รัฐบาลให้ความสำคัญพัฒนาคน

ทำเนียบรัฐบาล 24 มีค-นายกฯ ปธ.ลงนาม 7 กระทรวงร่วมดูแลคนตลอดช่วงชีวิต ย้ำรัฐบาลให้ความสำคัญพัฒนาทรัพยากรมนุษย์ บอกตัวเอง-ทุกคนอย่าท้อ จะทำงานให้ดีที่สุด ขอโทษที่ก้าวก่ายการงานเพื่อไปถึงเป้าหมาย


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี เป็นประธานพิธีลงนามบันทึกข้อตกลงการบูรณาการความร่วมมือ 7 กระทรวง การพัฒนาคนตลอดช่วงชีวิต (กลุ่มเด็กปฐมวัย และผู้สูงอายุ) พ.ศ. 2565 – 2569 โดยมีรัฐมนตรีที่เกี่ยวข้อง ประกอบด้วย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงสาธารณสุข รัฐมนตรีว่าการกระทรวงศึกษาธิการ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพัฒนาสังคมและความมั่นคงของมนุษย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย รัฐมนตรีว่าการกระทรวงแรงงาน รัฐมนตรีว่าการ กระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม และ เลขาธิการคณะกรรมการการอุดมศึกษา กระทรวงการอุดมศึกษา วิทยาศาสตร์ วิจัยและนวัตกรรมร่วมพิธี

นายกรัฐมนตรี กล่าวปาฐกถาพิเศษหัวข้อ “มั่นคงมั่งคั่งยั่งยืนการพัฒนาคนตลอดชีวิต” ว่า รัฐบาลให้ความสำคัญการพัฒนากำลังคนของชาติเป็นอย่างยิ่ง เพราะถือว่าทรัพยากรมนุษย์เป็นสิ่งสำคัญ เป็นหัวใจของการพัฒนาประเทศ การพัฒนาคนทุกช่วงวัย ถือเป็นรากฐานสำคัญที่ร่วมมือกันขับเคลื่อนอย่างรอบด้าน วันนี้เน้นอยู่ 2 กลุ่มคือเด็กปฐมวัยและกลุ่มผู้สูงอายุ ที่ต้องคิดว่าจะทำอย่างไรที่จะเสริมศักยภาพให้ได้เพื่อให้เท่าเทียมกันทุกมิติ


“วันนี้โลกเปลี่ยนแปลงไปมาก สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องสร้างภูมิคุ้มกันให้เด็กเพราะฉะนั้นใครจะสร้างให้ได้ก็ต้องคนรุ่นเรา สิ่งสำคัญที่สุดคือพ่อ แม่ ครอบครัว ญาติ พี่ น้อง และนำไปสู่โรงเรียนและสังคม เพราะฉะนั้นถ้าไม่สร้างภูมิคุ้มกันตรงนี้ เราจะไม่พร้อมที่จะเผชิญกับสถานการณ์โลกต่อไป เมื่อต้องการผลลัพธ์พลเมืองที่มีคุณภาพ มีคุณค่าต่อสังคม จากเด็ก มาสู่การโตเป็นผู้ใหญ่มีงานทำ มีจิตสำนึก ที่ดีเผื่อแผ่แบ่งปัน สิ่งเหล่านี้เป็นสิ่งที่ต้องให้ความสำคัญ ต่อจากนั้นเมื่ออายุมากขึ้นก็อาจจะมีความลำบากในเรื่องการใช้ชีวิต อาชีพรายได้ ซึ่งคงจะต้องดูแลตรงนี้ด้วย เพื่อไม่ให้เป็นภาระต่อสังคมและครอบครัวต่อไปในอนาคต” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ประเทศไทยในปีหน้า จำนวนตัวเลขผู้สูงอายุจะเพิ่มขึ้นเรื่อย ๆ อาจจะเป็นภาระที่เด็กเลี่ยงไม่ได้ที่ต้องดูแลและแก้ไขปัญหาตั้งแต่วันนี้ อย่างไรก็ตาม จะต้องทำให้เขามีความภาคภูมิใจว่าถึงแม้จะเป็นผู้สูงอายุ ก็เป็นทรัพยากรเป็นประชากรที่มีศักยภาพ และสามารถพึ่งพาตนเองได้ นี่คือสิ่งที่ตนกังวล จะต้องเป็นพลังสำคัญในการพัฒนาประเทศ

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า การลงนาม 7 กระทรวงวันนี้ เห็นได้ว่างานแต่ละงานไม่สามารถทำได้ด้วยคนคนเดีย ว งานทุกงาน ในฐานะตนเป็นนายกรัฐมนตรี เป็นผู้บริหาร เป็นผู้กำหนดวิสัยทัศน์ กำหนดยุทธศาสตร์ และติดตามกำกับดูแลริเริ่ม แต่ผู้ปฏิบัติคือรองนายกรัฐมนตรี ที่นำนโยบายไปสู่การขับเคลื่อนร่วมกับรัฐมนตรี นำไปสู่การปฏิบัติกับหน่วยงานราชการ มีห่วงโซ่ในสายงานบังคับบัญชา เพราะฉะนั้นจะอ่อนตรงไหนไม่ได้ จะไม่ให้ความสำคัญตรงไหนไม่ได้ เพราะทุกคนคือห่วงโซ่ที่จะต้องทำงานไปด้วยกัน สายการบังคับบัญชาหรือช่วงการบังคับบัญชาเป็นขั้นเป็นตอนลงไป


“ถ้าทุกคนเอาใจใส่ ร่วมมือกัน คำว่าบูรณาการร่วมกัน ไม่ใช่แค่พูด แต่ต้องเอางานทั้งหมดที่เกิดมาในวันนี้มาดูว่ามีงานอะไรบ้าง เกี่ยวกับการพัฒนาคน พัฒนาทรัพยากรมนุษย์ การศึกษา สังคม อะไรก็แล้วแต่ จะต้องพิจารณาร่วมกันว่าจะดูแลอย่างไร จะร่วมมือกันอย่างไร นี่คือการบูรณาการงานร่วมกัน โจทย์มีให้แล้ว อยู่ตรงยุทธศาสตร์ชาติที่เขียนไว้ทั้ง 6 ข้อ ครอบคลุมทั้งหมดอยู่แล้ว นั่นคือแผนแม่บททั้งหมดสอดคล้องกัน หากเราไม่ทำมาแล้วเลยจะไม่เกิดขึ้น เพราะฉะนั้นการที่ออกมาพูด พูด พูด แล้วไม่ได้ทำ หรือไม่ได้เริ่ม ก็จะไม่มีทางเป็นไปได้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เราทำกันมาหลายปีแล้ว ทุกอย่างที่มีความพร้อมในวันนี้ที่สามารถแก้ไขปัญหาในวันนี้ได้มากที่สุด ทั้งการแก้ไขปัญหาสถานการณ์การแพร่ระบาดของเชื้อไวรัสโควิค 19 สถานการณ์ การสู้รบอะไรต่าง ๆก็แล้วแต่ ถึงหลายคนจะรู้สึกว่ายังไม่ดีพอ ยังไม่พอใจ แต่ถ้าไม่เตรียมความพร้อมในหลายปีที่ผ่านมาแล้ว ทั้งก่อนหน้านี้ จนถึงรัฐบาลปัจจุบัน เราจะเจอกับเหตุการณ์ที่หนักกว่านี้อีกมาก เพราะฉะนั้นทุกคนทุกสิ่งจะต้องมีการสืบสานต่อเนื่องกันออกไป ทำงานไปด้วยกัน ในนามของรัฐบาล ที่ต้องแก้ไขปัญหาและสร้างทัศนคติของคนแต่ละคน ต้องคิดว่าจะทำอย่างไร ให้คนที่จะมีส่วนร่วมแล้วเข้าใจ โดยเฉพาะอย่างยิ่งการสร้างการรับรู้ต่างๆ ว่าจะเกิดความร่วมมือกันได้อย่างไร ว่ามีเจตนาที่ดีมีความมุ่งมั่น มีเป้าหมาย และมีวิธีการและจะทำอย่างไรในขั้นตอนตรงนี้ เพื่อให้คนเหล่านี้เข้ามาร่วมมือกับเราด้วยความเข้าใจ

“วันนี้โลกยุคใหม่อะไรก็เร็ว อะไรก็อยากได้เร็ว ๆ อยากทำเร็ว ๆ บางครั้งก็ลืมไปว่าจะต้องร่วมมือกันอย่างไร กับใครบ้างหรือเปล่า เราโทษเขาไม่ได้ เพราะฉะนั้นสิ่งต่างๆวันนี้ต้องสร้างการรับรู้ว่าหากจะไปด้วยกัน หากจะมั่นคงมั่งคั่ง ยั่งยืน ไปด้วยกัน จะต้องร่วมมือกัน รัฐมีหน้าที่ในการจัดระเบียบหาวิธีการทำงาน ขณะเดียวกันต้องหาวิธีการที่ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการของภาครัฐ หากเราอธิบายไม่ชัดเจน รัฐบาลใช้ข้อมูลขนาดใหญ่บริหารจัดการทุกกลุ่ม ซึ่งวันนี้มีความก้าวหน้าตามลำดับ” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ขอบคุณทุกคน ทุกกระทรวงที่ทำงานโดยเริ่มตั้งแต่ข้างบนลงไปข้างล่าง หรือข้างล่างขึ้นมาข้างบน ข้างบนคือระดับนโยบาย นายกรัฐมนตรี รองนายกรัฐมนตรี ไปยังปลัดกระทรวงอธิบดี และข้างล่างคือข้าราชการที่เราจะสัมผัสคือประชาชนในพื้นที่ ตรงนี้จะเป็นส่วนสำคัญ ซึ่งคนข้างล่างเท่ากับข้างบน ไม่อย่างนั้นก็จะเดินหน้าต่อไม่ได้ ต่อให้ทำอะไรให้ดีก็ตาม หากไม่ขับเคลื่อนข้างล่างให้ได้คือปัญหา

“ขอให้ข้าราชการอย่าท้อแท้ อย่าสิ้นหวัง อย่าหมดกำลังใจ ผมพยายามเติมใจให้ทุกวันว่าต้องทำให้สำเร็จ ตราบใดที่ยังมีหน้าที่อยู่ จะเห็นได้ว่าหลายอย่าง ผมจะก้าวล่วงเข้าสักนิด อาจจะเตือนเรื่องนู้นเรื่องนี้ จะทำอย่างไร ซึ่งเป็นหน้าที่ที่ต้องทำ ผมขอโทษด้วย เนื่องจากเป็นน้หาที่ของนายกรัฐมนตรีที่ต้องทำ อะไรที่แนะนำได้ก็แนะนำไป อะไรที่สงสัยก็ถามไป สิ่งสำคัญที่สุดคือต้องพุ่งเป้า จะทำอะไรก็ตามต้องพุ่งเป้าให้เจอ หาเป้าหมายให้เจอแล้วเริ่มให้ได้โดยเร็วที่สุด หากทำทีเดียวก็จะไม่มีวันสำเร็จ เราไม่มีผลงานปรากฏให้คนอื่นรู้ ไม่สร้างการรับรู้” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เมื่อสร้างการรับรู้ขึ้นมา คนจะเข้ามาหาเรา จะเจอปัญหาที่แตกต่าง ทุกคนปัญหาไม่เหมือนกัน แม้กระทั่งพวกเราเอง ต่างคนต่างก็มีปัญหาของเราเอง แต่จะต้องรวมพลังตรงนี้ให้ได้เพื่อเดินหน้าสู่เป้าหมายที่กำหนดไว้แล้ว ที่จะต้องสร้างทัศนคตินี่คือสิ่งสำคัญ สร้างหลักคิดที่ดีที่ถูกต้อง สร้างความรักความสามัคคีของคนในชาติ ถ้าหากพูดถึงหลักการอย่างเดียว ก็คงได้เพียงหลักการ หากแก้ได้ก็คงแก้กันไปนานแล้ว แต่ก็พยายามทำหลายอย่าง แก้ของเก่า แก้ของใหม่ ต้องให้ประชาชนได้เข้าใจว่าเราทำไปหมดแล้ว อยู่ที่ว่าเราจะเดินหน้าไปได้มากน้อยเพียงใดในช่วงเวลาที่เรามีอยู่ แล้วย้อนกลับไปว่าเราทำอะไรไปแล้วบ้างสิ่งนี้คือสิ่งที่ประชาชนต้องรับทราบ ว่าได้รับการดูแลไปแล้วมากน้อยเพียงใด

“เป้าหมายสำคัญคือต้องการประชาชนที่มีศักยภาพสูง แต่สิ่งสำคัญคือการสร้างหลักคิดของประชาชนให้ได้ ทุกคนเกิดมามีอยู่แล้ว หลายคนเกิดมามีศักยภาพเฉพาะตัวอยู่แล้ว มีพรสวรรค์มาอยู่แล้วเพียงแต่ต้องหาพรสวรรค์ให้เจอ และนำพรสวรรค์มาใช้ประโยชน์กับตัวเขาเอง คนไทยเป็นคนช่างคิดอยู่แล้ว มีวรรณคดีมีอะไรต่าง ๆมากมาย คนไทยช่างคิด มีความโรแมนติก ค่อนข้างอ่อนไหวง่าย แล้วจะทำอย่างไรให้เขามั่นคงกับสิ่งที่เราทำให้เขา ด้วยความเข้าใจซึ่งกันและกัน ตนถือว่าทั้งหมดเป็นความท้าทาย อย่างยิ่งยวดสำหรับทุกหน่วยงานทุกภาคส่วน ที่จะต้องหาวิธีการที่เหมาะสม ติดตามเอาใจใส่” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า ต้องสร้างความร่วมมือ ให้ประชาชนเข้าถึงการบริการภาครัฐให้ได้ เราคิดเราทำเปิดช่องทางให้เขาเข้าถึง และต้องอดทนกับการแก้ไขปัญหา ไม่มีปัญหาอะไรที่จะแก้ได้ ด้วยการพูดไม่กี่คำ หรือทำไม่กี่ปี หลายอย่างต้องทำอย่างต่อเนื่อง และเป็นสิ่งที่ทุกคนต้องสร้างการเรียนรู้ ให้ได้มากขึ้น เพื่อให้สังคมเราปลอดภัยศานติสุขสงบนั่นคือความมั่นคงมั่งคั่งและยั่งยืนอย่างแท้จริงทุกมิติ ขอให้ลองย้อนกลับไปดูแผนแม่บท ว่าต้องปรับตรงไหนอะไรอย่างไร เราต้องคิดว่าทำอะไรไปแล้ว

“ผมไม่ต้องการคำเยินยอจากใครทั้งสิ้น ขอให้ภูมิใจจากสิ่งที่เราทำ เราทำดีก็รู้ตัวว่าเราทำดี เราทำไม่ดีก็รู้ตัวว่าเราทำไม่ดี ทำไม่ดีก็แก้ไขเท่านั้นเอง ทำไม่ดีก็แก้ไขซะเท่านั้นเอง ทำดีอยู่แล้วก็ทำให้ดีมากขึ้นทุกวัน นั่นคือสิ่งที่ตนคิดมาโดยตลอด และผมคิดว่าทุกคนร่วมมือกับผมด้วยดีเสมอมา” นายกรัฐมนตรี กล่าว

นายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ว่าการดำเนินการทุกอย่างต้องทำให้เกิดความต่อเนื่อง ทุกคนมีส่วนร่วมในสังคม ขอให้ดูที่การกระทำว่าทำอะไรไปแล้วบ้าง ทุกคนที่อยู่กับผมร่วมกันทำงานมาหลายปี ขอให้ไปดูว่าผลงานอะไรสำเร็จไปแล้วบ้าง เราคาดหวังว่าเราทำต่อเนื่องไปเรื่อย ๆ ซึ่งบอกก่อนว่าไม่เกี่ยวกับการเมือง ถ้าได้ทำก็จะสานต่อให้สำเร็จ สิ่งที่ทำใกล้สำเร็จหรือที่ยังไม่สำเร็จ ทุกคนรู้ปัญหาดีหมด แต่จะทำอย่างไรนั้นสำคัญและทำได้หรือไม่ อยู่ที่ประชาชนทั้งประเทศ ต้องขอบคุณที่ร่วมมือกันมาโดยตลอด ทำให้หลายอย่างก้าวหน้าอย่างเห็นได้ชัด หลายอย่างก็อยู่ในขั้นตอนที่ต้องแก้ไข เหล่านี้เพราะความเข้าใจการทำงานของรัฐบาล ทุกคนมีความสำคัญเท่ากันหมด

“ไม่ใช่นายกรัฐมนตรีเก่งที่สุด รองนายกรัฐมนตรี รัฐมนตรี และข้าราชการทุกคน ทีมงาน เราต้องร่วมมือกันทุกมิติ ทุกพื้นที่ ประชาชนอยู่กับเรา ช่วยกันทำงาน พยายามแก้ให้ดีที่สุด ไม่มีอะไรได้มาง่าย ๆ เราต้องผจญปัญหาอุปสรรคมากมาย เราอยู่มาหลายปี พยามป้องกันไม่ให้ปัญหาเกิดขึ้นอีก ทำให้ประเทศเราพัฒนาช้าเกินไป ก็พยามอย่างเต็มที่อย่างยิ่งยวด หน้าที่รัฐมนตรีมีตรงไหนก็ทำตรงนั้น ต้องให้กำลังใจกันอย่ามัวแต่ตำหนิต่อว่า ไม่เช่นนั้นคนทำงานก็หมดกำลังใจอย่าท้อแท้ สิ่งเหล่านี้คือความท้าทายของประเทศปัญหาหาเดินไปไม่ได้คือความท้าทายที่เกิดขึ้นกับคนทั้งประเทศ ประเทศไทยจะดีขึ้นหรือไม่ ทุกคนร่วมรับชะตากรรม ขอให้ทุกคนช่วยกัน สื่อมวลชนต้องช่วยกัน ก็เห็นว่าขัดแย้งกัน มีตัวอย่างให้เห็นอยู่ ขัดแย้งมากขัดแย้งน้อยมีตัวอย่างอยู่แล้ว ผมไม่ต้องการให้อะไรเกิดขึ้นทั้งสิ้น” นายกรัฐมนตรี กล่าว.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

หนุ่มซิ่งกระบะชนเสาไฟฟ้าล้มขวางถนน 12 ต้น

ชลบุรี 28 ก.ย. – หนุ่มซิ่งกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรตลอดทั้งวัน คาดจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) รถกระบะพุ่งชนเสาไฟฟ้า บนถนนสายบึง-บ่อวิน ต.บ่อวิน อ.ศรีราชา จ.ชลบุรี ล้มขวางถนน 12 ต้น เป็นเสาไฟฟ้าแรงสูง 6 ต้น เสาไฟฟ้าสูง 12 เมตร อีก 6 ต้น ระยะทาง 500 เมตร โชคดีนายสิทธิพงษ์ อายุ 41 ปี คนขับ บาดเจ็บเล็กน้อย แต่ทำให้ไฟฟ้าดับตลอดแนว รวมทั้งต้องปิดการสัญจรบนถนนสายบึง-บ่อวิน ตลอดทั้งวัน คาดว่าจะกลับมาเปิดการจราจรตามปกติได้วันพรุ่งนี้ (29 ก.ย.) จากการสอบสวนทราบว่า นายสิทธิพงษ์ เพิ่งเลิกงาน ขับรถกลับบ้านด้วยความเร็ว อาจหลับใน ทำให้รถเปลี่ยนเลนข้ามไปชนกับเสาไฟฟ้าอีกฝั่ง ส่วนความเสียหายยังประเมินค่าไม่ได้.-สำนักข่าวไทย

“อนุทิน” ร่วมงานศพพ่อ “อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้า ภท.

ราชบุรี 28 ก.ย.- “อนุทิน” ร่วมสวดอภิธรรมศพพ่อ “สส.อัครเดช” โชว์หวานยกความสัมพันธ์จีบเข้าภูมิใจไทย ลั่นได้ส่งจิตขออนุญาตคุณพ่อแล้ว นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตาีว่าการกระทรวงมหาดไทย พร้อมด้วยนายนภินทร ศรีสรรพางค์ รัฐมนตรีประจำสำนักนายกรัฐมนตรี นายศักดา วิเชียรศิลป์ รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย นายสรอรรถ กลิ่นประทุม อดีต สส.บัญชีรายชื่อ พรรคภูมิใจไทย ได้ร่วมไว้อาลัยและสวดอภิธรรมศพ คุณพ่อวุฒิพงศ์ วงษ์พิทักษ์โรจน์ บิดาของนายอัครเดช วงษ์พิทักษ์โรจน์ สส.ราชบุรี พรรครวมไทยสร้างชาติ เมื่อค่ำวันที่ 27 ก.ย. ที่จังหวัดราชบุรี โดยมีผู้ว่าราชการจังหวัดราชบุรี หัวหน้าส่วนราชการ และประชาชนกว่า 2,000 ร่วมพิธีโดยเป็นการสวดอภิธรรมเป็นคืนที่ 4 และจะมีพิธีบรรจุศพในวันที่ 30 ก.ย. นี้ ในช่วงท้าย นายอนุทิน ได้กล่าวกับผู้ที่ร่วมสวดอภิธรรมศพ ว่า ตนเองมีความสนิทสนมกับ นายอัครเดช มาหลายปีแล้ว นายอัครเดชเป็นคนมีความวิริยะอุสาหะ ตั้งใจทำงานให้พี่น้องประชาชน ตนมีความชื่นชมและศรัทธา ในความขัยนขันแข็งของท่าน ยิ่งไปกว่านั้นการปฏิบัติหน้าที่ในสภาผู้แทนราษฎร ท่านก็ทำหน้าที่ได้ดีเป็นดาวสภา […]

โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA

กรุงเทพฯ 28 ก.ย. – โซเชียลแห่ชื่นชม “สีหศักดิ์” กร้าว เวที UNGA หลัง “อนุทิน” มอบดาบการทูตสู้กัมพูชา ขณะนายกฯ ย้ำยึดสันติในการแก้ปัญหา เพื่อประโยชน์ของประเทศ ภายหลังจากที่นายสีหศักดิ์ พวงเกตุแก้ว รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ กล่าวในเวทีการประชุมสมัชชาสหประชาชาติ หรือ UNGA สมัยสามัญ ครั้งที่ 80 ที่นครนิวยอร์ก ทำให้กระแสโซเชียลในประเทศไทย พึงพอใจกับการทำหน้าที่รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการต่างประเทศ ในรัฐบาลของนายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรี เป็นอย่างมาก ทั้งนี้ การเดินทางไปเวที UNGA ของนายสีหศักดิ์ ครั้งนี้ยึดแนวทางแก้ปัญหาความมั่นคงและการต่างประเทศ ที่นายอนุทิน มอบหมายให้ดำเนินการ โดยใช้มาตรการทางการทหารควบคู่กับการทูต เพื่อรักษาอธิปไตยอย่างสันติ เพื่อผลประโยชน์ของประชาชน โดยเฉพาะในกรณีพิพาทไทย-กัมพูชา ขณะที่นายอนุทิน เชื่อว่า การกล่าวถ้อยแถลงในที่ประชุม UNGA ของนายสีหศักดิ์ ทำให้คนไทยมีความเชื่อมั่นอย่างชัดเจนต่อจุดยืนของรัฐบาล สำหรับนโยบาย 4 เดือน 4 ภารกิจหลัก คืนความมั่นใจให้ประเทศไทย ตามนโยบายรัฐบาลของนายอนุทิน […]

กรมอุตุฯ เตือนฝนถล่มทั่วไทย รับมืออิทธิพลพายุบัวลอย

กทม. 28 ก.ย.- กรมอุตุฯ เตือนทั่วไทยรับมือฝนถล่ม อาจเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง จับตาอิทธิพลพายุไต้ฝุ่น “บัวลอย” คาดเคลื่อนขึ้นฝั่งเวียดนามตอนบน พรุ่งนี้ (29 ก.ย.) กรมอุตุนิยมวิทยาเผยประเทศไทยมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ และมีฝนตกหนักถึงหนักมากบางแห่งบริเวณภาคตะวันออกเฉียงเหนือ และภาคตะวันออก โดยเฉพาะบริเวณจังหวัดสกลนคร นครพนม อุดรธานี ขอนแก่น กาฬสินธุ์ มุกดาหาร จันทบุรี และตราด ขอให้ประชาชนบริเวณประเทศไทยตอนบนระวังอันตรายจากฝนตกหนักถึงหนักมากและฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง เนื่องจากร่องมรสุมกำลังแรงพาดผ่านภาคเหนือตอนล่าง ภาคกลางตอนบน และภาคตะวันออกเฉียงเหนือตอนล่าง ประกอบกับมรสุมตะวันตกเฉียงใต้กำลังแรงพัดปกคลุมทะเลอันดามัน ภาคใต้ และอ่าวไทย สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันและอ่าวไทยมีกำลังแรง โดยทะเลอันดามันตอนบนมีคลื่นสูง 2-3 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 3 เมตร ส่วนทะเลอันดามันตอนล่างและอ่าวไทยตอนบนมีคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงประมาณ 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง อนึ่ง พายุไต้ฝุ่น […]

ข่าวแนะนำ

สีสัน! อภิปรายนโยบายรัฐบาลวันแรก

29 ก.ย.- การแถลงนโยบายรัฐบาลวันนี้ เหมือนเป็นการซ้อมศึกซักฟอกย่อย เพราะมีการตอบโต้และตั้งฉายามากมาย ติดตามสีสันการอภิปรายนโยบายฯ วันแรก .-สำนักข่าวไทย

เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดฝนหนักคืนนี้

29 ก.ย.- หลายพื้นที่เฝ้าระวังฝนตกหนัก จากอิทธิพล #พายุบัวลอย เชียงใหม่เปิดประตูระบายน้ำทุกจุด เร่งระบายน้ำปิงลงทะเลสาบดอยเต่า พร่องน้ำในเขื่อนแม่งัดฯ เตรียมรับน้ำฝน คาดตกหนักคืนนี้ ขณะที่ จ.นครราชสีมา น้ำล้นสปิลเวย์ เตือนประชาชนระวังน้ำท่วมฉับพลัน พายุฝนตกกระหน่ำหลายพื้นที่จังหวัดสระแก้ว โดยพื้นที่ ต.บ้านแก้ง อ.เมืองสระแก้ว นายก อบต.บ้านแก้ง พร้อมผู้นำชุมชน และอาสาสมัครกู้ภัย ได้นำเรือเครื่องยนต์ท้องแบน เข้าช่วยเหลือ ตาชู-ยายทองคำ และสุนัข 1 ตัว ออกจากบ้านที่โดนน้ำป่าไหลหลาก เข้าท่วมเกือบมิดหลังคา  มาอยู่ในที่ปลอดภัย ยายทองคำ เล่าว่าเมื่อคืนพักอยู่กับตาและหมา กำลังจะเข้านอนแต่ก็มีฝนตกตลอดทั้งคืน น้ำที่คลองก็ยังไม่เห็นว่าจะขึ้นล้นตลิ่งเท่าไร แต่ก็กังวล จึงเฝ้าดูกระทั่งน้ำไหลมาและเข้าท่วม ตกใจ จึงได้นำสุนัขขึ้นบนบ้าน ส่วนข้าวของก็เก็บไม่ทัน จากนั้นจึงอยู่แต่บนบ้านจนถึงเช้า กู้ภัยมาช่วยนำออกมาจากบ้าน อยู่มาหลายสิบปีไม่เคยเจอแบบนี้มาก่อนเลย  ผู้ว่าฯ เชียงใหม่ เตรียมรับมือพายุบัวลอย คาดตกหนักคืนนี้ เมื่อช่วงเย็นที่ผ่านมา หลายพื้นที่เชียงใหม่ เริ่มมีฝนตกลงมาบ้างแล้ว ระดับน้ำในลำน้ำปิงที่ไหลผ่านตัวเมืองเชียงใหม่ ที่จุดวัดพี1 เชิงสะพานนวรัฐ ยังอยู่ที่ 2 เมตร 49 เซนติเมตร ต่ำกว่าจุดวิกฤติแจ้งเตือนที่ […]

แถลงนโยบายวันแรกเดือด ประท้วงกันวุ่น

29 ก.ย.- สภาเดือด! แถลงนโยบายรัฐบาลวันแรก อภิปรายตอบโต้-ประท้วงกันเป็นระยะ เมื่อมีการพาดพิงปมเขากระโดง-ฮั้ว สว. แต่ประธานฯ คุมสถานการณ์ได้ ด้านนายกฯ ไม่กังวลวาทกรรมของฝ่ายค้าน ชี้ประเด็นซ้ำๆ และมีการแถลงข้อเท็จจริงไปแล้ว -สำนักข่าวไทย

ฝ่าดงทุ่นระเบิดเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก “ผลักดัน-รื้อถอน”

29 ก.ย.- ทหารเรือฝ่าดงทุ่นระเบิดเข้าเคลียร์พื้นที่บ้านชำราก จ.ตราด ผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้าม-รื้อถอนสิ่งปลูกสร้าง 3 หลัง รุกล้ำเขตอธิปไตยไทย ขณะที่ชาวบ้านหนองจาน จ.สระแก้ว นำอาหารมอบให้ทหารแนวหน้า ยังไม่พบความเคลื่อนไหวผิดปกติ พลเรือเอก จิรพล ว่องวิทย์ ผู้บัญชาการทหารเรือ และพลเรือเอก ไพโรจน์ เฟื่องจันทร์ ว่าที่ ผู้บัญชาการทหารเรือ คนใหม่ มอบหมายพลเรือโทอภิชาติ ทรัพย์ประเสริฐ ผู้บัญชาการหน่วยบัญชาการนาวิกโยธิน และผู้บัญชาการกองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรี-ตราด (กกล.กปช.จต.) เข้าเคลียร์พื้นที่ชายแดนบ้านชำราก อันเป็นอธิปไตยของไทย โดยหน่วยเฉพาะกิจนาวิกโยธินตราด กองกำลังป้องกันชายแดนจันทบุรีตราด จึงได้ผลักดันกองกำลังกัมพูชา ออกจากพื้นที่บริเวณตรงข้ามบ้านหนองรี ตำบลชำราก ไม่มีกำลังฝ่ายกัมพูชาวางกำลังแล้ว ผลจากการปฏิบัติการ บรรลุเป้าหมายสำคัญ คือ สามารถทำลายสิ่งปลูกสร้างทั้ง 3 หลังลงได้อย่างสิ้นเชิง ที่สำคัญที่สุดคือ สามารถผลักดันกำลังฝ่ายตรงข้ามให้ออกจากพื้นที่รุกล้ำได้อย่างสมบูรณ์ ประชาชนนำอาหารมอบทหารแนวหน้า บ้านหนองจาน จ.สระแก้ว ส่วนที่บ้านหนองจาน จังหวัดสระแก้ว บรรยาศเงียบเหงา แต่ยังคงมีประชาชนเดินทางนำอาหาร เช่น ไข่ไก่ น้ำดื่ม นำมามอบให้กับทหารแนวหน้า ถึงแม้จะไม่คึกคักเหมือนวันก่อนๆ […]