เร่งตรวจสอบเส้นทางการเงินผู้ต้องหาขโมยทารกจาก รพ. หวั่นโยงค้ามนุษย์

15 ส.ค. – กองพิสูจน์หลักฐานลุยค้นบ้านผู้ต้องหาขโมยทารกจากโรงพยาบาล เก็บหลักฐานเชื่อมโยงคดี “น้อง ต.” หรือไม่ ขณะตำรวจเร่งตรวจสอบเส้นทางการเงิน หวั่นเชื่อมโยงการค้ามนุษย์


กลายเป็นประเด็นให้สังคมต้องเฝ้าติดตาม กรณีมีคนร้ายเข้าไปขโมยทารกเพศชายวัย 2 วัน จากห้องคลอด โรงพยาบาลบางเลน จ.นครปฐม เมื่อคืนวันที่ 13 ส.ค.ที่ผ่านมา จนตำรวจรู้ตัวคนร้ายคือ นายนันทจักษ์ หรือนัน อายุ 43 ปี ที่ขโมยเด็กไปไว้ที่บ้าน แต่ประเด็นที่สังคมจับตาคือ บ้านของนายนันอยู่ตรงข้ามบ้าน “น้อง ต.” เด็กชายวัย 8 เดือน ที่หายตัวไปเมื่อเดือน ก.พ. ซึ่งนายนันสารภาพขโมยเด็กจริง เพราะอยากมีลูก และคิดว่าเด็กเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ยืนยันว่าไม่เกี่ยวกับการหายตัวของน้องต่อ

เบื้องต้นตอนนี้ตำรวจไม่ปักใจเชื่อ สงสัยอาจเชื่อมโยงกับขบวนการค้ามนุษย์ หลังพบรูปเด็กจำนวนมากในโทรศัพท์มือถือของนายนัน หนึ่งในนั้นมีรูปของน้อง ต. ด้วย รวมทั้งยังมีหลักฐานการโอนเงินเข้าบัญชีนายนันในช่วงที่น้อง ต. หายตัว อีกทั้งมีประวัติติดยาเสพติดและพนันออนไลน์


โดยเมื่อวานนี้ (14 ส.ค.) พ.ต.อ.พัลลภ สุริยกุล ณ อยุธยา รองผู้บังคับการตำรวจนครปฐม และเจ้าหน้าที่ศูนย์พิสูจน์หลักฐาน 7 คุมตัวนายนันไปค้นบ้านพัก เก็บเส้นผมและเส้นขน ฉายแสงรังสีเพื่อตรวจหาดีเอ็นเอ หาความเชื่อมโยงคดีนี้ และคดีน้อง ต. ด้วย

พ.ต.อ.พัลลภ กล่าวว่า จากคำให้การของผู้ต้องหาจะสังเกตได้วกวน แต่ละครั้งให้การไม่ตรงกัน ตอนแรกนายนันอ้างว่าต้องการแก้แค้น เพราะคิดว่าทารกเป็นลูกของแฟนเก่า แต่ภายหลังกลับบอกว่าเดินสุ่มเข้าไปดูเด็ก โดยไม่รู้ว่าเป็นลูกใคร ขณะนี้ตำรวจแจ้ง 3 ข้อหา กับนายนัน คือ “ความผิดฐานพรากผู้เยาว์ฯ, กักขังหน่วงเหนี่ยวฯ, บุกรุกสถานที่ราชการในยามวิกาลฯ” และต้องรอผลตรวจร่างกายของเด็กชายวัย 2 วัน ว่าจะแจ้งข้อหาทารุณกรรมเพิ่มเติมหรือไม่

ด้านแม่ของนายนัน กล่าวว่า วันที่ลูกชายเอาเด็กกลับมาบ้านตนไม่รู้เรื่อง กระทั่งหลานโทรศัพท์มาถาม เพราะเห็นข่าวว่ามีคนขโมยเด็กจากโรงพยาบาล และผู้ต้องสงสัยคล้ายกับลูกชาย จึงตั้งใจเคาะประตูห้องถามความจริง แต่เมื่อประตูเปิดออก ลูกชายก็ส่งเด็กมาให้อุ้มเอาไปคืน แต่ตำรวจมาตรวจค้นบ้านก่อน และเอาเด็กไปส่งโรงพยาบาล ส่วนสาเหตุน่าจะเพราะความเครียดเรื่องแฟนเก่าที่เลิกกันไปกว่า 10 ปี และที่ไปเอาเด็กมานั้นลูกชายบอกตำรวจว่าเสพยาบ้า และดื่มเบียร์ ก่อนไปก่อเหตุ


ขณะที่ช่วงเย็น พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. เดินทางมาที่ สภ.บางเลน จ.นครปฐม เพื่อติดตามคดีขโมยเด็ก พร้อมกล่าวว่า ได้ มอบหมายให้ พล.ต.ท.ธนายุตม์ วุฒิจรัสธำรงค์ ผู้บัญชาการตำรวจภูธรภาค 7 ดูแลคดีอย่างใกล้ชิด และให้ติดตามบัญชีที่ผู้ต้องหาเปิดไว้กว่า 10 บัญชี เร่งสอบเส้นทางการเงิน เพราะในวันที่น้อง ต. เด็ก 8 เดือน หายตัวไปคือวันที่ 5 ก.พ. 66 มีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหา 60,000 บาท โอน 3 ครั้ง ผู้ต้องหาตอบไม่ได้ว่าเงินมาจากไหน เพื่อให้ความจริงปรากฏจะสืบสวนต่อไปว่าเคยก่อเหตุขโมยเด็กคนอื่นหรือไม่ ให้นำโทรศัพท์ไปกู้ข้อมูลทั้งหมด ตรวจสอบภาพเด็กในโทรศัพท์ว่าเด็กเหล่านี้มีตัวตนหรือไม่ ยังอยู่รอดดีหรือไม่ เกี่ยวพันกับคดีลักเด็กหรือไม่ หรือรับจ้างใครมา เชื่อมโยงกับคดีน้อง ต. หายตัวหรือไม่ ถ้าไม่เกี่ยวกันก็จบ ส่วนผลตรวจหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์จะเร่งให้เร็วที่สุด ขณะนี้ให้น้ำหนักเรื่องการลักเด็กทารกเพียงรายเดียวก่อน

พล.ต.อ.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ตำรวจมีความเชื่อมั่นว่ายอดเงินที่โอนเข้ามา 60,000 บาท เกี่ยวพันกับเด็กแน่นอน และตรวจสอบบัญชีล่าสุดยังพบมีเงินเข้าบัญชีผู้ต้องหาอีก 100,000 บาท โอน 5 ครั้ง ครั้งละ 20,000 บาท และอยู่ในช่วงคาบเกี่ยวหลังคดีน้อง ต. หายตัวไป รวมยอดเงินปริศนา 160,000 บาท ผู้ต้องหาต้องตอบคำถามให้ได้ว่าเงินจำนวนนี้มีที่มาที่ไปอย่างไร รายละเอียดอื่นๆ ต้องรอธนาคารเปิดทำการ

ในวันเดียวกัน น.ส.นิ่ม แม่ของน้อง ต. เปิดเผยกับผู้สื่อข่าวว่า เรื่องเด็กทารกที่นายนันขโมยมาจากโรงพยาบาล ไม่ได้มีความเกี่ยวข้องเชื่อมโยงกับคดีของน้อง ต. เนื่องจากตนให้ข้อมูลตามเดิมที่เคยให้การกับตำรวจไปแล้วว่าตนเป็นคนทำลูกหล่นพื้นเสียชีวิต ก่อนนำศพไปโยนทิ้งแม่น้ำ ตนกับนายนันไม่เคยเกี่ยวข้องกัน และไม่ได้รู้จักกับนายนันเป็นการส่วนตัว คดีน้อง ต. ตนยังยืนยันในคำให้การเดิม และคดีอยู่ในชั้นพนักงานอัยการแล้ว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

แนวร่วมเริ่มปราศรัย! จนท.เข้มปลอดภัย-จราจรหนึบ

กทม. 28 มิ.ย.- กลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปักหลักชุมนุมอนุสาวรีย์ชัยฯ จับตาไฮไลท์ช่วงเย็นแกนนำขึ้นปราศรัย ท่ามกลางการรักษาความปลอดภัยเข้มงวด กิจกรรมเวทีชุมนุมกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน ปกป้องอธิปไตยไทย​ เริ่มตั้งแต่ 10.00 น.​ เป็นพิธีทางศาสนาอุทิศส่วนกุศลให้กับวีรบุรุษชาติทหาร​ ก่อนที่ในช่วงเที่ยงจะมีการปราศรัยจากแนวร่วมผู้ชุมนุม ขึ้นสลับสับเปลี่ยนกัน​ แต่ไฮไลท์ของกิจกรรมจะอยู่ช่วงเย็น​ หลังร้องเพลงชาติ 18.00 น.​ จะมีการอ่านแถลงการณ์ จากนั้นระดับแกนนำจะสลับกันขึ้นปราศรัย อาทิ นายสนธิ​ ลิ้มทองกุล​ นายปานเทพ​ พัวพงษ์พันธ์ นายสมชาย​ แสวงการ นายเจษ โทณวณิก​ นายนิธร​ ล้ำเหลือ และปิดท้ายด้วยนายจตุพร​ พรหมพันธุ์ โดยจะปิดเวทีเวลา 21.00 น. นายพิชิต ไชยมงคล แกนนำ คปท. นำคณะเดินทางจากสะพานชมัยมารุเชฐ แถวทำเนียบรัฐบาล มาสมทบที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ พร้อมกล่าวถึงภาพรวมการชุมนุม โดยยอมรับว่าได้รับรายงานเรื่องการตั้งด่านสกัด เพื่อไม่ให้เดินทางเข้ามาร่วม พร้อมย้ำการชุมนุมครั้งนี้เพื่อปกป้องอธิปไตยของชาติ ไม่ใช่การชุมนุมทางการเมือง แต่เป็นการชุมนุมของบ้านเมือง รักประเทศ และย้ำว่าการชุมนุมไม่มีท่อน้ำเลี้ยงจากกลุ่มองค์กรใด แต่เป็นท่อน้ำเลี้ยงที่มาจากเงินบริจาคของประชาชน ขณะเดียวกันไม่กังวลกลุ่มที่จะมาป่วน ด้าน […]

น้ำท่วมพญาเม็งรายเริ่มลด แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน

เชียงราย 28 มิ.ย.- เริ่มคลี่คลาย! สถานการณ์น้ำท่วมพญาเม็งราย จ.เชียงราย เช้านี้ระดับน้ำลดลงแล้วกว่า 80% แต่ชาวบ้านยังเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ สถานการณ์น้ำท่วมฉับพลันในพื้นที่ตำบลแม่เปา อำเภอพญาเม็งราย จังหวัดเชียงราย เช้าวันนี้ เริ่มคลี่คลาย ระดับน้ำลดลงไปแล้วกว่า 80% เหลือเพียงคราบโคลนจำนวนมากที่ยังปกคลุมที่อยู่อาศัยและถนนหลายสาย เช้านี้มีฝนตกโปรยปรายต่อเนื่อง  ขณะที่ประชาชนในพื้นที่ยังคงเดือดร้อน ไม่สามารถประกอบอาหารเองได้ เนื่องจากขาดแคลนสิ่งจำเป็น เช่น น้ำสะอาด อุปกรณ์ทำครัว และแหล่งพลังงาน จึงขอรับการสนับสนุนอาหารปรุงสุกพร้อมรับประทาน เพื่อบรรเทาความเดือดร้อนในช่วงฟื้นฟูพื้นที่ โดยก่อนหน้านี้มณฑลทหารบกที่ 37 ลงพื้นที่แจกจ่ายถุงยังชีพและสิ่งของจำเป็นเบื้องต้นแล้ว ด้านหน่วยงานที่เกี่ยวข้องยังติดตามเฝ้าระวังสถานการณ์อย่างใกล้ชิด หากเกิดฝนตกหนักอีกครั้ง -สำนักข่าวไทย

นายกฯ บินเชียงรายตรวจน้ำท่วม ไม่กังวลม็อบขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ

บน.6 ดอนเมือง 28 มิ.ย.- นายกฯ นำคณะตรวจน้ำท่วมเชียงราย ไม่กังวลม็อบชุมนุมขับไล่ ชี้เป็นสิทธิ ยินดีคุยด้วยสันติวิธี เช้านี้ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี พร้อมคณะ ออกเดินทางจากท่าอากาศยานทหาร 2 กองบิน 6 ดอนเมือง กรุงเทพฯ ไปยังท่าอากาศยานแม่ฟ้าหลวง ต.บ้านดู่ อ.เมืองเชียงราย จ.เชียงราย เพื่อติดตามสถานการณ์น้ำท่วมในพื้นที่ หลังฝนตกหนัก ช่วยเหลือประชาชนที่ได้รับผลกระทบ และให้กำลังใจกลุ่มชาติพันธุ์ที่ได้รับสัญชาติไทย ก่อนออกเดินทาง นายกรัฐมนตรีได้ตอบคำถามสื่อมวลชน กรณีกลุ่มรวมพลังแผ่นดิน นัดชุมนุมใหญ่ วันนี้ ที่อนุสาวรีย์ชัยสมรภูมิ เรียกร้องให้ตนเองลาออกจากตำแหน่งนายกรัฐมนตรี ว่า ได้ขอให้หน่วยงานความมั่นคงช่วยดูแลให้สงบเรียบร้อย ผู้สื่อข่าวถามว่ามีรายงานอะไรที่น่าเป็นห่วงหรือไม่ นายกฯ กล่าวว่า “ยังไม่มีอะไรนะคะ” ก่อนย้อนถามว่า “มีอะไรแล้วหรือคะ” เป็นปกติ ก็เป็นสิทธิอยู่แล้ว ซึ่งได้บอกให้ดูให้เรียบร้อย ไม่อยากให้มีความรุนแรง ผู้สื่อข่าวถามต่อว่าคิดว่าการชุมนุมนี้จะบานปลายหรือไม่ เพราะเป็นการรวมพลังกันของหลายกลุ่ม นายกฯ กล่าวว่า ก็หวังว่าจะไม่มี ผู้สื่อข่าวถามต่ออีกว่า ธงของการชุมนุมครั้งนี้คือต้องการให้นายกรัฐมนตรี ลาออก […]

เตือน “เหนือ-อีสาน” ฝนถล่ม ระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก

กทม. 28 มิ.ย.- กรมอุตุฯ เตือน “เหนือ-อีสาน” เตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก กรมอุตุนิยมวิทยาเผยภาคเหนือและภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางพื้นที่ ภาคกลางรวมทั้งกรุงเทพมหานครและปริมณฑลและภาคตะวันออกมีฝนตกหนักบางแห่ง ส่วนภาคใต้มีฝนฟ้าคะนองบางพื้นที่ ขอให้ประชาชนบริเวณภาคเหนือบริเวณจังหวัดเชียงรายและน่าน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านประเทศเมียนมาตอนบน และตอนบนของภาคเหนือ เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศลาวตอนบนและประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังปานกลาง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 1 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองไว้ด้วย – สำนักข่าวไทย