“อนุพงษ์” ยันไม่มีการแก้สัญญาให้เอกชนโครงการประปา ปทุมฯ-รังสิต

รัฐสภา 20 ก.ค.-“อนุพงษ์” โต้ ส.ส.เพื่อไทย ยันไม่มีการแก้สัญญาให้เอกชนโครงการประปาภูมิภาคส่วนต่อขยายปทุมธานี-รังสิต ชี้เมื่อหมดสัญญา การประปาต้องทำต่อเอง


นายเลิศศักดิ์ พัฒนชัยกุล ส.ส.เลย พรรคเพื่อไทย กล่าวอภิปรายไม่ไว้วางใจ พลเอกอนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ในฐานะกำกับดูแลการประปาส่วนภูมิภาค และมีหน้าที่สั่งการให้การประปาชี้แจงข้อเท็จจริงหรือรายงานยับยั้งการกระทำของการประปาส่วนภูมิภาคที่ขัดต่อนโยบายของรัฐบาลหรือมติคณะรัฐมนตรี ในส่วนที่เกี่ยวข้องกับโครงการเอกชนร่วมลงทุนน้ำประปาปทุมธานี-รังสิต ซึ่งรัฐมีความเสี่ยงที่จะเสียหายถึง 36,513 ล้านบาท โดยมีพฤติกรรมความผิด คือในฐานะผู้บริหารไม่ซื่อสัตย์สุจริต ไม่รอบคอบในการดำเนินกิจกรรมต่างๆ เพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน อันขัดต่อรัฐธรรมนูญและกฏหมาย ให้บุคคลแวดล้อมและพวกพ้องแสวงหาผลประโยชน์บนความทุกข์ยากของประชาชน โดยละเว้นและเพิกเฉยต่อการทุจริตในภาครัฐ เพื่อเอื้อประโยชน์แก่ตนเองและพวกพ้อง และไม่ใส่ใจที่จะป้องกันและปราบปราม รวมถึงมีพฤติกรรมที่จงใจสมคบคิดเป็นตัวการแบ่งแยกหน้าที่กันทำทุจริตต่อตำแหน่งหน้าที่ราชการ ในลักษณะช่วยเหลือกันระหว่างเจ้าหน้าที่รัฐและเอกชน ไม่ระงับยั้บยั้งการทำให้เกิดความเสียหายต่อประเทศชาติและประชาชน โดยถือเป็นขบวนการเอื้อประโยชน์ให้แก่เอกชนเพียงรายเดียว ด้วยการพยายามต่อสัญญาโครงการดังกล่าวกับการประปาส่วนภูมิภาคไปอีก 20 ปี

“ท่านได้สร้างความเหลื่อมล้ำให้กับสังคมไทยให้ความสำคัญกับเอกชนรายใหญ่ในหลายโครงการท่านลืมความทุกข์ยากของประชาชนแล้วหรือ ท่านรู้อยู่แก่ใจดีว่าเป็นผู้เห็นชอบให้การประปาส่วนภูมิภาคดำเนินการต่อภายหลังจากสิ้นสุดสัญญาตามกฎหมาย แต่กลับไม่ยับยั้ง เมื่อบอร์ดชุดใหม่เสนอให้เป็นการแก้ไขสัญญาให้เอกชนรายเดิมดำเนินการต่อ ท่านควรจะต้องสั่งให้ผู้ว่าการการประปาได้นำเสนอผลการศึกษาก่อนที่จะดำเนินการต่อ” นายเลิศศักดิ์ กล่าว


พลเอกอนุพงษ์ กล่าวว่า เป็นไปตามที่นายเลิศศักดิ์ได้ยกประเด็นปัญหาดังกล่าวขึ้นมา คือ การประปามีสัญญากับบริษัทหนึ่ง มีอายุสัญญา 25 ปี ตั้งแต่ 15 ตุลาคม 2541 ซึ่งเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นตั้งแต่ตนยังไม่ได้เข้ามารับตำแหน่ง และจะสิ้นสุดอายุสัญญา 14 ตุลาคม 2566 ในการศึกษาระบุว่าการประปาทำเองจะคุ้มค่าที่สุด โดยได้มีการส่งเรื่องมาถึงตนตนก็ได้เห็นชอบไปตามที่เสนอมา และตนไม่เคยคิดที่จะเปลี่ยนแปลงการกระทำตามสัญญาดังกล่าว โดยยังเห็นชอบให้การประปาดำเนินการเอง จึงไม่ทราบว่านายเลิศศักดิ์เอาข้อมูลมาจากไหนว่าตนจะไปเปลี่ยนแปลง ตนขอยืนยันว่าจะไม่มีการเปลี่ยนแปลงแน่นอน 100% ซึ่งการประปาจะต้องเป็นผู้ดำเนินการเองเมื่อสิ้นสุดสัญญา ซึ่งเรื่องนี้เป็นหน้าที่ของบอร์ดที่ดำเนินการและเสนอมา แต่หากมีการเสนอมาตนก็จะไม่เห็นชอบ และหากจะมีการเสนอไปยัง สคร. ตนก็จะไปต่อต้านที่ สคร. และจะไม่มีการนำเข้า ครม. ดังนั้นโครงการนี้จะไปแก้ไขสัญญาไม่ให้ต่อสัญญายืนยันไม่มีแน่นอน ซึ่งเรื่องนี้มีการส่งเรื่องมานานแล้ว แต่ตนไม่เห็นชอบ

“ดังนั้นที่กล่าวมาทั้งหมด ที่กล่าวอ้างว่าผมไปปล่อยปละละเลย หรือไม่ทำ หรือรู้เห็นเป็นใจด้วยเป็นเท็จหมด เพราะผมนี่แหละไม่ให้แน่นอน วันใดที่นำเรื่องนี้เข้ามาอีกผมก็จะไม่เห็นชอบ ตราบใดที่ผมมีอำนาจหน้าที่ ไม่มีแน่นอน ท่านอย่ามากล่าวใส่ร้ายผม เพราะฉะนั้นท่านต้องไว้ใจผม” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว .-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่ม 31 ซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับคาที่ หลังมีปากเสียงเรื่องขับเฉี่ยวชน

หนุ่มไทยเชื้อสายอินเดีย ลูกเจ้าของร้านขายผ้าซิ่งเก๋งชนไรเดอร์ดับ ริมถนนสุขุมวิท หลังมีปากเสียงเรื่องขับรถเฉี่ยวไม่ลงมาเจรจา

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ขับรถชนไรเดอร์ดับ

พ่อพาญาติเยี่ยมลูกชายลูกครึ่งอินเดีย ที่หัวร้อนขับรถชนไรเดอร์ดับคาที่กลางสุขุมวิท เมื่อวานนี้ พร้อมไหว้ขอสื่อ อย่ามายุ่งกับครอบครัว

จำคุกทนายเดชา

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” ปมไลฟ์หมิ่น “อ.อ๊อด”

ศาลสั่งจำคุก 1 ปี “ทนายเดชา” คดีหมิ่น “อ.อ๊อด” ปรับ 1 แสนบาท ปมไลฟ์ด่าเสียหาย ให้รอลงอาญา โจทก์เตรียมอุทธรณ์ต่อ ขอให้ติดคุกจริง

ศาลให้ประกันหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนไรเดอร์ดับ

ครอบครัวไรเดอร์ที่ถูกหนุ่มลูกครึ่งอินเดียหัวร้อนขับรถไล่ชนเสียชีวิต กอดกันร้องไห้รับร่างและรดน้ำศพ ด้านศาลให้ประกันตัวผู้ต้องหา วงเงิน 600,000 บาท ติดกำไล EM-ห้ามออกนอกประเทศ

ข่าวแนะนำ

จำคุกสมรักษ์คำสิงห์

ศาลสั่งคุก 2 ปี 13 เดือน 10 วัน “สมรักษ์” พยายามข่มขืนสาววัย 17

ศาลจังหวัดขอนแก่น พิพากษาจำคุก “สมรักษ์ คำสิงห์” อดีตนักมวยฮีโร่เหรียญทองโอลิมปิก เป็นเวลา 2 ปี 13 เดือน 20 วัน พร้อมชดใช้ค่าสินไหมทดแทนรวม 170,000 บาท คดีพยายามข่มขืนเด็กสาววัย 17 ปี

คึกคัก คู่รักจูงมือกันไปจดทะเบียนวันแรกกฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผล

วันนี้กฎหมายสมรสเท่าเทียมมีผลใช้บังคับอย่างเป็นทางการ หลายคู่รักควงแขนไปจดทะเบียนสมรสกันชื่นมื่น ที่สยามพารากอน มีคู่รักที่ลงทะเบียนมาจดทะเบียนสมรสที่นี่กว่า 300 คู่

ฝุ่น กทม.

คนกรุงจมฝุ่นต่อเนื่อง เช้านี้อยู่ระดับสีแดง 21 พื้นที่

กทม. อ่วมหนัก ฝุ่น PM 2.5 พุ่งต่อเนื่อง อยู่ระดับสีแดง ผลกระทบต่อสุขภาพ 21 พื้นที่ ย้ำสวมหน้ากากอนามัยขณะอยู่นอกอาคาร และงดกิจกรรมกลางแจ้ง