ราชบุรี 14 ก.พ. – “สะแล” ไม้เถาวัลย์เลื้อยที่หายาก ส่วนใหญ่ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ ทางภาคเหนือนิยมกินกันมาก ออกลูกปีละครั้งในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือน พ.ย.-ก.พ. ด้วยความที่หายากทำให้ราคาแพงถึงกิโลละ 300 บาท
“สะแล” เป็นไม้เถาวัลย์เลื้อยที่หายาก ปลูกยาก ส่วนใหญ่ขึ้นตามป่าเบญจพรรณ มีมากทางภาคเหนือของไทย ออกดอกออกผลแค่ปีละครั้ง ในช่วงฤดูหนาวตั้งแต่เดือนพฤศจิกายนถึงกุมภาพันธ์ เช่น ต้นที่อยู่ที่ร้านอาหาร “กิ๋นลำ” ที่ อ.จอมบึง จ.ราชบุรี ของ ผศ.ว่าที่ ร.ต.ดร.วสันต์ นาคเสนีย์ มหาวิทยาลัยราชภัฎหมู่บ้านจอมบึง จ.ราชบุรี ที่ย้ายครอบครัวมาจากภาคเหนือและนำต้นสะแลมาปลูกไว้แค่ต้นเดียวข้างบ้านเมื่อ 3 ปีก่อน ปีนี้ได้ออกดอก ออกลูกเป็นปีแรกดกเต็มต้น
ดร.ทัศนีย์ นาคเสนีย์ เจ้าของร้านกิ๋นลำอาหารเหนือ เปิดเผยว่า สะแลเป็นภาษาเหนือ ส่วนทางภาคใต้เรียก ต้นชงแดง ต้นสะแลทางภาคเหนือถือเป็นผักพื้นบ้านที่หากินยาก มีสารต้านอนุมูลอิสระ สารต้านมะเร็ง จึงมีประโยชน์มาก
ด้านนางปิยะนันท์ เทพหาร อายุ 66 ปี แม่ของ ดร.ทัศนีย์ เล่าถึงกรรมวิธีนำลูกสะแลมาทำเป็นแกงส้ม หรือจะนึ่งกินกับน้ำพริกก็อร่อย ลักษณะลำต้นคล้ายเถาวัลย์เลื่อยยาว เด็ดเอาลูกและดอกมาแกงส้ม บางร้านขายสะแลเป็นห่อ หรือเป็นจานแบ่งขาย จานละ 50 บาท หรือกิโลกรัมละ 300 บาท ช่วงนี้ยังพอหาเก็บลูกสะแลมาแกงได้ แต่หากเลยเดือนกุมภาพันธ์ไปแล้วจะต้องรอชิมปีหน้า แต่ที่ร้านยังมีหลายเมนูแนะนำ ทั้งแกงฮังเล ไส้อั่ว ข้าวซอย ขนมจีนน้ำเงี้ยว ลาบเหนือ ลาบหมูคั่ว และผักปลอดสารที่ปลูกเองที่บ้าน. -สำนักข่าวไทย