผิดเงื่อนไขการหยุดยิง เพราะการวางทุ่นระเบิด ถือเป็นการยิงเหมือนกัน เราจะมีมาตรการตอบโต้ และรายงานให้รัฐบาลรับทราบตามขั้นตอนแล้ว หลังจากนี้จะนำไปสู่ขั้นตอนการประท้วงในระดับสากล พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ […]