ทำเนียบรัฐบาล 10 ส.ค.-อุปทูตฯสหรัฐฯ พบนายกฯ อำลาตำแหน่ง ชื่นชมไทยแก้ปัญหาการค้ามนุษย์จริงจัง เป็นรูปธรรม
นายไมเคิล ฮีธ (Mr. Michael Heath) อุปทูตรักษาราชการชั่วคราว สถานเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทย เข้าเยี่ยมคารวะพล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในโอกาสพ้นจากหน้าที่ โดยนายกรัฐมนตรีชื่นชมความสัมพันธ์ไทย-สหรัฐฯ ที่มีพลวัตเพิ่มมากขึ้นทุกมิติ และมีความใกล้ชิดกันมาอย่างยาวนาน เชื่อมั่นว่าเอกอัครราชทูตสหรัฐอเมริกาประจำประเทศไทยคนใหม่ จะสานต่อภารกิจที่อุปทูตสหรัฐฯ ริเริ่มไว้ และเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกัน โดยรัฐบาลไทยพร้อมสนับสนุนและทำงานร่วมกับเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่อย่างเต็มที่
นายกรัฐมนตรี ยินดีที่ไทยกับสหรัฐฯ มีความร่วมมือทางเศรษฐกิจที่เข้มแข็ง โดยเฉพาะการค้าและการลงทุน ซึ่งสหรัฐฯ เป็นคู่ค้าอันดับที่ 3 ของไทย และเห็นว่า ยังมีศักยภาพที่จะเพิ่มพูนความร่วมมือระหว่างกันได้อีกมาก โดยเฉพาะการจัดทำแถลงการณ์ว่าด้วยความเป็นพันธมิตรและหุ้นส่วนทางยุทธศาสตร์ระหว่างไทยและสหรัฐฯ จะช่วยกำหนดเป้าหมายและแนวทางความร่วมมือเพื่อผลประโยชน์ร่วมกัน
ส่วนความร่วมมือด้านการต่อต้านการค้ามนุษย์ นายกรัฐมนตรี แสดงความยินดีที่ประเทศได้รับการยกระดับขึ้นเป็น Tier 2 ในรายงานสถานการณ์การค้ามนุษย์ (TIP Report) ประจำปี 2565 สะท้อนถึงความมุ่งมั่นการป้องกันและปราบปรามการค้ามนุษย์ของไทย ทั้งนี้ รัฐบาลไทยให้ความสำคัญต่อประเด็นปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจัง และประกาศให้เป็นวาระแห่งชาติ ซึ่งอุปทูตสหรัฐฯ ชื่นชมบทบาทที่แข็งขันของนายกรัฐมนตรีในการขับเคลื่อนการขจัดปัญหาการค้ามนุษย์อย่างจริงจังจนเกิดผลเป็นรูปธรรม
ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรีฝากความปรารถนาดีถึงประธานาธิบดีไบเดน สำหรับการต้อนรับที่อบอุ่นในช่วงที่นายกรัฐมนตรีเดินทางเยือนสหรัฐฯ เมื่อเดือนพฤษภาคมที่ผ่านมา พร้อมหวังว่าจะมีโอกาสให้การต้อนรับประธานาธิบดีไบเดนในการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ที่กรุงเทพฯ ช่วงปลายปีนี้ ซึ่งสหรัฐฯ จะเป็นเจ้าภาพการประชุมผู้นำเขตเศรษฐกิจเอเปค ในปี 2566 ต่อจากไทย
ด้านอุปทูตสหรัฐฯ ชื่นชมความสัมพันธ์ระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่เป็นพันธมิตรที่ใกล้ชิดในทุกมิติ พร้อมชื่นชมนโยบาย และบทบาทผู้นำของนายกรัฐมนตรีในช่วงสถานการณ์โควิด-19 ซึ่งทำให้ภาคธุรกิจในไทยยังคงสามารถดำเนินการได้ ซึ่งเอกอัครราชทูตสหรัฐฯ คนใหม่ จะมีบทบาทในการสานต่อและส่งเสริมความร่วมมือระหว่างกันมากขึ้น และชื่นชมไทยที่ให้ความช่วยเหลือด้านมนุษยธรรมอย่างต่อเนื่อง และพร้อมมีบทบาทที่สร้างสรรค์ร่วมกับไทย
ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายได้แลกเปลี่ยนความคิดเห็นต่อประเด็นสถานการณ์ระหว่างประเทศ โดยไทยได้ติดตามสถานการณ์อย่างใกล้ชิด และสนับสนุนให้ทุกฝ่ายหาทางออกร่วมกันโดยสันติวิธี ตระหนักถึงผลกระทบที่เกิดขึ้นกับประชาชน.-สำนักข่าวไทย