ร้องฟันขบวนการงาบงบปูพื้นสภาใหม่

รัฐสภา 20 มิ.ย.-“วัชระ” ร้องปธ.สภาฯ ฟันขบวนการงาบงบประมาณสอดไส้ใช้ไม้พะยอมแทนไม้ตะเคียนทอง โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่


นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พิจารณาสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดกรณีการใช้ไม้ในการก่อสร้างและตกแต่งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญา เนื่องจากปรากฏหลักฐานชัดเจนตามบันทึกข้อความรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์) ที่ 12 ลงวันที่ 14 มี.ค. 65 และหนังสือกรมป่าไม้ ที่ ทส 1607.520/2554 ลงวันที่ 11 ก.พ. 65  สรุปได้ว่ามีการใช้ “ไม้พะยอม” ซึ่งมิใช่ไม้ชนิดที่ระบุในข้อกำหนดของสัญญาฯ มาปะปนใช้ในการปูพื้นแทน “ไม้ตะเคียนทอง” ซึ่งเป็นไม้ “ชนิด” ที่ระบุในข้อกำหนดของสัญญาฯ ประกอบกับคณะกรรมการตรวจการจ้างตรวจรับงวดงานของการปูพื้นไม้ดังกล่าวแล้ว และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ว่าจ้าง) ได้จ่ายเงินซึ่งเป็นงบประมาณของแผ่นดินให้กับงวดงานดังกล่าวแล้ว ในขณะนางพรพิศ เพชรเจริญ เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอันอาจเข้าข่ายกระทำความผิดทางอาญา และเป็นเหตุให้ผู้ว่าจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง โดยนายวัชระได้มีหนังสือลงวันที่ 28 มี.ค. 65 แจ้งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบและให้ดำเนินการแล้วนั้น

หนังสือระบุว่า มีกลุ่มบุคคลหนึ่งพยายามจะให้มีการยอมรับว่า “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นที่ปะปนมาใช้กับการปูพื้นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่สามารถใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” ได้ ซึ่งเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบ และข้อกำหนดในสัญญาฯ ที่ระบุ “ชนิด” ของไม้ว่าให้ใช้ “ไม้ตะเคียนทอง” เท่านั้น การกระทำดังกล่าวจะมีผลเป็นการปกปิดและยกเว้นความรับผิดชอบที่ใช้ “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นมาปูพื้นปะปนแทน “ไม้ตะเคียนทอง” เนื่องจากมีการจ่ายเงินงบประมาณเป็นค่าให้กับงวดงานการปูพื้นดังกล่าวไปแล้ว


นายวัชระ กล่าวว่า เมื่อเจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบ และข้อกำหนดในสัญญาฯ ระบุให้ใช้ไม้ “ชนิด” ไม้ตะเคียนทอง ต้องใช้ตามนั้น มิใช่ว่าจะใช้ไม้ “ชนิด” อื่นมาทดแทนได้ สำหรับคุณภาพของไม้ที่อ้างอิงตามมาตรการฐานของ มอก.เพื่อควบคุมคุณภาพของไม้ที่จะนำมาใช้ในการก่อสร้างและตกแต่ง เพื่อให้ได้ไม้ที่มี “คุณภาพ” ดี แข็งแรง ทนทาน จึงไม่สามารถตีความความหมายของคำว่า “ชนิดของไม้” กับคำว่า “คุณภาพของไม้” มาบิดเบือนจนสามารถใช้ไม้ “ชนิด” อื่นมาใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” อันผิดไปจากวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบและข้อกำหนดของสัญญาฯ

“ความพยายามในการบิดเบือน โดยการตีความข้อกำหนดของสัญญาฯ เพื่อให้ยอมรับการใช้ “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” ยังเป็นการขัดกับข้อเท็จจริงที่เป็นเอกสารในการส่งมอบเอกสารในการตรวจรับและเอกสารทางการเงินของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ว่าจ้าง) ที่ได้จ่ายเงินงบประมาณอันเป็นค่าจ้างในงวดงานของการปูพื้นไม้ดังกล่าวในอัตราและราคาของ “ไม้ตะเคียนทอง”และยังมีความพยายามในการตีความข้อกำหนดของสัญญาฯ เกี่ยวกับ “งานงวดสุดท้าย” โดยมีเจตนาว่าแม้จะปูพื้นอาคาร มีการตรวจรับและจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างในงวดงานดังกล่าวไปแล้ว มิใช่เป็นการตรวจรับงานงวดสุดท้าย โดยเมื่อพบข้อพิรุธหรือข้อบกพร่องภายหลังว่ามีการใช้ไม้ชนิดอื่น ซึ่งไม่ใช่ไม้ตะเคียนทอง ตามข้อกำหนดในสัญญาฯ จึงสามารถแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ ได้ เป็นการตีความที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากงานงวดสุดท้ายเป็นงานงวดหนึ่งเหมือนกับงานงวดอื่น ๆ” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นเพียงแต่ข้อกำหนดของสัญญาฯ ระบุให้สามารถแก้ไขความบกพร่องใน “คุณภาพ” ของงานได้เท่านั้น แต่มิได้หมายความว่า งานในงวดงานต่าง ๆ ที่ผ่านผู้เกี่ยวข้องจะใช้วัสดุ “ชนิด” ใดก็ได้ หรือไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ ก็ได้ มาดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จตามงวดงานนั้น ๆ อันนำมาสู่การเบิกค่าจ้างของงวดงานนั้น เพราะงานแต่ละงวดต้องมีความถูกต้อง ใน “ชนิด” ของวัสดุ ปริมาณงานฯ โดยต้องมีส่งมอบ รับมอบ อนุมัติการจ่ายค่าจ้างในอัตราและราคาของ “ชนิด” ของวัสดุดังกล่าว หากมีการจ่ายค่าจ้างอันเป็นงบประมาณแผ่นดินให้กับวัสดุ “ชนิด” ที่ไม่ถูกต้อง ผู้เกี่ยวข้องย่อมต้องรับผิดต่อไป เพราะ “ชนิด” ของวัสดุ จะเป็นตัวกำหนดอัตราและราคาในการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง หากมีการใช้ “ชนิด” ของวัสดุต่างชนิดหรือประเภทกัน ย่อมมีราคาและการจ่ายค่าจ้างที่ต่างกัน


“ความถูกต้องของ “ชนิด” ของวัสดุของแต่ละงวดงาน จึงเป็น “สาระสำคัญ” ของการส่งมอบ ตรวจรับและการจ่ายค่าจ้าง ซึ่งก็เป็นไปตามเหตุผลของกรรมการตรวจการจ้าง 3 คน ที่ระบุว่า การใช้ไม้ที่ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ เป็น “สาระสำคัญ” ของการตรวจรับและมีผลถึงการจ่ายที่ไม่ตรงตามวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างตกแต่งอาคารรัฐสภาฯ ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจากข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตว่า ไม้ตง (ไม้รองไม้ปูพื้น) ตามข้อกำหนดในสัญญาต้องเป็นไม้ตะเคียนทอง แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ไม้ตามข้อกำหนดในสัญญาเช่นเดียวกับไม้ปูพื้นที่กรมป่าไม้พิสูจน์แล้วว่าเป็นไม้พะยอม จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งการให้กรมป่าไม้มาพิสูจน์ไม้ปูพื้นและไม้ตงทุกแผ่นในอาคารรัฐสภาว่าตรงตามข้อกำหนดในสัญญาหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาต่อไป พร้อมสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ และปกป้องงบประมาณแผ่นดินเพื่อมิให้มีการใช้ไปอย่างไม่ถูกต้อง” นายวัชระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พระขโมยรถยนต์โยมวันเข้าพรรษา

กาฬสินธุ์ 12 ก.ค.-วงการผ้าเหลืองไม่แผ่ว พระหนุ่มขโมยรถยนต์ญาติโยมที่มาทำบุญวันเข้าพรรษา ถูกตำรวจสกัดจับได้ทันควัน ตำรวจ สภ.สมเด็จ จ.กาฬสินธุ์ สกัดจับรถเก๋งสีดำคันบริเวณสี่แยกไฟแดง อ.สมเด็จ หลังรับแจ้งว่าพระสงฆ์หนุ่มแอบขโมยรถจากญาติโยมที่มาทำบุญในวันเข้าพรรษา แล้วขับหนีมาทาง อำเภอสมเด็จ ตำรวจจึงออกสกัดจับจนเจอ ส่วนพระสงฆ์ที่ก่อเหตุมีอาการพูดจาวกไปวนมา ตำรวจจึงนำตัวมาสงบสติอารมณ์ที่โรงพัก และแจ้งให้เจ้าของรถมารับรถคืน เตรียมดำเนินคดีกับพระรูปนี้ต่อไป หลังสึกจากการเป็นพระ.-สำนักข่าวไทย

น้ำป่าทะลักท่วมแพร่ บ้านเรือนเสียหายหนัก

แพร่ 12 ก.ค.-ฝนตกหนักต่อเนื่องในพื้นที่ จ.แพร่ น้ำป่าทะลักเข้าท่วมบ้านเรือนราษฎรช่วงกลางดึก เสียหาย 2 อำเภอ เกิดเหตุน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมพื้นที่ชุมชนในตำบลแดนชุมพล จังหวัดแพร่ และอำเภอร้องกวางบางส่วน เนื่องจากมีฝนตกลงมาอย่างหนักในช่วงค่ำคืนที่ผ่านมา ส่งผลให้บ้านเรือนของประชาชนได้รับความเสียหายในหลายพื้นที่ โดยเฉพาะบริเวณพื้นที่ลุ่มและแนวทางน้ำธรรมชาติที่รับน้ำจากภูเขาและป่าใกล้เคียง ปริมาณน้ำที่หลากเข้ามาเกิดจากฝนตกหนักต่อเนื่องตลอดช่วงคืนที่ผ่านมา ทำให้ระดับน้ำเพิ่มสูงขึ้นอย่างรวดเร็ว ชาวบ้านไม่ทันตั้งตัว ทรัพย์สินของประชาชนบางส่วนได้รับความเสียหาย โดยเฉพาะบ้านโทกค่า อำเภอสอง จังหวัดแพร่ หลายหลังคาเรือนได้รับผลกระทบเนื่องจาก ไม่เคยเกิดเหตุแบบนี้มาก่อน ปีนี้น้ำมากกว่าทุกปี ทำให้เก็บข้าวของไม่ทัน ได้รับความเสียหาย ครั้งสุดท้ายที่เคยท่วม ตั้งแต่ปี 2538 .-สำนักข่าวไทย

สองสาวใหญ่ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกมือถือ

กทม. 12 ก.ค. – สองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิพระอาพาธ ฉกโทรศัพท์มือถือลอยนวล พบเคยเข้ามาขอเงินหลวงตาแล้วครั้งหนึ่ง กล้องวงจรปิดบันทึกภาพขณะ ผู้หญิง 2 คนเข้าไปในกุฏิที่พระสงฆ์นอนอาพาธอยู่ คนหนึ่งนั่งพื้นส่วนอีกคนยืนอยู่แล้วเอื้อมมือไปหยิบโทรศัพท์มือถือบนเตียงนอนไป เหตุการณ์นี้ นายมนูญ อายุ 29 ปี หลานชายของพระลูกวัดแห่งหนึ่ง ในซอยประชาอุทิศ 27 ถนนประชาอุทิศ แขวงบางมด เขตทุ่งครุ กรุงเทพฯ ร้องเรียนกับผู้สื่อข่าว ให้ช่วยตามหาสองสาวใหญ่ ย่องเข้ากุฏิ “หลวงตาสุข” อายุ 80 ปี ซึ่งป่วยเป็นโรคประจำตัว ประกอบกับอายุมากเดินได้ไม่ปกติ โดยหลวงตาสุข เป็นพระลูกวัด พักอยู่กุฏิด้านหลังโบสถ์ เมื่อวานนี้ (11 ก.ค.) ประมาณ 13.45 น. ขณะกำลังนอนพักผ่อนอยู่ มีหญิงร่างท้วม 2 คนเข้าไปในกุฏิ จากนั้นคนใส่เอี๊ยมสีเขียวผมสั้นลงมือค้นหาสิ่งของบนหัวเตียง ส่วนอีกคนที่มาด้วย คอยดูต้นทาง จนกระทั่งหญิงคนที่รื้อหาสิ่งของมองเห็นโทรศัพท์มือถือ ราคาประมาณ 4,000 บาท ของพระที่วางไว้หัวเตียง […]

มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ปมมีชื่อพระโผล่คลิปสีกา ก.

กรุงเทพฯ 11 ก.ค. – เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ เผยกรณีปรากฏชื่อ “พระปริยัติธาดา” ในคลิปพัวพันสีกา ก. มองเป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร จากกรณีปรากฏรายชื่อพระในคลิปมีความสัมพันธ์กับ “สีกา ก.” จนถึงขั้นปาราชิก หนึ่งในนั้นคือ พระปริยัติธาดา ผู้ช่วยเจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรวรมหาวิหาร และมีรายงานข่าวว่าท่านหายตัวจากวัดหลังจากตกเป็นข่าว ผู้สื่อข่าวลงพื้นที่ไปยังวัดกัลยาณมิตรฯ พบว่าพระของวัดทุกรูปลงโบสถ์เพื่อประกอบศาสนกิจเนื่องในวันเข้าพรรษา ภายในพระอุโบสถ ภายหลังประกอบศาสนกิจลงโบสถ์ของพระวัดกัลยาณมิตรฯ เสร็จสิ้น พระพรหมกวี เจ้าอาวาสวัดกัลยาณมิตรฯ ได้ถ่ายรูปกับพระใหม่และพระสงฆ์ในวัด และให้ผู้สื่อข่าวเข้าไปถ่ายภาพ พร้อมกับพูดคุยเบื้องต้น กรณีปรากฏชื่อของพระปริยัติธาดา เป็นหนึ่งในบุคคลในคลิปที่เกี่ยวข้องกับสีกา ก. ว่าส่วนตัวไม่ทราบ คนเราไม่ได้รู้เรื่องส่วนตัวของคนอื่น มองเป็นเรื่องธรรมชาติในสังคมที่มีทั้งคนดีและไม่ดี เรื่องนี้เป็นการกระทำส่วนบุคคล ส่วนตัวอยากเห็นคลิปเพื่อยืนยันว่าท่านเกี่ยวข้องอย่างไร และอยากถาม พล.ต.ต.จรูญเกียรติ ปานแก้ว เพื่อขอดูคลิปที่กล่าวอ้าง ถ้าภาพมันชัดเจนก็ต้องออกตามกฎ ซึ่งใครทำอะไรก็ได้อย่างนั้น เมื่อถามว่า พระปริยัติธาดา ออกไปจากวัดตั้งแต่เมื่อไร พระพรหมกวี บอกว่า ท่านออกไปจากวัด 6-7 วันแล้ว ก็ออกไปเฉยๆ ไม่ได้สึกออกไป และไม่รู้ว่าตอนนี้สึกหรือยัง แต่หากจะสึกต้องแจ้งมาที่วัด […]

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่ง-กทม.ฟ้าคะนอง 60%

กรุงเทพฯ 14 ก.ค. – กรมอุตุฯ เตือนฝนตกหนักบางแห่งบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ขอให้ประชาชนบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก ส่วนกรุงเทพฯ และปริมณฑล ฝนตกหนักบางแห่ง กรมอุตุนิยมวิทยาพยากรณ์อากาศ 24 ชั่วโมงข้างหน้า ประเทศไทยยังคงมีฝนฟ้าคะนองและมีฝนตกหนักบางแห่ง ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าว โดยเฉพาะบริเวณ จ.แม่ฮ่องสอน เชียงใหม่ เชียงราย พะเยา น่าน หนองคาย และบึงกาฬ ระวังอันตรายจากฝนตกหนักและฝนที่ตกสะสม อาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่านและพื้นที่ลุ่ม ทั้งนี้ เนื่องจากมีร่องมรสุมพาดผ่านตอนบนของภาคเหนือ ประเทศลาวตอนบน เข้าสู่หย่อมความกดอากาศต่ำบริเวณประเทศเวียดนามตอนบน ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังค่อนข้างแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังค่อนข้างแรง โดยมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง คลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่าง มีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร […]

พระปรางค์วัดอรุณ

ข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก

กรุงเทพฯ 13 ก.ค.- “แพทองธาร” เผยข่าวดี “พระปรางค์วัดอรุณฯ” ได้รับบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลกของยูเนสโกแล้ว นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทยที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่ น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โพสต์ข้อความผ่านโซเชียลมีเดีย ระบุว่า “ข่าวดีของคนไทย “พระปรางค์วัดอรุณ ราชวรารามราชวรมหาวิหาร” ได้รับการบรรจุขึ้นบัญชีรายชื่อเบื้องต้นมรดกโลก (Tentative List) ของยูเนสโกแล้วค่ะ ดิฉันได้รับรายงานจากคณะผู้แทนไทยในการประชุมคณะกรรมการมรดกโลก ณ กรุงปารีส แจ้งว่า ที่ประชุมได้รับทราบว่าพระปรางค์วัดอรุณฯ เป็นหนึ่งในรายชื่อบัญชีรายชื่อเบื้องต้น (Tentative List) นับเป็นก้าวแรกที่สำคัญในการยกระดับขึ้นทะเบียนเป็นมรดกโลกอย่างสมบูรณ์ในอนาคต กระทรวงวัฒนธรรมมอบหมายให้กรมศิลปากรดำเนินการจัดทำเอกสารเสนอชื่อ (Nomination Dossier) ควบคู่กับการอนุรักษ์ ฟื้นฟู และจัดการพื้นที่ตามหลักสากล เพื่อเตรียมความพร้อมสู่ขั้นตอนต่อไป ความคืบหน้านี้เป็นมากกว่าการอนุรักษ์สถานที่ แต่คือการยืนยันอัตลักษณ์ไทยที่งดงามและทรงคุณค่าในสายตาชาวโลก นับเป็นความภาคภูมิใจของคนไทย ที่ได้ร่วมเป็นเจ้าของมรดกทางวัฒนธรรมที่ยิ่งใหญ่นี้” .-316 สำนักข่าวไทย

ตรวจสอบรายรับรายจ่ายวัดใหญ่จอมปราสาท

สมุทรสาคร 13 ก.ค. – เจ้าหน้าที่เข้าตรวจสอบรายรับรายจ่ายของวัดใหญ่จอมปราสาท นำมาเทียบกับเส้นเงินของของเจ้าอาวาสที่หนีไป หลังตรวจพบโอนเงินให้สีกา ก. กว่า 1 ล้านบาท ที่วัดใหญ่จอมปราสาท ต.ท่าจีน อ.เมืองฯ จ.สมุทรสาคร พล.ต.ต.ประสงค์ เฉลิมพันธ์ ผบก.ปปป. พร้อมด้วย พ.ต.ท.สิริพงษ์ ศรีตุลา ผู้ช่วยเลขาธิการคณะกรรมการ ป.ป.ท. นำคณะเข้าพบ พระครูสาครสุตกิจ เจ้าคณะตำบลท่าฉลอม เจ้าอาวาสวัดน้อยนางหงษ์ คณะพระสงฆ์ (พระลูกวัด) วัดใหญ่จอมปราสาท ผู้นำชุมชน และคณะกรรมการวัด เพื่อสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติม ระบบการเงินในวัดใหญ่จอมปราสาท เพื่อนำไปเป็นข้อมูลเกี่ยวกับการตรวจสอบเส้นทางการเงินของพระมหาทิวากร เจ้าอาวาสวัดใหญ่จอมปราสาท ที่ตรวจพบว่าได้โอนเงินกว่า 1 ล้านบาทไปให้สีกา ก. แต่ยังไม่มีเรื่องชู้สาวเข้ามาเกี่ยวข้อง ประเด็นที่ต้องการทราบเพิ่มเติมคือ เงินที่โอนให้สีกาเป็นเงินส่วนไหน แล้วเงินวัดมีรายรับจากที่ใดบ้าง มีรายจ่ายอย่างไร รวมถึง เงินวัดนั้นเข้าบัญชีใคร มีไวยาวัจกรณ์เบิกจ่ายหรือไม่ หรือใครเป็นผู้ทำหน้าที่รับและเบิกจ่ายเงินทั้งหมด ผู้ใหญ่บ้านชี้แจงว่า ทางวัดยังไม่มีไวยาวัจกรวัดคนใหม่ หลังจากคนเก่าลาออกไปเล่นการเมืองท้องถิ่น ส่วนเงินวัดนั้นเจ้าอาวาสเป็นผู้บริหารแต่เพียงผู้เดียว ซึ่งเงินวัดก็จะมีรายรับมาจากให้ที่จอดเรือบริเวณหน้าวัด ประมาณเดือนละ […]

รถพ่วงเบรกแตกลงเขา ชนแหลก 10 คัน เจ็บ 3

นครราชสีมา 13 ก.ค. – รถพ่วงเบรกแตกลงเขามอกลางดง ชนแหลกรวมสิบคัน บาดเจ็บ 3 คน ทำถนนมิตรภาพรถติดยาวหลายกิโลเมตร คนขับรถพ่วงบาดเจ็บ แต่ยังให้การได้ รถพ่วงบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ ชนแหลกนับ 10 คัน บนถนนมิตรภาพ ขาเข้ากรุงเทพมหานคร ช่วงลงเขามอกลางดง กิโลเมตรที่ 37-38 อ.ปากช่อง จ.นครราชสีมา ตำรวจ สภ.กลางดง พร้อมเจ้าหน้าที่กู้ภัยหลายหน่วยระดม เข้าตรวจสอบที่เกิดเหตุ และช่วยเหลือผู้บาดเจ็บ ที่เกิดเหตุพบรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์คันต้นเหตุ ยี่ห้อฮีโน่ สีขาว ทะเบียน กรุงเทพมหานคร ด้านหน้าหัวลากพังยับ นายวิทยา อายุ 34 ปี คนขับ ได้รับบาดเจ็บที่ขาซ้าย ยังนั่งอยู่บริเวณที่นั่งข้างคนขับ โดยเล่าว่า บรรทุกของมาเต็มตู้คอนเทนเนอร์ ช่วงลงเขาเกิดเบรกไม่อยู่ เนื่องจากลมหมด จึงทำให้พุ่งชนท้ายรถพ่วงบรรทุกไม้อีกคันที่อยู่ด้านหน้า จนกระเด็นไปคนละทิศละทาง ไม้กระจายเกลื่อนถนน ด้วยความแรงยังวิ่งไปเฉี่ยวชนกับรถที่วิ่งอยู่ด้านหน้าเสียหายอีก 8 คัน เป็นรถกระบะ 5 คัน, รถเก๋ง […]