นายกฯ มอบโอวาท ผู้ประกอบการรุ่นใหม่ของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ

ทำเนียบ 13 มี.ค.-นายกฯ มอบโอวาทผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC-YPC รับฟัง 10 ข้อเสนอ พัฒนาเศรษฐกิจ ชี้ สิ่งสำคัญคือต้องเปิดใจเรียนรู้ ย้ำ รัฐ-เอกชน-ประชาชน ต้องทำงานร่วมกัน ยัน พร้อมช่วยเหลือ SMS กลุ่มใหญ่ 75% หลังเจอวิกฤตให้ฟื้นกลับมาและลืมตาอ้าปากได้

นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ และคณะตัวแทนผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ ที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการที่อบรมร่วมกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่(YPC)จ.ระยอง และจ.นนทบุรี เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายดนุชา พิชยนันทน์ เลขาธิการสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งYEC เข้าร่วมงาน


นายสนั่น กล่าวว่า สภาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอบคุณนายกฯที่สละเวลาจากภารกิจ รับฟังสิ่งที่สภาหอการค้าต้องการขับเคลื่อนองค์กรของเรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วประเทศ และมีความมั่นใจว่าการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้จะต้องกระจายความเจริญรุ่งเรืองและสร้างรายได้ให้แต่ละจังหวัดอย่างทั่วถึง และกลุ่มYECจะเป็นพลังสำคัญที่จะสร้างรายได้และนำความเจริญตามเป้าหมาย เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ ที่จะมาสร้างความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดและยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจในพื้นที่ของตน

ด้านตัวแทน YEC จ.กำแพงเพชร ได้นำเสนอแนวคิดจากYEC10จังหวัด ถึงนายกฯ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดและประเทศ โดยมี 10 ประเด็น ดังนี้ 1. จ.เชียงใหม่ เสนอไมโครเอสเอ็มอี ที่เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมุ่งหวังว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและความช่วยเหลือสนับสนุนในอนาคต 2. จ.นครราชสีมา เสนอ การปลูกฝังเรื่องภาษีและความรับผิดชอบด้านการเงินตั้งแต่ระดับศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของประชาชนชาวไทย จึงเสนอให้บรรจุวิชาภาษีในหลักสูตรการศึกษาระดับต้นอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ 3.จ.ระยอง และจ.พื้นที่อีอีซี เสนอ เรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เพื่อดึงดูดการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ลงทุนในประเทศ ในการพัฒนาประเทศ4.จ.สมุทรสาคร ที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ควรบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ เช่น เรื่องประกันสังคม สิทธิพื้นฐาน ที่ถูกจัดสรรให้แรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมากได้รับการบริหารอย่างสมดุลย์และเหมาะสม5. จ.อุดรธานี เสนอการท่องเที่ยวลองสเตย์ เนื่องจากมีหลายจังหวัดที่สามารถผลักดัน กระตุ้นเศรษฐกิจให้เพิ่มศักยภาพและส่งเสริมกับซอฟพาวเวอร์ สร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวพำนักอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น 6. จ.ปราจีนบุรี มีศักยภาพที่จะพัฒนาเมืองน่าเที่ยว ที่เป็นเอกลักษณ์ควรส่งเสริม ผ่านซอฟพาวเวอร์ กระจายรายได้สู่ชุมชน เปลี่ยนจากเมืองรองเป็นเมืองน่าเที่ยว 7. กทม. เสนอให้มี AIวัลเล่ย์ ส่งเสริมการลงทุนด้านนวัตกรรมให้แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อย่างเท่าเทียมและให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าถึงระบบ AI มากกว่านี้ 8. จ.ระนอง ให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์จังหวัดระนอง เช่น ทางคู่เชื่อมจังหวัดระนองและชุมพร เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางให้มีประสิทธิภาพ 9. จ.นครศรีธรรมราช การจัดสรรงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ขอให้จัดสรรงบส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น และ10. การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ และรัฐบาล ให้มีการพบกันต่อเนื่องไตรมาสละหนึ่งครั้ง หมุนเวียนไปแต่ละภูมิภาค ให้แต่ละ 77 จังหวัดได้เสนอไอเดียและแนวทางในการพัฒนาประเทศ คาดว่าจะทำให้เกิดแรงผลักดันขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ในอนาคต โดยคนรุ่นใหม่พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน


โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบาย ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้พบกับทุกคนและขอบคุณเชื่อว่าหลายคนเดินทางมา
ไกล จึงอยากให้ได้รับความประทับใจจากการพูดคุยกลับไป ส่วนข้อเสนอที่ตัวแทนออกมาพูดได้แนวความคิดหลายอย่าง และสิ่งที่ตนคิดและสนับสนุนตลอดคือการเรียนรู้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็มีสิทธิ์เรียนรู้ ซึ่งนายกฯจะได้เห็นแง่มุมของแต่ละจังหวัด เพราะอยู่กรุงเทพฯจะรู้ดีกับคนจังหวัดนั้นไม่ได้ และขั้นตอนแรกคือต้องเปิดใจรับฟังความเห็น ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยไม่สำคัญสำคัญที่จะเปิดใจหรือไม่ จึงจะเป็นสิ่งที่เริ่มต้นที่ดี

นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสื่อสารเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสิ่งสำคัญคือทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งเอกชน รัฐบาล และประชาชน ทั้งสามส่วนนี้ต้องร่วมมือกันเพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับปากท้องและประเทศชาติ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน เรามองภาพว่ารัฐบาล ประชาชนเอกชน คือหุ้นส่วนกันขาใดจะอ่อนแอไม่ได้ รัฐบาลมุ่งทำอย่างเดียวโดยไม่อาศัยความช่วยเหลือเอกชนไม่ได้ เศรษฐกิจจะไม่โต

นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีที่ได้มาเห็นเจเนอเรชั่นที่ต่อมาจากรุ่นก่อนและนำมาขยายต่อยอดจากคนรุ่นเก๋าทำไว้แล้ว ทั้งนายสนั่น ที่ได้ทำไว้ เป็นคนที่มีพลังงานและความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ตรงนี้สำคัญมากเพราะเวลามุ่งมั่นกับอะไรและได้ลงมือทำเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ และจะมีความหมายให้เกิดผลได้อย่างชัดเจน เมื่อหลายคนมีไอเดียที่ดี รัฐบาลจะได้เรียนรู้ได้และเป็นไอเดียที่ดีที่เสนอให้พบเจอกันมากขึ้นในลักษณะกลุ่มที่ไม่ใหญ่เกินไปเพื่อรับฟังความเห็นได้ครบ เพราะการประชุมห้องใหญ่เป็นไปตามพิธีแต่ไม่ได้ความคิดเห็นแนวคิดจริงๆ เพื่อให้รัฐบาลรับฟังว่าแต่ละจังหวัดและแต่ละพื้นที่ที่ผ่านการคุยกันมาแล้วมีอะไรที่จะเป็นแนวคิดให้ประเทศชาติพัฒนาไปในทางที่ได้ใจประชาชนและเกิดผลแท้จริงเมื่อฟังและก็อย่าทำขอไปพิจารณาพิจารณาว่าจะทำอะไรได้บ้าง


นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอสเอ็มอี มี 75% ของประเทศ กระทรวงการคลัง จึงมีนโยบายออกมารัฐบาลจะต้องช่วยเหลือ เมื่อประเทศเกิดวิกฤติ เอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบ รัฐบาลจึงเน้นย้ำเพื่อให้ฟื้นกลับมาและลืมตาอ้าปากได้ มิฉะนั้นเมื่อเจอวิกฤตแล้วสายป่านไม่ยาวพอลงทุนน้อยก็จะหมดไป รัฐบาลมองเห็นความจำเป็นตรงนี้และเห็นให้สนับสนุนต่อไป ขอให้กำลังใจทุกคนว่าทุกคนเป็นกำลังสำคัญที่จะพัฒนาประเทศชาติให้พัฒนาต่ออย่างยั่งยืนและมั่นคงและต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและมั่นคงได้.-316.-สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

สมุทรปราการอ่วม! ปิด 25 โรงเรียนหนีน้ำท่วม

สมุทรปราการ 8 ก.ย.- สมุทรปราการอ่วม! ระดับน้ำยังท่วมสูง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ด้าน สพท. สั่งปิดแล้ว 25 โรงเรียน ปรับให้สอนแบบออนไลน์ สำนักงานเขตพื้นที่การศึกษา หรือ สพท. สั่งปิด 25 โรงเรียนจังหวัดสมุทรปราการ 1 วัน พร้อมปรับการเรียนเป็นแบบออนไลน์ เพื่อความปลอดภัยของนักเรียนและผู้ปกครอง หลังฝนตกหนักทั้งคืน ถนนสายสำคัญหลายเส้นถูกน้ำท่วม บางแห่งสูงกว่า 30 เซนติเมตร รวมถึงตรอกซอกซอยต่าง ๆ โดยบางพื้นที่น้ำได้ไหลเข้าท่วมบ้านเรือนประชาชน ขณะเดียวกันหลายจุดยังคงมีน้ำท่วมขัง ระบายออกไม่ได้ เนื่องจากระดับน้ำในคลองสายหลักสูง ประกอบกับน้ำทะเลหนุน เจ้าหน้าที่เร่งระบายน้ำ หากฝนไม่ตกลงมาซ้ำ คาดว่าบ่ายวันนี้สถานการณ์จะเข้าสู่สภาวะปกติ ทั้งนี้ มีรายงานว่าเกิดเหตุ หนุ่มวัย 17 ปี เข็นรถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำ ถูกไฟรั่วจากแบริเออร์ก่อสร้างบนถนนแพรกษา ช็อตเสียชีวิตต่อหน้าเพื่อนบ้าน เจ้าหน้าที่เร่งสอบหาสาเหตุและป้องกันเหตุซ้ำ -สำนักข่าวไทย

ศาลสั่งจำคุก 2 ปี 8 เดือน ไม่รอลงอาญา “สส.ลูกเกด” คดี ม.112

กรุงเทพฯ 8 ก.ย. – ศาลสั่งจำคุก 4 ปี “ลูกเกด ชลธิชา” สส.ประชาชน คดี ม.112 คำให้การเป็นประโยชน์ลดโทษเหลือ 2 ปี 8 เดือน ส่าสุดศาลให้กันประกันตัวแล้ว กำหนดเงื่อนไขห้ามเดินทางออกนอกราชอาณาจักร เว้นแต่จะได้รับอนุญาต วันนี้ ( 8 ก.ย.) ที่ห้องพิจารณา 901 ศาลอาญา ถ.รัชดาภิเษก ศาลนัดฟังคำพิพากษาคดีดูหมิ่นสถาบัน หมายเลขดำ อ.595/65 ที่พนักงานอัยการฝ่ายคดีอาญา 4 เป็นโจทก์ ฟ้อง น.ส.ชลธิชา แจ้งเร็ว หรือลูกเกด สส.พรรคประชาชน จ.ปทุมธานี เป็นจำเลยในความผิด ดูหมิ่นสถาบัน ตามประมวลกฎหมายอาญา ม.112 , พ.ร.บ.คอมพิวเตอร์ ฯ ม.4 (3) จากกรณีเมื่อวันที่ 8 พ.ย.63 จำเลยได้โพสต์ข้อความ ลงในเฟซบุ๊กตัวเอง เกี่ยวกับราษฎรสาส์น […]

รื้อทั้งยวง! โผ ครม.อนุทิน 1 เหตุ “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ภท.ต้องเกลี่ยใหม่

กรุงเทพฯ 7 ก.ย. – โผ ครม. “อนุทิน 1” รื้อทั้งยวง หลัง “ธรรมนัส” คุมท่องเที่ยว ทำภูมิใจไทยต้องเกลี่ยใหม่ “ไชยชนก” ดีอี “ซาบีดา” วัฒนธรรม รอเปิดคนนอก “กลาโหม-ยุติธรรม” แว่วพลตำรวจโท อดีตรองผู้การภาค 3 ติดโผ จับตา “ศักดิ์ดา” ร่วมด้วย​ ด้าน “นิพนธ์” จ่อดันลูกสาวเป็นรัฐมนตรีป้ายแดง เมื่อวันที่ 7 กันยายน 2568 ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สำหรับโผ ครม.ล่าสุด พรรคภูมิใจไทยจะได้เก้าอี้รัฐมนตรีส่วนใหญ่ประมาณ 12 ที่นั่ง โดยนายอนุทิน ชาญวีรกูล นั่งนายกรัฐมนตรี ควบรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย นายทรงศักดิ์ ทองศรี นั่งรัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงมหาดไทย น.ส.ซาบีดา ไทยเศรษฐ์ นั่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงวัฒนธรรม นายไชยชนก ชิดชอบ เลขาธิการพรรค จะนั่งตำแหน่งรัฐมนตรีว่าการกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม ขณะที่นายสุรศักดิ์ พันธ์เจริญวรกุล […]

ชัยภูมิน้ำท่วมหนัก หลังฝนตกตลอดคืน

ชัยภูมิ 7 ก.ย.-น้ำท่วมหนักใน 3 อำเภอของจังหวัดชัยภูมิ หลังฝนตกหนักตลอดทั้งคืน สภาพภายในวัดดอนไผ่ ริมถนนชัยภูมิ-นครสวรรค์ อำเภอบ้านเขว้า จังหวัดชัยภูมิ เมื่อช่วงเช้าวันนี้ (7 ก.ย.) หลังพายุฝนกระหน่ำตลอดทั้งคืน ระดับน้ำท่วมสูง 50 เซนติเมตร พระสงฆ์ต้องอพยพหนีน้ำท่วมไปฉันอาหารอยู่บนที่สูง ขณะนี้ระดับน้ำยังไม่ลดลง นอกจากนี้ ยังเกิดน้ำท่วมใน 3 อำเภอ คือ อำเภอเมือง ย่านเศรษฐกิจในตัวอำเภอแก้งคร้อ และอำเภอบ้านเขว้า น้ำป่าสีแดงขุ่นไหลเข้าท่วมถนนสาย 225 ชัยภูมิ-นครสวรรค์ รวมถึงร้านค้า บ้านเรือนประชาชน โดยเฉพาะที่วัดกลางโนนแดง และวัดดอนไผ่ สาเหตุมาจากกรมทางหลวงก่อสร้างถนน 4 เลน ตัดผ่านบ้านโนนแดง ต.โนนแดง อ.บ้านเขว้า ทำให้น้ำป่าที่ไหลมาจากเขาภูแลนคา ไม่สามารถไหลไปลงแม่น้ำชีได้.-สำนักข่าวไทย

ข่าวแนะนำ

โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด เร่งอพยพประชาชน

9 ก.ย. – โคราชอ่วม! น้ำท่วมหลายจุด บางพื้นที่ต้องอพยพประชาชนออกจากบ้านเรือน เพื่อความปลอดภัย ขณะที่พบแล้วศพหนุ่มพิมายขี่รถจักรยานยนต์ฝ่าน้ำป่าซัดตกท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน คลิปวิดีโอที่ชาวบ้านบันทึกไว้ได้เมื่อช่วงค่ำวานนี้ (8 ก.ย.) ขณะน้ำป่าไหลทะลักเข้าท่วมถนนในพื้นที่บ้านรังกาใหญ่ ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา หลังจากมีฝนตกหนัก ระดับน้ำท่วมสูงและเชี่ยวกราก มีชายคนหนึ่งขี่รถจักรยานยนต์ฝ่ากระแสน้ำเชี่ยวกรากไปบริเวณสี่แยกกลางหมู่บ้าน บ้านตะปัน ต.รังกาใหญ่ แม้ชาวบ้านจะเตือนและพยายามตะโกนห้ามแล้วแต่ไม่ฟัง สุดท้ายถูกน้ำป่าซัดทั้งรถและคนลอยหายไปกับกระแสน้ำ กระทั่งช่วงเที่ยงคืนวันนี้ (9 ก.ย.) ระดับน้ำเริ่มลดลง ชาวบ้านพบรถจักรยานยนต์ยี่ห้อฮอนด้าเวฟ สีแดง มีกุญแจเสียบคาอยู่ พร้อมกับถังน้ำมัน ลอยมาติดกำแพงโรงเรียนพิมายสามัคคี 1 ใกล้กันพบร่างของผู้เสียชีวิต ชื่อนายสมชาย อายุ 35 ปี ถูกน้ำป่าซัดตกลงไปในท่อระบายน้ำข้างกำแพงโรงเรียน เจ้าหน้าที่กู้ภัยจึงช่วยกันนำร่างผู้เสียชีวิตออกมา ก่อนนำส่งโรงพยาบาลพิมาย เพื่อชันสูตรหาสาเหตุการเสียชีวิต นาทีน้ำป่าไหลซัดคนลอยออกจากบ้านคลิปนาทีน้ำป่าไหลเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน บ้านตะปัน หมู่ 5 ต.รังกาใหญ่ อ.พิมาย จ.นครราชสีมา เมื่อช่วงเย็นวานนี้ (8 ก.ย.) โดยจะเห็นว่าน้ำป่าที่ไหลมาจากพื้นที่ อ.ห้วยแถลง หลังจากมีฝนตกติดต่อกันนานหลายชั่วโมง ทำให้น้ำไหลหลากเข้าท่วมบ้านเรือนชาวบ้าน […]

“แพทองธาร” เปิดใจหลังศาลพิพากษาคดีชั้น 14

ศาลฎีกา สนามหลวง 9 ก.ย.- “แพทองธาร” สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณในหลวง ลดโทษ “ทักษิณ” เหลือ 1 ปี ครอบครัวยังห่วง-ภูมิใจในผลงานประวัติศาสตร์ รับเป็นนายกฯ คนแรกที่ต้องติดคุก แต่กำลังใจดี น.ส.แพทองธาร ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ให้สัมภาษณ์ภายหลังเข้าฟังคำสั่งศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง คดีนายทักษิณ ชินวัตร อดีตนายกรัฐมนตรี ที่เข้ารักษาตัวที่ชั้น 14 โรงพยาบาลตำรวจ ว่า ทางครอบครัวรู้สึกสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณของสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่อภัยโทษและลดโทษให้คุณพ่อ ซึ่งพวกเราทั้งครอบครัวสำนึกในพระมหากรุณาที่คุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ เรารู้สึกเรื่องนี้ในทุกๆวัน และขอบคุณทุกท่านที่ส่งกำลังใจห่วงใยให้คุณพ่อและครอบครัวของเรา นางสาวแพทองธาร กล่าวว่า ที่ผ่านมา นายทักษิณเป็นผู้นำจิตวิญญาณในเรื่องการเมือง ที่ผ่านมาผลงานต่างๆที่ทำเพื่อบ้านเมืองท่านยังเป็นคนที่นึกถึงบ้านเมืองเสมอ ในการหวังเป็นส่วนหนึ่งที่ทำให้ชีวิตของพี่น้องประชาชนกินดีอยู่ดี ตัวดิฉันเอง และครอบครัวมีความเป็นห่วงคุณพ่อ และภูมิใจที่คุณพ่อได้สร้างประวัติศาสตร์มากมายให้ประเทศไม่ว่าจะเป็นนโยบายที่มีประโยชน์อย่างมากสำหรับคนในประเทศ วันนี้ก็เป็นประวัติศาสตร์อีกเรื่องหนึ่งที่นายกรัฐมนตรีคนแรกที่ต้องจำคุกเรื่องนี้ก็อาจจะค่อนข้างหนักนิดหนึ่ง แต่กำลังใจดีทั้งคุณพ่อและครอบครัว ส่วนตัวดิฉันและพรรคเพื่อไทยยังมุ่งหน้าทำงานต่อเป็นฝ่ายค้านและทำงานเพื่อพี่น้องประชาชนตรวจสอบรัฐบาลต่อไปในส่วนของพรรคทุกคนมีกำลังใจดี ขอบคุณทุกภาคส่วนประชาชนทุกคนที่ให้ให้กำลังใจและคอยอยู่เคียงข้างกันตลอดที่ผ่านมา.-315 -สำนักข่าวไทย

“ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา

กรุงเทพฯ 9 ก.ย. – “ทักษิณ” โพสต์น้อมรับคำพิพากษา สำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกคงเหลือเวลา 1 ปี พร้อมขอบคุณประชาชนที่ให้การสนับสนุน ทักษิณโพสต์ X ระบุ “พี่น้องประชาชนที่เคารพด้วยความสำนึกในพระมหากรุณาธิคุณแห่งองค์พระบาทสมเด็จพระเจ้าอยู่หัว ที่ได้พระราชทานอภัยลดโทษจำคุกแก่ผมคงเหลือเวลา 1 ปี นับเป็นพระมหากรุณาธิคุณอย่างหาที่สุดไม่ได้ ต่อทั้งตัวผม และครอบครัว ผมขอน้อมรับและพร้อมเข้าสู่กระบวนการตามคำพิพากษาในวันนี้ ตลอดระยะเวลาของการทำหน้าที่นายกรัฐมนตรีตั้งแต่ปี 2544-2549 ผมพยายามผลักดันทุกนโยบายเพื่อยกระดับคุณภาพชีวิตประชาชน เปลี่ยนภูมิทัศน์ทางการเมืองของประเทศไทย ให้พรรคการเมืองแข่งขันกันด้วยนโยบาย สร้างประชาธิปไตยที่กินได้จากผลงานของรัฐบาลที่ทำได้จริง ซึ่งเป็นความภาคภูมิใจอย่างที่สุดในฐานะนักการเมืองจากการเลือกตั้งของประชาชน แม้ว่าทุกคดีจะเกิดขึ้นหลังการรัฐประหารรัฐบาลของผมเมื่อปี 2549 แต่วันนี้ผมขอมองไปข้างหน้า ให้ทุกอย่างที่ผ่านมามีข้อยุติ ทั้งการต่อสู้คดีตามกฎหมาย และความขัดแย้งใดๆ อันเกิดขึ้นหรือเกี่ยวข้องกับตัวผม ขอขอบคุณพี่น้องประชาชนที่ให้การสนับสนุนตลอดมา ขอบคุณนักการเมือง สมาชิกพรรคเพื่อไทย และเพื่อนมิตรทั้งหลายที่เคียงข้างกันทั้งในยามสุขและยามยาก ผมตัดสินใจเลือกทางเดินนี้ เพื่อส่งกำลังใจให้ทุกคนเดินไปข้างหน้า ทำงานเพื่อชาติ ศาสนา พระมหากษัตริย์ และประชาชน ด้วยอุดมการณ์และจิตวิญญาณที่เรามีร่วมกันมา จนกว่าจะถึงวันที่เราได้เดินร่วมทางกันอีกครั้ง จากวันนี้แม้ผมจะไร้อิสรภาพ แต่ยังมีเสรีภาพทางความคิดเพื่อประโยชน์ของประเทศชาติและประชาชน ผมจะรักษาความเข้มแข็งทั้งร่างกายและจิตใจ เพื่อใช้เวลาในชีวิตที่เหลืออยู่ รับใช้สถาบันพระมหากษัตริย์ แผ่นดินไทย และประชาชนคนไทย […]

ศาลฎีกาฯ สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการชั้น 14 มิชอบ

ศาลฎีกา 9 ก.ย.- ศาลฎีกานักการเมือง สั่ง “ทักษิณ” รับโทษ 1 ปี ชี้กระบวนการส่งรักษาตัวชั้น 14 มิชอบด้วย กม. – ไม่ได้ป่วยวิกฤติฉุกเฉิน-เพียงกล่าวอ้าง และเป็นโรคเรื้อรัง รักษาแบบผู้ป่วยนอกได้ เจ้าตัวได้รับประโยชน์ไม่ต้องเข้าเรือนจำ เวลา 10.00 น. ศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง อ่านคำสั่งคดีหมายเลขดำที่ บค 1/2568 กรณีศาลมีคำสั่งให้ไต่สวนว่า การบังคับโทษพันตำรวจโทหรือนายทักษิณ ชินวัตร จำเลย เป็นไปตามหมายจำคุกเมื่อคดีถึงที่สุดในคดีหมายเลขแดงที่ อม 4/2551 คดีหมายเลขแดงที่ อม 5/2551 และคดีหมายเลขแดงที่ อม 10/2552 ของศาลฎีกาแผนกคดีอาญาของผู้ดำรงตำแหน่งทางการเมือง หรือไม่ โดยให้โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทย์ใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยื่นคำชี้แจงข้อเท็จจริง โจทก์ จำเลย ผู้บัญชาการเรือนจำพิเศษกรุงเทพมหานคร อธิบดีกรมราชทัณฑ์ และนายแพทยใหญ่โรงพยาบาลตำรวจ ยืนคำชี้แจงข้อเท็จจริงต่อศาลพร้อมเอกสารประกอบ ศาลไต่สวนพยานรวม 31 ปาก […]