ร้องฟันขบวนการงาบงบปูพื้นสภาใหม่

รัฐสภา 20 มิ.ย.-“วัชระ” ร้องปธ.สภาฯ ฟันขบวนการงาบงบประมาณสอดไส้ใช้ไม้พะยอมแทนไม้ตะเคียนทอง โครงการก่อสร้างอาคารรัฐสภาแห่งใหม่


นายวัชระ เพชรทอง อดีต ส.ส.พรรคประชาธิปัตย์ ยื่นหนังสือผ่านงานสารบรรณถึงนายชวน หลีกภัย ประธานสภาผู้แทนราษฎร ขอให้พิจารณาสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการทางกฎหมายกับผู้กระทำความผิดกรณีการใช้ไม้ในการก่อสร้างและตกแต่งอาคารรัฐสภาแห่งใหม่ที่ไม่เป็นไปตามข้อกำหนดของสัญญา เนื่องจากปรากฏหลักฐานชัดเจนตามบันทึกข้อความรองเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (นายศิโรจน์ แพทย์พันธุ์) ที่ 12 ลงวันที่ 14 มี.ค. 65 และหนังสือกรมป่าไม้ ที่ ทส 1607.520/2554 ลงวันที่ 11 ก.พ. 65  สรุปได้ว่ามีการใช้ “ไม้พะยอม” ซึ่งมิใช่ไม้ชนิดที่ระบุในข้อกำหนดของสัญญาฯ มาปะปนใช้ในการปูพื้นแทน “ไม้ตะเคียนทอง” ซึ่งเป็นไม้ “ชนิด” ที่ระบุในข้อกำหนดของสัญญาฯ ประกอบกับคณะกรรมการตรวจการจ้างตรวจรับงวดงานของการปูพื้นไม้ดังกล่าวแล้ว และสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ว่าจ้าง) ได้จ่ายเงินซึ่งเป็นงบประมาณของแผ่นดินให้กับงวดงานดังกล่าวแล้ว ในขณะนางพรพิศ เพชรเจริญ เป็นเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรอันอาจเข้าข่ายกระทำความผิดทางอาญา และเป็นเหตุให้ผู้ว่าจ้างได้รับความเสียหายอย่างร้ายแรง โดยนายวัชระได้มีหนังสือลงวันที่ 28 มี.ค. 65 แจ้งให้เลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรทราบและให้ดำเนินการแล้วนั้น

หนังสือระบุว่า มีกลุ่มบุคคลหนึ่งพยายามจะให้มีการยอมรับว่า “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นที่ปะปนมาใช้กับการปูพื้นอาคารรัฐสภาแห่งใหม่สามารถใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” ได้ ซึ่งเป็นการบิดเบือนวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบ และข้อกำหนดในสัญญาฯ ที่ระบุ “ชนิด” ของไม้ว่าให้ใช้ “ไม้ตะเคียนทอง” เท่านั้น การกระทำดังกล่าวจะมีผลเป็นการปกปิดและยกเว้นความรับผิดชอบที่ใช้ “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นมาปูพื้นปะปนแทน “ไม้ตะเคียนทอง” เนื่องจากมีการจ่ายเงินงบประมาณเป็นค่าให้กับงวดงานการปูพื้นดังกล่าวไปแล้ว


นายวัชระ กล่าวว่า เมื่อเจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบ และข้อกำหนดในสัญญาฯ ระบุให้ใช้ไม้ “ชนิด” ไม้ตะเคียนทอง ต้องใช้ตามนั้น มิใช่ว่าจะใช้ไม้ “ชนิด” อื่นมาทดแทนได้ สำหรับคุณภาพของไม้ที่อ้างอิงตามมาตรการฐานของ มอก.เพื่อควบคุมคุณภาพของไม้ที่จะนำมาใช้ในการก่อสร้างและตกแต่ง เพื่อให้ได้ไม้ที่มี “คุณภาพ” ดี แข็งแรง ทนทาน จึงไม่สามารถตีความความหมายของคำว่า “ชนิดของไม้” กับคำว่า “คุณภาพของไม้” มาบิดเบือนจนสามารถใช้ไม้ “ชนิด” อื่นมาใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” อันผิดไปจากวัตถุประสงค์ เจตนารมณ์ข้อกำหนดของผู้ออกแบบและข้อกำหนดของสัญญาฯ

“ความพยายามในการบิดเบือน โดยการตีความข้อกำหนดของสัญญาฯ เพื่อให้ยอมรับการใช้ “ไม้พะยอม” หรือไม้ชนิดอื่นใช้แทน “ไม้ตะเคียนทอง” ยังเป็นการขัดกับข้อเท็จจริงที่เป็นเอกสารในการส่งมอบเอกสารในการตรวจรับและเอกสารทางการเงินของสำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎร (ผู้ว่าจ้าง) ที่ได้จ่ายเงินงบประมาณอันเป็นค่าจ้างในงวดงานของการปูพื้นไม้ดังกล่าวในอัตราและราคาของ “ไม้ตะเคียนทอง”และยังมีความพยายามในการตีความข้อกำหนดของสัญญาฯ เกี่ยวกับ “งานงวดสุดท้าย” โดยมีเจตนาว่าแม้จะปูพื้นอาคาร มีการตรวจรับและจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้างในงวดงานดังกล่าวไปแล้ว มิใช่เป็นการตรวจรับงานงวดสุดท้าย โดยเมื่อพบข้อพิรุธหรือข้อบกพร่องภายหลังว่ามีการใช้ไม้ชนิดอื่น ซึ่งไม่ใช่ไม้ตะเคียนทอง ตามข้อกำหนดในสัญญาฯ จึงสามารถแก้ไขให้ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ ได้ เป็นการตีความที่ไม่ถูกต้อง เนื่องจากงานงวดสุดท้ายเป็นงานงวดหนึ่งเหมือนกับงานงวดอื่น ๆ” นายวัชระ กล่าว

นายวัชระ กล่าวว่า ก่อนหน้านั้นเพียงแต่ข้อกำหนดของสัญญาฯ ระบุให้สามารถแก้ไขความบกพร่องใน “คุณภาพ” ของงานได้เท่านั้น แต่มิได้หมายความว่า งานในงวดงานต่าง ๆ ที่ผ่านผู้เกี่ยวข้องจะใช้วัสดุ “ชนิด” ใดก็ได้ หรือไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ ก็ได้ มาดำเนินการเพื่อให้แล้วเสร็จตามงวดงานนั้น ๆ อันนำมาสู่การเบิกค่าจ้างของงวดงานนั้น เพราะงานแต่ละงวดต้องมีความถูกต้อง ใน “ชนิด” ของวัสดุ ปริมาณงานฯ โดยต้องมีส่งมอบ รับมอบ อนุมัติการจ่ายค่าจ้างในอัตราและราคาของ “ชนิด” ของวัสดุดังกล่าว หากมีการจ่ายค่าจ้างอันเป็นงบประมาณแผ่นดินให้กับวัสดุ “ชนิด” ที่ไม่ถูกต้อง ผู้เกี่ยวข้องย่อมต้องรับผิดต่อไป เพราะ “ชนิด” ของวัสดุ จะเป็นตัวกำหนดอัตราและราคาในการจ่ายเงินให้แก่ผู้รับจ้าง หากมีการใช้ “ชนิด” ของวัสดุต่างชนิดหรือประเภทกัน ย่อมมีราคาและการจ่ายค่าจ้างที่ต่างกัน


“ความถูกต้องของ “ชนิด” ของวัสดุของแต่ละงวดงาน จึงเป็น “สาระสำคัญ” ของการส่งมอบ ตรวจรับและการจ่ายค่าจ้าง ซึ่งก็เป็นไปตามเหตุผลของกรรมการตรวจการจ้าง 3 คน ที่ระบุว่า การใช้ไม้ที่ไม่ถูกต้องตามข้อกำหนดในสัญญาฯ เป็น “สาระสำคัญ” ของการตรวจรับและมีผลถึงการจ่ายที่ไม่ตรงตามวัสดุที่ใช้ในการก่อสร้างตกแต่งอาคารรัฐสภาฯ ทั้งนี้ ได้รับแจ้งจากข้าราชการที่ซื่อสัตย์สุจริตว่า ไม้ตง (ไม้รองไม้ปูพื้น) ตามข้อกำหนดในสัญญาต้องเป็นไม้ตะเคียนทอง แต่ปรากฏว่าไม่ใช่ไม้ตามข้อกำหนดในสัญญาเช่นเดียวกับไม้ปูพื้นที่กรมป่าไม้พิสูจน์แล้วว่าเป็นไม้พะยอม จึงขอให้ประธานสภาผู้แทนราษฎรสั่งการให้กรมป่าไม้มาพิสูจน์ไม้ปูพื้นและไม้ตงทุกแผ่นในอาคารรัฐสภาว่าตรงตามข้อกำหนดในสัญญาหรือไม่ เพื่อให้เป็นไปตามสัญญาต่อไป พร้อมสั่งการให้สำนักงานเลขาธิการสภาผู้แทนราษฎรดำเนินการตามกฎหมายกับผู้กระทำความผิดดังกล่าว เพื่อรักษาผลประโยชน์ของราชการ และปกป้องงบประมาณแผ่นดินเพื่อมิให้มีการใช้ไปอย่างไม่ถูกต้อง” นายวัชระ กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ผบ.เรือนจำทักษิณป่วย ไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน  

13 มิ.ย. – ศาลฎีกาฯ ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนกรณีกรมราชทัณฑ์อนุญาตให้ “ทักษิณ” เข้ารักษาตัวชั้น 14 รพ.ตำรวจ นัดไต่สวนเพิ่มอีก 6 นัด เดือน ก.ค.68 ด้าน ผบ.เรือนจำพิเศษกรุงเทพ ยอมรับไม่ได้ส่งตรวจ รพ.ราชทัณฑ์ก่อน ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง ใช้เวลา 1 ชั่วโมง ไต่สวนคดีชั้น 14 ในเรื่องการบังคับคดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ล่าสุดการไต่สวนนัดแรกเสร็จสิ้นแล้ว โดยศาลได้สอบถาม นายมานพ ชมชื่น ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพคนปัจจุบัน เกี่ยวกับกระบวนการในการส่งตัวนายทักษิณจากเรือนจำไปโรงพยาบาลตำรวจ ในคืนวันที่ 22 สิงหาคม ซึ่งนายทักษิณ มีอาการแน่นหน้าอก นอนไม่หลับ พยาบาลเวรตรวจอาการแล้ว ถึงโทรไปหาแพทย์ และมีความเห็นให้ส่งตัวไปที่โรงพยาบาลตำรวจ โดยไม่ได้เข้าไปที่โรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน และอาการก็ตรงกลับใบส่งตัวที่แพทย์เขียนไว้ล่วงหน้า เพราะเป็นผู้ป่วยกรณีฉุกเฉิน แต่ก็ยอมรับว่าไม่ได้เข้าโรงพยาบาลราชทัณฑ์ก่อน จากนั้นศาลได้นัดไต่สวน 6 นัด ในเดือนกรกฎาคม 2568 และใน […]

เครื่องบินแอร์อินเดีย ตกใส่อาคารที่พักแพทย์ ตาย 241 รอดคนเดียว

นิวเดลี 13 มิ.ย. – เครื่องบินโดยสารของสายการบินแอร์อินเดีย พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประสบอุบัติเหตุตกใส่อาคารในย่านชุมชนทางตะวันตกของประเทศ มีผู้เสียชีวิต 241 ราย รอดชีวิตปาฏิหาริย์เพียงคนเดียว ยังไม่มีการยืนยันว่ามีคนในอาคารบ้านเรือนเสียชีวิตเท่าไร เครื่องบินลำที่ประสบอุบัติเหตุเป็นเครื่องบินโบอิ้ง 787-8 ดรีมไลน์เนอร์ ของสายการบิน แอร์ อินเดีย เที่ยวบิน เอไอ171 (AI171) พร้อมคนบนเครื่อง 242 คน ประกอบด้วยผู้โดยสาร 230 คน และลูกเรือ 12 คน เพิ่งจะออกเดินทางจากท่าอากาศยานระหว่างประเทศเมืองอาห์เมดาบัด รัฐคุชราต ทางตะวันตกของอินเดียเมื่อเวลา 13.34 น. วานนี้ มุ่งหน้าไปยังท่าอากาศยานแกตวิค กรุงลอนดอน ประเทศอังกฤษ คนบนเครื่องบินเป็นชาวอินเดีย 169 คน และมีพลเมืองอังกฤษ 53 คน โปรตุเกส 7 คน และแคนาดา 1 คน คลิปที่ผู้ใช้งานสื่อออนไลน์ในอินเดียส่งต่อกันแพร่หลาย เผยให้เห็นช่วงเวลาขณะที่เครื่องบินโดยสารลำนี้เครื่องบินค่อยๆ […]

แพทยสภายืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย

กทม. 12 มิ.ย.- แพทยสภามีมติ 2 ใน 3 ยืนยันมติเดิม เอาผิดแพทย์ 3 ราย ปมส่งตัว “ทักษิณ” รักษาชั้น 14 รพ.ตร. ศ.นพ.ประสิทธิ์ วัฒนาภา อุปนายกแพทยสภา เปิดเผยหลังการประชุมการลงมติแพทยสภากว่า 5 ชม. ว่า กรณีที่มีการกล่าวโทษแพทย์ทัณฑสถานโรงพยาบาลราชทัณฑ์ และแพทย์โรงพยาบาลตำรวจ เกี่ยวกับการประพฤติผิดจริยธรรมแห่งวิชาชีพเวชกรรม การประชุมคณะกรรมการแพทยสภาครั้งที่ 6/2568 ประจำเดือนมิถุนายน คือวันนี้ มีวาระสำคัญคือการพิจารณาหนังสือยับยั้งมติลงโทษผู้ประกอบวิชาชีพเวชกรรมของคณะกรรมการแพทยสภาจากสภานายกพิเศษ วาระนี้มีคณะกรรมการแพทยสภาเข้าร่วมประชุมจำนวน 68 คน จากจำนวนแพทยสภาที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งสิ้น 69 คน ได้พิจารณาการยับยั้งมติแพทยสภาของสภานายกพิเศษ มีมติด้วยคะแนนเสียงเกินกว่า 2 ใน 3 ของคณะกรรมการฯ ที่มีสิทธิ์ลงคะแนนทั้งคณะ ซึ่งมีคะแนนโหวตมากกว่า 60 เสียง ยืนยันตามมติเดิมของคณะกรรมการแพทยสภาเมื่อวันที่ 8 พฤษภาคม 2568 กระบวนการต่อไปแพทยสภาจะออกคำสั่งบังคับตามมติและแจ้งให้ผู้ที่เกี่ยวข้องทราบ คาดว่าคำสั่งจะออกได้ในวันพรุ่งนี้ และจะมีผลการลงโทษหลังจากคำสั่งไปยังผู้ถูกร้องเรียน ทั้งนี้ […]

“ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน

ฉะเชิงเทรา 12 มิ.ย. – “ทีมสุดซอย” ลุยตรวจโรงงานรีไซเคิลทุนจีน จ.ฉะเชิงเทรา พบกองขยะอิเล็กทรอนิกส์และชิ้นส่วนเครื่องยนต์นำเข้ากองเต็มพื้นที่ ฝ่าฝืนคำสั่งกรมโรงงานฯ น.ส.ฐิติภัสร์ โชติเดชาชัยนันต์ หัวหน้าทีมสุดซอย พร้อมเจ้าหน้าที่กรมโรงงานอุตสาหกรรม เจ้าหน้าที่อุตสาหกรรมจังหวัด และตำรวจสอบสวนกลาง เข้าตรวจสอบโรงงานรีไซเคิลใน อ.แปลงยาว จ.ฉะเชิงเทรา ซึ่งเป็นการขยายผลจากข้อมูลที่ผู้ใหญ่บ้าน ต.เขาหินซ้อน อ้างว่ามีบริษัทคัดแยกขยะอุตสาหกรรมในพื้นที่ให้นำดินไปแจกฟรี แต่กลับพบว่าเป็นขยะอุตสาหกรรม จากการตรวจสอบพบว่าบริษัทแห่งนี้จะรับขยะอิเล็กทรอนิกส์ เศษสายไฟ วัสดุแบตเตอรี่ มอเตอร์ และชิ้นส่วนเครื่องยนต์ที่นำเข้ามาจากต่างประเทศ ผ่านบริษัทแห่งหนึ่งที่ฮ่องกง โดยบริษัทดังกล่าวรับซื้อเศษขยะมาจากญี่ปุ่นอีกทอดหนึ่ง ก่อนส่งมาที่โรงงานรีไซเคิลในไทยให้คัดแยก แต่สำแดงเป็นโลหะผสม (Mixed metal) และมีการเสียภาษีต่อเที่ยวตามน้ำหนัก รวมแล้วประมาณ 33,000 บาท การคัดแยกขยะจะใช้แรงงานต่างด้าวคัดแยกเหล็ก อะลูมิเนียม ทองแดงออก โดยในส่วนของเหล็ก จะส่งโรงเหล็กในประเทศ สำหรับอะลูมิเนียมกับทองแดง จะส่งกลับไปฮ่องกง เพื่อขายต่อ โดยไม่ต้องเสียภาษี เนื่องจากเป็นเศษโลหะ อีกทั้งยังมีกองขยะที่ไม่สามารถนำไปแปรรูปใช้งานต่อได้จำนวนมากถูกทิ้งไว้ในประเทศ โรงงานดังกล่าวมีการขออนุญาตประกอบกิจการตั้งแต่ปี 2558 แต่ก่อนหน้านี้พบว่ามีการขยายโรงงานโดยไม่ได้รับอนุญาต การจัดเก็บวัสดุไม่ถูกต้องตามมาตรฐาน คือกองอยู่ลานโล่งด้านนอกอาคาร ปัญหาเรื่องมาตรฐานความปลอดภัยในการประกอบกิจการ และการปล่อยน้ำเสีย […]

ข่าวแนะนำ

ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน

กัมพูชา 15 มิ.ย.- ไทย-กัมพูชา ลงนามบันทึกการประชุม JBC ร่วมกัน ซึ่งการหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทย-กัมพูชา ประชุมครั้งต่อไปเดือน ก.ย.นี้ ฝ่ายไทยเป็นเจ้าภาพ เมื่อวันที่ 15 มิถุนายน 2568 เอกอัครราชทูตประศาสน์ ประศาสน์วินิจฉัย ประธานคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ฝ่ายไทย และนายฬำ เจีย รัฐมนตรีรับผิดชอบกิจการชายแดนและหัวหน้าสำนักงานเลขาธิการกิจการชายแดนแห่งชาติกัมพูชา ประธานร่วมฝ่ายกัมพูชา เป็นประธานร่วมในพิธีปิดการประชุมคณะกรรมาธิการเขตแดนร่วมไทย-กัมพูชา ครั้งที่ 6 (JBC) และลงนามบันทึกการประชุมร่วมกัน ที่กรุงพนมเปญ การหารือเป็นไปอย่างราบรื่นและฉันมิตร ทั้งสองฝ่ายกล่าวขอบคุณที่การประชุมสำเร็จลุล่วงด้วยดี โดยเน้นย้ำความสำคัญและประสิทธิภาพของ JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีหลักในการเจรจาเขตแดนระหว่างสองประเทศ การประชุมครั้งนี้เป็นอีกก้าวสำคัญที่แสดงความคืบหน้าในการจัดทำหลักเขตแดนระหว่างไทยกับกัมพูชา ซึ่งมีความยาวทั้งหมดประมาณ 800 กิโลเมตร และมีส่วนช่วยลดความตึงเครียดบริเวณชายแดน ทั้งนี้ ทั้งสองฝ่ายยังมีภารกิจที่ต้องหารือและดำเนินการร่วมกันต่อไป โดยฝ่ายไทยจะเป็นเจ้าภาพจัดการประชุม JBC สมัยพิเศษครั้งต่อไปในเดือนกันยายนนี้ ปัจจุบัน ไทยกับกัมพูชามีกลไกความร่วมมือในประเด็นชายแดนร่วมกัน 3 ระดับหลัก ได้แก่ (1) JBC ซึ่งเป็นกลไกทวิภาคีที่สำคัญในการหารือกันทางเทคนิคและข้อกฎหมายระหว่างประเทศ (2) คณะกรรมการชายแดนทั่วไป […]

“อนุทิน”​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรฯ

อุดรธานี ​15 มิ.ย.​- “อนุทิน”​ โหมโรง​ ยกคณะ สส.​-​ขรก.มหาดไทย​ เยือนอุดรธานี​ เปิดตัว​ “อดิศักดิ์​” ไทยสร้างไทย บอก​ “นู๋หนู​-​ดู๋ดี๋”​ ซี้กัน​ อวยเป็น สส.คุณภาพ​ ภูมิใจไทย​ ภูมิใจแทน​ รอบหน้าขอชาวอุดรฯ​ เลือกเป็น สส.ภท.​ โอดแทนชาวบ้าน​ ซัด​ห่วย 3 ปี งบโยธาแค่​ 700 ล้าน​ บอกถ้าเลือกภูมิใจไทยซัดไปแล้ว​ 3,000 ล้าน​ เหน็บ​ถนน 4 เลน ใครทำให้กุดอย่าไปเลือก นายอนุทิน​ ชาญ​วี​รกูล​ รองนายก​รัฐมนตรี​และ​รัฐมนตรี​ว่าการ​กระทรวง​มหาดไทย​ พร้อมด้วยนายอรรษิษฐ์​ สัมพันธรัตน์​ ปลัดกระทรวงมหาดไทย​ และผู้บริหารระดับสูง​ ลงพื้นที่เทศบาลตำบลจำปี​ อำเภอศรีธาตุ​ จังหวัดอุดรธานี​ เพื่อพบปะประชาชน ที่โรงเรียนศรีธาตุพิทยาคม​ โดยมี​นายอดิศักดิ์ แก้วมุงคุณทรัพย์ สส.อุดรธานี​ พรรคไทยสร้างไทย​ ให้การต้อนรับ โดยนายอนุทิน​ ได้รับฟังการรายงานความคืบหน้าการ​แก้ไขปัญหา​ในพื้นที่ ก่อนจะขึ้นเวทีพร้อมกับ […]

จับตาประชุม JBC วันที่ 2 หลังกัมพูชายื่นศาลโลก

กัมพูชา 15 มิ.ย.-ผู้สื่อข่าวกัมพูชา รายงานการประชุม JBC ไทย-กัมพูชา วันที่ 2 เริ่มขึ้นแล้ว ที่กรุงพนมเปญ หลังวานนี้ยังไม่ได้ข้อสรุป โดยมีการประชุมวงเล็กก่อน จากนั้นอาจมีการแถลงร่วมกัน ต้องจับตาว่าวันนี้จะได้ข้อยุติหรือไม่ รวมถึงท่าทีของแต่ละฝ่าย หลังกัมพูชายื่นศาลโลก.-สำนักข่าวไทย

ลงโทษ “ชัยวัฒน์” ไล่ออกจากราชการ ปม ป.ป.ช.ชี้มูลผิดวินัยร้ายแรง

กรุงเทพฯ 15 มิ.ย.- ก.ทรัพยากรธรรมชาติฯ มีคำสั่งลงโทษไล่ “ชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร” ออกจากราชการ กรณีที่คณะกรรมการ ป.ป.ช. ชี้มูลความผิดวินัยร้ายแรงเกี่ยวกับโครงการก่อสร้างอาคารที่ทำการหน่วยพิทักษ์อุทยานแห่งชาติแก่งกระจาน จ.เพชรบุรี โดยพบพฤติการณ์ฮั้วประมูล และปลอมเอกสารตรวจรับงานที่ทำให้รัฐเสียหาย นายจตุพร บุรุษพัฒน์ ปลัดกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ลงนามในคำสั่งกระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ที่ 194/2568 ลงวันที่ 6 มิถุนายน 2568 ให้ลงโทษนายชัยวัฒน์ ลิ้มลิขิตอักษร ซึ่งขณะดำรงตำแหน่งผู้อำนวยการสำนักอุทยานแห่งชาติ ประเภทอำนวยการระดับสูง สังกัดกรมอุทยานแห่งชาติ สัตว์ป่า และพันธุ์พืช พ้นจากราชการ ตั้งแต่วันที่ 30 กันยายน 2567 เป็นต้นไป โดยอาศัยอำนาจตามพระราชบัญญัติระเบียบข้าราชการพลเรือน พ.ศ. 2551 และพระราชบัญญัติ ป.ป.ช. พ.ศ. 2561 คำสั่งดังกล่าวมีขึ้นหลังจากคณะอนุกรรมการข้าราชการพลเรือน (อ.ก.พ.) กระทรวงทรัพยากรธรรมชาติและสิ่งแวดล้อม ในการประชุมครั้งที่ 3/2568 เมื่อวันที่ 30 พฤษภาคม 2568 ได้พิจารณาสำนวนไต่สวนของคณะกรรมการ ป.ป.ช. […]