คาร์บอมบ์สนั่นด่านเมียวดี เสียงระเบิดดังไกลถึงแม่สอด

แม่สอด 16 ต.ค. – ระทึกกลางดึก! เกิดเหตุคาร์บอมบ์บริเวณด่านพรมแดนถาวรจังหวัดเมียวดี ของเมียนมา ติดสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เสียงระเบิดดังสนั่นถึงด่านพรมแดนถาวรแม่สอด จ.ตาก ก่อนเกิดการยิงปะทะของกองกำลังไม่ทราบฝ่าย ฝั่งไทยตรึงกำลังรักษาความปลอดภัยชายแดน


ภาพจากกล้องวงจรปิดจะเห็นเหตุการณ์ขณะเกิดคาร์บอมบ์บริเวณข้างที่ทำการด่านพรมแดนถาวร จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา ติดกับเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 ตรงข้ามด่านพรมแดนถาวร อ.แม่สอด จ.ตาก เมื่อเวลา 19.30 น. วานนี้ (15 ต.ค.) โดยกลุ่มกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่ายนำระเบิดแสวงเครื่องติดตั้งในรถยนต์ เสียงระเบิดดังอย่างรุนแรง 1 ครั้ง ก่อนมีไฟลุกท่วม กลุ่มควันไฟลอยไปทั่วท้องฟ้าทั้งฝั่ง จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา และชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก

หลังจากนั้นไม่กี่นาทีเกิดระเบิดอีกเป็นครั้งที่ 2 คาดว่าเป็นระเบิดแสวงเครื่องถูกวางไว้บริเวณสำนักงานราชการ จ.เมียวดี ใกล้กับตลาดบุเรงนอง ห่างจากระเบิดจุดแรกประมาณ 1 กิโลเมตร และมีเสียงปืนเล็กยิงปะทะกันระหว่างกองกำลังทหารเมียนมากับกองกำลังติดอาวุธไม่ทราบฝ่าย นานกว่า 5 นาที ท่ามกลางความโกลาหลไปทั่วพื้นที่ จ.เมียวดี ชาวบ้านต่างรีบหาที่หลบภัย ปิดไฟในบ้านเรือน บนถนนเต็มไปด้วยทหารเมียนมาและทหารกองกำลังพิทักษ์ชายแดนเมียนมา วางกำลังอย่างเข้มงวด เพื่อป้องกันเหตุซ้ำซ้อน สถานการณ์เป็นไปด้วยความตรึงเครียด


ขณะที่ฝั่งชายแดน อ.แม่สอด จ.ตาก เจ้าหน้าที่ด้านความมั่นคงทุกฝ่าย ทั้งทหาร ตำรวจ ฝ่ายปกครอง ตรึงกำลังในจุดเสี่ยงและล่อแหลม โดยเฉพาะท่าข้ามธรรมชาติ ริมแม่น้ำเมย

ด้านชาวบ้านหมู่บ้านริมเมย ที่มีบ้านติดแนวชายแดนตรงข้ามกับด่านเมียวดี เล่าว่า ขณะเกิดเหตุตนเองกับครอบครัวกำลังนั่งพักผ่อนติดด่านพรมแดนถาวรแม่สอด ทันใดนั้นมีเสียงระเบิดดังสนั่นขึ้น 1 ครั้ง จนกระจกทั้งบ้านสั่น จากนั้นที่ด่านเมียวดี ฝั่งเมียนมา ก็เกิดกลุ่มควันไฟลอยเต็มท้องฟ้า ตามมาด้วยเสียงปืนเล็กอีกหลายนัด และเสียงระเบิดดังขึ้นอีก 1 ครั้ง ห่างจากจุดแรกไปไม่ไกลมาก ตกใจและต้องเตรียมความพร้อมอยู่ตลอดเวลา เนื่องจากสถานการณ์ไม่ค่อยน่าไว้วางใจ

ขณะที่เจ้าหน้าที่ฝ่ายความมั่นคงสรุปเหตุการณ์เบื้องต้น การคาร์บอมบ์ด่านพรมแดน จ.เมียวดี ประเทศเมียนมา เกิดขึ้น 2 จุด จุดแรกบริเวณด่านพรมแดนถาวร จ.เมียวดี และจุดที่ 2 บริเวณที่ทำการส่วนราชการใกล้กับตลาดบุเรงนอง ตรงข้ามด่านพรมแดน อ.แม่สอด จ.ตาก ขณะนี้ยังไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต และยังไม่มีกลุ่มใดอ้างในการก่อเหตุครั้งนี้ สันนิฐานว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุน่าจะเป็นกลุ่มต่อต้านทหารเมียนมา ที่มีการยิงปะทะในพื้นที่ชายแดนมาอย่างต่อเนื่องนานนับปีแล้ว


เหตุการณ์คาร์บอมบ์ด่านพรมแดนถาวรเมียวดี เกิดขึ้นมาแล้ว 2 ครั้ง ครั้งแรกเมื่อเดือนเมษายนที่ผ่านมา และเกิดซ้ำในครั้งนี้ ซึ่งระเบิดทั้ง 2 ครั้งสร้างความเสียหายด้านเศรษฐกิจ เนื่องจากเหตุเกิดบริเวณด่านพรมแดนถาวรเมียวดี ซึ่งเป็นย่านการค้าชายแดนที่สำคัญ และมักเกิดเหตุรุนแรง ช่วงที่มีข่าวลือว่าสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 จะเปิดด่านพรมแดนอีกครั้ง หลังปิดมานานหลายปีจากโควิด และต้องเลื่อนการเปิดต่อไปอีก หลังเกิดระเบิดและความไม่สงบในพื้นที่ชายแดนไทย-เมียนมาขึ้นระลอกล่าสุด

ส่วนบรรยากาศบริเวณสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เช้านี้เป็นไปอย่างเงียบเหงา ชาวเมียนมาส่วนใหญ่ยังเก็บตัวอยู่ในบ้าน บนถนนพบเจ้าหน้าที่ทหารเมียนมา ตำรวจ และชุดเก็บกู้วัตถุระเบิด ปิดกั้นพื้นที่รอบเชิงสะพานมิตรภาพไทย-เมียนมาแห่งที่ 1 เพื่อเข้าไปตรวจสอบความปลอดภัย

เบื้องต้นจุดที่เกิดคาร์บอมบ์มีรถยนต์และรถจักรยานยนต์ของชาวบ้านถูกแรงระเบิดจนเกิดเพลิงไหม้เสียหายกว่า 10 คัน บ้านเรือนประชาชนในพื้นที่ได้รับความเสียหายหลายหลัง ที่ทำการด่านพรมแดนถาวรเมียวดีถูกแรงระเบิดพังเสียหายยับเยิน โชคดีไม่มีใครได้รับบาดเจ็บหรือเสียชีวิต คาดว่ากลุ่มผู้ก่อเหตุต้องการสร้างสถานการณ์ความรุนแรง แต่ไม่ต้องการให้ประชาชนได้รับบาดเจ็บ และเน้นสร้างความไม่สงบในพื้นที่ชายแดน มุ่งโจมตีเฉพาะเจ้าหน้าที่รัฐบาล

ส่วนจุดระเบิดที่ 2 ย่านตลาดบุเรงนอง ย่านเศรษฐกิจการค้าสำคัญ ร้านค้าหลายร้านเสียหายอย่างหนัก เจ้าหน้าที่ทางการเมียนมายังคงปิดพื้นที่เกิดเหตุทั้ง 2 จุด เพื่อเข้าเก็บวัตถุพยานหลักฐาน ท่ามกลางการวางกำลังทหารรักษาความปลอดภัยรอบพื้นที่ด่านพรมแดนเมียวดีอย่างเข้มงวด

ส่วนบรรยากาศฝั่งด่านพรมแดนถารแม่สอด จ.ตาก ชาวบ้านร้านค้าที่ด่านพรมแดนถาวรแม่สอดแห่งที่ 1 ยังคงเปิดค้าขายตามปกติ แต่บรรยากาศเงียบเหงามาก

ชาวบ้านเล่าว่า เมื่อคืนมีเสียงระเบิดดังมาก จนบ้านสั่นสะเทือน เห็นกลุ่มควันไฟลอยขึ้นเต็มท้องฟ้า รู้สึกหวาดกลัวมาก ซึ่งระเบิดคาร์บอมบ์ในครั้งที่ 2 นี้ทำให้การค้าขายเงียบลงไปอีก.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากทุกตำแหน่ง

15 พ.ค.- เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามถอดถอน “เจ้าคุณแย้ม” จากหน้าที่ทุกตำแหน่ง เหตุถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา สมเด็จพระมหารัชมงคลมุนี เจ้าคณะใหญ่หนกลาง ลงนามในหนังสือ คำสั่งถอดถอนพระสังมาธิการ พระธรรมวชิรานุวัตร พักจากตำแหน่งหน้าที่ทุกตำแหน่ง ทั้งเจ้าคณะภาค 14 และ เจ้าอาวาสวัดไร่ชิงพระอารามหลวง หลังจากทราบเรื่องว่าถูกดำเนินคดีในความผิดเกี่ยวข้องกับคดีอาญา จึงได้อาศัยอำนาจตามความในข้อ 56 แห่งกฎมหาเถรสมาคม ฉบับที่ 24 (พ.ศ. 2553) ว่าด้วยการแต่งตั้งถอดถอนพระสังมาธิการ ออกตามความในพระราชบัญญัติคุณะสูงณ์ พ.ศ. 2505 แก้ไขเพิ่มเดิมโดยพระราชบัญญัติคณะสงน์ (ฉบับที่ 2) พ.ศ. 2535 ให้เหตุผลว่า ถ้าจะให้คงอยู่ในตำแหน่งหน้าที่ในระหว่างการสอบสวนจะเป็นการเสียหายแก่การคณะสงฆ์ .-สำนักข่าวไทย

เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมสึก คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี

15 พ.ค.- เจ้าอาวาสวัดไร่ขิงยอมลาสิกขาด้วยตัวเอง หลังถูกเค้นสอบนานกว่า 8 ชม. เบื้องต้นยอมให้การแล้ว คำให้การเป็นประโยชน์ต่อรูปคดี ช่วงหนึ่งของการสอบปากคำ เจ้าหน้าที่ตำรวจได้อุ้มพระพุทธรูป ปางสมาธิองค์สีดำ ถือเข้าไปไปยังห้องสอบสวนที่สอบปากคำพระธรรมวชิรานุวัตร (แย้ม กิตฺตินฺธโร) เจ้าอาวาสวัดไร่ขิง จังหวัดนครปฐม เจ้าคณะภาค 14 สังเกตพบว่ามีการนำพระพุทธรูปวางไว้บนโต๊ะบริเวณด้านหน้าของ พระธรรมวชิรานุวัตร โดยมีรายงานจากเจ้าหน้าที่ว่า พระธรรมวชิรานุวัตร ยอมทำพิธีลาสิกขาบทด้วยตัวเอง แต่ยังไม่เริ่มพิธีเนื่องจากรอชุดเสื้อผ้าเปลี่ยนหลังทำพิธีลาสิกขาบทแล้วเสร็จ ส่วนการสอบปากคำ เบื้องต้นทางพระธรรมวชิรานุวัตร ยอมให้การกับพนักงานสอบสวนแล้ว และให้การไปในทิศทางที่ดี ซึ่งปรากฏว่าทางพระธรรมวชิรานุวัตร ได้โอนเงินไปให้กับผู้ต้องหาที่ 2 เป็นจำนวนเงินหลักร้อยล้านบาท ในช่วงปี 2564 ซึ่งข้อมูลนี้เจ้าหน้าที่อยู่ระหว่างการสอบปากคำหาข้อเท็จจริง ว่ามีการทำธุรกรรมด้วยสาเหตุใด แต่พบบางส่วนเข้าไปพัวพันกับเว็บการพนัน .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

2 ผู้ต้องหามอบตัว คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์ม

ตรัง 16 พ.ค. – หัวหน้าแก๊ง พร้อมลูกน้องอีก 1 คน ก่อเหตุเผานั่งยาง 3 ศพในสวนปาล์มน้ำมัน จ.ตรัง ติดต่อขอมอบตัว หวั่นถูกวิสามัญ หลังเจ้าหน้าที่ระดมกำลังไล่ล่า เช้านี้ ตำรวจ สภ.โคกนา เจ้าของพื้นที่คดีเผานั่งยาง 3 ศพ ในสวนปาล์มน้ำมัน อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ได้รับการประสานจากอดีตสมาชิกสภาจังหวัด ในพื้นที่อำเภอสิเกาว่า จะนำตัว 2 ผู้ต้องหาเข้ามอบตัว คือ นายศุภกรณ์ หรือบิน อายุ 37 ปี ชาวตำบลกะลาเส อำเภอสิเกา จังหวัดตรัง ซึ่งเป็นหัวหน้าแก๊ง และนายจรณชัย หรือแต้ม อายุ 32 ปี ชาวหมู่ 7 ตำบลน้ำผุด อำเภอเมือง จังหวัดตรัง เนื่องจากผู้ต้องหาทั้งสองคน กังวลเรื่องความปลอดภัย หากหลบหนีต่อไป เกรงถูกวิสามัญฆาตกรรม หลังเจ้าหน้าที่และชาวบ้าน ระดมปิดล้อมบ้านเขาหลัก […]

นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน

เวียดนาม 16 พ.ค.-นายกฯ ร่วมพิธีวางพวงมาลาอนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน รวมทั้งสุสานโฮจิมินห์ เน้นย้ำไทยให้ความสำคัญประวัติศาสตร์และมิตรภาพกับเวียดนาม นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ อนุสาวรีย์วีรชนและผู้เสียสละบั๊กเซิน ซึ่งเป็นอนุสรณ์สถานสำคัญที่สร้างขึ้นเพื่อรำลึกถึงวีรกรรมของนักปฏิวัติผู้เสียสละชีวิต เมื่อปี ค.ศ. 1940 ซึ่งนับเป็นจุดเริ่มต้นสำคัญของขบวนการต่อสู้ของเวียดนามภายใต้การนำของอดีตประธานาธิบดีโฮจิมินห์ โดยตั้งอยู่บนถนนบั๊กเซิน (Bạch Sơn Street) ในพื้นที่ใกล้กับจัตุรัสบาดิ่งห์ โดยออกแบบในสไตล์ศิลปะสังคมนิยม ที่ประกอบด้วยกลุ่มรูปปั้นนักรบปฏิวัติ แสดงถึงความกล้าหาญและความสามัคคีของนักต่อสู้เพื่อเอกราชของเวียดนาม หลังจากนั้น นายกรัฐมนตรีเดินทางต่อไปยังสุสานโฮจิมินห์ ตั้งอยู่ที่จัตุรัสบาดิ่งห์ สถานที่ซึ่งอดีตผู้นำโฮจิมินห์เคยอ่านคำประกาศเอกราชของเวียดนามในปี ค.ศ.1945 ออกแบบด้วยสถาปัตยกรรมทรงอนุสรณ์สถาน โดยใช้หินอ่อนและหินแกรนิตคุณภาพสูง ผสมผสานระหว่างศิลปะสังคมนิยม กับเอกลักษณ์เวียดนาม โดยโฮจิมินห์เป็นบุคคลสำคัญของเวียดนาม ผู้ได้รับการยกย่องในฐานะ “บิดาแห่งชาติ” ที่นำพาประเทศสู่การประกาศเอกราช และเป็นผู้ประกาศก่อตั้งสาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ทั้งนี้ การเข้าร่วมพิธีวางพวงมาลา ณ สถานที่สำคัญของเวียดนามครั้งนี้ แสดงถึงความสัมพันธ์อันดีระหว่างประเทศไทยและเวียดนาม ตลอดจนการให้ความสำคัญต่อประวัติศาสตร์และการเมืองของประเทศพันธมิตรที่สำคัญของไทยอย่างเวียดนาม จากนั้น เวลา 10.00 น. นายกรัฐมนตรีและคณะจะเข้าร่วมประชุมหารือทวิภาคีกลุ่มเล็ก กับนายกรัฐมนตรี สาธารณรัฐสังคมนิยมเวียดนาม ณ ทำเนียบรัฐบาล.-314.-สำนักข่าวไทย

“เปรมชัย” นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัว กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม

กทม. 16 พ.ค.-“เปรมชัย” ผู้บริหารบริษัทอิตาเลียนไทย นั่งวีลแชร์ เข้ามอบตัวพนักงานสอบสวน สน.บางซื่อ กรณีตึกกำลังสร้าง สตง. ถล่ม ด้านวิศวกร ผู้ออกแบบและควบคุมการก่อสร้าง ทยอยเข้ามอบตัวเช่นกัน เวลา 08.00 น. นายเปรมชัย กรรณสูต ประธานบริหารและกรรมการผู้จัดการบริษัท อิตาเลียนไทย ดีเวล๊อปเมนต์ จำกัด (มหาชน) ผู้ประมูลโครงการก่อสร้างหลัก อาคาร สตง.แห่งใหม่ ซึ่งพังถล่มเมื่อวันที่ 28 มีนาคม จากเหตุการณ์แผ่นดินไหว และตกเป็นผู้ต้องหาตามหมายจับของศาลอาญา ฐาน “เป็นผู้มีวิชาชีพในการออกแบบ ควบคุม หรือทำการก่อสร้าง ซ่อมแซมหรือรื้อถอนอาคารหรือสิ่งปลูกสร้างใดๆ ไม่ปฏิบัติตามหลักเกณฑ์ หรือวิธีการอันพึงกระทำการนั้นๆ โดยประการที่น่าจะเป็นเหตุให้เกิดอันตรายแก่บุคคลอื่น เป็นเหตุให้บุคคลอื่นถึงแก่ความตาย” อันเป็นความผิดตามประมวลกฎหมายอาญามาตรา 227 , 238 นายเปรมชัย นั่งวีลแชร์ มีพยาบาลส่วนตัวประกบ เดินทางมาที่ สน.บางซื่อ พร้อมทนายความและญาติ เพื่อเข้ามอบตัวกับพนักงานสอบสวน นอกจากนี้ยังมีกลุ่มผู้บริหารบริษัทกิจการร่วมค้า รวมถึงกลุ่มวิศวกร อีก 13 […]

“บิ๊กเต่า” นำค้นวัดไร่ขิง 3 จุด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด

นครปฐม 16 พ.ค.-“บิ๊กเต่า” นำกำลังตำรวจกองปราบบุกค้นวัดไร่ขิง 3 จุด หาอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ เอี่ยวคดียักยอกเงินวัด 300 ล้าน พร้อมนำหมายค้นบ้านประชาชน 1 จุด ซึ่งเป็นเจ้าหน้าที่วัด เผยอดีตเจ้าคุณแย้มสารภาพไม่หมด เวลา 07.00 น. พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ปานแก้ว รองผู้บัญชาการตำรวจสอบสวนกลาง พร้อมด้วยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องทั้งสำนักงานป้องกันและปราบปรามการทุจริตและประพฤติมิชอบ หรือ ป.ป.ช. สำนักงานคณะกรรมการป้องกันและปราบปรามการทุจริตในภาครัฐ หรือ ป.ป.ท. ตรวจค้นภายในวัดไร่ขิงพระอารามหลวง มีทั้งหมด 3 จุด และบริเวณโดยรอบอีก 1 จุด ซึ่งจุดแรกในวัดไร่ขิงคือกุฏิของพระธรรมวชิรานุวัตร หรือเจ้าคุณแย้ม อดีตเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงและเจ้าคณะภาค 14 โดยมีผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดไร่ขิงเป็นผู้ที่นำเจ้าหน้าที่เข้าตรวจค้นภายในกุฎิ พร้อมสังเกตการณ์ ทันทีที่เจ้าหน้าที่ชุดปฏิบัติการถึงบริเวณหน้ากุฎิเจ้าอาวาส ได้ให้ตำรวจอ่านหมายค้น เพื่อเข้าตรวจสอบและยึดสิ่งของอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ในการกระทำความผิด ทั้งอุปกรณ์คอมพิวเตอร์ โทรศัพท์มือถือและเอกสารที่เกี่ยวข้อง เพื่อนำไปใช้ประกอบหลักฐานการสอบสวนไต่สวนมูลฟ้องในการพิจารณาความผิด ขณะที่พลตำรวจตรีจรูญเกียรติ ได้ให้สัมภาษณ์ภายหลังจากการอ่านหมายค้น ว่า วันนี้เป็นการตรวจค้นเกี่ยวกับเส้นเงินที่ไหลไปตามบัญชีต่างๆ มีใครเกี่ยวข้องบ้าง ต้องมีการเรียกสอบรายบุคคลพร้อมกับการตรวจค้น โดยหลักๆ ส่วนใหญ่ที่เกี่ยวข้องกับเส้นเงินที่เกี่ยวข้องกับเว็บพนันออนไลน์ โดยมุ่งเน้นไปยังอุปกรณ์อิเล็กทรอนิกส์ […]