อัยการ-ตำรวจเข้าชี้แจงกมธ.กฎหมายฯ คดีบอส

รัฐสภา 29 ก.ค. -อัยการ-ตำรวจ เข้าชี้แจงข้อมูล กมธ.กฎหมายฯ สภา คดี “บอส อยู่วิทยา” ขอสรุปสำนวน ก่อนแจงอีกครั้งสัปดาห์หน้า ด้าน “โรม” ตั้งข้อสังเกตความสัมพันธ์ ทนายบอสเป็นอดีต ส.ว. ใกล้ชิด “พล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ”
ด้านอดีต ผกก.ทองหล่อ ยันมีผลตรวจสารเสพติดในสำนวน ขณะที่จเรตำรวจระบุอย่าว่าแต่สังคมแคลงใจ เพราะตำรวจยังสงสัยคดีนี้


การประชุมคณะกรรมาธิการการกฎหมาย การยุติธรรมและสิทธิมนุษยชน สภาผู้แทนราษฎร ซึ่งมีนายสิระ เจนจาคะ เป็นประธานการประชุม ได้เชิญตำรวจและอัยการมาชี้แจง คดีนาย วรยุทธ หรือบอส อยู่วิทยา ซึ่งผู้เข้าชี้แจงประกอบด้วย พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ พล.ต.ท.จารุวัฒน์ ไวศยะ ผู้ช่วย ผบ.ตร. พล.ต.ท.สมชาย พัชรอินโต ผู้บัญชาการสำนักงานกฎหมายและคดี พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ พ.ต.อ.สัมพันธ์ เหลืองสัจจกุล ผู้กำกับการสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ พ.ต.ท.ธนาวุฒิ สงวนสุข รองผู้กำกับการสอบสวนสถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และนายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี ได้รับมอบหมายจากสำนักงานอัยการสูงสุดในฐานะที่เป็นคณะกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงคดีที่เกิดขึ้น มาชี้แจง

พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ วัฒนวรางกูร จเรตำรวจแห่งชาติ กล่าวว่า ผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติให้ความสำคัญและไม่ได้นิ่งนอนใจ เพราะคดีอยู่ในความสนใจของประชาชน


พล.ต.ต.ชุมพล พุ่มพวง ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดสมุทรปราการ อดีตผู้กำกับสน.ทองหล่อ ชี้แจงในฐานะที่เป็นผู้กำกับในขณะนั้นว่า ไม่ได้เป็นพนักงานสอบสวนด้วยตัวเอง แต่ได้สอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐานโดยใช้เวลาประมาณ 5 เดือนส่งให้อัยการ จากนั้นอัยการขอให้สอบสวนเพิ่มเติมซึ่งตนได้ย้ายไปดำรงตำแหน่งที่อื่น และ เนื่องจากคดีนี้ใช้เวลาค่อนข้างนาน สำนักงานตำรวจแห่งชาติกำลังอยู่ระหว่างการสอบว่ามีใครเข้าไปเกี่ยวข้องในการดำเนินคดีในครั้งนั้นบ้าง ทั้งนี้ในระหว่างที่ดำรงตำแหน่ง ตัวผู้ต้องหาอยู่ระหว่างการประกันตัว ได้รับการปล่อยตัวชั่วคราว และหลังจากสอบสวนเสร็จสิ้นแล้วเมื่อวันที่ 26 กันยายน ได้นำตัวผู้ต้องหาพร้อมสำนวนการสอบสวนส่งพนักงานอัยการ และพนักงานอัยการได้นัดหมายเพื่อนำไปฟ้องร้องต่อซึ่งเป็นขั้นตอนของอัยการ

พล.ต.ต.ชุมพล กล่าวว่า หลังได้รับแจ้งเหตุรถชนไม่พบรถคู่กรณีในที่เกิดเหตุแต่มีคราบรอยน้ำมันจึงติดตามไปไม่ถึง 1 กิโลเมตรทราบว่าเป็นบ้านผู้ต้องหา ตอนแรกจะเข้าไปขอค้น ซึ่งพล.ต.ท.คำรณวิทย์ ธูปกระจ่าง ผู้บัญชาการตำรวจนครบาลในขณะนั้นเดินทางไปบัญชาการด้วยตัวเอง และคนในบ้านคือนายสุเวช หอมอุบล ได้เดินออกมาแสดงตัวว่าเป็นผู้ขับรถชน จึงนำตัวไปสอบสวน สุดท้ายรับว่าไม่ได้เป็นคนขับ และเมื่อตรวจสอบป้อมตรวจที่บันทึกรถเข้า-ออก พบว่าเป็นทะเบียนรถของบอส ทั้งนี้จากการสอบสวนทราบว่านายสุเมธทำหน้าที่เป็นพ่อบ้านและคนติดตามนายบอส และสุดท้ายสารภาพว่าเป็นหนี้บุญคุณคนในบ้านจึงออกมาสารภาพแทน ซึ่งดูจากห้วงเวลาซึ่งรวดเร็วมากจึงไม่น่ามีเวลาที่จะเตรียมการกันไว้ก่อน

ขณะที่กรรมาธิการสลับกันซักถาม ถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นและขั้นตอนการดำเนินคดี ว่าครบถ้วนตามขั้นตอนหรือไม่โดยนายรังสิมันต์ โรม กรรมาธิการได้พยายามซักถามว่า ได้มีการตรวจร่างกายนายวรยุทธหลังก่อเหตุหรือไม่ เหตุใดผลข้อมูลสิ่งแปลกปลอมในร่างกายจึงไม่อยู่ในสำนวนของคดี พร้อมตั้งข้อสงสัยว่านายสมัคร เชาวภานันท์ ที่ขณะนั้นมีตำแหน่งเป็นสมาชิกวุฒิสภา (สว.) เป็น ทนายความของ นายวรยุทธ อยู่วิทยา หรือ บอส ผู้ต้องหาคดีขับรถชน ด.ต.วิเชียร กลั่นประเสริฐ ตำรวจสน.ทองหล่อ มีความสัมพันธ์ใดกับพล.ร.อ.ศิษฐวัชร วงษ์สุวรรณ เพราะเคยอยู่ในกรรมาธิการเดียวกัน


พล.ต.ต.ชุมพล ชี้แจงถึงกรณีที่กรรมาธิการฯ สงสัยว่าได้มีการตรวจสารเสพติด ในตัวผู้ต้องหาหรือไม่ว่า ในวันนั้นได้ไปที่เกิดเหตุ นำตัวผู้ต้องหาและรถของกลางมาที่สถานีตำรวจนครบาลทองหล่อ และได้ให้ผู้ต้องหาแสดงความบริสุทธิ์ใจโดยการนำตัวไปตรวจร่องรอยบาดแผลที่โรงพยาบาล พร้อมทำหนังสือให้โรงพยาบาลตรวจหาสารเสพติดหรือสารแปลกปลอมทั้งหลายที่อยู่ในร่างกาย ซึ่งรายงานการตรวจก็อยู่ในสำนวนการสอบสวน ครบถ้วน ส่วนที่ถามว่าทำไมไม่มีการฟ้องตนก็อยากจะเรียนว่าเป็นดุลยพินิจของคณะพนักงานสอบสวนซึ่งมีหลายคน มีเหตุผลจากผู้ชำนาญการอยู่ในสำนวนซึ่งรายละเอียดในส่วนนี้ จะได้ไปให้กับคณะกรรมการสอบข้อเท็จจริงของสำนักงานตำรวจแห่งชาติเพื่อให้เป็นไปในทิศทางเดียวกัน

นายปรเมศวร์ อินทรชุมนุม อธิบดีอัยการ สำนักงานคดีอาญาธนบุรี หนึ่งใน 7 คณะทำงานตรวจสอบการพิจาณาสั่งคดี กล่าวว่ากำลังตรวจสำนวนในรายละเอียด เพราะบางจุดบางช่วงอาจไม่ตรง จึงขอว่าสัปดาห์หน้าจะมาชี้แจงทั้งหมด และขอยืนยันว่าทำงานมาตั้งแต่ปี 2521 ผู้บังคับบัญชาไม่เคยสั่งให้ฟ้องหรือสั่งไม่ฟ้องและตนไม่เคยรับคำสั่งของใครไม่ว่านักการเมืองท้องถิ่นหรือระดับชาติขอยืนยันว่าพวกตนมีอิสระจริงๆ ส่วนเหตุผลที่สั่งไม่ฟ้องนั้น พวกตนทั้ง 7 คนไม่ได้ทำสำนวนคดีเลยจึงขอเวลาตรวจสอบ พร้อมยืนยันไม่ปกป้องใครแต่เป็นการทำงานเพื่อตอบคำถามของสังคม

พล.ต.อ.ชนสิษฎ์ กล่าวว่า กรณีของการไม่ฟ้องนายวรยุทธนั้น เป็นเรื่องที่ทั้งสังคมและทุกฝ่ายให้ความสนใจ ซึ่งตนก็สงสัยและผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติก็สงสัย ดังนั้นวันนี้หน่วยงานที่เกี่ยวข้องตั้งกรรมการ สอบข้อเท็จจริงขึ้นมา 3 คำสั่ง ตั้งแต่สำนักงานอัยการสูงสุด สํานักงานตํารวจแห่งชาติ และนายกรัฐมนตรีตั้งกรรมการสอบ ดังนั้นหากประชาชนสงสัยในส่วนไหนขอให้คณะกรรมาธิการทำเป็นบันทึกและส่งไปให้คณะกรรมการที่เกี่ยวข้องเพื่อจะได้ตอบข้อสงสัย

นายสิระ ฝากไปกับทางตำรวจและอัยการคลายข้อสงสัยของสังคมและปกป้ององค์กรตำรวจและอัยการ นำผู้ใช้ช่องโหว่ของกฎหมายมาลงโทษ

นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ ประธานคณะกรรมาธิการกิจการศาลองค์กรอิสระองค์กรอัยการรัฐวิสาหกิจองค์การ มหาชน และกองทุน เสนอให้กรรมาธิการที่เกี่ยวข้องของสภา ทั้ง 3 คณะ คือกรรมาธิการศาลฯ กรรมาธิการกฎหมายฯ กรรมาธิการตำรวจฯ ทำงานร่วมกันเพื่อที่จะได้เชิญผู้เกี่ยวข้องมาชี้แจงในคราวเดียวกัน.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ค้น 17 จุดกรุงเทพฯ-ลพบุรี คุมตัว “หลวงพ่ออลงกต-หมอบี”

26 ส.ค.- ตำรวจสอบสวนกลาง ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด “กรุงเทพฯ-ลพบุรี” บุกรวบ “หลวงพ่ออลงกต” หลังพฤติกรรมชัดทุจริตยักยอกเงินบริจาค ขณะที่ “หมอบี” โดนด้วย หิ้วตัวเค้นสอบ เมื่อเวลา 01.00 น.วันที่ 26 ส.ค. มีรายงานว่าทางตำรวจสอบสวนกลาง (CIB) นำโดย พล.ต.ท.จิรภพ ภูริเดช ผบช.ก. สั่งการให้ พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว พล.ต.ต.สุวัฒน์ แสงนุ่ม รองผบช.ก. พล.ต.ต. วิทยา ศรีประเสิรฐภาพ ผบก.ป.พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปปพ.ต.อ.มนูญ แก้วก่ำ ผกก.1 บก.ป ปิดล้อมตรวจค้น 17 จุด ในพื้นที่กรุงเทพฯ-ลพบุรี เพื่อควบคุม หลวงพ่ออลงกต อดีตเจ้าอาวาสวัดพระบาทน้ำพุ จ.ลพบุรี และนายเสกสันน์ หรือหมอบี และพวก ตามหมายจับ ความผิด ม.147, 157 […]

ศาล รธน. สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก”

ศาล รธน. 25 ส.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญ สั่งเอาผิดเผยแพร่คลิป “นั่งลงลูก” ชี้บิดเบือน-ทำเสียหาย ศาลรัฐธรรมนูญได้ออกเอกสารข่าว ระบุว่า ตามที่ศาลรัฐธรรมนูญออกนั่งพิจารณาคดี เมื่อวันพฤหัสบดีที่ 21 สิงหาคม 2568 ไต่สวนพยานบุคคลที่ศาลรัฐธรรมนูญเรียกมาให้ถ้อยคำ จำนวน 2 ปาก ได้แก่ นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี ผู้ถูกร้อง และนายฉัตรชัย บางขวด เลขาธิการสภาความมั่นคงแห่งชาติ เรื่อง ประธานวุฒิสภา ส่งคำร้องขอให้ศาลรัฐธรรมนูญวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคสาม ประกอบมาตรา 82 ว่า ความเป็นรัฐมนตรีของนางสาวแพทองธาร นายกรัฐมนตรี สิ้นสุดลงเฉพาะตัวตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ เมื่อเสร็จสิ้นการไต่สวนแล้ว ศาลมีคำสั่งห้ามมิให้ผู้เข้าฟังการไต่สวนนำข้อมูลการไต่สวนไปเผยแพร่ และห้ามไม่ให้บิดเบือนข้อเท็จจริงหรือข้อกฎหมายในลักษณะที่สร้างความเข้าใจผิดต่อสาธารณชน อันเป็นคำสั่งศาลตาม พ.ร.ป.ว่าด้วยวิธีพิจารณาของศาลรัฐธรรมนูญ พ.ศ. 2561 […]

“แพทองธาร” รีโพสต์โต้คลิปบิดเบือน ยันศาลบอก “นั่งลงครับ”

กรุงเทพฯ 25 ส.ค.- “แพทองธาร” รีโพสต์สตอรี่ไอจี โต้ดรามาคลิปบิดเบือน ยันศาล รธน. บอก “นั่งลงครับ” นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม รีโพสต์สตอรี่ในอินสตราแกรมของสำนักข่าว VOICE TV ยืนยันไม่เป็นความจริง ต่อกระแสดรามาปล่อยคลิปเสียงตุลาการศาลรัฐธรรมนูญ พูดว่า “นั่งลงลูก” ภายหลัง น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม กล่าวคําปฏิญาณ ในระหว่างที่ศาลรัฐธรรมนูญไต่สวนพยาน คดีคลิปสนทนากับ ฮุน เซน เมื่อวันที่ 21 สิงหาคมที่ผ่านมา ซึ่งในคลิปดังกล่าวมีข้อความระบุว่า ฟังชัดๆๆ ศาลบอกว่า “นั่งลงครับ” ไม่ใช่ “นั่งลงลูก” อย่างที่มีคนปั่น!! อย่ามั่ว อย่าบิดเบือนข่าว อย่างไรก็ตาม คาดว่าในช่วงเช้าวันนี้ (25 ส.ค.) นางสาวแพทองธาร จะดำเนินการเรื่องการส่งคำแถลงปิดคดีต่อศาลรัฐธรรมนูญ เนื่องจากศาลนัดยื่นคำแถลงปิดคดีภายในวันนี้ ก่อนจะนัดฟังคำวินิจฉัยในวันที่ 29 สิงหาคม เวลา 15.00 น.-316 -สำนักข่าวไทย

ปลัด มท. สั่งสอบด่วน ปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ

ไอคอนสยาม 25 ส.ค.- ปลัด มท. เผยยังไม่ได้รับรายงานปมสแกนม่านตาแลกเหรียญ สั่งกรมการปกครองสอบด่วน นายอรรษิษฐ์ สัมพันธรัตน์ ปลัดกระทรวงมหาดไทย กล่าวถึงกรณีที่มีรายงานว่า มีกลุ่มบุคคลสแกนม่านตาประชาชนและชักชวนให้เข้าไปใช้แอปพลิเคชันเพื่อแลกกับเงินหรือเหรียญในระบบ ว่า ขณะนี้ยังไม่ได้รับรายงาน แต่หากเป็นการกระทำที่ไม่ถูกต้อง กระทรวงมหาดไทยจะสั่งการให้กรมการปกครองดำเนินการแก้ไขและจัดการอย่างถูกต้องทั่วประเทศอย่างไรก็ตาม หากประชาชนพบเห็นพฤติกรรมที่ไม่ถูกต้อง สามารถแจ้งเรื่องมายังกระทรวงมหาดไทย เพื่อให้ทุกจังหวัดดำเนินการตรวจสอบตามข้อเท็จจริง ส่วนกรณีที่มีรายงานว่ายังมีการดำเนินการในจังหวัดสุราษฎร์ธานี ปลัดกระทรวงมหาดไทยยืนยันว่าจะเร่งตรวจสอบทั้งที่สุราษฎร์ธานีและทุกจังหวัดที่ได้รับเรื่องร้องเรียน ทั้งนี้ การตรวจสอบจะพิจารณาว่าความผิดปกติเกิดจากเจ้าหน้าที่ของรัฐหรือบุคคลอื่น หากพบว่าเป็นเจ้าหน้าที่ของรัฐ กระทรวงมหาดไทยจะดำเนินการตามระเบียบอย่างเคร่งครัด โดยย้ำให้ประชาชนมั่นใจว่า กระทรวงพร้อมตรวจสอบอย่างโปร่งใส.-319 -สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ชาวบ้าน-พระ เดือดร้อน

สุโขทัย 28 ส.ค. – หลายพื้นที่เมืองสุโขทัย จมอยู่ใต้น้ำและขยายวงกว้าง แม่น้ำยมล้นพนังกั้นน้ำ ด้านหลังวัดปากแคว พระและชาวบ้าน ช่วยกันขนสิ่งของหนีน้ำ ภาพมุมสูง เผยให้เห็นสภาพน้ำท่วมสูงภายในวัดปากแคว และบริเวณโดยรอบ ทหารนำกำลังพล 22 นาย ลงพื้นที่ช่วยเหลือ พระวัดปากแคว ชาวบ้านในพื้นที่หมู่ 2 หมู่ 4 ต.ปากแคว 4 ชุมชน ในเขตเทศบาลเมืองสุโขทัยธานี ถูกน้ำท่วมขยายวงกว้าง รถยนต์จมน้ำหลายคัน ด้านหลังวัดปากแคว อำเภอเมือง แม่น้ำยมผนังกั้นน้ำล้นตลิ่ง มวลน้ำมหาศาล ทะลักเข้าท่วมเต็มพื้นที่ ระดับน้ำสูงรอบวัดเกือบ 2 เมตร ทะลักเข้าท่วม ไหลข้ามถนนจรดวิถีถ่อง ระยะทางกว่า 500 เมตร ต้องปิดกั้นถนนห้ามสัญจรไปมา พระครูปลัดสุวัฒนสาธุคุณ (พระอาจารย์นาค) เจ้าคณะตำบลบ้านกล้วย เจ้าอาวาสวัดพายชุมพล หลังทราบข่าว ระดับน้ำท่วม ในวัดปากแคว รีบนำอาหารกล่องพร้อมทั้งถุงยังชีพ เข้าไปถวายพระสงฆ์ 18 รูป ที่จำพรรษาอยู่ในวัดปากแคว เร่งหาผู้สูญหายที่แม่ฮ่องสอน […]

เร่งค้นหาอีก 3 ผู้สูญหายดินถล่มปางอุ๋ง ท่ามกลางความหวังของญาติ

28 ส.ค. – เข้าสู่วันที่ 2 ของเหตุดินโคลนถล่มบ้านปางอุ๋ง หมู่บ้านกลางหุบเขา อ.แม่แจ่ม จ.เชียงใหม่ เจ้าหน้าที่ยังคงปฏิบัติการค้นหาผู้สูญหายอีก 3 ราย โดยระดมกำลังนับร้อยนายพร้อมเครื่องจักรเดินหน้าค้นหา ท่ามกลางบรรดาญาติที่เฝ้ารอด้วยความหวัง ล่าสุดวันนี้พบร่างผู้เสียชีวิตอีก 2 ราย ทำให้ยอดผู้เสียชีวิตจากเหตุการณ์นี้เพิ่มเป็น 6 ราย และยังสูญหายอีก 3 คน ขณะที่หลายครอบครัวต้องสูญเสียบ้านที่อยู่มาหลายสิบปีและยังไม่รู้ว่าจะเริ่มต้นสร้างขึ้นใหม่ได้อย่างไร.-สำนักข่าวไทย

ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. โผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด

กทม. 28 ส.ค.-ประชุม ก.ตร. ล่ม เลื่อนไป 31 ส.ค. หลัง “ภูมิธรรม” ถกลับ ผบ.ตร. นานหลายชั่วโมง เหตุมีหนังสือร้องเรียนจำนวนมาก ทำโผนายพล 136 ตำแหน่งสะดุด ที่สำนักงานตำรวจแห่งชาติ นายภูมิธรรม เวชยชัย รักษาการนายกรัฐมนตรีไทย ในฐานะประธานคณะกรรมการข้าราชการตำรวจ หรือ ก.ตร. เป็นประธานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 7/2568 ณ ห้องประชุมศรียานนท์ ชั้น 2 อาคาร 1 มีระเบียบวาระการประชุม 5 วาระ ประกอบด้วย วาระที่ 1 เรื่องที่ประธานแจ้งให้ที่ประชุมทราบ /วาระที่ 2 รับรองรายงานการประชุม ก.ตร.ครั้งที่ 6/2568 /วาระที่ 3 เรื่องที่เสนอเพื่อทราบ เรื่องที่ 1 รายงานการดำเนินการของ อ.ก.ตร.สืบสวนสอบสวน ที่ ก.ตร. มอบหมายให้ทำการแทน […]

กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา เขต อ.อรัญประเทศ

สระแก้ว 23 ส.ค.-กองทัพไทย เคาะสร้างรั้วชายแดนไทย-กัมพูชา จุดแรกบริเวณหลักเขตที่ 50-51 เขต อ.อรัญประเทศ ระยะทาง 10 กม. เชื่อเริ่มดำเนินการได้เป็นรูปธรรมภายในปีนี้ พลเอกมนัส จันดี เสนาธิการทหาร กองบัญชาการกองทัพไทยพร้อมคณะลงพื้นที่เพื่อสำรวจแนวชายแดนตั้งแต่หลักเขตที่สี่ 48 ต่อเนื่องถึง 51 บริเวณพื้นที่บ้านป่าไร่ ถึงบ้านท่าข้าม ในเขต อ.อรัญประเทศ โดยการสำรวจดังกล่าวเพื่อเตรียมสร้างแนวกำแพงแนวชายแดนไทย-กัมพูชา โดยได้ข้อสรุปเบื้องต้นบริเวณหลักเกณฑ์ที่ห้า 50 และ 51 ซึ่งไทยและกัมพูชาเห็นตรงกันแล้วในเรื่องเขตแดน จะสร้างเป็นรั้วถาวรเป็นจุดแรกระยะทางประมาณ 10 กิโลเมตร ขณะบริเวณอื่นๆ ซึ่งยังมีการอ้างสิทธิ และยังไม่มีข้อสรุปเรื่องเขตแดนที่ชัดเจน เบื้องต้นก็จะสร้างเป็นแนวรั้วชั่วคราวด้วยวิธีการตัดถนนเลียบตลอดแนวชายแดนและวางรั้วลวดหนามหีบเพลงสามชั้น พร้อมติดกล้องวงจรปิดในจุดที่สามารถดำเนินการได้ ทั้งนี้เชื่อว่าการดำเนินการดังกล่าวจะเกิดประโยชน์ในการเคลื่อนย้ายกำลัง รวมไปถึงการลาดตระเวนตรวจตรา นอกจากนี้การปรับพื้นที่ให้โล่งก็จะทำให้การลักลอบผ่านแดนตามช่องทางธรรมชาติยากขึ้น ซึ่งถือเป็นการสกัดกั้นทั้งแก๊งคอลเซ็นเตอร์และปัญหาสแกมเมอร์ ได้ โดยการดำเนินการจะเริ่มต้นทันทีที่นำเรื่องเข้าขออนุมัติจากสภาความมั่นคงแห่งชาติและไม่ได้ติดขัดในเรื่องงบประมาณแต่อย่างใด เชื่อว่าภายในปีนี้น่าจะเห็นแนวรั้วกำแพงชายแดนไทย-กัมพูชา เริ่มต้นเกิดขึ้นได้ ซึ่งขั้นตอนต่อจากนี้จะมีการลงในรายละเอียดพื้นที่ต่างๆ เพื่อทำความเข้าใจกับประชาชนตามแนวชายแดนที่บางส่วนอาจได้รับผลกระทบบ้าง แต่ก็เชื่อว่าประชาชนพร้อมที่จะเสียสละเพื่อความมั่นคงปลอดภัยของส่วนรวม พลตรี วันชนะ สวัสดี ผู้อำนวยการสำนักงานประสานภารกิจด้านความมั่นคงกับกองอำนวยการรักษาความมั่นคงภายในราชอาณาจักร กรมยุทธการทหาร กล่าวเพิ่มเติมว่า การทำรั้วตลอดแนวชายแดนไทยกัมพูชาเกิดขึ้นจากข้อเรียกร้องของประชาชน […]