ตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยคนไทยที่เมืองลวิฟ

ทำเนียบรัฐบาล 25 ก.พ.-โฆษกรัฐบาลเผย นายกฯ ห่วงสถานการณ์ในยูเครน สั่งกต.ดูแลคนไทยใกล้ชิด ประเมินสถานการณ์ต่อเนื่อง กำหนดแผนอพยพให้ดีที่สุด ตั้งศูนย์ปฏิบัติการที่เมืองลวิฟ


นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหมห่วงใยต่อสถานการณ์ความรุนแรงในยูเครน ซึ่งมีความตึงเครียดสูงขึ้น และเสี่ยงต่อความปลอดภัยของคนไทยในยูเครน ซึ่งความคืบหน้าล่าสุด นับตั้งแต่วันนี้ (25 ก.พ.) สถานเอกอัครราชทูตไทย ณ กรุงวอร์ซอ ประเทศโปแลนด์จัดตั้งศูนย์ปฏิบัติการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน (เมืองลวิฟ)โดยจะใช้โรงแรม Цісар หรือ Tsisar เป็นศูนย์หลัก (ที่อยู่ Horodotska St, 65, Lviv, Lviv Oblast, Ukraine, 79000) ซึ่งจะมีเจ้าหน้าที่ของสถานเอกอัครราชทูตฯ ไปประจำ เพื่อใช้เป็นที่พักชั่วคราวของคนไทยในยูเครน และเป็นศูนย์ประสานงานกับฝ่ายยูเครนในการช่วยเหลือคนไทยในยูเครน ซึ่งเมืองลวิฟจะเป็นฐานในการรวบรวมคนไทยในยูเครนจากพื้นที่เสี่ยงภัยเป็นการชั่วคราว เพื่อเดินทางกลับประเทศไทย (จากเมืองลวิฟหรือเข้าโปแลนด์) หรือเดินทางกลับที่อยู่อาศัย ซึ่งขึ้นอยู่กับสถานการณ์ความปลอดภัยในยูเครน

โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า สถานเอกอัครราชทูตได้ประสานกับคนไทยอย่างต่อเนื่อง จัดหารถไปรับคนไทยมายังเมืองลวิฟ เพื่อให้มั่นใจว่าคนไทยที่ต้องการจะเดินทางมาเมืองลวิฟสามารถเดินทางมาได้เนื่องจากขณะนี้สถานการณ์มีความไม่แน่นอนสูง และในระหว่างนี้ ได้ขอให้นายจ้างดูแลความปลอดภัยและความเป็นอยู่ของลูกจ้างคนไทยอย่างเต็มที่ทั้งเตรียมอาหาร สิ่งของจำเป็น และเอกสารสำคัญ ซึ่งรวมถึงการหายานพาหนะที่สามารถหาได้กรณีจำเป็นกรณีต้องพาลูกจ้างออกจากพื้นที่เสี่ยงภัย ทั้งนี้ การให้ความช่วยเหลืออาจจะต้องปรับแผนให้เหมาะสม เนื่องจากมีคำสั่งปิดน่านฟ้า จึงอาจจะทำให้ไม่สามารถใช้เครื่องบินบินออกจากยูเครน จึงอาจต้องพิจารณาแผนอื่น ๆ ที่เตรียมไว้ เช่น การเช่าเครื่องเหมาลำจากโปแลนด์หรือประเทศอื่น ๆ ในทวีปยุโรป แล้วบินกลับมายังไทยหรือการนำเครื่องบินจากไทยบินไปรับ ซึ่งทั้งหมดนี้กระทรวงการต่างประเทศดำเนินการเพื่อช่วยเหลือคนไทยในยูเครนตามบัญชานายกรัฐมนตรีอย่างเต็มที่


“นายกรัฐมนตรีห่วงใยคนไทยที่ยูเครน สั่งการให้ทุกหน่วยงานที่เกี่ยวข้อง โดยมีกระทรวงการต่างประเทศเป็นหลัก ดำเนินการดูแล ช่วยเหลือคนไทย ประเมินสถานการณ์อย่างต่อเนื่อง และกำหนดแผนให้ความช่วยเหลือเพื่อความปลอดภัย ปรับเปลี่ยนตามสถานการณ์ โดยขอให้ทุกหน่วยงานดูแลคนไทยให้ดีที่สุด ขอให้ผู้ที่พำนักอาศัยในยูเครนติดตามสถานการณ์และข่าวสารอย่างใกล้ชิด ทั้งทางเฟซบุ๊กสถานเอกอัครราชทูตฯ กลุ่มไลน์ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับชุมชนไทยในยูเครน และกลุ่ม Telegram ระหว่างสถานเอกอัครราชทูตฯ กับเจ้าของร้านสปาไทยชาวยูเครน เพื่อประสานงานอย่างทันท่วงทีกรณีมีเหตุการณ์ฉุกเฉิน โดยมีหมายเลขสายด่วน +48 696 642 348 (ตลอด 24 ชั่วโมง)”นายธนกร กล่าว.-สำนักข่าวไทย 

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พ่อเลี้ยงล่วงละเมิด

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA ส่วนเด็กอาการดีขึ้น

“ต้นอ้อ” แฉพิรุธพ่อเลี้ยงปมคลิปเสียง-DNA เชื่อ แม่ไม่มีส่วนเกี่ยวข้อง แค่เชื่อผัวเพราะลูกเคยโกหก เผย ตอนแม่รู้ความจริงว่าใครทำลูกถึงกับร้องไห้โฮโผกอดลูก ส่วนเด็ก 10 ขวบอาการดีขึ้น แต่ต้องรักษาตัวอีกหลายสัปดาห์

งานแต่งธนกร

วิวาห์ชื่นมื่น “ธนกร-แคทลีน” คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น

งานวิวาห์ “ธนกร-แคทลีน” ชื่นมื่น คนดังการเมือง-นักธุรกิจ ร่วมยินดีครึกครื้น ด้าน “ทักษิณ” ไม่ได้มาร่วม แต่ส่งของขวัญแสดงความยินดี

ทรัมป์สั่งปลด

“ทรัมป์” สั่งปลดประธานคณะเสนาธิการร่วมตามแผนปรับปรุงกลาโหม

ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐ ออกคำสั่งในวันศุกร์ตามเวลาท้องถิ่นปลด พลอากาศเอก ซี. คิว. บราวน์ จูเนียร์ (Charles Quinton Brown Jr.) เป็นประธานคณะเสนาธิการทหารร่วมของสหรัฐออกจากตำแหน่ง

ข่าวแนะนำ

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส กลับมาในรอบ 19 ปี

“ทักษิณ” ถึงนราธิวาส บอกคนนราธิวาสน่ารักเสมอ ต้อนรับอบอุ่นกับการกลับมาในรอบ 19 ปี ก่อนเดินทางต่อตามกำหนดเดิม แม้มีระเบิดที่สนามบิน

บึ้มรถกระบะ สนามบินนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่

บึ้มรถกระบะจอดใกล้กับหอบังคับการบิน ท่าอากาศยานนราธิวาส ก่อน “ทักษิณ” ลงพื้นที่สนามบินบ้านทอน ในอีก 50 นาที ไม่มีรายงานผู้ได้รับบาดเจ็บ

น้ำป่าหลากท่วม อ.ไทรโยค กลางดึก

ระทึกกลางดึก น้ำป่าหลากท่วมบ้านเรือนประชาชน อ.ไทรโยค จ.กาญจนบุรี ถนนหลายเส้นถูกน้ำป่าพัดขาด จนท.เร่งอพยพประชาชนด้วยความยากลำบาก

Pope at Vatican on Feb 5, 2025 says have a strong cold

โป๊ปฟรันซิสพระอาการวิกฤต

วาติกัน 23 ก.พ.- พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาฟรันซิส พระประมุขแห่งพระศาสนจักรโรมันคาทอลิก ทรุดลงอยู่ในขั้นวิกฤตในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา สำนักวาติกันออกแถลงการณ์ฉบับล่าสุดเมื่อวันเสาร์ว่า พระอาการประชวรของสมเด็จพระสันตะปาปาทรุดลงในช่วง 24 ชั่วโมงที่ผ่านมา และระบุเป็นครั้งแรกว่า พระอาการของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤตจากโรคระบบทางเดินหายใจคล้ายกับโรคหอบหืดในช่วงเช้าวันเสาร์ ทำให้ขณะนี้พระองค์จำเป็นต้องได้รับออกซิเจนเสริมและการถ่ายเลือด โดยรวมแล้วถือว่า พระอาการอยู่ในขั้นวิกฤตและยังไม่พ้นขีดอันตราย อย่างไรก็ดี พระองค์ยังทรงตื่นตัว และประทับนั่งบนเก้าอี้ตลอดวัน แม้ว่าทรงประชวรมากกว่าวันก่อนหน้านี้ก็ตาม พระสันตะปาปาฟรันซิส พระชนมายุ 88 พรรษา ทรงเข้ารับการถวายการรักษาที่โรงพยาบาลเจเมลลี ในกรุงโรม ตั้งแต่วันที่ 14 กุมภาพันธ์ หลังทรงมีพระอาการหายใจติดขัดต่อเนื่องหลายวัน และตรวจพบว่าปอดอักเสบทั้งสองข้าง ทรงร้องขอให้เปิดเผยรายละเอียดเกี่ยวกับพระอาการของพระองค์อย่างตรงไปตรงมา สำนักวาติกันจึงออกแถลงการณ์ชี้แจงความคืบหน้าอาการประชวรของพระองค์ต่อเนื่องทุกวัน แต่แถลงการณ์ฉบับล่าสุดถือเป็นครั้งแรกที่มีเนื้อหาระบุชัดเจนว่า อาการประชวรของพระองค์อยู่ในขั้นวิกฤต ขณะที่แพทย์คาดการณ์ว่า พระองค์จะต้องประทับอยู่ในโรงพยาบาลอย่างน้อยตลอดสัปดาห์หน้า ภารกิจต่อสาธารณชนทั้งหมดของพระสันตะปาปาจึงถูกยกเลิกตลอดสัปดาห์ ทั้งพิธีมิสซาประจำวันอาทิตย์ รวมถึงการสวดภาวนาแองเจลัส (Angelus) ตามปกติทุกสัปดาห์ด้วย.-815(814).-สำนักข่าวไทย