“วิโรจน์” นำทีมผู้สมัคร ส.ก. ก้าวไกล ขึ้นเวทีปราศรัย Flash meet

กทม. 24 เม.ย.- ‘วิโรจน์’ นำทีม 15 ผู้สมัคร ส.ก. พรรคก้าวไกล ฝั่งธนบุรี จัดเวทีปราศรัย Flash meet ชู เหตุผลที่ต้องเลือก ผู้ว่าฯ และ ส.ก. จากก้าวไกล พร้อมเปิดวิสัยทัศน์การวิธีการหางบประมาณ เพื่อไปสร้าง เมืองที่ ‘คนเท่ากัน’


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ในช่วงเย็นเมื่อวานนี้ (23 เม.ย.) นายวิโรจน์ ลักขณาอดิศร ผู้สมัครผู้ว่าราชการกรุงเทพมหานคร (กทม.) เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล เปิดเวทีปราศรัยย่อย หรือ ‘Flash meet’ บริเวณใต้สะพานพระราม 8 พร้อมผู้สมัครสมาชิกสภากรุงเทพ (ส.ก.) ฝั่งธนบุรี ทั้ง 15 เขต ซึ่งเป็นการปราศรัยรูปแบบมาไว ไปไว ไม่ยืดเยื้อ เพื่อให้สอดคล้องไลฟ์สไตล์คนกรุงเทพ

นายวิโรจน์ เริ่มปราศรัยว่า หากมองด้วยมาตรฐานของสภาใหญ่ที่ ส.ส. พรรคก้าวไกล ได้ทำไว้ในเรื่องการตรวจสอบการใช้งบประมาณ คนกรุงเทพฯกควรเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล เข้าไปทำหน้าที่ปกป้องภาษีที่มาจากประชาชน และเพื่อไปผลักดันให้มีการนำภาษีไปใช้เกิดประโยชน์สูงที่สุด เพราะตนเชื่อว่า ส.ก. ก้าวไกลจะสร้างมาตรฐานสภากรุงเทพให้เทียบเท่ากับสภาผู้แทนราษฎรได้


“งบประมาณกรุงเทพฯ รวมๆกันแล้วมีมากกว่า 100,000 ล้านบาทต่อปี ส.ก. มีหน้าที่ดูแลเงินภาษีของพวกท่าน หากพูดแบบภาษาชาวบ้าน ถ้า ส.ก. เฮงซวย เงินภาษีของจะถูกใช้ไปแบบเฮงซวย ดังนั้น นี่คือเหตุผลที่ต้องเลือก ส.ก. จากพรรคก้าวไกล” นายวิโรจน์ กล่าว

นาววิโรจน์ ยังกล่าวว่า นโยบายต่างๆ ไม่ว่าจะผู้สมัครผู้ว่าฯ คนไหนโฆษณาไว้อย่างไร ล้วนแล้วแต่ต้องใช้เงินจากงบประมาณทั้งสิ้น ผู้ว่าฯ ในฐานะที่เป็นผู้บริหารของเมือง เป็นคนที่กรุงเทพจ้างมาเป็น CEO หน้าที่แรกคือ การหาเงินงบประมาณ หากผู้ว่าฯ ไม่บอกวิธีการหาเงิน นโยบายต่างๆที่โฆษณาจะไม่สามารถทำได้อย่างแน่นอน การปราศรัยในครั้งนี้จึงต้องการมาบอกว่า กรุงเทพมหานครจะหาเงินได้อย่างไร

นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรุงเทพฯจะมีงบประมาณเพิ่มได้จากการเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้าง หรือแต่เดิมเรียกว่าภาษีโรงเรือน ซึ่งกรุงเทพมีตึกรามบ้านช่องมากมาย แต่ที่ผ่านมาเก็บภาษีสิ่งปลูกสร้างได้เพียง 5,000 ล้านบาทต่อปี ซึ่งความจริงแล้วกรุงเทพสามารถตั้งเป้าหมายการเก็บภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้างได้มากกว่าเดิมอีก 10,000 ล้านบาทต่อปี แต่ที่ผ่านมาทำไม่ได้เพราะว่า ที่ดินบางแห่งย่านใจกลางเมืองหรือย่านธุรกิจจะถูกทำให้เป็นที่ตาบอด เพื่อทำให้ที่ดินตรงนั้นราคาประเมินถูกลง เพื่อทำให้เสียภาษีถูกลง


“เราจะไม่เห็นสภาพการณ์แบบนี้เกิดกับเมืองดังๆ ทั่วโลกเลย แต่เราเห็นได้ที่กรุงเทพ และที่ประเทศไทย ผมคิดว่าผู้ว่ากรุงเทพต้องกล้าออกข้อบัญญัติหรือระเบียบในการจัดการเรื่องนี้แบบตรงไปตรงมา ไม่ใช่อ่อนข้อให้นายทุนคนตัวใหญ่ หลบเลี่ยงการจ่ายภาษีที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง” นายวิโรจน์ กล่าว

นายวิโรจน์ กล่าวว่า กรุงเทพมหานครมีค่าใช้จ่ายในการจัดการขยะถึง 7,000 ล้านบาท แต่เก็บภาษีจากขยะได้เพียง 500 ล้านบาทต่อปี ในเรื่องนี้ก็สามารถตั้งเป้าในการเก็บค่าขยะจากนายทุนใหญ่ไม่ว่าจะเป็นจากห้างสรรพสินค้าหรือคอนโดหรู เพื่อนำเข้ามาเป็นภาษีเพิ่มได้อีก 2,000 ล้านบาท นอกจากนี้ ยังมีภาษีจากป้ายบิลบอร์ดที่มีมูลค่ามหาศาลและป้ายอิเล็กทรอนิกส์ทั่วกรุงเทพ ที่ยังไม่มีระเบียบจัดเก็บได้อย่างชัดเจน ก็จะสามารถเก็บภาษีจากป้ายได้เพิ่มอีก 1,000 ล้านบาท

“เมืองนี้จะต้องขับเคลื่อนด้วยการบริจาคไปอีกนานแค่ไหน แม้ว่าการบริจาคจะไม่ใช่ปัญหา แต่เราจะน้ำท่วมปากปิดตาข้างเดียว ยอมให้คนตัวใหญ่ตีตั๋วเด็ก หลบเลี่ยงภาษีแล้วเอาเปรียบคนกรุงเทพแบบนี้ต่อไปเรื่อยๆอย่างนั้นหรือ หากเป็นแบบนี้ต่อไปเมืองนี้จะน่าอยู่เฉพาะกับคนที่มีเงินหรือมีเส้นสาย แต่จะไม่น่าอยู่สำหรับคนจน คนตัวเล็กตัวน้อยที่ทำมาหากิน เราขาดทุนกับประชาชนได้ แต่ขาดทุนกับนายทุนใหญ่ไม่ได้ และถ้ามีผู้ว่าฯชื่อ วิโรจน์ จะสามารถเก็บภาษีและค่าธรรมเนียมต่างๆ เพิ่มขึ้นได้อีกกว่า 13,000 ล้านบาทต่อปี เพื่อนำไปจัดเป็นสวัสดิการและขับเคลื่อนทั้ง 12 นโยบาย เพื่อให้กรุงเทพเป็นเมืองที่คนเท่ากันให้ได้” นายวิโรจน์ กล่าว

นางวิโรจน์ กล่าวทิ้งท้ายว่า สวัสดิการที่ต้องการจะสร้างขึ้นไม่ใช่การสงเคราะห์ ทั้งยังจะช่วยทำให้เศรษฐกิจดีขึ้น และดีสำหรับทุกคนทั้งคนตัวเล็กและคนตัวใหญ่ ถ้าไม่เริ่มทำ ‘รัฐสวัสดิการ’ ไม่คืนความเป็นธรรมให้กับเมือง ต่อให้เศรษฐกิจดี แต่เม็ดเงินส่วนใหญ่ก็จะถูกคนตัวใหญ่สูบเอาไป และเอารัดเอาเปรียบ นี่คือสิ่งที่ หากผู้ว่าชื่อ วิโรจน์ ต้องการจะทำ ทำแล้วจะเปลี่ยนแปลงเลย จะไม่วนลูปกลับมาเจอกับปัญหาเดิมๆอีก

ขณะที่นายนิธิกร บุญยกุลเจริญ ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางบอน เบอร์ 2 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า ตนเชื่อว่า สิ่งที่คนกรุงเทพมองเห็นตรงกันคือ เมืองนี้ควรมีเท่าเทียมกัน เป็นเมืองที่ทันสมัย มีการนำเทคโนโลยีมาแก้ไขปัญหาต่างๆ และการลงทุนในเทคโนโลยีที่มากพอก็คือ การลดความเหลื่อมล้ำที่เกิดขึ้นได้จริง

“ผมอยากเห็นกรุงเทพเป็นท้องถิ่นที่เปิดเผยและโปร่งใส กทม.มีงบต่อปีประมาณ100,000 ล้านบาท แต่ทุกครั้งเราจะรู้ข้อมูลเป็นข่าวแค่บอกว่า งบนี้เอาไปใช้โครงการแบบนี้ ตอนนี้ผ่านสภาแล้ว เราอยากเห็นประชาชนมีส่วนร่วมมากกว่านั้น ยกตัวอย่างข่าวหนึ่งที่ผมไปเจอ มันสะท้อนว่า บทบาทของสภา กทม. ที่ผ่านมา ควรตั้งใจทำเพื่อลงทุนในเทคโนโลยีและการศึกษามากกว่านี้ ข่าวบอกว่าเมื่อสำนักงานตรวจเงินแผ่นดินแห่งชาติ ไปสุ่มตรวจ 21 โรงเรียนในสังกัด กทม. กลับพบว่ามีโรงเรียนที่มีคอมพิวเตอร์ไม่พอมากถึง 20 โรงเรียน หรือก็คือแทบทั้งหมด เหล่านี้ควรเป็นเรื่องที่ สภา กทม.สามารถกำกับติดตามเพื่อให้ฝันของคนกรุงเทพเป็นจริงได้มากกว่านี้” นายนิธิกร กล่าว

ด้าน นายทันธรรม วงษ์ชื่น ผู้สมัคร ส.ก. เขตบางกอกน้อย เบอร์ 1 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า จากการลงพื้นที่มา 2 ปีกว่า กทม. สูญเสียงบปีละ 80,000 ล้านบาท ถามว่าคนกรุงเทพได้อะไร เวลาเจ็บป่วย รวมถึงโควิดทุกคนทำอย่างไร ในฐานะที่ตนทำงานอาสาในช่วงโควิด สิ่งที่เห็นคือ การต้องอ้อนวอน ร้องขอ เสียเงินเสียทองเพื่อให้ได้เตียงและยารักษา ทั้งที่ในเวลานั้น กทม. ไม่ใช่ไม่มีงบประมาณ หรืออย่างน้อยก็ยังมีงบกลางอยู่ 14,000 ล้านบาท

“งบแสนล้านกับงบกลางกว่าหมื่นล้านเอาไปทำอะไรหมด นี่คือเหตุผลว่าทำไม ส.ก. จึงมีความสำคัญในฐานะตัวแทนการตรวจสอบ เพื่อให้การใช้เงินทุกบาททุกสตางค์เป็นไปอย่างเต็มเม็ดเต็มหน่วย ผมได้คุยกับประธานชุมชนหลายชุมชนที่ต้องดูแลคนเป็นร้อยๆคน แต่เขามีงบเบิกจ่ายได้แค่ 8,000-10,000 บาท ผมคิดว่า ถึงเวลาแล้วที่คนกรุงเทพฯ ต้องเลือก ส.ก.และผู้ว่าฯที่มีความเด็ดเดี่ยว ไม่เอาใจนายทุนเป็นที่ตั้ง และไม่ต้องสนใจว่าคนนั้นจะมีอำนาจมากขนาดไหน แต่สำคัญคืออย่ามายุ่งกับภาษีประชาชน ผมอยากให้พวกท่านลองให้โอกาสพวกเราเข้าไปมีส่วนร่วมในการจัดสรรงบประมาณ ผมมั่นใจว่าพวกเราจะทำให้ท่านเห็นว่า เราไม่ได้ต้องการแค่เปลี่ยนตัวผู้บริหาร แต่ต้องเปลี่ยนโครงสร้างที่มันเน่าเฟะ ไปรื้อมันออกมาทั้งหมดเพื่อทำให้กรุงเทพมหานครเป็นเมืองที่ดีขึ้นได้จริง” นายทันธรรม กล่าว

ทั้งนี้ นายทันธรรม ยังกล่าวด้วยว่า หากใครเคยไปไปต่างประเทศ เวลาดูว่าประเทศไหนเจริญ สิ่งที่พูดถึงคือ ทางเท้าดี น้ำเสียไม่มี น้ำฟรีกินได้ มีความปลอดภัย ขนส่งสะดวก แต่เวลาบอกว่า กรุงเทพฯเจริญดูจากอะไร กลับต้องดูว่ามีห้างหรือยัง คอนโดมีไหม มีร้านสะดวกซื้อติดแอร์หรือเปล่า

“เราถูกหลอกมาตลอดให้ดูจากเรื่องเหล่านี้ ทั้งที่ความเจริญต้องดูจากชีวิตความเป็นอยู่ประชาชน ไม่ใช่ดูจากวัสดุสิ่งของที่นายทุนเอามาลงแล้วเพิ่มมูลค่าให้เขา ทั้งยังไปขยายความเหลื่อมล้ำให้เกิดขึ้น กรุงเทพฯ ต้องแก้ปัญหาด้วยการทำให้คนเท่ากันก่อน เมื่อคนไม่เท่าเทียมกัน การบังคับใช้กฎหมาย ไม่เท่ากัน การจัดสรรงบไม่เท่าเทียมกัน การแก้ไขดูแลต่างๆก็จะไม่เท่าเทียมกัน เวลาฝนตกน้ำท่วม ถามว่าเคยเกิดหน้าห้าง หน้าคอนโดหรูหรือไม่ ฟุตบาทเรียบก็มีแต่หน้าห้าง ผมอยู่บางกอกน้อยมา 30 ปี ทำไมหน้าบ้านฟุตบาทเละเทะตลอด หรืออย่างร้านก๋วยเตี๋ยว เมื่อก่อนบางกอกน้อยมีก๋วยเตี๋ยวเรืออร่อยๆเยอะมาก แต่ตอนนี้หายหมด กลายเป็นก๋วยเตี๋ยวเรือแต่ต้องไปตามกินในห้าง เพราะคนอยู่ที่นั่น ถามว่าเพราะอะไร เพราะสะดวก สะอาด ปล่อยภัย คำถามต่อไปก็คือ แล้วทำไมเราจะทำพื้นที่อัตลักษณ์ชุมชนให้มีความสะดวก สะอาด ปลอดภัย เพื่อให้คนเข้ามาบ้างไม่ได้ งบ 80,000 ล้านบาทของกรุงเทพ จะเอามาพัฒนาชุมชนบ้างไม่ได้เลยหรือ ผมเชื่อว่าทำได้ แต่อยู่ที่ว่าจะเลือกใครเข้าไปทำสิ่งเหล่านั้น” นายทันธรรม กล่าว

นายอำนาจ ปานเผือก ผู้สมัคร ส.ก.เขตบางแค เบอร์ 6 พรรคก้าวไกล กล่าวว่า นโยบายที่อยากทำคือ ชุมชนพึ่งตนเองหรือมีสิทธิทำอะไรก็ได้ โดยไม่ต้องไปร้องขอผู้มีอำนาจ ผู้ว่าฯมีงบกลาง 14,000 ล้านบาท แล้วเอาไปทำคลองเล็กๆ ถามว่าชุมชนได้อะไร แทนที่จะเอางบประมาณส่วนนี้ไปหนุนเพื่อทำให้สวัสดิการเด็ก ผู้สูงอายุ และผู้พิการดีกว่านี้ได้หรือไม่

“นโยบายหากผู้ว่าฯ คือนายวิโรจน์ งบที่ผู้ว่าฯถือไว้ อย่างน้อย 4,000 ล้านบาท จะถูกกระจายออกไปให้ชุมชนทั่วกรุงเทพกว่า 200 ชุมชน ซึ่งมีประชากรกว่า 2,000,000 คน หรือมากกว่า 50,000 ครัวเรือน เงิน 500,000 – 1,000,000 บาท จะลงไปที่ชุมชนเพื่อคิดเองทำเองได้ ถนน สะพาน ทางเท้า ระบบรักษาพยาบาล จะสามารถใช้งบตรงนี้ไปจัดการปัญหาของตัวเองได้ทันที ไม่ใช่งบที่ไม่อยากได้ แต่อยู่ๆใส่ลงมา ถังดับเพลิงบ้าง เก้าอี้บ้าง แล้วบังคับให้ชุมชนเซ็นรับ ถ้าผู้ว่าชื่อวิโรจน์ จะไม่มีแบบนี้อีกต่อไป” นายอำนาจ กล่าว .-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

‘ฮุน เซน’ ไลฟ์สดกล่าวถึงปัญหาไทย-กัมพูชา

พนมเปญ 27 มิ.ย. – วันนี้นายฮุนเซน ไลฟ์ผ่านเฟซบุ๊กแต่เช้า พูดถึงเรื่องปัญหาความขัดแย้งไทยกับกัมพูชา สรุปประเด็นได้ดังนี้ 7. ประเด็นอดีตนายกรัฐมนตรีทักษิณ ชินวัตร นายฮุน เซนกล่าวว่า เมื่อตอนที่เดินทางมาเยี่ยมนายทักษิณที่ประเทศไทย เห็นกับตาว่า เวลานายทักษิณจะถ่ายรูปด้วยกัน ต้องหยิบปลอกคอทางการแพทย์มาสวมก่อน พอถ่ายรูปเสร็จก็ถอดออก แล้วไปกินข้าวด้วยกันเป็นปกติ 8.นายฮุน เซนระบุว่า กัมพูชาจะไม่อนุญาตให้ชาวต่างชาติดูหมิ่นกองทัพหรือผู้นำกองทัพ และนายฮุน เซน ถือว่าการกระทำของนางสาวแพทองธาร ต่อแม่ทัพภาคที่ 2 ของไทย ถือเป็นการหมิ่นเบื้องสูง.-810.-สำนักข่าวไทย

เช็กโผ ครม.ล่าสุด นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม

ทำเนียบฯ 27 มิ.ย. – คืบหน้า ครม.ใหม่ นายกฯ นั่งควบ รมว.วัฒนธรรม โยก “สุดาวรรณ” นั่ง รมว.อว. ขณะที่ หลานชาย สุริยะ “พงศ์กวิน” นั่ง รมว.แรงงาน ความคืบหน้าในการปรับคณะรัฐมนตรี ( ครม.) ชุดใหม่ ล่าสุดมีรายงานว่า น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี เตรียมนำรายชื่อคณะรัฐมนตรีชุดใหม่ขึ้นทูลเกล้าฯ แล้ว โดยโผ ครม.ล่าสุด น.ส.แพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี จะนั่งควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม โดย น.ส.สุดาวรรณ หวังศุภกิจโกศล รัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม จะไปดำรงตำแหน่ง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรม (อว.) ส่วนนายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรี และรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม จะไปดำรงตำแหน่ง รองนายกรัฐมนตรี ควบ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายจักรพงษ์ แสงมณี จะดำรงตำแหน่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงพาณิชย์ […]

เร่งหาทอง 38 บาท หลังคนร้ายจบชีวิต หนีความผิด

ชลบุรี 27 มิ.ย. – คนร้ายบุกชิงทอง 38 บาท กลางห้างดังชลบุรี โดดคอนโด หนีความผิด หลังก่อเหตุ 2 ชม. ค้นบ้านเจอเอกสารทวงหนี้จำนวนมาก ตำรวจเร่งหาที่ซ่อนทอง ช่วงสายวานนี้ ประมาณ 09.30 น. เกิดเหตุคนร้าย เป็นชาย สวมเสื้อแขนยาวสวมหมวกใส่แมสก์ปิดบังใบหน้า เข้ามาใช้ปืนจี้พนักงานก่อเหตุชิงทอง ห้างทองภายในห้างสรรพสินค้าแห่งหนึ่ง สาขาบ้านสวน อำเภอเมืองชลบุรี ได้ทองรูปพรรณไปทั้งหมดรวม 38 บาท ซึ่งขณะหลบหนี ดาบตำรวจสมปอง ฟองดา ผบ.หมู่ กองบังคับการสืบสวนสอบสวนภูธรภาค 2 เห็นเหตุการณ์พอดี พยายามกระโดดขวางและเข้าชาร์จตัวผู้ก่อเหตุ จังหวะนั้นผู้ก่อเหตุ ได้ยิงเพื่อเปิดทางหนึ่งนัด กระสุนโดนหมวกกันน็อกดาบตำรวจสมปอง จนเป็นรู และสามารถแย่งปืนมาได้ แต่ไม่สามารถจับตัวได้ คนร้ายวิ่งหนีออกจากห้างไปอย่างรวดเร็วตำรวจในพื้นที่เร่งตรวจสอบกล้องวงจรปิด เพื่อติดตามเส้นทางหลบหนี แต่ผ่านไปเพียง 2 ชั่วโมง ประมาณ 11.30 น. ตำรวจ สภ.ดอนหัวฬ่อ ได้รับแจ้งคนตกจากคอนโดมีเนียม จึงเดินทางไปตรวจสอบพร้อมกู้ภัย […]

พบระเบิดอีกที่หาดสุรินทร์

ภูเก็ต 27 มิ.ย.-พบระเบิดอีก 1 ชุดที่หาดสุรินทร์ จ.ภูเก็ต ชุด EOD เข้าทำลายแล้ว เร่งค้นหาว่ามีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ หลังคนร้ายรับสารภาพวางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด ภายหลังจากตำรวจจับผู้ต้องหาลอบวางระเบิดสถานที่ท่องเที่ยวทั้งที่จังหวัดภูเก็ตและกระบี่ ผู้ต้องหาให้การรับสารภาพว่า ยังได้วางระเบิดไว้ที่หาดสุรินทร์ 2 จุด คือที่บริเวณหาดสุรินทร์ ตำบลเชิงทะเล อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ใกล้กับสถานที่กำลังก่อสร้าง ขณะนี้เจ้าหน้าที่ชุด EOD ตำรวจภูธรภาค 8 ชุดสืบสวนภาค 8 ชุดสืบสวน ตำรวจภูธรจังหวัดภูเก็ต ร่วมกับเจ้าหน้าที่ตำรวจ สภ.เชิงทะเล เจ้าหน้าที่ อบต.เชิงทะเล และเจ้าหน้าที่ฝ่ายปกครอง อำเภอถลาง จังหวัดภูเก็ต ลงพื้นที่ตรวจสอบบริเวณหาดสุรินทร์ พร้อมอุปกรณ์และเครื่องมือสแกนหาวัตถุต้องสงสัย และเครื่องตรวจจับโลหะ และตรวจพบวัตถุต้องสงสัย 1 ชุด ถูกฝังไว้ใต้ต้นไม้ ใกล้ห้องน้ำ บริเวณที่กำลังมีการปรับปรุงภูมิทัศน์หาดสุรินทร์ ของกรมโยธาธิการและผังเมือง และเจ้าหน้าที่ EOD ใช้ยุทธวิธีในการทำลาย อย่างไรก็ตามขณะนี้เจ้าหน้าที่กำลังค้นหาว่าจะมีจุดวางระเบิดอีกหรือไม่ เพราะจากคำสารภาพของผู้ต้องหา ระบุว่า มีการนำวัตถุต้องสงสัยมาวางไว้ […]

ข่าวแนะนำ

นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยศาล รธน. ยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติ

ทำเนียบ 1 ก.ค.-นายกฯ แถลงน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลรัฐธรรมนูญ สั่งหยุดปฏิบัติหน้าที่ พร้อมชี้แจงเต็มที่ ยืนยันเกิน 100% ทำเพื่อประเทศชาติและรักษาอธิปไตย ไม่มีเจตนาอยากได้อะไรเป็นของตัวเอง พร้อมขอโทษ หากวิธีการไม่ถูกใจใครหลายคน นางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม แถลงภายหลังศาลรัฐธรรมนูญ มีคำสั่งรับคำร้องไว้วินิจฉัย กรณีคลิปเสียงสนทนากับ สมเด็จฮุนเซ็น และให้หยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย ด้วยมติ 7:2 ว่า ขอน้อมรับคำวินิจฉัยของศาลต่อจากนี้ได้หยุดปฏิบัติหน้าที่ ซึ่งระยะเวลานั้นไม่แน่ใจ แต่มีเวลาประมาณ 15 วันที่จะชี้แจง ตนจะทำให้เต็มที่ในการที่จะบอกความตั้งใจที่แท้จริงว่าคลิปเสียงที่หลุดออกมาว่า ความตั้งใจและเจตนาจริงๆ เกิน 100% ว่าตั้งใจทำเพื่อประเทศชาติ เพื่อรักษาไว้เพื่ออธิปไตยของเรา เพื่อรักษาไว้ซึ่งชีวิตของกองทัพและทหารทุกคน เพื่อสันติภาพที่จะเกิดขึ้นในประเทศของเรา ตนมั่นใจในสิ่งนี้มากๆ แต่วิธีการที่ตนเองทำ อาจจะมีทั้งถูกใจหรือไม่ถูกใจใครหลายๆ คน แต่ก็จะพยายามพิสูจน์เรื่องนี้ให้ได้ ว่าเป็นความตั้งใจ เป็นความพยายามเกิน 100% ที่จะทำเพื่อประเทศชาติจริงๆ เจตนาไม่มีอยากได้อะไรของตัวเองเลย และคิดอย่างเดียวว่าทำอย่างไรที่จะไม่ให้เกิดความวุ่นวายและ ทำอย่างไรที่จะไม่ต้องสู้รบกัน ทหารไม่ต้องเสียเลือดเสียเนื้อ และตนก็คงรับไม่ได้หากพูดอะไรกับทางผู้นำและทำให้เกิดผลเสีย เกิดการทะเลาะหรือโกรธเคือง อันนั้นเป็นความตั้งใจจริงๆ ถ้าลองฟังดูจริงๆ ก็จะรู้ว่าไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร เพราะฉะนั้นนี่คือ […]

ศาล รธน. สั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​

ศาลรัฐธรรมนูญ 1 ก.ค.-ศาลรัฐธรรมนูญสั่ง ​”แพทองธาร” หยุดปฏิบัติหน้าที่​นายกฯ​ หลังรับคำร้อง 36 สว. ยื่นถอดถอน ปมคลิปเสียงคุย “ฮุน เซน” ผิดจริยธรรม​ เปิดชื่อ 2 ตุลาการเสียงข้างน้อย “นครินทร์-อุดม” ไม่ให้หยุดปฏิบัติหน้าที่ แค่ห้ามใช้อำนาจหน้าที่ด้านความมั่นคง-การต่างประเทศ-การคลัง ศาลรัฐธรรมนูญ นัดประชุมปรึกษาคดีที่นายมงคล สุระสัจจะ ประธานวุฒิสภา ได้ยื่นคำร้องของ 36 สว. ขอให้ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาวินิจฉัยตามรัฐธรรมนูญมาตรา 170 วรรค 3 ประกอบมาตรา 82 ว่านางสาวแพทองธาร ชินวัตร นายกรัฐมนตรี กระทำฝ่าฝืนมาตรฐานจริยธรรมอย่างร้ายแรงเป็นเหตุให้ความเป็นรัฐมนตรีสิ้นสุดลงเฉพาะตัว ตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 วรรคหนึ่ง (4) ประกอบมาตรา 160 (4) และ (5) หรือไม่ รวมทั้งขอให้ศาลรัฐธรรมนูญมีคำสั่งให้นางสาวแพทองธารหยุดปฏิบัติหน้าที่จนกว่าศาลจะมีคำวินิจฉัย จากกรณีคลิปเสียงสนทนาเรื่องข้อพิพาทชายแดนไทย-กัมพูชากับสมเด็จ ฮุนเซน ประธานวุฒิสภากัมพูชา ศาลรัฐธรรมนูญพิจารณาข้อเท็จจริงตามคำร้องและและเอกสารประกอบคำร้องแล้วเห็นว่า กรณีเป็นไปตามรัฐธรรมนูญ มาตรา 170 […]

รวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ยึดของกลาง 1.9 ล้าน

กรุงเทพฯ 1 ก.ค. – ผบช.น. แถลงรวบ 2 ผู้ต้องหาปล้นเงินกลางห้างดัง ตามยึดของกลางคืนแล้ว 1.9 ล้านบาท ส่วนผู้ต้องหาที่เหลืออีก 5 คน ขออนุมัติศาลออกหมายจับบ่ายนี้ พล.ต.ท.สยาม บุญสม ผู้บัญชาการตำรวจนครบาล แถลงข่าวเปิดเผยความคืบหน้าการจับกุมผู้ต้องหาปล้นเงินสดจำนวน 3.4 ล้านบาท ภายในศูนย์การค้าแห่งหนึ่งย่านลาดพร้าวเมื่อคืนที่ผ่านมา พร้อมระบุว่า ขณะนี้เจ้าหน้าที่ตำรวจสามารถติดตามจับกุมผู้ก่อเหตุได้แล้ว 2 ราย คือ นายเฌอพัชญ์ หรือหนาว และ น.ส.นานา โดยสามารถตามจับกุมได้ที่รีสอร์ตแห่งหนึ่งใน อ.ลาดหลุมแก้ว จ.ปทุมธานี เมื่อช่วงเวลา 01.00 น.ที่ผ่านมา พร้อมกันนี้ยังสามารถตรวจยึดของกลางเป็นเงินสดจำนวน 1.9 ล้านบาท ซึ่งเป็นส่วนแบ่งจากการกระทำความผิด เสื้อผ้าที่สวมใส่ในขณะก่อเหตุ บัญชีธนาคารและบัตร ATM รวมทั้งสิ่งของที่ได้มาจากการทำความผิดก่อนหน้านี้ของผู้ต้องหาทั้ง 2 ราย จากการสอบปากคำเบื้องต้น ผู้ต้องหาทั้งสองให้การยอมรับสารภาพจากการจำนวนต่อหลักฐาน โดยอ้างว่า นายเฌอพัชญ์ จะทำหน้าที่เป็น Agent หรือตัวแทนหลอกซื้อขายคริปโตเคอเรนซี่ผ่านกลุ่ม Facebook […]

“สรวงศ์” ยันเร่งแก้ระบบล่ม หลังแห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง”

ทำเนียบ 1 ก.ค.- “สรวงศ์” ยันเร่งแก้ปัญหาแอปฯ ล่ม หลังปชช.แห่ลงทะเบียน “เที่ยวไทยคนละครึ่ง” เผยอาจมีการเพิ่มสิทธิมากขึ้น นายสรวงศ์ เทียนทอง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการท่องเที่ยวและกีฬา กล่าวถึง การเปิดลงทะเบียนโครงการเที่ยวไทยคนละครึ่ง ในวันนี้ เป็นวันแรก (1 ก.ค.) หลังเปิดให้ลงทะเบียนเวลา 08.00 น. ปรากฏว่าแอปฯ ล่ม ว่า ในเรื่องของแอปฯ ล่มกำลังแก้ไขอยู่ โดยจะดำเนินการให้เร็วที่สุด ซึ่งยอมรับว่าเมื่อเปิดให้มีการลงทะเบียน มีประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก นายสรวงศ์ ยืนยันว่าเรื่องของระบบการลงทะเบียนได้มีการเตรียมความพร้อมเอาไว้แล้ว แต่บางครั้งเป็นปัญหาทางเทคนิค แต่ก็จะพยายามแก้ไขปัญหาให้เร็วที่สุด นายสรวงศ์ มองว่า การที่ประชาชนเข้าไปลงทะเบียนเป็นจำนวนมาก เป็นเป็นการสะท้อนให้เห็นว่าประชาชนอยากจะเที่ยวอยู่ ซึ่งก็จะมีการพิจารณาอีกครั้งว่า หากมีประชาชนลงทะเบียนจนครบตามสิทธิแล้ว นายกรัฐมนตรีเคยบอกแล้วว่า จะเพิ่มสิทธิตรงนี้ให้.-315 -สำนักข่าวไทย