ทำเนียบรัฐบาล 14 ม.ค. – นายกฯ พบคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าทั่วประเทศ พร้อมผลักดันพลังคนรุ่นใหม่ร่วมสร้างสรรค์ขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง แนะทำแผน ข้อเสนอเชิงลึกให้จังหวัดนำไปปรับใช้ ย้ำภาคเอกชนคือหนึ่งกลไกสำคัญของประเทศ
วันนี้ (14 ม.ค.) นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย พร้อมด้วย ดร.กฤษณะ วจีไกรลาศ กรรมการเลขาธิการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย และ น.ส.ปริม จิตจรุงพร ประธานคณะกรรมการส่งเสริมและพัฒนาผู้ประกอบการรุ่นใหม่หอการค้าไทย (YEC : Young Entrepreneur Chamber of Commerce) นำคณะผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ทั่วประเทศ เข้าเยี่ยมคารวะและรับทราบนโยบายจาก พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม โดยมีนายดิสทัต โหตระกิตย์ เลขาธิการนายกรัฐมนตรี นายอนุชา บูรพชัยศรี รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายการเมือง และนางนิชา หิรัญบูรณะ ธุวธรรม รองเลขาธิการนายกรัฐมนตรีฝ่ายบริหาร เข้าร่วมด้วย
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผยนายกรัฐมนตรี กล่าวว่า หอการค้าไทยและหอการค้าทั่วประเทศมีบทบาทสำคัญในการเป็นภาคีของรัฐและเอกชนในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยมาโดยตลอด และเป็นส่วนสำคัญในการส่งเสริมการพัฒนาศักยภาพของผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ซึ่งเป็นสิ่งที่ภาครัฐให้ความสำคัญและมุ่งเน้นเสมอมา โดยเฉพาะการส่งเสริมศักยภาพชุมชน วิสาหกิจชุมชน SMEs และผู้ประกอบการทุกระดับ พร้อมกล่าวว่า คนรุ่นใหม่มีบทบาทสำคัญยิ่งในการพัฒนาประเทศ โดยเฉพาะในปัจจุบันที่เทคโนโลยีดิจิทัลมีบทบาทต่อการขับเคลื่อนสังคมและเศรษฐกิจ จึงขอให้คนรุ่นใหม่พร้อมปรับตัวเข้ามาร่วมสร้างสรรค์และขับเคลื่อนเศรษฐกิจไทยยุคใหม่ให้เดินหน้าอย่างแข็งแกร่ง มุ่งเน้นให้ประชาชนเป็นส่วนขับเคลื่อนสำคัญ และให้นำเทคโนโลยีแพลตฟอร์มดิจิทัลต่างๆ มาประยุกต์ใช้ร่วมกัน ทั้งในด้านของการท่องเที่ยว เศรษฐกิจ ให้เกิดความน่าสนใจกับแต่ละท้องถิ่น และนายกรัฐมนตรีเน้นย้ำว่า รัฐบาลมีความมุ่งมั่นที่จะทำงานเพื่อประชาชน พร้อมขอให้ทุกคนรักษาอัตลักษณ์ความเป็นไทย คือ การมีน้ำใจ ไม่มีความแตกแยก มีแต่ความสามัคคี
นายกรัฐมนตรี รับฟังความเห็นจากผู้ประกอบการรุ่นใหม่ทั้ง 77 จังหวัดทั่วประเทศ โดยได้ให้ประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC ทุกจังหวัด นำเสนอความคิดเห็นในมุมมองของคนรุ่นใหม่ถึงแนวทางในการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมของจังหวัด โดยมีเป้าหมายสำคัญในการลดความเหลื่อมล้ำและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขัน และได้มีการกลั่นกรองนำมาทั้งหมด 15 จังหวัด โดยได้นำเสนอตามยุทธศาสตร์เน้นการขับเคลื่อน โดยความร่วมมือของภาคเอกชนและการสนับสนุนจากภาครัฐ อาทิ ด้านการสร้างเครือข่ายความร่วมมือภาครัฐและเอกชนรุ่นใหม่ โครงการ YPC (Young Public and Private Collaboration) เป็นโครงการ Connect the dot ระหว่างราชการรุ่นใหม่และเอกชนรุ่นใหม่ในจังหวัดระยอง โดยมีจุดประสงค์เพื่อสร้างเครือข่าย ความร่วมมือระหว่างราชการรุ่นใหม่และเอกชนรุ่นใหม่ ร่วมกันสร้างสรรค์โครงการที่สามารถทำได้จริงตามยุทธศาสตร์จังหวัด ด้านการค้า การลงทุน การค้าชายแดน โครงการ Kgo City Token การสร้างระบบนิเวศของเศรษฐกิจดิจิทัลในจังหวัดขอนแก่น โดยเริ่มจากกลุ่ม YEC หอการค้าจังหวัดขอนแก่น ด้านเกษตรและอาหาร โครงการศูนย์วิจัยนวัตกรรมการเกษตรจังหวัดประจวบคีรีขันธ์ เสนอแนวทางการจัดตั้งศูนย์วิจัยนวัตกรรมการเกษตรจากภาครัฐบาล เพื่อให้ผลผลิตทางการเกษตรส่งผลดีต่อระบบเศรษฐกิจของจังหวัด และสนับสนุนให้คนรุ่นใหม่กลับมาพัฒนาบ้านเกิดได้อย่างยั่งยืน ด้านท่องเที่ยวและบริการ โครงการศูนย์คัดแยกขยะเพื่อความยั่งยืน ตามยุทธศาสตร์ชาติ ข้อที่ 5 ด้านการสร้างการเติบโตบนคุณภาพชีวิตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อม ศูนย์รักษ์ตรัง จะแสดงให้เห็นถึงอัตลักษณ์และทัศนคติของชาวตรังที่มีต่อสิ่งแวดล้อม โดยทำหน้าที่เป็นศูนย์รวมในการคัดแยกขยะของจังหวัดตรัง ส่งต่อเข้าสู่วงจร Circular Economy รวมทั้งศูนย์ความรู้เกี่ยวกับการสร้างเศรษฐกิจแบบยั่งยืน
นายกรัฐมนตรี กล่าวชมเชยและให้ข้อเสนอแนะเพิ่มเติมกับกลุ่มผู้ประกอบการรุ่นใหม่ ให้มีการเตรียมทำแผนและข้อเสนอในเชิงลึกมากขึ้น เพื่อให้แต่ละจังหวัดนำไปปรับใช้ได้ และขอให้คำนึงถึงกลไกความร่วมมือของภาครัฐและเอกชน โดยชี้ว่าภาคเอกชนคืออีกหนึ่งกลไกที่สำคัญของประเทศ ตลอดจนตัวชี้วัดที่จะชี้ให้เห็นถึงความสำเร็จของแต่ละโครงการด้วย. – สำนักข่าวไทย