หนุ่มร้องทนายดัง ถูกชวนเทรดหุ้น 3 วัน สูญเงิน 3.5 ล้าน

นนทบุรี 14 มิ.ย. – หนุ่มชิปปิ้งเข้าขอความช่วยเหลือจาก “ทนายรณณรงค์” หลังถูกมิจฉาชีพหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้น เพียง 3 วัน หมดเงินไปกว่า 3.5 ล้านบาท


นายรณณรงค์ แก้วเพ็ชร์ ประธานเครือข่ายรณรงค์ทวงคืนความยุติธรรมในสังคม นำผู้เสียหายเป็นชายอายุ 48 ปี ชิปปิ้งดูแลเรือขุดเจาะน้ำมัน แถลงข่าวต่อสื่อมวลชน หลังถูกมิจฉาชีพทักเข้ามาใน TikTok แล้วชวนลงทุนเทรดหุ้น หมดเงินไป 3.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน

นายเอก เล่าว่า เมื่อวันที่ 3 มิ.ย.66 ที่ผ่านมา มีคนทักเข้ามาใน TikTok ของตน เนื่องจากเห็นว่าตนมีผู้ติดตามจำนวนมาก และชวนให้ตนถ่ายคลิปให้ โดยจะให้คลิปละ 15 บาท ตนจึงลองส่งคลิปไปให้ดู 3 คลิป ก็ได้เงินตอบแทนกลับมาจริงๆ ต่อมามิจฉาชีพชวนให้ตนลงทุน ซึ่งจะได้กำไรมากกว่าทำคลิป โดยลงทุนครั้งแรก 100 บาท จะได้คืน 130 บาท ถ้าลงทุน 200 บาท ก็จะได้ 260 บาท ก่อนจะแนะนำให้ตนสมัครลิงก์ในโปรแกรมของมิจฉาชีพ เป็นเงิน 500 บาท เพื่อเป็นแพลตฟอร์มในการโอนเงินผ่านระบบลิงก์


จากนั้นมิจฉาชีพได้ชักชวนให้ตนลงทุนเทรดหุ้น โดยจะได้ผลตอบแทนถึง 60% ตนจึงลงไปก่อน ครั้งแรก 5,900 บาท ก็ได้กำไรกลับมาอยู่ในบัญชีจริง จึงลงทุนเพิ่มไปอีกเป็นครั้งที่ 2 จำนวน 19,000 บาท และครั้งที่ 3 จำนวน 250,000 บาท

ต่อมาทางมิจฉาชีพอ้างว่า ตนเองทำผิดขั้นตอน ระเบียบ รวมทั้งต้องเสียค่าภาษี ค่าธรรมเนียม ไม่สามารถถอนเงินออกไปได้ และให้ตนโอนเงินเข้าไปอีกหลายครั้ง โดยโอนในวันที่ 4 มิ.ย.66 จำนวน 490,000 บาท ทางมิจฉาชีพก็อ้างว่ายังไม่สามารถถอนเงินออกจากบัญชีได้ เพราะตนยังทำผิดระเบียบขั้นตอน

จนกระทั่งวันที่ 7 มิ.ย.ที่ผ่านมา ตนได้โอนเงินให้กับกลุ่มมิจฉาชีพที่หลอกชวนเล่นเทรดหุ้นอีกหลายครั้ง จนยอดเงินอยู่ที่ 3.5 ล้านบาท ในเวลาเพียงแค่ 3 วัน ซึ่งตนพยายามจะขอเงินต้นคืน แต่ทางมิจฉาชีพอ้างว่ายังไม่สามารถถอนได้ เพราะต้องรอเสียภาษีและค่าธรรมเนียม รวมทั้งพยายามโน้มน้าวให้ตนโอนเงินเข้าไปอีก จนรู้สึกเอะใจว่าน่าจะถูกหลอกแน่ จึงเดินทางมาร้องเรียนกับทนายรณณรงค์ เพื่อขอให้ช่วยเหลือ


เจ้าตัวยอมรับว่า ตอนนี้เครียดมาก เคยคิดอยากจะฆ่าตัวตาย แต่ก็นึกถึงคนที่อยู่ข้างหลัง จึงไม่กล้าทำ และคงต้องทำงานหาเงินใช้หนี้ที่หยิบยืมมา และเงินส่วนตัวที่เก็บไว้ก็หมดไปในครั้งนี้

ด้านทนายรณณรงค์ กล่าวว่า การที่จะได้เงินคืนหรือไม่นั้น ขึ้นอยู่กับว่าคนร้ายอยู่ที่ไหน ถ้าอยู่ในประเทศไทยก็สามารถดำเนินคดีได้ทั้งหมด แต่ถ้าคนร้ายอยู่ต่างประเทศ ต้องรอเดินทางกลับมาเมืองไทยก่อน หรือทางตำรวจมีการประสานนำตัวคนร้ายกลับมา แต่ส่วนใหญ่จะจบที่บัญชีม้า เพราะดำเนินคดีง่ายกว่า อยากฝากเตือนการชักชวนทางออนไลน์เรื่องเล่นเทรดหุ้น ต้องดูว่ามีตัวตนจริงไหม ประกอบธุรกิจจริงหรือไม่ การจะลงทุนหลายหมื่นหลายล้าน คงต้องตรวจสอบ อะไรก็ตามที่ง่าย โอนเงินผ่านมือถือ ผ่านบัญชีธนาคาร มันคือการเสี่ยงภัยที่เราต้องรับผิดชอบให้ได้ เพราะธนาคารจะไม่คืนเงิน และเราต้องรับผิดชอบเอง. – สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

คนขับแท็กซี่ตายคารถ กว่าจะรู้ผ่านไปหลายชม.

รถแท็กซี่จอดอยู่ป้ายรถเมล์ตั้งแต่เที่ยงจนถึงเย็น มีผู้โดยสารขึ้นรถ แล้วก็ลงมา แถมถูกบีบแตรไล่ จนพ่อค้าขายข้าวโพดต้มเข้าไปเรียกพบคนขับนอนคอพับเสียชีวิต

ถอนตัวWHO

“ทรัมป์” ลงนามในคำสั่งให้สหรัฐถอนตัวจากการเป็นสมาชิกอนามัยโลก

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐกล่าววานนี้ว่า สหรัฐจะออกจากการเป็นสมาชิกองค์การอนามัยโลก โดยเขาระบุว่า องค์การอนามัยโลกดำเนินการผิดพลาดในการรับมือกับโรคโควิด-19

พิตบูลขย้ำหัวพระ

“อเมริกันบูลลี่” ขย้ำหัวพระ-กัดข้อมือหาย มรณภาพคากุฏิ

สลด! หลวงพี่ เลขาเจ้าอาวาสวัด เลี้ยงอเมริกันบูลลี่ไว้ตั้งแต่เป็นลูกสุนัข ผ่านไปปีกว่า ถูกขย้ำหัวมรณภาพคากุฏิ ข้อมือขาดหายไป ยังหาไม่พบ

ข่าวแนะนำ

นายกฯหารือบริษัทยา

นายกฯ ถกบริษัทยา Astrazeneca พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทย

บริษัทยาระดับโลก Astrazeneca หารือ นายกฯ ยืนยันไทยยังเป็นพันธมิตรที่ดีมายาวนาน พร้อมร่วมมือด้านวิจัยและพัฒนาในไทยอย่างต่อเนื่อง ขณะที่ นายกฯ มั่นใจการแพทย์ของไทยติดระดับในโลก ยืนยันหลายประเทศทั่วโลกบินมารักษาในประเทศไทยจำนวนมาก

ค่าฝุ่นเกินมาตรฐาน

ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค.

กรมควบคุมมลพิษ เผยวันนี้ค่าฝุ่น PM2.5 เกินมาตรฐาน 60 จังหวัด สูงต่อเนื่องถึง 27 ม.ค. ประสานทุกหน่วยงานยกระดับการแก้ไขปัญหา พร้อมเตือนประชาชนเฝ้าระวังสุขภาพและปฏิบัติตามคำแนะนำของกระทรวงสาธารณสุข

หวยอลวน12ล้าน

หวย 12 ล้านพาวุ่น “ผู้กองเข้ม” แจ้งความ “ยายแหล่”

หวยอลวนมาอีกแล้ว หลังยายแหล่ แม่ค้าร้านลาบก้อย ที่เพิ่งถูกสลากฯ เป็นเศรษฐีใหม่ 12 ล้านบาท แต่มีตำรวจรายหนึ่ง ไปแจ้งความ ว่าถูกยายแหล่ ยักยอกทรัพย์

แอปฯ “ล่าเหรียญ” ฟีเวอร์ ทำชาวบ้านเดือดร้อน

แอปพลิเคชัน “Jagat” ฟีเวอร์ ทำวัยรุ่นว้าวุ่น แห่ล่าเหรียญแลกเงินที่กระจายอยู่ตามสถานที่ต่างๆ ทำชาวบ้านและผู้ประกอบการเดือดร้อน ตำรวจเตือนการแชร์พิกัดตำแหน่งอาจเป็นช่องทางให้มิจฉาชีพเฝ้าติดตามและฉวยโอกาสขโมยทรัพย์สินได้ และอาจเสี่ยงเจอข้อหาบุกรุก