กรุงเทพฯ 27 ก.ค.-“นิกร” เผยผลประชุม ปรับร่าง กม.ลูกเลือกตั้ง ส.ส. นอกรอบ ให้กฤษฎีกา-กกต.นำต้นร่าง “หมอระวี” ไปพิจารณาก่อนทำความเห็น คาดได้ข้อสรุปเที่ยงนี้ ขณะ กมธ.ห่วงความเห็น “กกต.” ที่เป็น กมธ.จะมีผลผูกพันองค์กรตาม รธน.ม.132
นายนิกร จำนง ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคชาติไทยพัฒนา ในฐานะเลขานุการคณะกรรมาธิการ (กมธ.) วิสามัญพิจารณาร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. (ฉบับที่…) พ.ศ…. รัฐสภา เปิดเผยถึงการประชุมกมธ.ฯ เมื่อค่ำวานนี้ (26 ก.ค.) เพื่อพิจารณาแก้ไขเพิ่มเติมมาตราในร่างพระราชบัญญัติประกอบรัฐธรรมนูญว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส.ให้สอดคล้องกับสูตรคำนวณ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ที่รัฐสภาเห็นชอบให้ใช้จำนวน 500 คนหาค่าเฉลี่ยแทนจำนวน 100 คน ว่า เป็นการหารือนอกรอบเบื้องต้น ยังไม่มีข้อสรุปในรายละเอียด และวันนี้ (27 ก.ค.) เวลา 09.30 น. กมธ.ได้นัดหารืออย่างเป็นทางการอีกครั้ง เบื้องต้นคาดว่าจะได้ข้อยุติเวลาประมาณ 12.00 น.
“การประชุมกรรมาธิการฯวันนี้จะพิจารณาต่อจากการประชุมเมื่อคืนนี้ว่าจะแก้ไขอย่างไร โดยจะพยายามให้แล้วเสร็จภายในวันนี้ พร้อมเสนอต่อสภาช้าสุดในวันจันทร์ที่ 1 ส.ค.เพื่อบรรจุวาระการประชุมร่วมกันของรัฐสภาในวันอังคารที่ 2 ส.ค.นี้ ยืนยันว่า ไม่ได้ดึงเวลาเพื่อให้ชนะฟาล์ว แม้ว่า ตนเองจะไม่เห็นด้วยกับสูตรหาร500ก็ตาม ทั้งที่วิธีง่ายๆคือ ดึงเวลาให้เลยวันที่ 15 ส.ค.ก็จะต้องกลับไปเป็นสูตรหาร100 แล้ว แต่ก็จะไม่ทำแบบนั้น เพราะให้ไปที่ กกต.และไปต่อที่ศาลรัฐธรรมนูญดีกว่า จะเป็นอย่างไรก็เป็น” นายนิกร กล่าว
นายนิกร กล่าวว่า สำหรับร่างมาตราที่ นพ.ระวี มาศฉมาดล ส.ส.บัญชีรายชื่อ พรรคพลังธรรมใหม่ กมธ.เสียงข้างน้อยยกร่างเสนอต่อที่ประชุมรัฐสภาจำนวน 2 มาตรา นั้น ที่ประชุมได้นำกลับไปพิจารณา และให้คณะกรรมการกฤษฎีกาและตัวแทนของกรรมการการเลือกตั้ง (กกต.) ที่เป็น กมธ.ทำความเห็นเสนอต่อที่ประชุม อย่างไรก็ตาม กมธ.ได้ตั้งข้อสังเกตเกี่ยวกับปัญหาที่อาจจะเกิดขึ้นคือ กรณีที่ตัวแทนของ กกต.ที่เป็น กมธ. หากให้ความเห็นใดจะมีผลผูกพันกับองค์กรที่ส่งผลต่อขั้นตอนที่ กกต.ต้องทำความเห็นต่อเนื้อหา หลังจากที่รัฐสภาผ่านวาระสามแล้วหรือไม่
“เพราะรัฐธรรมนูญมาตรา 132 กำหนดให้ กกต.เป็นผู้ให้ความเห็นทักท้วงว่าร่าง พ.ร.ป.ว่าด้วยการเลือกตั้ง ส.ส. มีข้อความใดข้ดหรือแย้ง หรือทำให้ไม่สามารถปฏิบัติหน้าที่ให้ถูกต้องตามบทบัญญัติของรัฐธรรมนูญหรือไม่ ดังนั้น ในการประชุมมกมธ.ฯ จะเป็นประเด็นที่ต้องทำให้กิดความชัดเจน เพื่อไม่ให้มีการกล่าวอ้างว่าความเห็นของตัวแทนจากสำนักงาน กกต.ที่ร่วมเป็น กมธ.นั้น มีผลผูกพันต่อ กกต.ที่จะทำความเห็น
เมื่อถามถึงการเสนอให้กลับไปใช้สูตรหาร 100 และบัตรใบเดียว นายนิกร กล่าวว่า เรื่องกลับไปใช้หาร 100 และบัตร 2 ใบเป็นเรื่องที่แก้กันมาโดย 3 พรรคการเมือง คือพรรคประชาธิปัตย์ ภูมิใจไทยและชาติไทยพัฒนา โดยพรรคชาติไทยพัฒนาได้พูดคุยกันแล้วว่าไม่เห็นด้วยกับการแก้กลับไปที่เดิม เพราะได้แก้ไขมาแล้วเป็นบัตร 2 ใบ แม้ว่าพรรคชาติไทยพัฒนาจะเสียเปรียบก็ตาม เพราะไม่สามารถตอบประชาชนได้
นายนิกร ยืนยันว่า กรรมาธิการฯต้องทำเรื่องนี้ให้จบ เมื่อจบแล้วก็ไปต่อที่ กกต. โดย กกต.ก็จะให้ความเห็นกลับมาว่า ขัดหรือแย้งกับรัฐธรรมนูญหรือไม่ และตนเชื่อว่า กกต.คงไม่ให้ความเห็นเรื่องนี้เพราะไม่ใช่หน้าที่ แต่อาจจะตอบกลับมาว่า กฎหมายนั้นปฏิบัติได้หรือไม่ ถ้าเป็นแบบนี้ อาจจะแย้งกลับไปเป็นสูตรหาร 100 แต่รัฐสภาจะเห็นด้วยกับ กกต.หรือไม่ ซึ่งหากรัฐสภาเห็นด้วยกับสูตรหาร 500 ที่ กมธ.แก้รัฐธรรมนูญเห็นว่าขัดรัฐธรรมนูญ ก็จะยื่นศาลรัฐธรรมนูญ ทั้งนี้ หากรัฐสภาเห็นด้วยกับสูตรหาร 100 ก็จะถูกยื่นศาลรัฐธรรมนูญตีความเช่นกัน ก็ต้องทำไปให้สุดทาง เพื่อจะได้จบ เมื่อถามว่า จะมีแนวโน้มเรื่องการแก้รัฐธรรมนูญหรือไม่ นายนิกร กล่าวว่า ต้องทำเรื่องนี้ให้จบก่อน.-สำนักข่าวไทย
