ทำเนียบ 11 พ.ค.-“บิ๊กโจ๊ก” เตรียมลงพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ติดตามคืบหน้าคดีค้ามนุษย์ ย้ำ ไม่หนักใจอิทธิพลการเมืองในพื้นที่ ลั่นไม่มีใครแทรกแซงได้ ย้ำผู้เกี่ยวข้องต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ หักพาล ผู้ช่วยผู้บัญชาการตำรวจแห่งชาติ กล่าวถึงความคืบหน้าคดีการค้ามนุษย์ในพื้นที่ จ.สุราษฎร์ธานี ว่า วันนี้(11 พ.ค.) ตนจะลงพื้นที่ เพื่อติดตามสำนวนคดีและพบกับพ่อแม่ของเด็กผู้เสียหาย เมื่อถามว่าหวั่นใจหรือไม่เพราะเรื่องนี้เกี่ยวข้องนักการเมือง ที่อาจแทรกแซงทางคดี โดยระบุว่าเป็นเรื่องที่เกิดขึ้นมานาน และจะไม่มีใครแทรกแซงการสอบสวนได้ ส่วนผู้ต้องหาที่ได้รับการประกันตัว ขณะนี้ศาลก็เพิกถอนการประกันตัว และกลับไปอยู่ในเรือนจำแล้ว ทั้งนี้ย้ำว่าคดีนี้ เป็นคดีง่ายๆ ทำตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่ซับซ้อน
“คดีนี้ก็ทำง่าย ตรงไปตรงมา ไม่มีอะไรที่ซับซ้อนรวมถึงการทำงานต้องบูรณาการร่วมกันกับกระทรวงการพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์และทุกองค์กรถ้าส่วนไหนที่มีความผิด ก็ต้องทำความจริงให้ปรากฏ” พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าว
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ ยอมรับว่า ในพื้นที่อาจมีการรู้จักกันบ้าง ดังนั้นเราต้องแยกให้ออกว่าส่วนไหนถูก ส่วนไหนผิด ไม่เช่นนั้นเด็กก็จะย่ำแย่ วันนี้ทั้งเด็ก 8 คนและหัวหน้าบ้านพักเด็กได้เข้าสู่กระบวนการคุ้มครองพยานทั้งหมด
พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวยืนยันไม่หนักใจอิทธิพลในพื้นที่ เพราะไม่ได้ไปกลั่นแกล้งใคร ทำอย่างตรงไปตรงมา คดีนี้เราสอบสวนเสร็จไปแล้วในชุดแรก มีผู้ต้องหา 11 คนแต่มีข้อมูลเพิ่มเติม เมื่อพบมีการเข้าไปแทรกแซงกระบวนการสอบสวนจึงต้องเข้าไปดูอีกครั้งและรวบรวมพยาน ขยายผลได้ผู้ต้องหาอีก 18 คน พบว่ามีเจ้าหน้าที่รัฐเข้าไปเกี่ยวข้อง ซึ่งทุกคนที่เข้าไปเกี่ยวข้องจะต้องถูกดำเนินคดีทั้งหมด
เมื่อถามว่าเรื่องนี้อาจเกี่ยวข้องกับการเมือง เพราะ 1 ในผู้ต้องหา เป็นลูกของนักการเมือง พล.ต.ท.สุรเชษฐ์ กล่าวว่า ไม่มีเรื่องการเมือง มีแต่เรื่องของเครือญาติ และตำรวจได้ดำเนินคดีไปตามปกติ.-สำนักข่าวไทย