เชียงใหม่ 2 ม.ค. – นักท่องเที่ยวหลั่งไหลขึ้นดอยม่อนแจ่ม จ.เชียงใหม่ ที่พักเต็มจนถึงวันที่ 3 ม.ค.66 การจราจรขึ้นดอย ติดขัดยาวกว่า 1 กม. ด้านผู้ประกอบการบ้านพักดอยม่อนแจ่ม ถูกมิจฉาชีพสร้างเพจที่พักปลอมหลอกลวงลูกค้า เสียหายนับล้านบาท
ช่วงหยุดยาวในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทำให้นักท่องเที่ยวหลั่งไหลขึ้นมาสัมผัสอากาศหนาวในภาคเหนือ โดยเฉพาะดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ. เชียงใหม่ จนทำให้ทางขึ้นดอยบางช่วงรถติดขัดยาวกว่า 1 กิโลเมตร เคลื่อนตัวได้ช้า และรถบางคันเบรกไหม้ ต้องจอดข้างทาง ยิ่งทำให้การจราจรติดขัดมากขึ้น ส่วนที่พักบนดอยม่อนแจ่มมีการจองมาล่วงหน้าเต็มเกือบทุกแห่งไปจนถึงวันที่ 3 มกราคม 2566 ขณะที่แหล่งท่องเที่ยวเส้นทางขึ้นดอยม่อนแจ่มทั้งซิปไลน์และรถราง จังเกิลโคสเตอร์ นักท่องเที่ยวแน่นมาก จนยืนต่อคิวยาวทั้งวัน ทำให้บรรยากาศปีนี้สุดคึกคัก
ส่วนร้านอาหารตามเส้นทางแหล่งท่องเที่ยวติดลำน้ำแม่สา เส้นทางไปดอยม่อนแจ่มที่มีจำนวนมากไม่ต่ำกว่า 20 ร้านค้า มีนักท่องเที่ยวแวะพักรับประทานอาหารเต็มหมด บางร้านต้องนำแคร่ไม้ไผ่ มาตั้งริมน้ำเสริมให้นักท่องเที่ยวได้นั่งพักผ่อน ทำให้เงินสะพัดในกลุ่มผู้ประกอบการร้านอาหารและห้องพัก ในรอบ 2 ปีที่ผ่านมา จากสถานการณ์โควิด
ด้านผู้ประกอบการ ที่พักบนดอยม่อนแจ่ม อ.แม่ริม จ.เชียงใหม่ หลายราย ถูกมิจฉาชีพสร้างเพจที่พักปลอม หลอกลวงนักท่องเที่ยว รับจองห้องพักและเต็นท์ที่พักบนม่อนแจ่ม ในช่วงสิ้นปีเคาท์ดาวน์จนถึงปีใหม่ ซึ่งมีเจ้าของบ้านพัก ได้รับความเสียหายเบื้องต้น 5 แห่ง นอกจากนี้ ยังมีนักท่องเที่ยวที่ถูกหลอกกว่า 100 ราย มูลค่าความเสียหายโดยรวมนับล้านบาท
นายเอกรินทร์ นทีไพรวัลย์ ประธานกลุ่มวิสาหกิจชุมชนท่องเที่ยวเชิงเกษตรม่อนแจ่ม เล่าพฤติกรรมของกลุ่มมิจฉาชีพว่าได้ทำการปลอมแปลง เพจเฟซบุ๊กและไลน์ของที่พักหลายแห่งบนดอยม่อนแจ่ม โดยสร้างความน่าเชื่อถือให้แก่เพจเฟซบุ๊กที่ปลอมด้วยวิธีสร้างเพจปลอมให้เหมือนเพจจริงให้มากที่สุด นำข้อมูลที่พักและรูปที่พัก ไปโพสต์มีการโปรโมทเพจเฟซบุ๊ก โดยการใช้เงินโฆษณาเพิ่มผู้ติดตามให้ผู้เข้าถึงเพจได้จำนวนมาก และมีการทำงานเป็นทีม โดยใช้คนกลุ่มหนึ่งกดไลค์-แชร์เพจ คอมเมนต์โพสต์ และเขียนรีวิวเพจ
โดยพฤติกรรมดังกล่าว เป็นการฉกฉวยโอกาสช่วงหยุดยาว ที่มีนักท่องเที่ยวต้องการห้องพักจำนวนมาก นักท่องเที่ยวต่างหลงเชื่อ โอนเงินชำระค่าห้องพักเข้าบัญชีธนาคารกลุ่มมิจฉาชีพ ก่อให้เกิดความเสียหายกับที่พักและชื่อเสียงม่อนแจ่ม รวมถึงนักท่องเที่ยวด้วย
ทั้งนี้นายเอกรินทร์ ยังแนะนำวิธีสังเกตเพจจริงให้ดูจำนวนผู้ติดตามที่พักแต่ละแห่ง จะมีผู้ติดตามหลักหมื่นไปจนถึงหลักแสน ขณะที่เพจปลอมมีแค่หลักพันคน และใช้วิธีโทรศัพท์สอบถามจะปลอดภัยที่สุด เบื้องต้น ขณะนี้ได้ลงบันทึกประจำวันและแจ้งดำเนินคดีตาม พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฐานปลอมแปลงเพจเฟซบุ๊กไว้แล้ว.-สำนักข่าวไทย