ส.ว.ชี้โยงคดีบอสกับน้องชายบิ๊กป้อม จินตนาการไปเอง

รัฐสภา 29 ก.ค.- “ธานี อ่อนละเอียด” ส.ว.เชื่อ การโยงคดี “บอส อยู่วิทยา” กับ “น้องชายบิ๊กป้อม” จินตนาการไปเอง ยัน กมธ.กฎหมาย สนช.ไม่เคยมีมติชี้ใครถูกผิดคดีนี้


นายธานี อ่อนละเอียด สมาชิกวุฒิสภา (ส.ว.) และอดีตเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) การกฎหมาย กระบวนการยุติธรรม และกิจการตำรวจ สภานิติบัญญัติแห่งชาติ (สนช.) แถลงชี้แจงกรณีนายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ยื่นร้องขอความเป็นธรรมต่อกมธ.ในคดีขับรถยนต์ชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ผู้บังคับหมู่งานปราบปราม สน.ทองหล่อ โดยประมาทถึงแก่ความตาย ว่า เมื่อวันที่ 4 พฤษภาคม 59 นายธนิต บัวเขียว ทนายความผู้รับมอบอำนาจ ได้มายื่นขอความเป็นธรรม ในประเด็นว่า คำสั่งของรองอัยการสูงสุดที่ยุติเรื่องขอความเป็นธรรม โดยไม่นำเอาข้อเท็จจริงในส่วนของคำให้การของพยานผู้เชี่ยวชาญและรายงานการตรวจพิสูจน์ของผู้เชี่ยวชาญมาพิจารณาสั่งคดีนั้นเป็นการกระทำที่ไม่ชอบด้วยกฎหมาย ทำให้ไม่ได้รับความเป็นธรรม จึงใช้ช่องทางมาร้องต่อกมธ.ขอให้สอบถามข้อเท็จจริงจากพยานบุคคลและตรวจพิสูจน์ข้อเท็จจริงเกี่ยวกับความเร็วรถในขณะเกิดเหตุ

นายธานี กล่าวว่า ทางกมธ.จึงได้ส่งเรื่องไปยังศูนย์รับเรื่องราวร้องทุกข์ สนช. เพื่อตรวจสอบตามระเบียบ ต่อมาศูนย์ดังกล่าวได้รับเรื่องและพิจารณาเห็นว่าอยู่ในกรอบอำนาจหน้าที่ของกมธ.กฎหมายฯ และไม่เป็นเรื่องที่อยู่ระหว่างการพิจารณาของคณะกมธ.ชุดอื่น จึงส่งเรื่องกลับมาให้พิจารณาตามหน้าที่และอำนาจ ทางกมธ.จึงมีมติรับเรื่องไปสอบหาข้อเท็จจริง โดยเชิญบุคคลและหน่วยงานที่เกี่ยวข้องมาให้ข้อเท็จจริงตามที่ผู้ร้องกล่าวอ้าง 8 คน คืออดีตรองอัยการสูงสุด อธิบดีอัยการ พนักงานสอบสวน เจ้าหน้าที่ตำรวจผู้ตรวจสอบสภาพรถยนต์ พยาน 2 ปาก และพยานแวดล้อม 2 ปาก


นายธานี กล่าวว่า จากนั้นได้ทำหนังสือถึงอธิการบดี มหาวิทยาลัยเทคโนโลยีพระจอมเกล้า พระนครเหนือ ให้ส่งผู้เชี่ยวชาญในการตรวจสภาพความเสียหายและคำนวณความเร็วของรถ โดยได้ส่งรศ.ดร.สายประสิทธิ์ เกิดนิยม หัวหน้าศูนย์วิจัยวิศวกรรมการประเมินและความปลอดภัยยานยนต์ มาทำการตรวจสอบ และส่งผลการตรวจสอบกลับมายังกมธ. จากนั้นได้รวบรวมผลการสอบข้อเท็จจริงทั้งหมดส่งไปยังอัยการสูงสุด และอธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญากรุงเทพใต้เพื่อพิจารณาดำเนินการตามอำนาจหน้าที่

“ยืนยันว่าการดำเนินการของ กมธ.เป็นไปตามรัฐธรรมนูญ 2557 ม.13 วรรคสองและข้อบังคับการประชุม สนช. ที่ให้สนช.ทำหน้าที่ให้ความเป็นธรรมกับประชาชน และส่งไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องเพื่อดำเนินการตามอำนาจหน้าที่ ซึ่งถือเป็นช่องทางหนึ่งให้กับประชาชนที่ได้รับความเดือดร้อนและไม่ได้รับความเป็นธรรม โดยไม่มีค่าใช้จ่ายใด ๆ” นายธานี กล่าว

เมื่อถามว่า ในรายงานของคณะกรรมาธิการมีความเห็นอย่างไร นายธานี กล่าวว่า ตามอำนาจของกมธ.ไม่สามารถชี้ผิดชี้ถูก เพราะเราไม่ใช่อัยการ ป.ป.ช. หรือ กกต.ที่จะวินิจฉัยได้ เรามีหน้าที่แค่เสนอผลการศึกษา คำชี้แจงของผู้มาขี้แจง การศึกษาเรื่องการคำนวณความเร็วรถของผู้เชี่ยวชาญ โดยนำเสนอไปยังหน่วยงานที่เกี่ยวข้องให้พิจารณาเท่านั้น


เมื่อถามว่า ผลการศึกษาเรื่องความเร็วไม่ถึง 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง ใช่หรือไม่ นายธานี กล่าวว่า เรื่องนี้แบ่งออกเป็นสองประเด็น คือ เมื่อคนในองค์กรถึงแก่กรรมก็ต้องเร่งดำเนินการ และได้มีการสอบเพิ่มเติมหลังจากมีการร้องกับสนช. ทางอัยการสูงสุดได้สั่งให้สอบเรื่องความเร็วว่าเป็นอย่างไรกันแน่ เจ้าพนักงานจึงไปทำรายงานต่อหน้าผู้บังคับบัญชาระดับนายพล จากความเร็วเดิม 177 กม.ต่อชม. ซึ่งคลาดเคลื่อนจากเป็นจริง คือ 76 กม. ต่อ ชม. ก่อนที่จะมาชี้แจงอีกครั้งกับกมธ. ซึ่งสอดคล้องกับผลการศึกษาของดร.สายประสิทธิ์ ที่เป็นคนไทยคนเดียวที่เป็นสมาชิกเอเชี่ยน เอ็นแคป ในรายงานของกมธ.ที่เสนอไปให้อัยการ คือ 79 กม.ต่อ ชม.

เมื่อถามว่า เหตุใดไม่นำข้อมูลของกองพิสูจน์หลักฐานกลาง ซึ่งยืนยันว่าความเร็วรถเกิน 100 กม.ต่อ ชม. นายธานี กล่าวว่า ไม่มีคนยื่นคำร้องมา แต่ทางกมธ.ได้เชิญสารวัตรช่างเครื่องยนต์ ยศ พ.ต.ท. ซึ่งทำคดีมาจำนวนมาก มาให้ความเห็นด้วย ซึ่งยืนยันว่าจากความเสียหาย ความเร็วไม่น่าจะเกิน 80 กม.ต่อ ชม.

“วิทยาศาสตร์น่าเชื่อถือที่สุด พยานบุคคลยังกลับไปกลับมา ถ้าสงสัยสื่อก็ต้องไปหาความรู้ หาแหล่งอ้างอิงซึ่งจะเป็นประโยชน์ในการให้ความรู้กับประชาชนว่าวิธีการสืบหาข้อเท็จจริง โดยที่ว่าเราไม่ได้ว่าจินตนาการ คิดว่าน่าจะเป็นแบบนั้นแบบนี้ แต่การกระทำความผิดไม่เลือกวัย ไม่เลือกความจน ความรวย ทุกคนมีโอกาสทำความผิดกันหมด แต่ข้อเท็จจริงถ้าพิสูจน์ด้วยวิทยาศาสตร์มันต้องเป็นอย่างนั้น แล้วศาลจะเชื่อถือข้อเท็จจริงที่เป็นวิทยาศาสตร์มากกว่าบุคคล” นายธานี กล่าว

เมื่อถามถึงพยานใหม่ที่เพิ่งปรากฏตัวทั้งที่คดีดังกล่าวผ่านมา 7 ปี นายธานี กล่าวว่า อย่าจินตนาการแบบนี้ ขอร้อง ทุกอย่างนำเปลือกหรือข้อเท็จจริงที่ยังไม่ยุติมาอ้าง ซึ่งอีก 7 วันทางอัยการก็จะรวบรวมหลักฐาน พยาน เพื่อชี้แจง แล้วหลังจากนั้นก็ค่อยตรวจสอบว่ามีเหตุผลหรือไม่ อัยการและตำรวจมีหน้าที่พิจารณามูลเหตุว่า เพียงพอฟ้องหรือไม่ และอัยการเองก็ไม่ได้ทำหน้าที่ตามอำเภอใจ หรืออัยการก็ไม่ใช่บุรุษไปรษณีย์ หรือไม่ใช่พนักงานส่งอาหารที่มาอย่างไรก็ส่งไปอย่างนั้น เขามีดุลยพินิจในการวินิจฉัย ถ้าใช้ดุลยพินิจตามอำเภอใจก็จะติดตัวเขาไปจนตาย ตรงนี้ฝากสื่อให้ความรู้แก่ประชาชนบ้าง ขอให้สื่อใจเย็นและให้สติปัญญากับประชาชน อย่าเร่งเร้า ทำให้เจ้าหน้าที่ทำงานลนลานไปหมด

นายธานี กล่าวว่า คณะกมธ.มีหน้าที่ตรวจสอบ แต่ไม่มีอำนาจในการสั่งหรือก้าวก่าย และพนักงานอัยการจะนำผลการศึกษาของกมธ.ไปใช้สั่งสำนวนไม่ได้ แต่หากอัยการสงสัยก็จะสั่งให้พนักงานสอบสวนไปสอบสวนในประเด็นนั้น ๆ เพิ่มเติม และไม่มีการตัดสินชี้ถูกชี้ผิด

เมื่อถามว่า ทำไมกมธ.ถึงเรียกพยาน 2 ปาก ซึ่งอัยการตีตกพยานดังกล่าวตั้งแต่ปี 2555 แล้ว นายธานี กล่าวว่า มีการกล่าวอ้างชื่อในคำร้องของนายวรยุทธว่าการไม่ฟังพยาน 2 ปากนี้ ถือว่าไม่ชอบด้วยกฏหมายและไม่เป็นธรรม

เมื่อถามอีกว่า นายสมัคร เชาวภานันท์ ทนายความประจำตัวของตระกูลอยู่วิทยา และอดีต ส.ว. เคยร่วมทำงานกับพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ ในกมธ.การยุติธรรมและการตำรวจ วุฒิสภา ปี 51 ซึ่งมีกระแสข่าวว่าเป็นผู้ดำเนินการยื่นเรื่องต่อกมธ.กฏหมาย สนช. ปี 57 ซึ่งพล.ร.อ.ศิษฐวัชร เป็นประธาน นายธานี กล่าวว่า เท่าที่ทราบ นายธนิต บัวเขียว คือทนายความที่รับมอบอำนาจให้มายื่นเรื่องร้องขอความเป็นธรรมดังกล่าว ส่วนจะเป็นตัวแทนนายสมัครหรือไม่ ไม่ทราบ ตั้งแต่ตนเป็นกมธ.ยืนยันไม่เคยเจอนายสมัคร

นายธานี กล่าวอีกว่า กรณีพล.ต.ท.ศานิตย์ มหถาวร อดีตผบช.น. และ อดีตสนช. ออกมาเปิดเผยว่าในชั้นกมธ.ได้ตีตกเรื่องนี้ไปแล้วนั้น เป็นเรื่องเข้าใจผิด เพราะสนช.มีงานเยอะ พล.ต.ท.ศานิตย์จึงอาจสับสนได้ และกมธ.ไม่มีการทำความเห็นให้อัยการส่งสำนวนไปยังตำรวจเพื่อทบทวนอีกครั้ง

นายธานี กล่าวว่า ผลการศึกษาเรื่องความเร็วของกมธ. ตรงข้ามกับหลักฐานเมื่อปี 2555 ซึ่งเป็นที่สงสัยของตนและกมธ.เช่นกัน แต่ก็ไม่มีผู้มาร้องเรียนหลังเจ้าพนักงานทำรายงานต่อหน้าผู้บังคับบัญชา และตัวผู้เชี่ยวชาญที่มาศึกษาก็มีความรู้ความสามารถทำคดีมาหลายคดี มีต้นทุนทางสังคม

ส่วนสภาพของรถที่หลายคนสันนิษฐานว่ายับเยินมากกว่าความเร็วที่ 76 กม.ต่อ ชม. นายธานี กล่าวว่า จากรายงานให้เหตุผลว่าเป็นเรื่องมวลของรถเฟอร์รี่ที่หนัก และรถมอเตอร์ไซค์มีมวลรถที่เบา ส่วนหากวิ่งด้วยความเร็วดังกล่าวแล้วทำไมนายวรยุทธถึงมองไม่เห็น ลากร่างผู้เสียชีวิตถึง 200 เมตรนั้น อาจมีรถกระบะมาบังจึงมองไม่เห็นคนที่ถูกชน และมีการสันนิษฐานเป็นสองประเด็น คือ รถเบรกแล้วแต่ไม่มีรอยเพราะด้วยประสิทธิภาพของรถหรู หรือมีความเป็นไปได้ว่าไม่เบรก ส่วนเรื่องยาเสพติดในตัวนายวรยุทธไม่มีการร้องเรื่องนี้เข้ามา ดังนั้น กมธ.จึงไม่ได้ตรวจสอบ

เมื่อถามย้ำว่า มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้เสียหายหรือไม่ นายธานี กล่าวว่า ผู้เสียหายไม่ได้ร้องมาที่ สนช. และจากบันทึกของตำรวจนายวรยุทธได้เยียวยาให้กับครอบครัวผู้ตายไปแล้ว อีกทั้งญาติก็ไม่ได้ร้องว่าไม่ได้รับเงินเยียวยา เมื่อถามว่าจะให้สอบประเด็นอะไร เท่าที่ดูข่าวเขาก็ได้รับค่าเสียหายไปแล้วจริงและไม่ติดใจ ที่สำคัญทางญาติก็ไม่ได้นั่งรถไปกับผู้เสียชีวิตและเห็นเหตุการณ์ หากไม่เรียกมาจะถือว่ากมธ.ผิด อย่าอคติกับกมธ.ว่าช่วยนายวรยุทธ เพราะไม่รู้จะช่วยไปทำไม ยืนยันว่ากมธ.ให้ความช่วยเหลือทั้งสองฝ่าย

“ผมอยากจะเตือนสติสังคมว่าไปย้อนดูว่ามีกี่สื่อ กี่ฉบับที่เมื่อศาลพิพากษาแล้ว หรือยกฟ้อง แล้วมีคนตกเป็นจำเลยตามที่สื่อเสนอ แล้วสื่อไปขอโทษด้วยจิตวิญญาณของวิชาชีพ เขาเสียหายขนาดไหน อยากจะเตือนสติไว้บ้างว่าเราเองขายข่าวได้เป็นประเด็น แต่ต้องมีสติ ให้สังคมได้พัฒนา หยิบเอาประเด็นมาเป็นจินตนาการแบบนั้นแบบนี้ เมื่อเขาพิสูจน์ได้ ก็เงียบไป ไม่เห็นมีสื่อไหนถือดอกไม้ธูปเทียนไปขอขมา ขอเถอะ ขอให้มีสติให้สังคมพัฒนาขึ้น ปฏิรูปสื่อสักที” นายธานี กล่าว

เมื่อถามว่าเรื่องนี้มีการโยงไปถึงพล.ร.อ.ศิษฐวัชร ซึ่งเป็นน้องชายของพล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นการจินตนาการใช่หรือไม่ นายธานี กล่าวว่า คงอย่างนั้น อย่าไปผูกโยง ว่าคนตระกูลนี้ผิดไปหมด มันไม่ใช่ ถ้าเขาไม่ทำตามอำนาจหน้าที่ ก็อย่าเหมารวม เพราะมันไม่เป็นธรรม.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ยกระดับห้าม จยย.-รถเข็น จากกัมพูชาเข้าไทย

สระแก้ว 23 มิ.ย.-ตอบโต้ทันควัน! ไทยสั่งห้ามรถเข็น-จยย.เขมร เข้ามาเด็ดขาด บรรยากาศด่านคลองลึกตึงเครียด เจรจาระดับเจ้าหน้าที่ หลังกัมพูชางดนำเข้าน้ำมันไทย เมื่อวันที่ 23 มิ.ย.68 ผู้สื่อข่าวรายงาน บรรยากาศบริเวณจุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก อ.อรัญประเทศ จ.สระแก้ว ก่อนการเปิดด่านฝั่งกัมพูชา ในเวลา 09.00 น. ว่า มีตึงเครียดผิดปกติ โดยปกติจะมีแรงงานกัมพูชาจำนวนมากขี่รถจักรยานยนต์ รถพ่วงข้าง และรถชาลี มารอข้ามแดนเข้ามาทำงานในตลาดโรงเกลือ แต่เช้าวันนี้ภาพดังกล่าวหายไปอย่างสิ้นเชิง หลังทางฝั่งไทย “ยกระดับตอบโต้” ต่อมาตรการของกัมพูชาที่ประกาศงดรับน้ำมันและก๊าซจากไทย กองกำลังบูรพา ได้กำหนดมาตรการควบคุมพื้นที่เพิ่มเติม เพื่อรักษาความปลอดภัยสูงสุดบริเวณพื้นที่ชายแดน และการป้องกันลักลอบกระทำผิดกฎหมายต่างๆ โดยไม่อนุญาตให้รถเข็นคนเดิน (ตั้งแต่ 2 ล้อขั้นไป), รถจักรยานยนต์ที่ติดแผ่นป้ายทะเบียนราชอาณาจักรกัมพูชา และรถจักรยานยนต์ ดัดแปลงทุกประเภท ของกัมพูชา เข้ามาในราชอาณาจักรไทย บริเวณ จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก, จุดผ่านแดนถาวรสะพานมิตรภาพไทย-กัมพูชา บ้านหนองเอี๋ยน-สตึงบท, จุดผ่านแดนถาวรบ้านเขาดิน, จุดผ่อนปรนการค้าบ้านตาพระยา และจุดผ่อนปรนการค้าบ้านหนองปรือ โดยให้หน่วยที่รับผิดชอบ บังคับใช้มาตรการดังกล่าว ตั้งแต่วันที่ 23 มิ.ย. เวลา […]

ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระ-แม่ชี ขึ้นปราสาทตาเมือนธม

สุรินทร์ 23 มิ.ย.-มาแบบไหนอีก ทหารกัมพูชาพาชาวบ้าน พระสงฆ์ แม่ชีนับพัน ขึ้นปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ หลังจากมีคณะปั่นจักรยานไทยเข้าทำกิจกรรมที่ปราสาทตาเมือนธม อำเภอพนมดงรัก จังหวัดสุรินทร์ อย่างคึกคัก และมีชาวไทยจากหลายพื้นที่แห่เที่ยวให้กำลังใจทหารแนวหน้า หลังมีข่าวทั้ง 2 ฝ่ายประกาศปิดด่านเพิ่ม ขณะที่ฝั่งกัมพูชา ก็ตอบโต้ฝ่ายไทยอย่างไม่ลดละ มีนักท่องเที่ยวเพิ่มขึ้นอย่างเห็นได้ชัด โดยเฉพาะเมื่อวานนี้ (22 มิ.ย.68) ตลอดทั้งวัน มีชาวบ้าน พระสงฆ์ และแม่ชี นับพันคนขึ้นมาเที่ยวบนตัวปราสาทตาเมือนธม พร้อมทำพิธีกราบไหว้ ทำให้เจ้าหน้าที่ทหารไทยต้องคุมเข้มอย่างหนัก เพื่อไม่ให้ทำผิดเงื่อนไข ทั้งนี้ มีรายงานว่า ในช่วงบ่ายวันนี้ พล.อ.พนา แคล้วปลอดทุกข์ ผู้บัญชาการทหารบก พร้อมคณะ เตรียมลงพื้นที่ให้กำลังใจกำลังพล และติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิดด้วย.-715.-สำนักข่าวไทย

รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ วางขายโจ๋งครึ่ม

ทำเนียบ 23 มิ.ย.-รัฐบาลสั่งจับกุมอุปกรณ์เสพติดรูปแบบใหม่ ล่อใจเยาวชน ทำคล้ายยาดม ลูกอม วางขายโจ๋งครึ่ม ในแพลตฟอร์มออนไลน์ เตือนผู้ปกครองเข้าถึงเยาวชนง่าย อันรายถึงชีวิต นายอนกูล พฤกษานุศักดิ์ รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐบาลได้สั่งการ ในการจับกุมยาเสพติดและสารเสพติดในรูปแบบต่าง ๆ อย่างต่อเนื่อง โดยได้สั่งการให้เจ้าหน้าที่ที่เกี่ยวข้องทั้งตำรวจไซเบอร์และส่วนราชการอื่นๆ ให้ดำเนินการจับกุมและปราบปรามให้เข้มข้นขึ้น โดยสถานการณ์และสถิติการใช้ยาเสพติดในไทย ปี 2568 แม้ภาครัฐจะดำเนินมาตรการปราบปรามและสกัดกั้นการลักลอบนำเข้าและจำหน่าย รวมถึงบำบัดผู้ติดยาเสพอย่างต่อเนื่อง แต่ปัญหายาเสพติดในประเทศไทยยังคงเป็นภัยเงียบที่สร้างปัญหาและทำลายเศรษฐกิจและประชาชน โดยเฉพาะในกลุ่มเยาวชนและวัยแรงงาน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศ นายอนุกูล กล่าวว่า จากข้อมูลผลการติดตาม เฝ้าระวังผลิตภัณฑ์อันตรายต่อสุขภาพของทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง ขณะนี้พบสารเสพติดพันธุ์ใหม่ กลายพันธุ์แปลงร่าง ปรับรูปแบบหน้าตาผลิตภัณฑ์ให้สวยงามน่ารักมากขึ้น โดยผลิตเลียนแบบลูกอม ปรุงรสชาติผลไม้ และออกแบบบรรจุภัณฑ์ให้มีความสวยงามสดใส มีดีไซน์คล้ายกล่องขนม ดูยากขึ้น จนแยกไม่ออกว่าเป็นผลิตภัณฑ์เสพติด หรือกล่องขนม ซึ่งมีทั้งผลิตภัณฑ์ที่นำเข้าจากต่างประเทศและผลิตในไทย โดยวางจำหน่ายอย่างเปิดเผยในแพลตฟอร์มออนไลน์ ราคาเริ่มต้นเพียงหลักร้อยบาทเท่านั้น สำหรับผลิตภัณฑ์อันตรายที่พบมีดังนี้1.บุหรี่ไฟฟ้าพันธุ์ใหม่ GEN 6ปรับเปลี่ยนรูปลักษณ์ผลิตภัณฑ์ให้ดูเหมือนยาดมแท่งจนแยกไม่ออก มีการโฆษณาว่าคล้ายยาดม แต่มีส่วนผสมเป็นนิโคติน 3-5% โดยรู้จักในชื่อ พอดจมูก พอดยาดม สูบได้ทั้งทางจมูกและทางปาก […]

ชายถูกตีหัวทิ้งศพริมถนน พบก่อนตายโพสต์ภาพหลักฐานสำคัญ

สมุทรสาคร 22 มิ.ย.- พบศพชายถูกตีศีรษะเสียชีวิตริมถนน สืบหาเบาะแสจากโซเชียลเจอหลักฐานสำคัญ ตำรวจเร่งล่าตัวผู้ก่อเหตุ ผู้เสียชีวิตทราบชื่อคือนายอ้วน อายุ 33 ปี สภาพถูกของแข็งตีที่ศีรษะเป็นแผลฉกรรจ์ ถูกทิ้งร่างไว้ริมถนนแคราย หมู่ 5 ต.แคราย อ.กระทุ่มแบน จ.สมุทรสาคร ข้างศพมีขวดเบียร์ตกอยู่ และฝั่งตรงข้ามมีรถจักรยานยนต์ จอดอยู่หน้าร้านโชห่วยใกล้จุดพบศพ คาดว่าเป็นของผู้เสียชีวิต โดยก่อนหน้านี้มีพลเมืองดีขับรถส่งน้ำแข็งผ่านมาพบร่าง จึงโทรแจ้งตำรวจ สภ.กระทุ่มแบนให้มาตรวจสอบ ช่วงตีสี่วันนี้   ตำรวจสังเกตเสื้อที่ผู้เสียชีวิตสวมใส่มีคำสกรีนเป็นชื่อเฟซบุ๊ก จึงเข้าไปตรวจสอบ พบว่าประมาณตีหนึ่ง ผู้เสียชีวิตสวมเสื้อตัวเดียวกัน และโพสต์ภาพคู่กอดคอกับชายคนหนึ่ง ระบุข้อความว่า “จบสะทีนะปัญหาหมู่บ้าน” และที่น่าสังเกตคือวิวในรูปเป็นริมถนนและมีขวดเบียร์ที่พบข้างศพตั้งอยู่ด้านหน้าด้วย และในโพสต์ มีคนมาแสดงความคิดเห็น ข้อความสำคัญว่า “ใครเป็นญาติครับติดต่อผมหน่อย เค้าโดนตี” เรื่องนี้ตำรวจจะเร่งตรวจสอบวงจรปิด คาดว่าจะติดตามตัวผู้ก่อเหตุได้เร็ววันนี้ .-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอบคุณที่เสียสละ ขออดทนอดกลั้น

สระแก้ว 26 มิ.ย.- นายกฯ ให้กำลังใจทหาร ขอให้อดทนอดกลั้น ขอบคุณที่เสียสละ พร้อมพบปะนักเรียนแนวชายแดน มอบอุปกรณ์การเรียน-กีฬา ก่อนไปตรวจหลุมหลบภัย เวลา 13.00 น. นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และคณะ เดินทางไปตรวจเยี่ยมให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร กองร้อยทหารพราน 1202 บ้านป่าไร่ ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว โดยไปดูบังเกอร์ของหน่วยดังกล่าว นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ดีใจที่ได้มาพบกัน และให้กำลังใจเจ้าหน้าที่ทหาร ว่าต้องมาประจำที่ห่างไกลจากครอบครัว ต้องขอขอบคุณที่เสียสละทุ่มเทแรงกายแรงใจ ทหารคือรั้วของชาติ การมาประจำการอยู่ใกล้ชิดชายแดนขนาดนี้ ต้องอดทน อดกลั้น เพราะมีสิ่งยั่วยุอยู่มากมาย ในการรักษาความสงบเรียบร้อย อดทนอดกลั้นเพื่อให้การทำงานราบรื่น พร้อมย้ำว่าอะไรที่ต้องการ รัฐบาลสนับสนุน ขอให้บอกมาเลย ยืนยันไม่ลืมเรื่องการดูแลชีวิตความเป็นอยู่ และสวัสดิการ จากนั้นนายกรัฐมนตรีและคณะ เดินทางมาที่โรงเรียนตระเวนชายแดนประชารัฐบำรุง 1 ตำบลป่าไร่ อำเภออรัญประเทศ จังหวัดสระแก้ว เมื่อเดินทางมาถึง นายกรัฐมนตรีได้เข้าไปทักทายนักเรียนในห้องเรียนต่างๆ โดยนักเรียนแต่ละห้องได้โชว์กิจกรรมที่เกี่ยวกับการเรียนที่แตกต่างกันไปให้นายกรัฐมนตรีชม ก่อนที่นายกรัฐมนตรีจะมอบอุปกรณ์การเรียน นม ขนม […]

เกาะติดปฏิบัติการ EOD ทำลายวัตถุต้องสงสัย หาดป่าตอง

ภูเก็ต 26 มิ.ย. – ภูเก็ตป่วนอีก! พบวัตถุต้องสงสัยคล้ายระเบิด ที่หาดป่าตอง ตำรวจชุด EOD ยิงทำลายสำเร็จ หลังเมื่อวานทำลาย จยย. ซุกวัตถุระเบิด จอดทิ้งหน้าสนามบิน ตำรวจชุด EOD ได้ยิงทำลายวัตถุต้องสงสัยที่ผู้ไม่หวังดีนำมาซุกซ่อนเอาไว้บริเวณหาดป่าตอง เรียบร้อยแล้ว ไม่มีผู้ได้รับบาดเจ็บและเสียชีวิต โดยตำรวจได้กันพื้นที่ในจุดที่พบวัตถุต้องสงสัย ไม่ให้นักท่องเที่ยวเข้าไปในบริเวณดังกล่าว ทำให้พื้นที่รอบนอกรัศมีออกมา 300-400 เมตร นักท่องเที่ยวยังคงใช้ชีวิตปกติ และไม่ได้ตื่นตระหนกต่อเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นแต่อย่างใด วัตถุต้องสงสัยดังกล่าว มีลักษณะเป็นการตั้งตัวหน่วงเวลาแต่เจ้าหน้าที่ไม่ได้ระบุว่าเป็นระเบิดชนิดใด ต้องรอตำรวจพิสูจน์หลักฐานเก็บวัตถุพยานต่างๆ เพิ่มเติม โดยก่อนจะยิงทำลาย เจ้าหน้าที่ได้ยิงสกัดสัญญาณก่อน 2 ครั้ง และขณะยิงทำลาย ผู้สื่อข่าวซึ่งอยู่ห่างออกมา 200 เมตร ได้ยินเสียงระเบิดดังสนั่น โดยช่วงเย็นวานนี้ ตำรวจชุด EOD ได้ตรวจสอบรถจักรยานยนต์ต้องสงสัยซุกระเบิด จอดทิ้งหน้าอาคารผู้โดยสารสนามบินภูเก็ต และยิงทำลายวัตถุระเบิดได้สำเร็จ พลตำรวจตรีสินเลิศ สุขุม ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ยอมรับว่าในช่วงหลายวันที่ผ่านมา มีการยกระดับความเข้มการตรวจสอบพื้นที่ทั่วเกาะ ทั้งนี้เหตุการณ์ที่พบวัตถุระเบิดทั้ง 2 จุด ในภูเก็ต เชื่อมโยงกับการจับกุม […]

มทภ.2 ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน

กองทัพภาคที่สอง 26 มิ.ย.- แม่ทัพภาคที่ 2 แก้เคล็ด ถวาย “พระประธาน” 20 จังหวัดอีสาน ปัดเป่าสิ่งชั่วร้าย นำความผาสุกสู่ประเทศชาติ ผู้สื่อข่าวรายงานว่า พล.ท.บุญสิน พาดกลาง แม่ทัพภาคที่ 2 ได้เดินทางลงพื้นที่ตรวจราชการตามจังหวัดต่างๆ ในพื้นที่กองทัพภาคที่ 2 ที่รับผิดชอบทั้งสิ้น 20 จังหวัดอีสานอย่างต่อเนื่อง ซึ่งการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งจะนำพระประธานไปถวายวัดในจังหวัดนั้นๆ จังหวัดละ 1 องค์ พล.ท.บุญสิน เปิดเผยว่า การลงพื้นที่ในแต่ละครั้ง นอกจากไปตรวจเยี่ยมหน่วยทหารแล้ว ยังได้มีโอกาสพบปะกับพี่น้องประชาชน ซึ่งคนทางภาคอีสานชอบเข้าวัดทำบุญ ตนจึงเห็นว่าการลงพื้นที่ในแต่ละครั้งควรที่จะทำบุญที่วัด โดยการถวายพระองค์ใหญ่หรือพระประธานให้แก่วัด “เพื่อเป็นการสร้างบุญกุศลครั้งใหญ่ เป็นการทำบุญ ที่เชื่อว่าจะนำมาซึ่งความเป็นสิริมงคล และความเจริญรุ่งเรืองให้พี่น้องประชาชน จะได้รับอานิสงส์ผลบุญมากมาย แก่ชีวิตของทุกๆ ท่าน อีกทั้งยังช่วยขจัดปัดเป่าสิ่งไม่ดี สิ่งชั่วร้ายให้พ้นออกไปจากประเทศเรา และนำพาความสุขความเจริญกลับมาสู่ประเทศเรา เป็นการแก้เคล็ด หรือแก้ไขสิ่งที่ไม่ดีให้ออกไป” แม่ทัพภาคที่ 2 กล่าว สำหรับวัดที่ได้นำพระพุทธรูปขนาดใหญ่ จำนวน 20 วัด โดยเริ่มถวายมาตั้งแต่วันที่ […]

ผ่อนผันให้ชาวเขมรผ่านด่านคลองลึกเข้าไทยไม่เกิน 1 พันคน/วัน

สระแก้ว 26 มิ.ย.- มนุษยธรรม! ทภ.1 ยอมผ่อนผันให้ชาวกัมพูชาเดินทางผ่านด่านคลองลึกเข้ามาในไทยได้วันละไม่เกิน 1,000 คน แต่กำหนดเวลาเปิด-ปิดด่าน ดังเดิม ผู้สื่อข่าวรายงานว่า กองทัพภาคที่ 1 โดยกองกำลังบูรพา ได้มีหนังสือด่วนที่สุดถึง หน่วยงานที่เกี่ยวข้องบริเวณด่านชายแดนไทย-กัมพูชา เรื่องให้ประชาชนชาวไทยและกัมพูชา เดินทางข้ามแดนและเดินทางกลับภูมิลำเนา เพื่อเป็นการดูแลในเรื่องของมนุษยธรรม ให้กับพี่น้องประชาชน ระบุว่า เพื่อเป็นการอนุโลมให้กับประชาชนชาวไทย และชาวกัมพูชา ที่ต้องการเดินทาง กลับภูมิลำเนา ผ่านจุดผ่านแดนในพื้นพื้นที่จังหวัดสระแก้ว และเป็นไปตามด้านมนุษยธรรม กองกำลังบูรพา จึงกำหนดมาตรการในการดำเนินการเพิ่มเติม ดังนี้1. จุดผ่านแดนถาวรบ้านคลองลึก1.1 ประชาชนกัมพูชา ที่มีความจำเป็นสามารถเดินทางเข้ามาซื้อเครื่องอุปโภคบริโภคที่จำเป็น โดยใช้หนังสือผ่านแดน Border Pass ของจังหวัดบันเตียเมียนเจย เท่านั้น (ไม่อนุญาตให้ใช้หนังสือเดินทาง Passport ในการผ่านแดน) และไม่อนุญาตให้นำยานพาหนะ ตั้งแต่รถจักรยานยนต์ฯ และรถยนต์ส่วนบุคคลฯ ทุกชนิด เดินทางเข้ามาในราชอาณาจักรไทย (ยกเว้นรถจักรยาน 2 ล้อ) และให้ตรวจคนเข้าเมืองจังหวัดสระแก้ว ลงตราประทับอนุญาตให้อยู่ในราชอาณาจักรไทยได้ ไม่เกิน 1 วัน ตามห้วงเวลา […]