สงขลา 27 มิ.ย. – หลังยืดเยื้อนาน 16 เดือน วันนี้ศาสสั่งฟ้อง “เจ๊อ้อย” พี่สาว ส.ส.เดชอิศม์ พร้อมครอบครัว คดีทำบ่อดินลูกรังบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย ขุดหลุมลึกกว่า 20 เมตร ห่างฐานเจดีย์เขาน้อยอายุ 1,400 ปี เพียง 34 เมตร
วันนี้ พนักงานสอบสวน สภ.สิงหนคร จังหวัดสงขลา นำสำนวนคดีไถป่าทำถนนยาว 200 เมตร ในเขตโบราณสถานเขาน้อย อำเภอสิงหนคร ส่งให้อัยการจังหวัดสงขลาสั่งฟ้องข้อหา บุกรุกพื้นที่โบราณสถาน และบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 โดยคดีนี้ มีนางสาว จันทิมา หลานสาว นายเดชอิศม์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ กับคนงาน 1 คน เป็นผู้ต้องหา หลังจากก่อนหน้านี้ ส่งสำนวนคดีการไถป่าทำถนนยาว 1.5 กิโลเมตร บุกรุกโบราณสถานเขาแดง ที่มีนายสมบัติ นักธุรกิจในพื้นที่ พร้อมพวกรวม 3 คน ตกเป็นผู้ต้องหา
พันตำรวจโท ครรชิต นัครามนตรี รองผู้กำกับการ สอบสวน สภ.สิงหนคร ยืนยันว่า ภายในสัปดาห์นี้จะสรุปสำนวน คดีทำบ่อดินลูกรังบุกรุกโบราณสถานเขาน้อย ให้อัยการจังหวัดสงขลา สั่งฟ้องได้ ข้อหาบุกรุกพื้นที่โบราณสถาน และบุกรุกพื้นที่ป่าไม้ ตาม พ.ร.บ.ป่าไม้ พ.ศ.2484 ซึ่งคดีดังกล่าว มีการขุดดินลึกกว่า 20 เมตร และขุดภูเขาเป็นหน้าผาสูง ห่างฐานเจดีย์โบราณ อายุมากกว่า 1,000 ปี เพียง 43 เมตร จึงเสี่ยงต่อการทำให้ฐานเจดีย์พังทลายได้
ทั้งนี้ พนักงานอัยการได้นัดผู้ต้องหาทั้ง 5 มารับฟังคำสั่งคดี ให้สั่งฟ้องคดีทั้ง 5 คน ในฐานความผิดตาม พ.ร.บ.โบราณสถานและ พ.ร.บ.ป่าไม้ ซึ่งทั้ง 5 คนมาตามนัดและรับทราบการฟ้องคดี ซึ่งได้นำตัวส่งศาลจังหวัดสงขลา ดำเนินการฟ้องแล้ว
ประกอบด้วย นายชาญชญา หรือ นายกแป๊ก อดีตนายกเทศมนตรีเมืองสิงหนคร หลายสมัย นางณัฏฐ์ณรัน หรือเจ๊อ้อย ภรรยานายชาญชญาและคนงานอีก 2 คน เป็นผู้ต้องหา ซึ่งนางณัฏฐ์ณรัน เป็นพี่สาว นายเดชอิศม์ รองหัวหน้าพรรคประชาธิปัตย์ และ ส.ส.สงขลา พรรคประชาธิปัตย์ ส่วน 2 คดีก่อนหน้า คือ คดีการบุกรุกเขาแดง ที่มีนายสมบัติ คหบดีในจังหวัดสงขลา พร้อมพวกรวม 3 คนเป็นผู้ต้องหา และคดีบุกรุกเขาน้อย ที่มีนางสาวจันทิมา บุตรสาว และนางณัฐณรันต์ เป็นผู้ต้องหาพร้อมพวกรวม 2 คน มีการสั่งฟ้องคดีก่อนหน้านี้แล้ว
โดยทั้ง 3 คดี เป็นคดีที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญ นอกจากจะเป็นคดีที่บุกรุกสมบัติของแผ่นดินแล้ว ยังเชื่อมโยงกับกลุ่มอิทธิพลในพื้นที่ โดยได้ส่ง พลตำรวจเอกสุรเชษฐ์ หักพาล รอง ผบ.ตร. มาดูแลคดี ทำให้เร่งรัดคดีสืบสวนสอบสวนจนหลักฐานรัดกุม นำไปสู่การสั่งฟ้องคดี และหลังจากสั่งฟ้องครบทั้ง 3 คดีแล้ว จะนำส่งสำนวนที่ดำเนินการแล้วเสร็จ ส่งมอบให้ สำนักงาน ปปง. เพื่อยึดทรัพย์ตามมูลฐานความผิดฐานฟอกเงินต่อไป.-สำนักข่าวไทย