กำชับ ครม.ทำงานให้เร็วขึ้น โปร่งใส ตรวจสอบได้

ทำเนียบรัฐบาล 26 ก.ค.-นายกฯ พร้อมนำข้อเสนอแนะปรับปรุงการทำงานของรัฐบาล บอก ครม.เร่งทำงานให้เร็วขึ้นช่วงเวลาที่เหลือ ย้ำต้องโปร่งใส ตรวจสอบได้ ยังไม่คิดปรับ ครม. ขอสื่อเบาๆ กันหน่อย บ้านเมืองจะได้เดินหน้า  


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม แถลงภายหลังประชุมคณะรัฐมนตรี(ครม.) ว่า สัปดาห์ที่ผ่านมามีการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ต้องขอบคุณรัฐมนตรีที่ทำข้อมูลให้รัฐบาลชี้แจงให้ประชาชนเข้าใจอย่างชัดเจนมากขึ้นหลายประเด็น ซึ่งเรื่องไหนที่เป็นประโยชน์จะนำไปปรับปรุงแก้ไขในการทำงานของรัฐบาลให้เกิดประสิทธิภาพสูงสุดมากยิ่งขึ้นต่อไปเพื่อประโยชน์ของประชาชนทุกภาคส่วน

“จะขอใช้เวลาที่มีอยู่ เนื่องจาก 2-3 สัปดาห์ที่ผ่านมาได้ใช้เวลาไปกับการเตรียมการอภิปรายไม่ไว้วางใจ ยังมีงานต่าง ๆ จำนวนมากที่ต้องแก้ไขต่อเนื่อง ขอให้บ้านเมืองสงบเรียบร้อย ช่วยกันรักษากฎหมาย ผมไม่ขอก้าวล่วงอำนาจใดทั้งสิ้น เป็นเรื่องที่ทุกคนต้องรับผิดชอบเอาเอง จะทำอะไรก็ตามถือว่าเราเป็นประชาชนเหมือนกัน ไม่ได้มีสิทธิพิเศษไปกว่าคนอื่นในเรื่องของกฎหมาย ได้รับการตรวจสอบทุกประเด็น ทุกกรณี มีคดีต่าง ๆ อยู่ ไม่ใช่ว่าไม่มี ซึ่งต่อสู้ไปตามกระบวนยุติธรรม ไม่ใช่ว่าไม่ต้องรับการตรวจสอบอะไรทั้งสิ้นคงไม่ใช่ เพราะผมก็มีสิทธิ์เท่ากับทุกคน แค่มีหน้าที่ มีความรับผิดชอบมากกว่า แต่ไม่ได้เรียกร้องสิทธิ์พิเศษเหนือคนอื่น ทำไม่ได้ ต้องเท่าเทียมกันด้านกฎหมายนี่คือความเท่าเทียม” นายกรัฐมนตรี กล่าว


ส่วนช่วงเวลาการทำงานที่เหลือ ต้องกำชับรัฐมนตรีอย่างไร นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ให้ทำงานรวดเร็วขึ้น ปลอดภัย สุจริต โปร่งใส ตรวจสอบได้ ซึ่งย้ำมาตลอดตั้งแต่วันแรก 7 ปีที่ผ่านมา และให้ติดตามสืบหาเรื่องที่ไม่ชอบมาพากล มีทั้งร้องเรียน สั่งให้หยุดกระทำ ตนก็หยุด ไม่ใช่เขาบอกว่าไม่หยุด แล้วก็ไม่หยุด มันก็จะมีเรื่องกันต่อไป และตนหยุดเท่านั้นเอง เมื่อถามถึงการปรับครม.ว่าอยากได้ยินจากปากนายกรัฐมนตรี นายกรัฐมนตรีเดินออกจากโพเดียมทันที และกล่าวว่า ยังไม่คิดปรับครม. อย่างไรก็ตาม เมื่อเดินออกมาหน้าตึกบัญชาการและพบสื่อยืนดักรอสัมภาษณ์ตากฝนปรอยๆ  นายกรัฐมนตรี กล่าวแสดงความเป็นห่วงว่า ยืนตากฝน ระวังสุขภาพกันด้วย และว่า “เบา ๆ กันบ้างนะ บ้านเมืองจะได้เดินหน้าต่อไป” .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สำนักสงฆ์หูตาทิพย์

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์”

ขุดพบ 12 ศพ ในสำนักสงฆ์ลัทธิประหลาด “สอนหู-ตาทิพย์” พระอ้างใช้สอนวิปัสสนากรรมฐาน เบื้องต้นอายัดไว้พิสูจน์ดีเอ็นเอ พร้อมเอาผิดหัวหน้าสำนักสงฆ์ ฐานนำศพเก็บไว้ในสถานที่ที่ไม่ใช่สุสานและฌาปนสถาน

“สนธิ” ยื่นถอด “ตั้ม-เดชา” ออกจากทนาย

“สนธิ ลิ้มทองกุล” หอบหลักฐานบุกสภาทนายความ ถอดทนายตั้ม-ทนายเดชา ออกจากทนาย ระบุ ได้รับมอบอำนาจจาก “มาดามอ้อย” แล้ว เดินหน้าเอาผิด ทนายตั้มแบบสุดซอย ไม่ให้มีคนตกเป็นเหยื่อผู้รู้กฎหมายอีก

รัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มยูเครน

ประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซีย แถลงยืนยันว่ารัสเซียยิงขีปนาวุธข้ามทวีปรุ่นใหม่ถล่มภาคตะวันออกยูเครนเมื่อวานนี้ ตอบโต้ที่ยูเครนใช้ขีปนาวุธที่ได้รับมอบจากสหรัฐและอังกฤษ

ข่าวแนะนำ

โค้งสุดท้าย ศึกสองนารีชิงเก้าอี้ นายก อบจ.นครฯ

เหลือไม่ถึง 2 วันแล้ว ที่ชาวนครศรีธรรมราชจะได้ออกไปใช้สิทธิเลือกตั้งนายก อบจ.นครฯ ศึกนี้เป็นการสู้กันเองของพรรคร่วมรัฐบาล ฝ่ายหนึ่งต้องการรักษาฐานที่มั่นไว้ให้ได้ อีกฝ่ายต้องการเจาะฐานให้แตก เพื่อหวังครองที่นั่งการเมืองระดับชาติในสมัยหน้า

ร้อนระอุโค้งสุดท้าย ศึกชิงเก้าอี้ นายก อบจ.อุดรธานี

การเลือกตั้งนายกองค์การบริหารส่วนจังหวัดอุดรธานี ครั้งนี้ดุเดือดเกินคาด ผู้สมัครจาก 2 พรรคใหญ่ลงชิงชัย ต่างเร่งเครื่องเต็มที่ในโค้งสุดท้าย การเลือกตั้งจะเกิดขึ้นในวันอาทิตย์ที่ 24 พ.ย.นี้ ใครจะเป็นผู้คว้าชัยชนะและสร้างการเปลี่ยนแปลงครั้งสำคัญให้จังหวัดอุดรธานี ไปติดตามจากรายงาน

ความเห็นนักวิชาการ คดีทักษิณ

ศาลรัฐธรรมนูญมีมติไม่รับคำร้อง นายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรีและพรรคเพื่อไทย ร่วมกันกระทำการอันเป็นการใช้สิทธิหรือเสรีภาพเพื่อล้มล้างการปกครอง ขณะที่นักวิชาการชี้ว่าไม่ได้พลิกไปจากความคาดหมาย และผลจากคดีนี้ ไม่ทำให้เกิดจุดเปลี่ยนทางการเมือง แต่ก็ยังมีจุดเสี่ยงที่ต้องระวัง