นครราชสีมา 3 เม.ย.-“พล.อ.ประวิตร” เปิดประชุมใหญ่ โชว์ผลงาน 3 ปี พปชร. ลั่นไม่ใช่แค่แจกเงิน แต่จะทำให้ประชาชนพ้นกับดักความยากจน รับตั้ง “2 อดีตทหาร” นั่ง กก.บห.พปชร.ชุดใหม่ แจงมาช่วยงานด้านธุรการ ปัดตอบนำทัพคุมเลือกตั้งโซนอีสาน
เวลา 09.50 น. ในการประชุมใหญ่สามัญพรรคพลังประชารัฐ ประจำปี 2565 จัดขึ้นที่ เทอร์มินอลฮอลล์ เทอร์มินอล 21 จ.นครราชสีมา ซึ่งมี พล.อ.ประวิตร วงษ์สุวรรณ รองนายกรัฐมนตรี ในฐานะหัวหน้าพรรคพลังประชารัฐเป็นประธาน ท่ามกลางแกนนำ ส.ส.พรรค อาทิ นายสันติ พร้อมพัฒน์ รักษาการเลขาธิการพรรค นายสุริยะ จึงรุ่งเรืองกิจ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงอุตสากกรรม และรองหัวหน้าพรรค นายไพบูลย์ นิติตะวัน ส.ส.บัญชีรายชื่อ และรองหัวหน้าพรรค นายสมศักดิ์ เทพสุทิน รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และที่ปรึกษาหัวหน้าพรรค นางนฤมล ภิญโญสินวัฒน์ เหรัญญิกพรรค และสมาชิกเข้าร่วมกันอย่างคึกคัก ภายใต้สโลแกน “พลังประชารัฐรวมใจ – รวมไทยเป็นหนึ่งเดียว”
ซึ่งวาระสำคัญเป็นการรับรองงบการเงินประจำปี รายงานผลการดำเนินการของพรรค เสนอแก้ไขเพิ่มเติมข้อบังคับ เลือกตั้งกรรมการบริหารพรรคใหม่แทนตำแหน่งที่ว่าง และเลือกตั้งกรรมการสรรหาผู้สมัครรับเลือกตั้ง
โดยเริ่มต้น การประชุม จาก พล.อ.ประวิตร ประกาศนโยบาย ใช้เวลา 24 นาที ในการแจกแจงผลงาน 3 ปี ของพรรคพลังประชารัฐ ที่ขับเคลื่อนนโยบายหลายด้าน อาทิ จัดสรรที่ดินทำกิน แก้ไขปัญหาภัยแล้ง หามาตรการดูแลกระทบจากโควิด-19 ทั้งโครงการคนละครึ่ง เราชนะ เราเที่ยวด้วยกัน ลงทะเบียนกลุ่มเปราะบางให้เข้าถึงบัตรสวัสดิการของรัฐ
พล.อ.ประวิตร ระบุว่าพรรคจะยึดมั่นนโยบาย 3 เสาหลัก ที่เคยสัญญาไว้กับประชาชน ทั้งเรื่องสวัสดิการประชารัฐ เศรษฐกิจประชารัฐ และสังคมประชารัฐ ต่อไป ซึ่งทั้งหมดเห็นผลเป็นรูปธรรม โดยบัตรสวัสดิการแห่งรัฐจะไม่แจกเงินรายเดือนอย่างเดียว แต่จะเสนอนโยบายช่วยให้ผู้มีรายได้น้อย พ้นจากกับดักความยากจนได้อย่างยั่งยืน โดยเสริมสร้างความรู้ด้านอาชีพ หางานให้กับผู้มีรายได้น้อย แก้ไขหนี้นอกระบบ รวมถึงเพิ่มโอกาสเข้าถึงแหล่งเงินทุนในระบบให้กับผู้มีรายได้น้อย ตลอดจนจะจริงจังในการปราบปรามยาเสพติด เพื่อให้การค้ายาเสพติดหมดไปจากประเทศไทย ซึ่งผลงานของพรรคทั้งหมด อยากให้กรรมการบริหารพรรค ส.ส. และสมาชิกพรรคทุกคน นำไปเผยแพร่ สร้างการรับรู้ให้กับประชาชนว่าพรรคได้ทำอะไรให้กับพี่น้องประชาชนบ้าง และจะทำต่อไป
พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า บ้านพรรคพลังประชารัฐหลังนี้ คือ ครอบครัวเดียวกัน เราจะรักสามัคคีเป็นหนึ่งเดียวกัน ร่วมก้าวไปด้วยกัน ทำให้บ้านพลังผระชารัฐเข้มแข็งยิ่งขึ้น ขอให้ยึดมั่นในอุดมการณ์ของพรรค ยืนเคียงข้างประชาชน สร้างความอยู่ดีกินดี ให้ความเป็นอยู่ที่ดีกับประชาชน แม้รัฐบาลกำลังเผชิญกับภัยคุกคามทั้งจากสถานการณ์โลกที่มีปัญหาระหว่างรัสเซียกับยูเครน รวมถึงปัญหาโควิด-19 แต่เราก็จะสามารถทำให้ประชาชนมีความเป็นอยู่ที่ดีขึ้น ดังนั้นทุกคนคือครอบครัวเดียวกัน ที่จะต้องช่วงกัน พร้อมกับตบท้าย สโลแกนของพรรคว่า “สานพลังประชารัฐ ร่วมสร้างชาติให้ยั่งยืน”
หลังจากนั้น พล.อ.ประวิตร ได้ลงจากเวที และเดินทางกลับ โดยมี พล.อ.กฤษณ์โยธิน ศศิพัฒนวงษ์ อนุกรรมการฝ่ายหารายได้ มูลนิธิป่ารอยต่อฯ และเป็นอดีตฝ่ายเสนาธิการ พล.อ.ประวิตร เมื่อครั้งดำรงตำแหน่ง รมว.กลาโหม และ พล.อ.ธัญญา เกียรติสาร อดีตแม่ทัพภาคที่ 2 ที่ได้สวมเสื้อของพรรคพลังประชารัฐ มาร่วมรับฟังนโยบายของ พล.อ.ประวิตร มาส่ง พร้อมกับกรรมการบริหารพรรคคนอื่นๆ
โดย พล.อ.ประวิตร ได้กล่าวถึงการลาออกของ นายพีระพันธุ์ สาลีรัฐวิภาค ที่ปรึกษานายกรัฐมนตรี ในฐานะที่ปรึกษาหัวหน้าภาคพปชร. ว่า “ไม่มี พร้อมทำมือปฏิเสธ”
ก่อนที่ พล.อ.ประวิตร จะกล่าวสั้นๆ ยอมรับว่า “กรรมการบริหารพรรคที่ตั้งขึ้นใหม่ ซึ่งทั้ง 2 คนเป็นอดีตนายทหาร ส่วนจะมาช่วยงานด้านไหนนั้น พล.อ.ประวิตร กล่าวว่า “ก็มาช่วยผม มาช่วยธุรการ” เมื่อถามว่าหนึ่งในกรรมการบริหารคนใหม่ เคยเป็นอดีตแม่ทัพภาคที่2 จะมาช่วยกลุ่มพื้นที่ภาคอีสานหรือไม่ พล.อ.ประวิตร ปฏิเสธตอบคำถามดังกล่าว และขึ้นรถเดินทางกลับทันทีหลังเปิดประชุม เนื่องจากมีภารกิจที่ จ.กาญจนบุรี.-สำนักข่าวไทย