“อุตตม” ประกาศนโยบายสร้างอนาคตเอสเอ็มอี

รัฐสภา 3 ก.พ.- “อุตตม” ประกาศนโยบายสร้างอนาคตเอสเอ็มอี ตั้งกองทุนแสนล้านแก้หนี้-เติมทุน

นายอุตตม สาวนายน แกนนำและผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย นำกลุ่มผู้ร่วมก่อตั้งพรรคสร้างอนาคตไทย อาทิ นายกำพล ปัญญาโกมล นายสันติ กีระนันท์ และนายนริศ เชยกลิ่น เข้าพบกับผู้บริหารสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทยส่วนกลางและส่วนภูมิภาค เพื่อรับฟังความคิดเห็นเกี่ยวกับผลกระทบที่เอสเอ็มอีได้รับจากสถานการณ์เศรษฐกิจในปัจจุบัน  โดยการพบปะครั้งนี้มีการเผยแพร่ผ่านระบบ Zoom ให้กับสมาชิกของสมาพันธ์ฯ ทั่วประเทศได้รับรู้และร่วมแลกเปลี่ยนความคิดเห็นด้วย


นายอุตตม กล่าวว่า จากการที่พรรคสร้างอนาคตไทย มีเป้าหมายที่จะแก้ไขปัญหาและพัฒนาเศรษฐกิจประเทศ จึงได้ให้ความสำคัญกับธุรกิจเอสเอ็มอี รวมทั้งพ่อค้าแม่ค้ารายย่อย ซึ่งเป็นกลุ่มธุรกิจที่มีประชากรเกี่ยวข้องมากกว่า 90 เปอร์เซ็นต์ ของประชากรทั้งประเทศ  โดยการพบปะกับสมาพันธ์เอสเอ็มอีครั้งนี้ พรรคได้รับทราบข้อมูลเชิงลึกเพื่อนำไปประมวลแนวทางการแก้ปัญหา และผนวกเข้ากับนโยบายช่วยเหลือและพัฒนาเอสเอ็มอีไทย ของพรรคต่อไป

ทั้งนี้ จากการที่พรรคสร้างอนาคตไทยระดมสมองแนวทางการแก้ปัญหาและพัฒนาเอสเอ็มอี และนำมาร่วมหารือกับผู้ประกอบการสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย จึงได้นำเสนอแนวคิดนโยบาย “สร้างอนาคตเอสเอ็มอีไทย” โดยแบ่งเป็น 3 กลุ่มมาตรการ ประกอบด้วย  มาตรการการเข้าถึงแหล่งทุน โดยจะตั้ง กองทุนสร้างอนาคตเอสเอ็มอีไทยขนาด 1 แสนล้านบาท  เพื่อใช้ในการช่วยเหลือเอสเอ็มอีครอบคลุมทุกมิติ แบบตรงจุดเกิดประโยชน์ต่อภาพรวมเศรษฐกิจด้วย , มาตรการลดภาระทางการเงินและแก้ปัญหาเรื่องหนี้สิน ที่ต้องแก้อย่างเร่งด่วน และครอบคลุม เข้าถึงผู้เดือดร้อนอย่างแท้จริง และมาตรการพัฒนาขีดความสามารถ เพื่อให้เอสเอ็มอีเติบโตอย่างยั้งยืนในอนาคต รวมถึงสร้างสภาพแวดล้อมให้เอื้ออำนวยในการเติบโตของเอสเอ็มอี


“พรรคขอเสนอนโยบายสร้างอนาคตเอสเอ็มอีไทย ซึ่งจะเป็นนโยบายและมาตรการเข้าถึงแหล่งทุน ผ่านการจัดตั้ง กองทุนสร้างอนาคตเอสเอมอีไทยวงเงินหนึ่งแสนล้านบาท เพื่อพัฒนาสร้างอนาคตเอสเอ็มอีไทยทุกมิติ การแก้ไขปัญหาเรื่องหนี้สิน การพัฒนาขีดความสามารถเอสเอมอี บุคลากร ทักษะ องค์ความรู้ที่แข่งขันได้ สร้างสภาพแวดล้อมที่เอสเอ็มอีเติบโตได้ ซึ่งผมมองว่าวิกฤตครั้งนี้ เป็นโอกาสของภาครัฐเอกชนที่จะร่วมปรับใหญ่ ปรับรัฐกับเอกชนให้เชื่อมโยงไปด้วยกันได้ พรรคเสนอปรับการดำเนินงานให้เป็นการรวมพลังจริงๆ”  นายอุตตม กล่าว

ด้านนายแสงชัย ธีรกุลวาณิช ประธานสมาพันธ์เอสเอ็มอีไทย กล่าวว่า สถานการณ์โควิด-19 ครั้งนี้ กระทบระบบเศรษฐกิจหนักกว่า วิฤตต้มยำกุ้ง และส่งผลต่อเอสเอ็มอีอย่างรุนแรง ตอกย้ำเรื่องความเหลื่อมล้ำของประเทศ และเป็นที่น่าตกใจว่า GDP ในภาคเอสเอ็มอีมีสัดส่วนเพียงร้อยละ 34 สะท้อนให้เห็นว่า  ขีดความสามารถทางการแข่งขันของเอสเอ็มอีอยู่ในระดับต่ำ ซึ่งต้องการที่พึ่งในการขับเคลื่อนไปข้างหน้า ทางสมาพันธ์ได้นำเสนอแนวคิดในการช่วยเหลือแก้ปัญหาให้เอสเอ็มอีกับทุกภาคส่วนมาโดยตลอด แต่พบว่าความช่วยเหลือจากภาครัฐส่วนใหญ่ยังไม่มีประสิทธิภาพ ไม่ว่าจะเป็นเรื่องการแก้หนี้สิน การเข้าถึงแหล่งทุน แม้กระทั้งนโยบายพัฒนาเอสเอ็มอี ที่ไม่ตอบโจทย์อย่างแท้จริง  

“สมาพันธ์พร้อมที่จะนำเสนอและพูดคุย กับทุกพรรคการเมือง และยินดีที่พรรคการเมืองหยิบสิ่งที่สมาพันธ์คิด ไปกำหนดเป็นนโยบาย เพื่อผลักดันให้เอสเอ็มอีหลุดพ้นจากปัญหาและสามารถเติบโตได้ ในอนาคตอยากให้ฝ่ายการเมืองเข้าใจกลุ่มเอสเอ็มอีให้มากขึ้น และกำหนดนโยบายหรือยุทธศาสตร์ในการพัฒนาประเทศให้ยึดโยงกับเอสเอ็มอี ซึ่งเป็นกลุ่มคนกลุ่มใหญ่กว่า 99.5 เปอร์เซ็นต์ของประชากรทั้งประเทศ.-สำนักข่าวไทย


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

ทักษิณเหยียดผิว

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน

“อังคณา” จี้ “ทักษิณ” ขอโทษ หลังปราศรัยเหยียดสีผิว-เชื้อชาติชาวแอฟริกัน ชี้เสี่ยงทำประเทศไทยถูกนานาชาติตั้งคำถาม ขัดหลักการสิทธิมนุษยชน

ข่าวแนะนำ

จนท.นำตัว “ซิงซิง” ถึง กทม.แล้ว ขอบคุณรัฐบาลไทยช่วยเหลือ

เจ้าหน้าที่นำตัว “ซิงซิง” ดาราหนุ่มจีน วัย 32 ปี เดินทางถึงกองบินตำรวจ 3 ย่านดอนเมือง หลังพบตัวที่ฝั่งเมียนมา เจ้าตัวขอบคุณรัฐบาลไทยที่ให้การช่วยเหลือ พร้อมย้ำว่าปลอดภัยดี เผยรอยที่ขาคือปาน ไม่ใช่แผลจากการถูกทำร้าย

ยิงกระสุนยางสยบชายคลั่งทำร้ายภรรยา-จับลูก 5 ขวบ ขังในบ้าน

ตำรวจยิงแก๊สน้ำตาและกระสุนยาง สยบชายคลั่งซ้อมภรรยา และจับลูกวัย 5 ขวบ เป็นตัวประกันขังไว้ในบ้าน ขู่ตัดสายแก๊สฆ่ายกครัว

รับตัว “ซิงซิง” จากเมียนมากลับฝั่งไทยแล้ว

เจ้าหน้าที่รับตัว “ซิงซิง” นักแสดงจีน จากเมียนมาข้ามมาฝั่งไทยแล้ว หลังหายตัวลึกลับจนญาติแจ้งความที่จีน พบโผล่ที่ไทยและข้ามแดนไปยังเขตเศรษฐกิจพิเศษในเมียนมา ขณะนี้อยู่ระหว่างสอบปากคำจุดประสงค์การข้ามแดน หลังไม่พบข้อบ่งชี้ถูกบังคับ โดยเจ้าตัวจ้างแท็กซี่จากสนามบินไปชายแดน อ.แม่สอด ด้วยตนเอง

พระราชพิธีสมมงคล

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้

นายกฯ เชิญชวนประชาชนร่วมงาน “พระราชพิธีสมมงคล” 14 ม.ค.นี้ ทั่วประเทศ พร้อมเลื่อนประชุม ครม. สัปดาห์หน้า เป็นวันจันทร์ที่ 13 ม.ค. แทน