มูลนิธิป่ารอยต่อฯ 25 เม.ย.-“พล.อ.ประวิตร” พอใจผลคืบหน้าแก้ปัญหาข้อเรียกร้องเครือข่ายประชาชนภาคอีสาน สั่งขับเคลื่อนต่อเนื่อง เร่งช่วยเหลือ ฟื้นฟูเยียวยา ทุกพื้นที่ให้ได้ข้อยุติโดยเร็วที่สุด
พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี เป็นประธานการประชุม คณะกรรมการแก้ไขปัญหาของสภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.)และสภาประชาชน 4ภาค ครั้งที่1/2565 ณ ห้องประชุม มูลนิธิป่ารอยต่อ 5จังหวัด ผ่านระบบ วีดีโอคอนเฟอเรนซ์ โดยที่ประชุมรับทราบความคืบหน้าการดำเนินงานของคณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาให้แก่สภาเครือข่ายประชาชนอีสาน (สอส.)และสภาประชาชน 4 ภาค ซึ่งประกอบด้วย 1.คณะอนุกรรมการการแก้ไขปัญหาที่ดินและป่าไม้ 2.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาหนี้สินของเกษตรกร 3.คณะอนุกรรมการส่งเสริมและฟื้นฟูอาชีพภาคเกษตร และ 4.คณะอนุกรรมการแก้ไขปัญหาแหล่งน้ำทั้งระบบ
การดำเนินงานที่ผ่านมาทั้ง 4 คณะได้แต่งตั้งคณะทำงาน เพื่อลงพื้นที่ปฏิบัติงานและนำข้อมูลกลับมาพิจารณาแก้ไขปัญหาตามข้อเรียกร้องของประชาชน และเกษตรกรทั่วประเทศ ที่ได้รับความเดือดร้อน อาทิ การชะลอการดำเนินคดีทางกฎหมายในการถือครองที่ดินพื้นที่ ส.ป.ก.ที่มีการบุกรุก การแก้ปัญหาหนี้สินเกษตรกรค้างชำระเช่าซื้อที่ดินทำกิน ทั้งหนี้สินในระบบและนอกระบบ ซึ่งได้มีการแก้ปัญหาแล้วโดย ธอส.และธนาคารอื่น ๆ ของรัฐ โดยช่วยเหลือผู้ได้รับผลกระทบแล้วกว่า 7,000 ราย นอก
พล.อ.ประวิตร กำชับคณะทำงานแก้ปัญหาหนี้สินให้เร่งสำรวจความต้องการตามข้อเรียกร้องของสมาชิกอีก 18จังหวัดให้เสร็จสิ้นภายในเดือนเมษายนนี้ เพื่อเร่งช่วยเหลือต่อไปด้วย รวมถึงการจัดสรรที่ดินทำกินเพิ่มเติมให้เกษตรกรในพื้นที่แปลงว่าง และการส่งเสริมฟื้นฟูอาชีพเกษตรกร พร้อมทั้งการจัดหาแหล่งน้ำทั้งบนดินใต้ดิน ให้เพียงพอต่อความต้องการของประชาชนและเกษตรกรในพื้นที่ขาดแคลนน้ำ เพื่อการอุปโภคบริโภคและการเกษตรทั่วประเทศ ซึ่งจะจัดหาแหล่งน้ำในพื้นที่นำร่องก่อนขั้นต้น 3 จังหวัด ได้แก่ จ.นครราชสีมา จ.ลพบุรีและจ.เพชรบุรี โดยจะขยายผลในพื้นที่อื่น ๆ ต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวขอบคุณคณะกรรมการ คณะอนุกรรมการ คณะทำงาน และกระทรวงต่าง ๆ ที่เกี่ยวข้อง ที่ช่วยกันขับเคลื่อนการแก้ไขปัญหา ตามข้อเรียกร้องต่าง ๆของประชาชน กระทั่งมีความคืบหน้าอย่างน่าพอใจ อย่างไรก็ตาม ยังต้องเร่งบูรณาการทำงานอย่างเต็มที่ต่อไป เพื่อแก้ไขปัญหาความเดือดร้อนของพี่น้องประชาชน เกษตรกร และต้องเร่งรัดดำเนินการให้ได้ข้อยุติทุกข้อเรียกร้องโดยเร็วที่สุด ตามนโยบายเร่งด่วนของรัฐบาล ให้บรรลุผลสำเร็จอย่างเป็นรูปธรรมต่อไป.-สำนักข่าวไทย