fbpx

รัฐบาลเอาจริงกวาดล้างอุ้มบุญผิดกฎหมาย ยกเป็นคดีพิเศษ

กรุงเทพฯ 4 มิ.ย. – รัฐบาลเอาจริงกวาดล้างอุ้มบุญผิดกฎหมาย ยกเป็นคดีพิเศษ กรมสนับสนุนบริการสุขภาพ จับมือดีเอสไอ เพิ่มประสิทธิภาพป้องปราม-ตัดตอนเส้นทางการเงิน


นางสาวรัชดา ธนาดิเรก รองโฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า นับตั้งแต่มีการบังคับใช้พระราชบัญญัติคุ้มครองเด็กที่เกิดโดยอาศัยเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ พ.ศ. 2558 หรือที่เรียกกันทั่วไปว่า กฎหมายอุ้มบุญ รัฐบาลโดยกรมสนับสนุนบริการสุขภาพ (สบส.) และกรมสอบสวนคดีพิเศษ (ดีเอสไอ) ได้มีการดำเนินคดีกับหญิงไทยและขบวนการรับจ้างตั้งครรภ์แทน (อุ้มบุญ) อย่างต่อเนื่อง และด้วยคดีดังกล่าวมักเป็นคดีที่มีความซับซ้อน ทั้งในการสืบหาผู้ร่วมขบวนการ หรือเส้นทางการเงินที่เป็นอาชญากรรมข้ามชาติ ดังนั้น เพื่อขับเคลื่อนการบังคับใช้กฎหมายอย่างมีประสิทธิภาพยิ่งขึ้น ทั้งสองหน่วยงานดังกล่าว จึงได้ลงนามความร่วมมือในการปฏิบัติงานสืบสวนคดี ตรวจสอบข้อเท็จจริง และเข้าถึงข้อมูล ซึ่งจะทำให้การป้องปราม การตัดตอนเส้นทางการเงิน และการนำตัวผู้กระทำความผิด ไม่ว่าจะเป็นชาวไทยหรือต่างชาติ มาดำเนินการตามกฎหมาย เป็นไปอย่างเข้มข้นและถึงที่สุด โดยล่าสุดดีเอสไอได้รับแจ้งจาก สบส. กว่า 10 คดี ซึ่งรับเป็นคดีพิเศษแล้ว 2 คดี อยู่ระหว่างการสอบสวน

สำหรับภาพรวมการให้บริการด้านเทคโนโลยีช่วยการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ของประเทศไทย สบส.รายงานว่า มีอัตราความสำเร็จในการตั้งครรภ์โดยเฉลี่ยสูงถึงร้อยละ 45 มีการให้บริการทำเด็กหลอดแก้วกว่า 20,000 รอบการรักษา การผสมเทียมกว่า 12,000 รอบ มีการพัฒนาระบบเพื่อส่งเสริมสถานพยาบาลที่ให้บริการด้านการเจริญพันธุ์ทางการแพทย์ผ่านการรับรองมาตรฐาน รวมทั้งสิ้น 104 แห่ง สร้างรายได้ให้ประเทศกว่า 4,500 ล้านบาท


นางสาวรัชดา กล่าวอีกว่า พฤติการณ์ของผู้กระทำผิดทำเป็นขบวนการ ตั้งแต่ผู้จ้างวาน ผู้ดำเนินการ ผู้สนับสนุน และผู้นำไปใช้ประโยชน์ ซึ่งอาจขยายวงไปถึงการค้ามนุษย์ เพราะมีการผลิตเด็กเป็นจำนวนมาก มีการเอาตัวอ่อนมาเลี้ยง บางทีตัวอ่อนมาจากการส่งน้ำเชื้อจากต่างประเทศ และมาฝังเป็นตัวอ่อนในประเทศไทย และมีการดูแลจนกระทั่งตั้งครรภ์ออกมา จึงนำเด็กไปไว้ ณ ที่แห่งหนึ่ง เพื่อรอการส่งออก

ดังนั้น การยกระดับคดีอุ้มบุญให้เป็นคดีพิเศษ จะมีส่วนช่วยสร้างความเชื่อมั่นในเรื่องมาตรฐานทางการแพทย์ของประเทศด้วย ทั้งนี้ หากประชาชนพบการกระทำผิดกฎหมาย เช่น การรับจ้างตั้งครรภ์แทน หรือการโฆษณาชวนเชื่อให้มีการอุ้มบุญ หรือซื้อขายอสุจิ ขอให้แจ้งข้อมูลที่สายด่วน สบส. 1426 เพื่อติดตามผู้กระทำผิดมาดำเนินการตามกฎหมายต่อไป. – สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

นายกตรวจน้ำท่วมเชียงราย

นายกฯ บินเชียงราย ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม

“นายกฯ แพทองธาร” ลงพื้นที่ติดตามสถานการณ์น้ำท่วม เตรียมมอบถุงยังชีพแก่ผู้ประสบภัยในพื้นที่ จ.เชียงราย พร้อมตรวจเยี่ยมการลำเลียงสิ่งของช่วยเหลือของกองทัพ

ชิงทองระนอง68บาท

รวบแล้วโจรชิงทอง 68 บาท กลางห้างดังระนอง

รวบแล้ว 2 คนร้ายชายหญิง จี้ชิงทอง 68 บาท ในห้างดังกลางเมืองระนอง ฝ่ายชายรับสารภาพ ชีวิตตกต่ำ ไม่มีรายได้ จึงชวนหลานสาววัย 16 ปี มาร่วมก่อเหตุชิงทอง

น้องชายรัวยิงพี่สาวตายกลางงานศพแม่ อ้างฉุนไม่ให้ร่วมจัดงานศพ

น้องชายชักปืนรัวยิงพี่สาวเสียชีวิตกลางงานศพแม่ ภายหลังน้องชายเข้ามอบตัวกับตำรวจ อ้างเหตุผลฆ่าเพราะโมโห รู้สึกว่าพี่สาวใจดำมากที่กีดกันไม่ให้ตนช่วยจัดงานศพแม่

บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ

เจ้าหน้าที่ อย. ร่วมสืบนครบาล บุกทลายโรงงานผลิตยาเถื่อน ย่านทุ่งครุ มีเบาะแสต้นตอการทะลักของยาเขียวเหลือง ตะลึงพบซากจิ้งจกตายในหม้อต้ม ขณะที่เจ้าของโรงงานยันประกอบอาชีพโดยสุจริต

ข่าวแนะนำ

ชายแดนแม่สายยังเละจมโคลน จับตาพายุลูกใหม่

แม้จะผ่านน้ำท่วมใหญ่ในรอบร้อยปีมาหลายวันแล้ว แต่ตอนนี้ชายแดนแม่สายยังเต็มไปด้วยความเสียหายและดินโคลนจำนวนมาก ชาวบ้านหลายคนยังไม่สมารถกลับเข้าบ้านได้

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค

นายกฯ ตรวจความพร้อมการจัดขบวนพยุหยาตราทางชลมารค การซ้อมเป็นรูปขบวนเรือในแม่น้ำเจ้าพระยา ครั้งที่ 7 ณ โรงเรือพระราชพิธี ท่าวาสุกรี และวัดอรุณราชวรารามราชวรมหาวิหาร ขณะที่ “เจ้าอาวาสวัดอรุณฯ” ให้กำลังใจทำหน้าที่ได้เต็มที่-ประสบความสำเร็จ

พายุโซนร้อน “ซูลิก” ทำฝนตกหนัก 76 จังหวัด 19-23 ก.ย.

พายุดีเปรสชันบริเวณชายฝั่งประเทศเวียดนามตอนบนทวีกำลังขึ้นเป็นพายุโซนร้อน “ซูลิก” แล้ว คาดขึ้นฝั่งเวียดนามคืนนี้ หัวพายุส่งผลให้ภาคตะวันออกเฉียงเหนือและภาคตะวันออกมีฝนแล้ว ช่วงระหว่างวันที่ 19-23 ก.ย.67 มีพื้นที่เสี่ยงฝนตกหนักถึงหนักมาก 76 จังหวัด