ทร.ย้ำจีทูจีซื้อเรือดำน้ำถูกกฎหมาย

กองทัพเรือ 24 ส.ค.-กองทัพเรือยกทีมแถลงยันสัญญาซื้อเรือดำน้ำแบบจีทูจีถูกต้องตามกฎหมาย รัฐบาลจีนส่งผู้แทนร่วมลงนาม ย้ำ จำเป็นต้องมีปกป้องผลประโยชน์ชาติ ระบุ “ยุทธพงศ์” สร้างแตกแยก กองทัพเสียหาย เตรียมพิจารณาจะฟ้องหรือไม่


พล.ร.ท.ประชาชาติ ศิริสวัสดิ์ รองเสนาธิการทหารเรือ ในฐานะโฆษกกองทัพเรือ แถลงข่าวกรณีการจัดหาเรือดำน้ำเข้าประจำการในกองทัพเรือ ว่า หลังจากที่นายยุทธพงศ์ จรัสเสถียร ส.ส.มหาสารคาม พรรคเพื่อไทยเปิดเผยเรื่องเรือดำน้ำ สร้างความเสียหายต่อส่วนรวม สร้างความแตกแยก ก่อให้เกิดความเสียหายต่อกองทัพ การที่นายยุทธพงศ์ระบุว่าการซื้อแบบจีทูจีเป็นสัญญาเก๊นั้น น่าประหลาดใจ แต่ถ้าโครงการรับจำนำข้าวจึงจะเก๊ เพราะทำสัญญาจีทูจีไม่ถูกต้อง แต่กองทัพเรือทำสัญญาจีทูจีอย่างถูกต้องและโปร่งใส

“ขอสังคมอย่าตกเป็นเหยื่อทางการเมือง การหยิบยกว่าเรื่องใช้เงินจำนวนมาก 22,500 ล้านบาทไปจัดซื้อ เพราะไม่ได้จัดซื้อครั้งเดียวทั้งก้อน เป็นการทยอยจ่าย พล.ร.อ.ลือชัย รุดดิษฐ์ ผู้บัญชาการทหารเรือจึงมอบหมายทีมงานให้มาชี้แจงข้อเท็จจริง ส่วนการแก้ปัญหาความยากจนของประชาชน รัฐบาลมีงบประมาณในส่วนนี้อยู่แล้ว ในส่วนของกองทัพเรือก็เช่นกัน จึงต้องเดินหน้าต่อไปในการทำงาน ซึ่งเป็นโครงการต่อเนื่อง” โฆษกกองทัพเรือ กล่าว


ด้านพล.ร.อ.สิทธิพร มาศเกษม เสนาธิการทหารเรือ ชี้แจงว่าจากที่กองทัพเรือชี้แจงงบประมาณต่อคณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ และมีคณะอนุกรรมาธิการฯบางคนนำข้อมูลมาแถลง แต่เป็นข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ทำให้เกิดความเข้าใจคลาดเคลื่อน อาจเป็นการหวังผลทางการเมืองที่ต้องการให้เกิดผลกระทบต่อรัฐบาล จึงต้องนำข้อเท็จจริงมาชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจ ยืนยันว่ากองทัพเรือเล็งเห็นความสำคัญของเรือดำน้ำมาตลอด จึงได้จัดหาเรือดำน้ำตามแผนยุทธศาสตร์ป้องกันประเทศ แต่มักจะถูกโยงไปเป็นประเด็น ทางการเมือง ซึ่งการจัดหาเรือดำน้ำลำแรกเมื่อปี 2560 แต่จะรับเข้าประจำการในปี 2566 ก็ซื้อแบบจีทูจี หรือรัฐบาลกับรัฐบาล และขณะนี้ประเทศเพื่อนบ้านมีเรือดำน้ำเพิ่มขึ้น

พล.ร.ท.เถลิงศักดิ์ ศิริสวัสดิ์ เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ เปิดวิดีทัศน์ชี้แจงเหตุผลและความจำเป็นการจัดหาเรือดำน้ำ ซึ่งเป็นวิดีทัศน์ที่ฉายให้คณะอนุกรรมาธิการครุภัณฑ์ฯ ได้รับชมในวันที่เข้าชี้แจงงบประมาณ โดยในวิดีทัศน์ดังกล่าวได้แสดงถึงเหตุการณ์ในอดีตที่ประเทศไทยเคยมีเรือดำน้ำและสามารถข่มขวัญประเทศที่รุกรานน่านน้ำให้ถอยกลับไปได้

“กองทัพเรือพยายามจัดซื้อเรือดำน้ำมาหลายปี แม้จะยังไม่เห็นสงครามโลกในขณะนี้ แต่มีความขัดแย้งเกิดขึ้นในน่านน้ำ อีกทั้งสหรัฐส่งเรือรบเข้าไปในพื้นที่ทะเลจีนใต้มากขึ้น หากเราไม่มีกำลังที่เข้มแข็งเพียงพอ ผลประโยชน์ของชาติย่อมได้รับผลกระทบแน่นอน แล้วเราจะมั่นใจได้อย่างไรว่าในทะเลจีนใต้จะไม่มีเหตุการณ์ปะทะนองเลือด ซึ่งผมเชื่อว่ามี และอย่าลืมว่าจัดซื้อวันนี้ อีก 6 ปีจึงจะได้เรือลำน้ำ ยืนยันว่าการจัดหาเรือดำน้ำเพื่อรักษาผลประโยชน์ของชาติ” เจ้ากรมยุทธการทหารเรือ กล่าว


พล.ร.ท.ธีรกุล กาญจนะ ปลัดบัญชีทหารเรือ ชี้แจงเรื่องงบประมาณการจัดหาเรือดำน้ำสำรวจสองลำ ซึ่งเป็นส่วนหนึ่งของโครงการจัดหาเรือดำน้ำจำนวนสามลำ ว่า ทยอยจ่ายทั้งหมด 7 ปี ตั้งแต่ปี 2560 ถึง 2566 ซึ่งเป็นการจัดหาต่อเนื่องเพื่อให้ครบสามลำ ไม่ใช่โครงการผูกพันงบประมาณที่เริ่มใหม่ในปี 2564 นี้ แต่เป็นโครงการการเสริมสร้างกำลังของกองทัพที่เริ่มตั้งแต่ปี 2563 ถึง 2569 เป็นการทยอยตั้งงบประมาณรายปีภายในงบประมาณที่กองทัพเรือได้รับตามปกติ ไม่ได้ขอรับงบประมาณเพิ่มเติม และรายการนี้ได้ตราไว้แล้วในพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2563

“ตามกำหนดที่ต้องชำระใน 7 งวดที่ตั้งไว้ในตอนแรก ระบุไว้ว่า ในปี 2563 จ่ายวงเงิน 3,375 ล้านบาท ปี 2564 วงเงิน 3,925 ล้านบาท ปี 2565 วงเงิน 2,640 ล้านบาท ปี 2566 วงเงิน 2,500 ล้านบาท ปี 2567 วงเงิน 3,060 ล้านบาท ปี 2568 วงเงิน 3,500 ล้านบาท ปี 2569 วงเงิน 3,500 ล้านบาท แต่เนื่องจากเกิดสถานการณ์การแพร่ระบาดของโควิด รัฐบาลได้ให้หน่วยงานราชการโอนงบประมาณคืนไปสำหรับแก้ไขปัญหาโควิด ซึ่งกองทัพเรือเล็งเห็นถึงความสำคัญดังกล่าวจึงตัดลดงบประมาณที่ตั้งไว้ในปีงบประมาณ 2563 และจ่ายงวดแรกในวงเงินงบประมาณของปี 2564 แทน และไปจบงวดสุดท้ายในปี 2570” ปลัดบัญชีทหารเรือ กล่าว

พล.ร.ท.ธีรกุล กล่าวว่า การพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 ซึ่งขณะนี้กำลังพิจารณาการจัดทำคำขอของกองทัพเรือ ได้กำหนดรายละเอียดของงบประมาณตามคำแนะนำและความเห็นชอบของสำนักงบประมาณ โดยยึดความประหยัดและความคุ้มค่า ตระหนักถึงคุณค่าของเงินทุกบาทของประเทศชาติและตั้งงบประมาณรายจ่ายอยู่ในกรอบที่เคยได้รับโดยประมาณทุกปี ทั้งนี้ กองทัพเรือเตรียมลงนามในสัญญาจัดซื้อเรือดำน้ำลำที่ 2-3 ในเดือนกันยายนนี้

น.อ.ธาดาวุธ ทัตพิทักษ์กุล รองผู้อำนวยการสำนักจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในฐานะกรรมการและผู้ช่วยเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ชี้แจงว่า เมื่อสัปดาห์ที่ผ่านมามีผู้ให้ข่าวในสื่อต่าง ๆ ว่าการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 1 ไม่ถูกต้องและไม่มีกฎหมายรองรับนั้น ยืนยันว่ากองทัพเรือไม่เคยพูดเท็จกับประชาชน แต่การมีเรือดำน้ำจะช่วยเพิ่มอำนาจการต่อรอง กองทัพเรือจึงศึกษาและเสนอแนะต่อรัฐบาล กระทั่งวันที่ 18 เมษายน 2560 คณะรัฐมนตรี(ครม.) มีมติเห็นชอบจัดหาเรือดำน้ำ 3 ลำตามที่กองทัพเรือตระหนักถึงความจำเป็นของเรือดำน้ำ และข้อเสนอของจีนดีที่สุด

“ส่วนที่บอกว่าจีทูจีปลอม เป็นการให้ข้อมูลเท็จ เนื่องจากคณะรัฐมนตรี(ครม.)มีมติอนุมัติและให้อำนาจผู้บัญชาการทหารเรือ ซึ่งอนุมัติให้ประธานกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำและเสนาธิการทหารเรือเป็นผู้แทนลงนามข้อตกลง ยืนยันว่าทุกอย่างเป็นไปด้วยความถูกต้อง พิจารณารอบคอบตามระเบียบวิธีราชการทุกประการ ขณะที่รัฐบาลจีนสั่งการให้หน่วยงาน SASTIND ซึ่งเป็นหน่วยงานรัฐของจีนที่บริหารงานด้านอุตสาหกรรมป้องกันประเทศและการส่งออกอาวุธ มอบอำนาจให้ประธานบริษัท CSOC เป็นผู้แทนลงนาม ดังนั้น คนของจีนที่มาลงนามจึงเป็นผู้ที่ได้รับมอบอำนาจมาอย่างชัดเจน จึงเป็นจีทูจีของจริง ไม่ใช่จีทูจีของปลอม” น.อ.ธาดาวุธ กล่าว

น.อ.ธาดาวุธ กล่าวว่า ส่วนประเด็นที่ยังคลาดเคลื่อนเรื่องการทำสัญญาระหว่างรัฐบาลจีนกับไทย เนื่องจากเป็นจีทูจี คือ ความเอื้อเฟื้อมิตรไมตรีระหว่างรัฐบาล จึงใช้คำว่า “ข้อตกลง” ไม่ใช้คำว่า “สัญญา” จึงทำให้มีผู้เข้าใจผิด ไปแปลความหมายของคำ ว่า “ข้อตกลง “คือ “MOU” ที่ต้องลงนามโดยนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ทั้งที่ข้อตกลงนี้ เป็น “Agreement” ไม่ใช่ “MOU”

พล.ร.ต.อรรถพล เพชรฉาย ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ ในฐานะกรรมการและเลขานุการคณะกรรมการบริหารโครงการจัดหาเรือดำน้ำ ชี้แจงว่า การเจรจากับจีนอยู่บนพื้นฐานเรือดำน้ำ 3 ลำมาโดยตลอด และรัฐบาลจีนรับทราบการจัดหาเป็นระยะ แต่เนื่องจากประเทศไทยประสบปัญหาด้านงบประมาณ จึงจัดหาเรือดำน้ำระยะที่ 1 จำนวน 1 ลำก่อน ซึ่งได้ลงนามข้อตกลงไปแล้ว ส่วนการจัดหาระยะที่สองในปีงบประมาณ 2563 ถึง 2569 การเจรจาได้ข้อยุติแล้ว และสามารถจัดหาได้ในราคาลำละ 11,250 ล้านบาท ซึ่งราคาต่อลำต่ำกว่าลำที่หนึ่ง

“ในราคาดังกล่าวจะรวมถึงได้รับการติดตั้งอุปกรณ์เพิ่มเติม ประกอบด้วยแผ่นยางลดเสียงสะท้อน ระบบสื่อสารดาวเทียม ระบบสื่อสารข้อมูลทางยุทธวิธีและอาวุธ ทั้ง จรวดนำวิถี ทุ่นระเบิด ตอร์ปิโด โดยมีมูลค่ากว่า 2,100 ล้านบาท โดยไม่ต้องเพิ่มเงินเลย ดังนั้น ในปี 2560-2570 ประเทศไทยจะมีเรือลำดำหน้าตาคล้ายกันทั้งหมด 3 ลำ แต่ถ้าไม่ดำเนินการตามที่เจรจาไว้ทั้งหมด ประเทศไทยจะหมดความน่าเชื่อถือเชิงพาณิชย์ การจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2-3 จึงมีความจำเป็น ซึ่งได้เสนอร่างข้อตกลงจ้างให้สำนักงานอัยการสูงสุดและกระทรวงการต่างประเทศตรวจสอบแล้ว” ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ กล่าว

ผู้สื่อข่าวสอบถามว่าจะฟ้องร้องดำเนินคดีกับนายยุทธพงศ์ที่กล่าวหาว่าเป็นจีทูจีเก๊หรือไม่ พล.ร.อ.สิทธิพร กล่าวว่า หน่วยงานจะพิจารณาต่อไปว่าจะดำเนินการอย่างไร

เมื่อถามย้ำว่า หากคณะกรรมาธิการวิสามัญพิจารณาร่าง พ.ร.บ.งบประมาณรายจ่ายประจำปี 2564 มีมติไม่เห็นชอบการจัดหาเรือดำน้ำลำที่ 2-3 จะได้รับผลกระทบอย่างไร ผู้อำนวยการสำนักงานจัดหายุทโธปกรณ์ทหารเรือ กล่าวว่า หากไม่สามารถซื้อได้ในปีงบประมาณ 2564 ไม่มีค่าปรับอะไร แต่เกรงว่าจะเกิดปัญหาเรื่องราคาที่อาจจะสูงขึ้นมาก รวมทั้งจะกระทบต่อความน่าเชื่อถือในเชิงพาณิชย์ที่ไทยจะได้แลกเปลี่ยนผลประโยชน์กับจีน

ส่วนที่มีข่าวกระแสผู้ใหญ่ในรัฐบาลล็อบบี้คณะอนุกรรมาธิการฯ ให้โหวตผ่านการจัดหาเรือดำน้ำ เสนาธิการทหารเรือ กล่าวว่า ตนมีแต่หน้าที่การชี้แจง ไม่มีหน้าที่อื่น และยืนยันว่าชี้แจงตามข้อเท็จจริง

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ระหว่างการแถลงข่าว นายสุรเชษฐ์ ประวีณวงศ์วุฒิ และนายพิจารณ์ เชาวพัฒนวงศ์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ส.ส.พรรคก้าวไกล ในฐานะกรรมาธิการพิจารณาร่างพระราชบัญญัติงบประมาณรายจ่ายประจำปีงบประมาณ 2564 ร่วมสังเกตการณ์ ซึ่งเมื่อกองทัพเรือแถลงข่าวเสร็จสิ้น นายพิจารณ์ได้ลุกขึ้นสอบถามกับคณะแถลงข่าวของกองทัพเรือ ว่าคำชี้แจงของกองทัพเรือครั้งนี้ ไม่ได้ปรากฎในการชี้แจงของคณะอนุกรรมาธิการฯ

“ขอให้กองทัพวางตัวเป็นกลาง ควรงดการพูดจาเหน็บแหนมและลดทอนความน่าเชื่อถือของตัวบุคคล พฤติกรรมนี้ไม่ทำให้กองทัพเรือได้รับความนิยมชมชอบจากประชาชน และผมได้ยินแต่คำว่าโควิด แต่ไม่ได้ยินคำว่า วิกฤติเศรษฐกิจ จึงอยากสอบถามกองทัพเรือว่ามีแนวทางลดงบประมาณจากกำลังพลอย่างไร” นายพิจารณ์ กล่าว

พล.ร.อ.สิทธิพร ได้กล่าวขออภัยหากพาดพิง เพียงแต่อยากชี้แจงวัตถุประสงค์ของการจัดหาเรือดำน้ำ พร้อมยืนยันว่ากองทัพเรือมีแผนลดกำลังพลต่อไป แต่เป็นเรื่องภายในของกองทัพ.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 70%

กรุงเทพฯ 11 ก.ย. – กรมอุตุฯ เตือนภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง 70% กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองเกิดขึ้นได้ โดยภาคเหนือมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลันและน้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม เนื่องจากร่องมรสุมพาดผ่านภาคเหนือและตอนบนของภาคตะวันออกเฉียงเหนือ ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังปานกลางพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบน มีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง กรุงเทพฯ และปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ อุณหภูมิต่ำสุด 24-26 องศาเซลเซียส อุณหภูมิสูงสุด 31-33 องศาเซลเซียส.-สำนักข่าวไทย

เร่งหาสาเหตุ จนท.สวนสัตว์ลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตรุมขย้ำ

10 ก.ย. – เหตุสลด จนท.สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งถูกสิงโตรุมขย้ำจนเสียชีวิต ขณะลงจากรถ ทางสวนสัตว์เร่งหาสาเหตุลงไปทำไม ทั้งที่เจ้าตัวทราบกฎของสวนสัตว์ดีอยู่แล้ว นักท่องเที่ยวอินเดียบันทึกเหตุการณ์ขณะเจ้าหน้าที่สวนสัตว์เอกชนแห่งหนึ่งลงจากรถ ก่อนถูกสิงโตตัวแรกเข้ามากัดจากทางด้านหลัง แล้วลากไปให้เพื่อนสิงโตอีก 4 ตัว รุมขย้ำ โดยในคลิปเจ้าหน้าที่ไม่ได้ดิ้นขัดขืน และไม่ได้ร้องขอความช่วยเหลือ ก่อนนอนแน่นิ่งและถูกรุมกัดจนเสียชีวิต ขณะที่ พ.อ.นพ.ธวัชชัย กาญจนรินทร์ อดีตอาจารย์และแพทย์ศัลยกรรม โรงพยาบาลพระมงกุฎเกล้า หรือเป็นที่รู้จักในฐานะหมอที่มาช่วยเหลือคดีการเสียชีวิตของแตงโม ซึ่งเป็นผู้เห็นเหตุการณ์สิงโตรุมขย้ำเจ้าหน้าที่สวนสัตว์ ระบุว่า วันนี้ตนมาเที่ยวสวนสัตว์ โดยได้ขับรถเข้าไปในโซนซาฟารี ขณะนั้นมีรถนักท่องเที่ยวหลายคันเข้าชม เมื่อมาถึงบริเวณโซนสิงโต พบว่ามีรถของเจ้าหน้าที่รายหนึ่ง ซึ่งเป็นรถของสวนสัตว์จอดอยู่คันเดียว ตอนนั้นตนเองก็รู้สึกผิดสังเกต เพราะช่วงเวลาดังกล่าวไม่ใช่ช่วงเวลาให้อาหารสัตว์ และเจ้าหน้าที่รายนี้อยู่คนเดียว ได้ลงมายืนข้างนอกรถ ฝั่งคนขับ โดยเปิดประตูรถทิ้งไว้ แต่ไม่ได้ทำอะไร แค่ยืนเฉยๆ ลักษณะยืนหันหน้าเข้าหารถ หันหลังให้สัตว์ ซึ่งตนรู้สึกแปลกใจอย่างมาก แต่เนื่องจากมีต้นไม้บัง ตนก็เลยไม่เห็นว่าในมือถืออะไร จากนั้นประมาณ 3 นาที มีสิงโตตัวหนึ่งค่อยๆ ย่องมาข้างหลัง ก่อนตะครุบเข้าทางด้านหลังเจ้าหน้าที่ทันที โดยเจ้าหน้าที่รายดังกล่าวไม่ได้มีท่าทีขัดขืน ดิ้นรนต่อสู้ หรือร้องขอชีวิตแต่อย่างใด หลังจากนั้นสิงโตตัวอื่นๆ ก็ค่อยๆ […]

เร่งซ่อมพนังกั้นน้ำยังขาดให้เสร็จภายในคืนนี้

ร้อยเอ็ด 10 ก.ย. – เจ้าหน้าที่เร่งซ่อมแซมถนนสายบ้านทรายมูล-โพธิ์ตาก ซึ่งเสมือนพนังกั้นน้ำยัง หลังถูกกระแสน้ำกัดเซาะจนขาด เมื่อช่วงเช้าวานนี้ โดยต้องปรับแผนนำเสาไฟฟ้ามาวางขวางเป็นแนวบิ๊กแบ็ก เพื่อให้แล้วเสร็จภายในคืนนี้. – สำนักข่าวไทย

ส่องสาเหตุรถชนโครมเดียว เสาไฟฟ้าล้ม 77 ต้น

เชียงใหม่ 10 ก.ย. – อุบัติเหตุรถบรรทุกน้ำดื่มแหกโค้งพุ่งชนเสาไฟฟ้าที่ จ.เชียงใหม่ ทำให้มีผู้เสียชีวิต 1 ราย บาดเจ็บ 1 ราย สร้างความเสียหายหนัก เสาไฟฟ้าล้มกว่า 70 ต้น บ้านเรือนเสียหาย 20 หลัง สาเหตุเกิดจากอะไร. – สำนักข่าวไทย