ขอประชาชนใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า

ทำเนียบรัฐบาล  22 มี.ค.-นายกฯ อ่านสารวันน้ำโลก ประจำปี 65 ขอใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า ลดปนเปื้อนน้ำใต้ดิน หวังให้เป็นทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ บรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืนของยูเอ็น


พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม อ่านสารเนื่องในวันน้ำโลก ประจำปี 2565 เผยแพร่ผ่านสถานีวิทยุโทรทัศน์กองทัพบกช่อง 5 และสื่อออนไลน์ของสำนักงานทรัพยากรน้ำแห่งชาติ โดยย้ำถึงความสำคัญของ “น้ำ” ถือเป็นปัจจัยพื้นฐานที่สำคัญต่อการดำรงชีวิตของสิ่งมีชีวิต ซึ่งองค์การสหประชาชาติ(ยูเอ็น) ตระหนักถึงปัญหาทั้งการขาดแคลนน้ำ และการแย่งชิงทรัพยากรน้ำที่อาจจะเกิดขึ้นในอนาคต จึงกำหนดให้วันที่ 22 มีนาคมของทุกปีเป็นวันน้ำโลก เพื่อให้ประชาคมโลกร่วมกันอนุรักษ์ ฟื้นฟูและใช้ประโยชน์จากทรัพยากรน้ำอย่างรู้คุณค่า

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รัฐบาลให้ความสำคัญกับการบริหารจัดการน้ำใต้ดิน โดยได้เติมน้ำใต้ดินตามหลักวิชาการมาโดยตลอด ตั้งแต่การฟื้นฟูป่าอันเป็นต้นทางสำคัญในการรักษาความชุ่มชื้นให้แก่ระบบนิเวศ การเติมน้ำใต้ดินผ่านแหล่งน้ำต่าง ๆ ติดตามประเมินผลอย่างเป็นระบบมาอย่างต่อเนื่อง เพื่อรักษาสมดุลของธรรมชาติ ลดการรุกล้ำของน้ำเค็ม บรรเทาอุทกภัย และการใช้ประโยชน์ในช่วงวิกฤตภัยแล้ง พร้อมกันนี้ยังได้ปลูกจิตสำนึกให้ชาวไทยทุกคนร่วมกันอนุรักษ์ทรัพยากรน้ำให้คงอยู่อย่างสมบูรณ์ต่อไป


“รัฐบาลขอเชิญชวนให้ทุกภาคส่วนได้ตระหนักถึงการอนุรักษ์น้ำ โดยการใช้น้ำอย่างรู้คุณค่า และร่วมกันลดการปนเปื้อนของน้ำใต้ดิน เพื่อให้ประเทศไทยสามารถบรรลุวัตถุประสงค์ตามนโยบาย “ทศวรรษแห่งการร่วมมือปฏิบัติของทุกประเทศ เพื่อบรรลุเป้าหมายการพัฒนาที่ยั่งยืน” ของสหประชาชาติ และเพื่อประโยชน์สูงสุด คือการรักษาทรัพยากรน้ำอย่างยั่งยืน เพื่อลูกหลานของเราในอนาคตสืบไป” นายกรัฐมนตรี กล่าว

สำหรับปีนี้องค์การสหประชาชาติกำหนดหัวข้อ “ร่วมรู้จัก อนุรักษ์ น้ำใต้ดิน” เพื่อให้ทุกประเทศให้ความสำคัญกับการรักษาดูแลทรัพยากรน้ำใต้ดิน โดยเฉพาะการเจริญเติบโตขึ้นของเมือง และความก้าวหน้าของเทคโนโลยีในด้านต่าง ๆ ทั้งด้านเกษตรกรรม อุตสาหกรรม และบริการ ล้วนก่อให้เกิดการปนเปื้อนของน้ำที่ไหลกลับลงสู่ใต้ดิน รวมไปถึงวิกฤตภัยแล้งที่ทำให้ปริมาณน้ำใต้ดินมีแนวโน้มลดลงอย่างต่อเนื่อง อีกทั้งการรุกตัวของน้ำเค็มในหลายพื้นที่ทั่วโลกรวมถึงประเทศไทย ส่งผลให้น้ำใต้ดินที่ถือเป็นขุมทรัพย์น้ำจืดขนาดใหญ่มีคุณภาพต่ำลง.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

กระบะชนต้นไม้

สังเวย 7 ศพ กระบะหักหลบรถรับ-ส่งนักเรียน พุ่งชนต้นไม้

รถกระบะเสียหลักจะชนรถตู้รับ-ส่งนักเรียน คนขับตัดสินใจหักหลบ ทำให้รถพุ่งชนต้นไม้ เสียชีวิต 7 ราย ในจำนวนนี้เป็นเด็ก 4 คน

สลด! รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยวเบตง ชนต้นไม้ ดับ 8 ราย

รถทัวร์พาผู้โดยสารกลับจากเที่ยว อ.เบตง จ.ยะลา เสียหลักไถลลงร่องกลางถนนชนต้นไม้บนถนนสาย 41 อ.ไชยา จ.สุราษฎร์ธานี เบื้องต้นเสียชีวิต 8 ราย บาดเจ็บจำนวนมาก

ตักบาตรปีใหม่

ปชช.ร่วมตักบาตรวันปีใหม่ 2568 เพื่อความเป็นสิริมงคล

ประชาชนร่วมกิจกรรมตักบาตร​ รับปีใหม่ 2568 เนืองแน่น​ “สุดาวรรณ” เผยตัวเลขสวดมนต์ข้ามปี กว่า 12 ล้านคน พร้อมเชิญชวนสักการะพระเขี้ยวแก้ว ถึง 14 ก.พ.นี้

ข่าวแนะนำ

อุตุฯ เผยไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ กทม.อากาศเย็นในตอนเช้า

กรมอุตุฯ เผยประเทศไทยตอนบน อุณหภูมิลดลง 1-2 องศาฯ ส่วนภาคเหนือ ภาคอีสาน ภาคกลาง ภาคตะวันออก ภาคใต้ตอนบน มีอากาศเย็นถึงหนาวในตอนเช้า กรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศเย็นในตอนเช้า อุณหภูมิจะลดลง 1-2 องศาฯ

เมืองพัทยาเอาจริง เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุชายหาด

เมืองพัทยาสั่งแล้ว เร่งจัดการผู้ลักลอบจุดพลุบนชายหาด หลังเกิดเหตุพลุล้ม วิ่งไประเบิดใส่เด็กบาดเจ็บทั่วร่าง ในคืนเคานท์ดาวน์

SET ปิดตลาดซื้อขายวันแรกปี 68 ร่วงลง 20.36 จุด

ดัชนี SET วันแรกของการซื้อขายปี 2568 ปิดที่ 1,379.85 จุด ปรับตัวลดลง 20.36 จุด หรือ 1.45% มูลค่าการซื้อขาย 36,852.83 ล้านบาท ตลาดกังวลนโยบายการค้าระหว่างประเทศ-นโยบายภาษี

สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์คว่ำ-กระบะชนต้นไม้

ผู้ว่าฯ สุราษฎร์ฯ สั่งตรวจสอบถนนจุดเกิดเหตุรถทัวร์พลิกคว่ำและกระบะหักหลบรถตู้รับส่งนักเรียนชนต้นไม้ หลังพบเป็นถนนตัดใหม่ การก่อสร้างยังไม่เสร็จสมบูรณ์