ชาวดอยม่อนแจ่ม เดินหน้าขอความเป็นธรรม ย้ำไม่ใช่นอมินีใคร

เชียงใหม่ 5 ก.ย. – ชาวบ้านม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ เตรียมยื่นขอความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้ยังยืนยันต้องรื้อรีสอร์ต 5 แห่ง ที่อ้างว่าผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ทั้งการขยายพื้นที่รุกป่าและซื้อขายเปลี่ยนมือให้นายทุน ชาวบ้านย้ำไม่ใช่นอมินีใคร

ตั้งแต่เช้าตรู่ ชาวบ้านบนดอยม่อนแจ่ม เดินเท้าลงจากดอย เคลื่อนขบวนมายังหน้าศูนย์พัฒนาโครงการหลวงหนองหอย เพื่อเคลื่อนไหวขอความเป็นธรรม หลังเจ้าหน้าที่ป่าไม้พยายามเข้ารื้อที่พักและรีสอร์ตของชาวบ้าน 5 แห่ง เมื่อ 29 สิงหาคมที่ผ่านมา โดยระบุว่า กระทำผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ ทั้งการขยายพื้นที่รุกป่าและซื้อขายเปลี่ยนมือให้นายทุน แต่ชาวบ้านวอนขอให้ศาลเป็นผู้ตัดสิน และโต้แย้งข้อมูลในการตรวจสอบของเจ้าหน้าที่ไม่ถูกต้อง เพราะยึดเอาแผนที่แปลงที่ดินของโครงการหลวง ซึ่งสำรวจเพื่อใช้ในการขอมาตรฐานเกษตรปลอดภัย ซึ่งมีข้อผิดพลาด โดยเฉพาะรายชื่อผู้ครอบครองที่ดิน จึงออกมาเรียกร้องความเป็นธรรม และเรียกร้องให้รัฐพิสูจน์สิทธิ์การครอบครองที่ดินของชาวบ้าน โดยใช้แผนที่ทางอากาศ รวมทั้งหลักฐานที่มีความน่าเชื่อถือ ยืนยันชาวบ้านอยู่อาศัยอยู่บนดอยแห่งนี้ก่อนจะประกาศ พ.ร.บ.ป่าไม้และประกาศเป็นเขตป่าสงวนแห่งชาติ ชาวบ้านต้องการเดินทางไปทวงถามความยุติธรรมที่ศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ เพื่อติดตามความคืบหน้าการถวายฎีกาของชาวบ้าน

หลังปราศรัยชี้แจง ชาวบ้านม่อนแจ่มต่างแยกย้ายกันขึ้นรถ เดินทางไปยังศาลากลางจังหวัดเชียงใหม่ ทวงถามการขอความเป็นธรรม และในช่วงเย็นจะส่งตัวแทนเข้ากรุงเทพฯ เพื่อถวายฎีกา

สำหรับปัญหารีสอร์ตบนดอยแม่นแจ่ม เจ้าหน้าที่เริ่มดำเนินการตรวจสอบในช่วง 4-5 ปีมานี้ หลังมีที่พักรีสอร์ตขยายตัวเพิ่มขึ้น โดยได้รื้อรีสอร์ตของนายทุนที่อยู่รอบม่อนแจ่มไปแล้ว 5 แห่ง พร้อมดำเนินเนินคดีกับที่พักของชาวบ้าน 122 ราย ในจำนวนนี่เป็นความผิด พ.ร.บ. ควบคุมอาคาร และ พ.ร.บ.โรงแรม 86 ราย และผิด พ.ร.บ.ป่าไม้ 36 ราย ทั้งขยายพื้นที่และซื้อขายเปลี่ยนมือ ซึ่งยังอยู่ในการพิจารณาของศาล แต่เจ้าหน้าที่ป่าไม้ดำเนินการตามกฎหมายทางการปกครอง ตามมาตรตรา 25 ของ พ.ร.บ.ป่าไม้ จนเกิดความขัดแย้งขึ้น

ขณะที่สำนักงานคณะกรรมการสิทธิมนุษยชนแห่งชาติ ทำหนังสือถึงผู้ว่าราชการจังหวัดเชียงใหม่ เมื่อ 31 สิงหาคมที่ผ่านมา เพื่อขอให้ชะลอการรื้อถอนที่พักรีสอร์ตของชาวบ้านม่อนแจ่มไปก่อน เพื่อป้องกันความขัดแย้ง จนกว่าคณะทำงานจะตรวจสอบการใช้ที่ดินที่เป็นข้อพิพาทการให้ชัดเจนก่อน. – สำนักข่าวไทย