เชฟต่างชาติสารภาพฆ่าหั่นศพหมอเพื่อนชายบนเกาะพะงัน

สุราษฎร์ธานี 5 ส.ค.-คดีสะเทือนขวัญบนเกาะพะงัน จ.สุราษฎร์ธานี หลังพบชิ้นส่วนอวัยวะชายชาวต่างชาติถูกทิ้งในกองขยะ ตำรวจคุมตัวเชฟชาวสเปนไปสอบปากคำ ล่าสุดเจ้าตัวรับสารภาพแล้วว่าเป็นคนก่อเหตุ โดยอาศัยความรู้จากการเป็นเชฟชำแหละศพ  

เมื่อ 2 วันที่แล้ว คนงานคัดแยกขยะของเทศบาลตำบลเกาะพะงัน พบชิ้นส่วนมนุษย์ถูกหั่นยัดใส่ถุงขยะ ภายในศูนย์กำจัดมูลฝอยเทศบาลตำบลเกาะพะงัน ตรวจสอบเป็นชิ้นส่วนช่วงสะโพก หนักประมาณ 5 กก. ลักษณะถูกหั่นหรือตัดด้วยของมีคม รวมถึงชิ้นส่วนลำไส้ถูกใส่ไว้ในถุงดำสวมทับด้วยถุงพลาสติกสีเขียวและกระสอบปุ๋ยอีกชั้นหนึ่ง หลังจากนั้นยังพบชิ้นส่วนเพิ่มอีกเป็นท่อนขาถูกหั่นเป็น 2 ชิ้น และพบเสื้อผ้าที่คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิตน่าจะเป็นชาวต่างชาติ ขณะเดียวกันก็มีชายชาวต่างชาติคนหนึ่งมาแจ้งความว่าเพื่อนต่างชาติหายตัวไป    


ตำรวจสืบสวนจนทราบว่าผู้เสียชีวิต คือ นายเอ็ดวิน หมอศัลยกรรม สัญชาติโคลอมเบีย อายุ  44 ปี และเป็นคนที่เพื่อนมาแจ้งความหายตัวไป ตำรวจตามแกะรอยพบผู้ต้องสงสัยที่ก่อเหตุ คือ นายแดเนียล เป็นเชฟร้านอาหารชื่อดังชาวสเปน อายุ 29  ปี ซึ่งนายแดเนียลคนนี้คือคนที่เข้าไปแจ้งความว่านายเอ็ดวินที่เป็นเพื่อนสนิทหายตัวไป   

นอกจากนี้ ยังพบความเชื่อมโยงกับคดีหลังมีข้อมูลว่านายเดเนียลไปซื้อมีดขนาด 8 นิ้ว ถุงมือยาง ฟองน้ำ ฝอยขัดสแตนเลส น้ำยาล้างทำความสะอาด และถุงขยะขนาดใหญ่ จากร้านสะดวกซื้อ เมื่อวันที่ 1 ส.ค.ที่ผ่านมา จากนั้นตำรวจจึงได้ไปตรวจสอบห้องพักของนายแดเนียลในโรงแรมแห่งหนึ่ง พบภายในห้องน้ำมีร่องรอยการทำความสะอาด ในท่อน้ำทิ้งมีคราบเลือด เนื้อเยื่อ คราบไขมัน เส้นขน ซึ่งคาดว่าน่าจะเป็นของนายเอ็ดวิน ตำรวจจึงได้ควบคุมตัวนายแดเนียลมาสอบสวนเมื่อวานนี้ (4 ส.ค.)  


พ.ต.อ.ปัญญา นิรัติมานนท์ ผกก.สภ.เกาะพะงัน บอกว่า หลังนายแดเนียลถูกควบคุมตัวมีอาการเคร่งเครียดตลอดเวลา เมื่อคืนไม่ได้นอนและยังคงให้การปฏิเสธ ทางเจ้าหน้าที่มีวัตถุพยานและหลักฐานทางนิติวิทยาศาสตร์ที่มัดแน่น ส่วนสาเหตุ คาดว่า เป็นกลุ่มชายรักชายที่มีปัญหาความรักจึงก่อเหตุสยองขึ้นในครั้งนี้  

ล่าสุดหลังถูกเค้นสอบ นายแดเนียลให้การรับสารภาพแล้วว่าเป็นผู้ลงมือฆ่าหั่นศพนายเอ็ดวิน โดยหลังก่อเหตุได้แยกชิ้นส่วนต่างๆ บรรจุลงในกระเป๋าเดินทางของนายเอ็ดวิน แต่ยังมีส่วนที่ใส่ไม่หมด จึงได้นำใส่ถุงดำไปทิ้งถังขยะ จากนั้นได้ไปเช่าเรือคายัคเพื่อนำกระเป๋าเดินทางที่บรรจุชิ้นส่วนหัวและอวัยวะอื่นๆ ไปทิ้งทะเล ตอนนี้เจ้าหน้าที่ได้ระดมกำลังเร่งค้นหากระเป๋าเดินทางดังกล่าว และมีรายงานด้วยว่านายแดเนียล ให้การว่าได้ใช้ความรู้จากการเป็นเชฟร้านอาหารชำแหละศพเป็นชิ้นส่วน    

จากการสอบสวนทราบว่า นายแดเนียลนัดหมายกับนายเอ็ดวินมาเที่ยวที่เกาะพะงันด้วยกัน โดยนายเอ็ดวินเป็นผู้จองห้องพักระหว่างวันที่ 31 ก.ค.- 3 ส.ค. และในวันที่ 31 ก.ค. นายแดเนียลได้เดินทางเข้าที่พักคนเดียว แต่วันรุ่งขึ้น พบว่านายแดเนียลไปเปิดโรงแรมอีกแห่งหนึ่งใกล้หาดสลัดและได้ไปซื้อมีดและอุปกรณ์ต่างๆ จากร้านสะดวกซื้อตามที่ตำรวจได้เบาะแส จากนั้นวันพุธที่ 2 ส.ค. นายแดเนียลไปรอรับนายเอ็ดวินที่ท่าเรือเกาะพะงันและพาไปรับประทานอาหารใกล้กับโรงแรมที่ตนเองไปเปิดไว้ จนกระทั่งหลังเที่ยงคืนของวันที่ 2 ส.ค. นายแดลเนียลก็ได้ไปแจ้งความที่ สภ.เกาะพะงันว่านายเอ็ดวินหายตัวไป โดยไม่ทราบว่าเดินทางไปไหน ไม่สามารถติดต่อได้ 


พล.ต.ท.สุรพงษ์ ถนอมจิตร ผบช.ภ.8  บอกว่า ได้นำเส้นผม ตัวอย่างน้ำ คราบไขมัน และเศษชิ้นเนื้อ ส่งตรวจอัตลักษณ์ที่ จ.ยะลา จะทราบผลในวันพรุ่งนี้ (6 ส.ค.) และจากการสืบสวนและตรวจสอบกล้องจรปิด พบความเชื่อมโยงว่านายแดเนียลเป็นผู้ก่อเหตุและอยู่กับผู้เสียชีวิตเป็นคนสุดท้าย ซึ่งพนักงานสอบสวนได้เร่งรวบรวมพยานหลักฐานและจะขออนุมัติหมายจับนายแดเนียลทันที เมื่อทราบผลการตรวจอัตลักษณ์ชิ้นเนื้อ 

จากการพูดคุยกับญาตินายเอ็ดวินทราบว่า นายเอ็ดวินมีอาชีพเป็นแพทย์ศัลยกรรมเฉพาะทางด้านการผ่าตัดแปลงเพศที่ประเทศโคลอมเบียและคบหากับนายแดเนียลซึ่งเป็นเชฟที่มีชื่อเสียงของประเทศสเปนมานานกว่า 1 ปี โดยทั้งคู่นัดมาพบกันที่เกาะพะงันเพื่อร่วมงานฟูลมูนปาร์ตี้ แต่หลังจากที่นายเอ็ดวินมาถึงเกาะพะงันทางญาติก็ไม่สามารถติดต่อได้ เมื่อสอบถามนายแดเนียลก็บอกว่ายังไม่พบนายเอ็ดวินเหมือนกัน ทางญาติได้ตรวจสอบไปที่โรงแรมที่นายเอ็ดวินจองไว้ พบว่านายแดเนียลได้เข้าพักเพียงคนเดียวและได้เช็กเอาท์ออกไปก่อนที่นายเอ็ดวินจะเดินทางมาถึง จนกระทั้งวันที่ 3 ส.ค. ก็มาพบชิ้นส่วนอวัยวะของนายเอ็ดวิน

ส่วนสาเหตุจูงใจในการก่อเหตุ นายแดเนียลยังไม่ให้รายละเอียด แต่เบื้องต้นเชื่อว่าน่าจะเกิดจากความหึงหวง และจากการสืบสวนของเจ้าหน้าที่พบว่านายแดเนียลเตรียมการเป็นอย่างดี ด้วยการจัดซื้ออุปกรณ์ต่างๆ ที่ใช้ในการอำพรางซ้อนเร้นศพ 

ขณะที่ พ.ต.อ.ศุภฤกษ์ พันธ์โกศล ผกก.ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานี เปิดเผยว่า ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสุราษฎร์ธานีได้เพิกถอนการอยู่ในราชอาณาจักรนายเดเนียล อายุ 29 ปี สัญชาติสเปน ตอนนี้ฝากกักตัวไว้ที่ สภ.เกาะพะงัน แต่หากมีการดำเนินคดีข้อหาอื่นๆ ก็จะต้องแจ้งข้อหาให้ผู้ต้องกักทราบและดำเนินคดีตามกฎหมาย เมื่อเสร็จสิ้นการดำเนินคดี ก็ส่งตัวมาให้ตรวจคนเข้าเมืองเพื่อผลักดันส่งกลับประเทศต่อไป.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ชูความสำเร็จทีมไทยแลนด์ ปิดดีลภาษีสหรัฐที่ 19%

ทำเนียบ 1 ส.ค.-โฆษกรัฐบาล เผย ปิดดีลภาษีนำเข้าสหรัฐสำเร็จที่ 19% เกาะกลุ่มระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค ชู เป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลไทยสามารถเจรจาและบรรลุข้อตกลงเกี่ยวกับอัตราภาษีนำเข้าต่างตอบแทน (Reciprocal Tariffs) กับสหรัฐอเมริกาได้สำเร็จ โดยขณะนี้ รัฐบาลสหรัฐได้ประกาศแล้วว่าจะเรียกเก็บอัตราภาษีนำเข้าฯ จากสินค้าของไทยในอัตรา 19 % ซึ่งข้อตกลงดังกล่าวจะมีผลบังคับใช้ตั้งแต่วันนี้วันที่ 1 สิงหาคม 2568 เป็นต้นไป นายจิรายุ กล่าวว่า อัตราภาษีดังกล่าวที่ ต่ำกว่า อัตราเดิม 36 % และเกาะอยู่อยู่ในระดับใกล้เคียงกับประเทศในภูมิภาค อาทิ เวียดนาม ฟิลิปปินส์ และญี่ปุ่น สามารถรักษาการแข่งขันได้ เมื่อเทียบกับประเทศอื่นในภูมิภาคอาเซียน ซึ่งได้เจรจากับสหรัฐสำเร็จแล้วก่อนหน้านี้ “การปิดดีลครั้งนี้ของรัฐบาลไทย ในระดับภาษีนำเข้าฯ ไว้ที่ 19% ถือเป็นอีกหนึ่งความสำเร็จสำคัญของทีมไทยแลนด์ ในแนวทาง Win-Win เพื่อรักษาฐานการส่งออกและเสถียรภาพทางเศรษฐกิจของประเทศในระยะยาว ย้ำถึงศักยภาพของประเทศไทยในเวทีการค้าโลก ท่ามกลางความเปลี่ยนแปลงในนโยบายการค้าระหว่างประเทศ” นายจิรายุกล่าว […]

รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราว

อุบลราชธานี 31 ก.ค. – โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี ออกหนังสือขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ เมื่อวานนี้ (30 ก.ค.) พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ลงพื้นที่เยี่ยมให้กำลังใจผู้ได้รับบาดเจ็บจากสถานการณ์ความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-กัมพูชา พร้อมทั้งให้กำลังใจแก่เจ้าหน้าที่ผู้ปฏิบัติ งานด้านการแพทย์และพยาบาล ณ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ จังหวัดอุบลราชธานี นายแพทย์ มนต์ชัย วิวัฒนาสิทธิพงศ์ ผู้อำนวยการโรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ พร้อมด้วยคณะผู้บริหาร ให้การต้อนรับและรายงานความคืบหน้าการดูแลรักษาผู้ได้รับบาดเจ็บ รวมถึงการเตรียมความพร้อมด้านการรักษาพยาบาลรองรับสถานการณ์ฉุกเฉินในพื้นที่ชายแดน รพ.สรรพสิทธิประสงค์ แจ้งยกเลิกรับผู้ป่วยกัมพูชาชั่วคราวขณะที่ในวันเดียวกัน โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ ได้ออกเอกสารขอยกเลิกการให้บริการผู้ป่วยชาวกัมพูชา และยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา ใจความในหนังสือว่า “โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ได้ให้การตรวจรักษาพยาบาลแก่ผู้ป่วยทั้งชาวไทยและชาวต่างชาติ รวมถึงผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่เดินทางเข้ามารักษาอย่างต่อเนื่อง เนื่องจากสถานการณ์ความไม่สงบแนวชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งส่งผลต่อความมั่นคงของประเทศ และจากมติที่ประชุมคณะกรรมการคลินิกพิเศษนอกเวลาราชการ โรงพยาบาลสรรพสิทธิประสงค์ มีมติดังนี้ 1.ยกเลิกการปฏิบัติงานชั่วคราวของผู้ช่วยสื่อสารภาษากัมพูชา และจิตอาสาภาษาต่างประเทศ2.ปิดการให้บริการ SMC Premium ชั่วคราว3.ยกเลิกการรับยาแทน และงดรับเคสใหม่ผู้ป่วยชาวกัมพูชา4.ผู้ป่วยชาวกัมพูชาที่ยังนอนอยู่ในโรงพยาบาลให้จำกัดพื้นที่ชัดเจน ในการนี้ให้มีผลตั้งแต่วันที่ 31 กรกฎาคม 2568 ถึงวันที่ 10 […]

รมช.มท. โฟนอินผู้ว่าฯ อุบลฯ ตอบกลางสภา ยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ

รัฐสภา 31 ก.ค.-สส.ศรีสะเกษ ภูมิใจไทย ทวงถามเงินช่วยเหลือเยียวยาจังหวัดชายแดนไทย-กัมพูชา ชี้ตั้งแต่วันแรกยังไม่ได้เงินรัฐบาลสักบาท ซัด “ผู้ว่าฯ อุบล” อ้างกลัวติดคุกไม่กล้าเบิกงบ ด้าน รมช.มหาดไทย ต่อสายโฟนอิน ผู้ว่าฯ ตอบกลางสภา ยืนยันไม่มีปัญหาเบิกจ่ายงบ ในการประชุมสภาผู้แทนราษฎร ที่มีนายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสภาผู้แทนราษฎร ทำหน้าที่ประธานการประชุม พิจารณากระทู้ถามสดด้วยวาจา โดยนายธนา กิจไพบูลย์ชัย สส.ศรีสะเกษ พรรคภูมิใจไทย สอบถามกรณีเหตุปะทะชายแดนไทย-กัมพูชา ซึ่งนายกรัฐมนตรี มอบหมาย นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรมว.มหาดไทย เป็นผู้ตอบกระทู้ แต่เนื่องจากนายภูมิธรรม ติดภารกิจจึงมอบหมายให้ น.ส.ธีรรัตน์ สำเร็จวาณิชย์ รมช.มหาดไทย ชี้แจงแทน นายธนา กล่าวว่า จากเหตุปะทะบริเวณชายแดนไทย-กัมพูชา ส่งผลกระทบต่อประชาชนในพื้นที่ 4 จังหวัดชายแดน ทั้งศรีสะเกษ สุรินทร์ บุรีรัมย์ และอุบลราชธานี ตั้งแต่เกิดเหตุจนถึงขณะนี้ ยังไม่มีงบประมาณจากส่วนกลางลงพื้นที่แม้แต่บาทเดียว ทุกวันนี้เราอาศัยเงินบริจาคเป็นหลัก และนำงบขององค์การปกครองส่วนท้องถิ่น (อปท.) […]

ทูตไทยตอบโต้กัมพูชา หลังยกกรณีปัญหาชายแดนที่ยูเอ็น

นิวยอร์ก 31 ก.ค. – เอกอัครราชทูตผู้แทนถาวรไทยประจำองค์การสหประชาชาติ โต้ผู้แทนกัมพูชา ซึ่งหยิบประเด็นชายแดนไทย-กัมพูชา ขึ้นพูดผิดกาลเทศะ ผิดวาระ ในที่ประชุมสหประชาชาติ วาระสำคัญของการประชุมระดับสูงระหว่างประเทศในเวทีสหประชาชาติ ที่นครนิวยอร์ก ประเทศสหรัฐ เมื่อวานนี้ คือการผลักดันเพื่อระงับข้อพิพาทปัญหาปาเลสไตน์โดยสันติวิธี แต่ปรากฏว่านาย เจีย แก้ว เอกอัครราชทูตกัมพูชาประจำสหประชาชาติ กลับพูดในประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องกับวาระการประชุม โดยพาดพิงถึงไทยเกี่ยวกับสถานการณ์ชายแดนไทย-กัมพูชา นายเชิดชาย ใช้ไววิทย์ เอกอัครราชทูต ผู้แทนถาวรไทยประจำสหประชาชาติ จึงกล่าวตอบโต้โดยชี้แจงข้อมูลความจริงในประเด็นที่กัมพูชาละเมิดข้อตกลงหยุดยิง โดยระบุว่า เป็นที่น่าเสียดายที่มีคณะผู้แทนหยิบยกประเด็นที่ไม่เกี่ยวข้องขึ้นมาในที่ประชุม ซึ่งเป็นเวทีที่หลายฝ่ายรอคอย และมีวัตถุประสงค์เพื่อส่งเสริมการสนับสนุนจากประชาคมระหว่างประเทศต่อการแก้ไขปัญหาความขัดแย้งระหว่างอิสราเอลและปาเลสไตน์อย่างเป็นธรรม ถาวร และครอบคลุม ผ่านแนวทางสันติวิธีโดยการดำเนินการตามแนวทางสองรัฐ นายเชิดชาย กล่าวในที่ประชุมว่า ประเทศไทยไม่ได้มีเจตนาจะนำเรื่องทวิภาคีเข้าสู่เวทีสำคัญดังกล่าว แต่ต้องขอชี้แจงข้อเท็จจริงเพื่อป้องกันความเข้าใจผิด โดยย้ำว่าเมื่อวันที่ 28 กรกฎาคม 2568 ไทยและกัมพูชา ได้บรรลุข้อตกลงหยุดยิง โดยได้รับความร่วมมือเป็นอย่างดีจากนายกรัฐมนตรีมาเลเซีย ในฐานะประธานอาเซียน แต่หลังจากที่ข้อตกลงหยุดยิงมีผลบังคับใช้ในวันที่ 29 กรกฎาคม อีกฝ่ายกลับใช้อาวุธข้ามพรมแดน และบุกรุกเข้ามาในดินแดนของไทยอีกครั้ง ซึ่งถือเป็นการละเมิดข้อตกลงอย่างร้ายแรง ประเทศไทยจึงขอเรียกร้องให้ประเทศเพื่อนบ้านปฏิบัติตามข้อตกลงหยุดยิงอย่างเคร่งครัด และยืนยันความมุ่งมั่นของไทยที่จะใช้กลไกทวิภาคีที่มีอยู่ในการแก้ไขปัญหา หลีกเลี่ยงการเผยแพร่ข้อมูลที่เป็นเท็จหรือทำให้เข้าใจผิด และให้มีส่วนร่วมด้วยเจตนาดี.-810.-813.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

มทภ.2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ อีสาน เข้มโดรน-จับตาสถานที่สำคัญ

3 ส.ค.- แม่ทัพภาค 2 ประชุม 20 ผู้ว่าฯ จังหวัดอีสาน เข้มมาตรการกำจัดโดรน สั่งจับตาสถานที่สำคัญ ศาลากลางจังหวัด-คลังอาวุธ-สถานีขนส่ง บูรณาการตำรวจจับผู้ก่อเหตุ ดำเนินคดีข้อหาหนัก “ก่อการร้าย-ไส้ศึก” เมื่อวันที่ 3 ส.ค.68 พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 เปิดเผยว่า วานนี้ (2 ส.ค.) ได้มีการประชุมร่วมกับผู้ว่าราชการจังหวัด 20 จังหวัดภาคอีสาน ผ่านระบบ VTC เรื่องมาตรการกำจัดโดรน โดยให้ผู้ว่าแต่ละจังหวัด ในฐานะ ผอ.กอ.รมน.จังหวัด ให้แต่ละหน่วยงานบูรณาการทำงานร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจและภาคเอกชน ประชาชน จัดหาเครื่องแอนตี้โดรน ป้องกันจังหวัดของตัวเอง โดยเฉพาะเพ่งเล็งในพื้นที่สำคัญ อาทิ ศาลากลางจังหวัด สนามกีฬา คลังอาวุธ สถานีตำรวจ สถานีขนส่ง และสนามบิน นอกจากนี้ให้มีการจัดชุดลาดตระเวนพิสูจน์ทราบบุคคลที่ไม่ได้อยู่ในพื้นที่ หากสามารถควบคุมตัวได้ให้ดำเนินคดีให้ถึงที่สุดในทุกประเด็น เช่น ก่อการร้าย ไส้ศึก โดยโทษหนักสุดถึงขั้นประหารชีวิต คงต้องไปดูข้อกฎหมาย ทั้งนี้ได้กำชับห้ามปล่อยตัวง่ายๆ ต้องตรวจสอบไปถึงต้นตอ […]

พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าสุรินทร์

สุรินทร์ 3 ส.ค. – พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายโดรน บินเหนือน่านฟ้าเมืองสุรินทร์ ชาวบ้านกังวลเรื่องความปลอดภัย ขณะที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก เมื่อช่วงกลางดึกที่ผ่านมา มีรายงานว่าพบวัตถุต้องสงสัยลักษณะคล้ายโดรน บินเหนือหลายพื้นที่ในจังหวัดสุรินทร์เป็นจำนวนมาก โดยยังไม่มีคำชี้แจงอย่างเป็นทางการจากหน่วยงานราชการ ว่าวัตถุดังกล่าวเป็นโดรนจริง หรือเป็นอากาศยานชนิดใดกันแน่ ชาวบ้านในพื้นที่ได้โพสต์และแชร์ภาพวัตถุปริศนา บินอยู่เหนือเขตเมืองและพื้นที่ชายแดน ซึ่งถือเป็นพื้นที่หวงห้ามตามคำสั่งของกองทัพ ห้ามอากาศยานไร้คนขับบินโดยไม่ได้รับอนุญาต หากฝ่าฝืนสามารถดำเนินคดีตามกฎหมายได้ ทีมข่าวลงพื้นที่และสามารถบันทึกภาพวิดีโอไว้ได้ โดยพบวัตถุลักษณะคล้ายโดรนบินจากรอบนอกเมืองเข้าสู่เขตชั้นในของตัวเมืองสุรินทร์ อย่างไรก็ตาม ขณะนี้ยังไม่สามารถยืนยันได้แน่ชัดว่าเป็นโดรนหรือเครื่องบินขนาดเล็ก ล่าสุดเช้าวันนี้ ทีมข่าวได้ลงพื้นที่ยังจุดที่ชาวบ้านแจ้งว่าพบเห็นวัตถุดังกล่าว โดยมีการนำภาพถ่ายที่บันทึกไว้ตั้งแต่ช่วงเย็นขณะที่ท้องฟ้ายังสว่างให้ทีมข่าวดู ภาพปรากฏวัตถุคล้ายเครื่องบินขนาดเล็ก หรือโดรนที่ยังไม่สามารถพิสูจน์ได้แน่ชัด ชาวบ้านบางส่วนแสดงความวิตก ว่า วัตถุดังกล่าวอาจมีลักษณะคล้ายโดรนพลีชีพหรืออาจบรรทุกวัตถุระเบิด ซึ่งสร้างความตื่นตระหนกและกังวลในชุมชน จึงอยากให้ผู้ว่าราชการจังหวัดสุรินทร์ หรือหน่วยงานความมั่นคง ออกมาชี้แจงโดยเร็ว เพื่อความสบายใจของประชาชนในพื้นที่ . – 716 – สำนักข่าวไทย

ไทยตอนบนฝนน้อย ทะเลอันดามัน-อ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 ม.

กทม. 3 ส.ค.- กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีฝนน้อย ส่วนทะเลอันดามันและอ่าวไทย คลื่นสูง 1-2 เมตร กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยตอนบนมีฝนน้อยเนื่องจากมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังอ่อนพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย ในขณะที่มีหย่อมความกดอากาศต่ำปกคลุมบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนและอ่าวตังเกี๋ย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังอ่อน โดยบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยเดินเรือด้วยความระมัดระวังและหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง – สำนักข่าวไทย

กระเช้าหลุด ช่างทาสีร่วงตึก 5 ชั้น ตาย 1 สาหัส 1

พัทลุง 2 ส.ค. – เกิดเหตุสลด กระเช้าปลายบูมหลุดจากเครน ช่างทาสีร่วงจากตึก 5 ชั้น เสียชีวิต 1 เจ็บสาหัส 1 ที่ไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียน จ.พัทลุง เกิดเหตุสลดกลางไซต์งานก่อสร้างอาคารเรียนแห่งหนึ่ง ในตำบลควนมะพร้าว อำเภอเมือง จังหวัดพัทลุง เมื่อกระเช้าที่ผูกติดกับหัวเครนเกิดหัก หลุดจากตึกสูง 5 ชั้น ส่งผลให้ช่างทาสี 2 คน ที่อยู่บนกระเช้าร่วงตกลงกระแทกพื้น เป็นเหตุให้มีผู้เสียชีวิตทันที 1 คน คือ นายธวัชชัย อายุ 36 ปี และนายชุติเดช อายุ 43 ปี บาดเจ็บสาหัส ขาทั้งสองข้างหักละเอียด แขนซ้ายหักผิดรูป เจ้าหน้าที่เร่งให้การช่วยเหลือก่อนนำตัวส่งโรงพยาบาลพัทลุงอย่างเร่งด่วน ผู้เห็นเหตุการณ์ เล่าว่า คนงานทั้ง 2 เป็นช่างทาสี ได้ขึ้นกระเช้าเหล็กเพื่อขึ้นไปทาสีบริเวณชั้น 5 ของอาคาร ซึ่งมีความสูงประมาณ 26 เมตร แต่ด้วยน้ำหนักของคนงานทั้งสองคน […]