ทำเนียบ 13 มี.ค.-นายกฯ มอบโอวาทผู้ประกอบการรุ่นใหม่ YEC-YPC รับฟัง 10 ข้อเสนอ พัฒนาเศรษฐกิจ ชี้ สิ่งสำคัญคือต้องเปิดใจเรียนรู้ ย้ำ รัฐ-เอกชน-ประชาชน ต้องทำงานร่วมกัน ยัน พร้อมช่วยเหลือ SMS กลุ่มใหญ่ 75% หลังเจอวิกฤตให้ฟื้นกลับมาและลืมตาอ้าปากได้
นายสนั่น อังอุบลกุล ประธานกรรมการหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทย นำคณะประธานผู้ประกอบการรุ่นใหม่ (YEC) ของหอการค้าจังหวัดทั่วประเทศ และคณะตัวแทนผู้เข้าอบรมโครงการพัฒนาศักยภาพผู้นำคลื่นลูกใหม่ ที่เป็นหัวหน้าส่วนราชการที่อบรมร่วมกับผู้ประกอบการรุ่นใหม่(YPC)จ.ระยอง และจ.นนทบุรี เข้าเยี่ยมคารวะและรับโอวาทจากน.ส.แพทองธาร ชินวัตรนายกรัฐมนตรี โดยมี นายพิชัย ชุณหวชิร รองนายกรัฐมนตรี และรมว.คลัง นายพิชัย นริพทะพันธุ์ รองนายกรัฐมนตรีและรมว.พาณิชย์ นายดนุชา พิชยนันทน์ เลขาธิการสภาการพัฒนาเศรษฐกิจและสังคมแห่งชาติ นายอิสระ ว่องกุศลกิจ ประธานกิตติมศักดิ์หอการค้าไทย ในฐานะผู้ก่อตั้งYEC เข้าร่วมงาน
นายสนั่น กล่าวว่า สภาหอการค้าไทยและสภาหอการค้าแห่งประเทศไทยขอบคุณนายกฯที่สละเวลาจากภารกิจ รับฟังสิ่งที่สภาหอการค้าต้องการขับเคลื่อนองค์กรของเรามีความเชื่อมั่นในศักยภาพของคนรุ่นใหม่ ที่ปัจจุบันมีสมาชิกทั่วประเทศ และมีความมั่นใจว่าการพัฒนาเศรษฐกิจไทย จะหลุดพ้นจากกับดักรายได้ปานกลางได้จะต้องกระจายความเจริญรุ่งเรืองและสร้างรายได้ให้แต่ละจังหวัดอย่างทั่วถึง และกลุ่มYECจะเป็นพลังสำคัญที่จะสร้างรายได้และนำความเจริญตามเป้าหมาย เป็นผู้นำคนรุ่นใหม่ ที่จะมาสร้างความเจริญเติบโตของเศรษฐกิจในแต่ละจังหวัดและยกระดับคุณภาพชีวิตเศรษฐกิจในพื้นที่ของตน
ด้านตัวแทน YEC จ.กำแพงเพชร ได้นำเสนอแนวคิดจากYEC10จังหวัด ถึงนายกฯ เพื่อขับเคลื่อนและพัฒนาเศรษฐกิจที่สำคัญของจังหวัดและประเทศ โดยมี 10 ประเด็น ดังนี้ 1. จ.เชียงใหม่ เสนอไมโครเอสเอ็มอี ที่เป็นรากฐานสำคัญในการขับเคลื่อนเศรษฐกิจ และมุ่งหวังว่ารัฐบาลจะช่วยเหลือและสนับสนุนให้ผู้ประกอบการกลุ่มนี้เข้าสู่ระบบถูกต้อง เพื่อให้ได้รับสิทธิประโยชน์ทางภาษีและความช่วยเหลือสนับสนุนในอนาคต 2. จ.นครราชสีมา เสนอ การปลูกฝังเรื่องภาษีและความรับผิดชอบด้านการเงินตั้งแต่ระดับศึกษาขั้นพื้นฐาน ให้เป็นความรับผิดชอบขั้นพื้นฐานของประชาชนชาวไทย จึงเสนอให้บรรจุวิชาภาษีในหลักสูตรการศึกษาระดับต้นอย่างเป็นระบบและมีประสิทธิภาพ 3.จ.ระยอง และจ.พื้นที่อีอีซี เสนอ เรื่องมาตรการลดหย่อนภาษีนิติบุคคล เพื่อดึงดูดการลงทุนและเพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของผู้ลงทุนในประเทศ ในการพัฒนาประเทศ4.จ.สมุทรสาคร ที่มีแรงงานต่างด้าวจำนวนมาก ควรบริหารจัดการแรงงานต่างด้าวอย่างเป็นระบบ จะทำให้โครงสร้างพื้นฐานเศรษฐกิจ เช่น เรื่องประกันสังคม สิทธิพื้นฐาน ที่ถูกจัดสรรให้แรงงานต่างด้าวเป็นจำนวนมากได้รับการบริหารอย่างสมดุลย์และเหมาะสม5. จ.อุดรธานี เสนอการท่องเที่ยวลองสเตย์ เนื่องจากมีหลายจังหวัดที่สามารถผลักดัน กระตุ้นเศรษฐกิจให้เพิ่มศักยภาพและส่งเสริมกับซอฟพาวเวอร์ สร้างแรงจูงใจให้กับนักท่องเที่ยวพำนักอยู่ในประเทศไทยมากขึ้น 6. จ.ปราจีนบุรี มีศักยภาพที่จะพัฒนาเมืองน่าเที่ยว ที่เป็นเอกลักษณ์ควรส่งเสริม ผ่านซอฟพาวเวอร์ กระจายรายได้สู่ชุมชน เปลี่ยนจากเมืองรองเป็นเมืองน่าเที่ยว 7. กทม. เสนอให้มี AIวัลเล่ย์ ส่งเสริมการลงทุนด้านนวัตกรรมให้แข่งขันกับประเทศเพื่อนบ้านในอาเซียนได้อย่างเท่าเทียมและให้ผู้ประกอบการรายย่อยได้เข้าถึงระบบ AI มากกว่านี้ 8. จ.ระนอง ให้พัฒนาโครงสร้างพื้นฐานและโลจิสติกส์จังหวัดระนอง เช่น ทางคู่เชื่อมจังหวัดระนองและชุมพร เพื่อเชื่อมโยงการเดินทางให้มีประสิทธิภาพ 9. จ.นครศรีธรรมราช การจัดสรรงบประมาณเพื่อกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างเร่งด่วน ขอให้จัดสรรงบส่วนกลาง เพื่อสนับสนุนให้เกิดความยืดหยุ่นมากขึ้น และ10. การแลกเปลี่ยนระหว่างผู้ประกอบการคนรุ่นใหม่ และรัฐบาล ให้มีการพบกันต่อเนื่องไตรมาสละหนึ่งครั้ง หมุนเวียนไปแต่ละภูมิภาค ให้แต่ละ 77 จังหวัดได้เสนอไอเดียและแนวทางในการพัฒนาประเทศ คาดว่าจะทำให้เกิดแรงผลักดันขับเคลื่อนคนรุ่นใหม่ในอนาคต โดยคนรุ่นใหม่พร้อมร่วมมือกับรัฐบาลขับเคลื่อนเศรษฐกิจให้เติบโตอย่างยั่งยืน
โดยนายกรัฐมนตรี กล่าวมอบนโยบาย ว่า รู้สึกเป็นเกียรติ ที่ได้พบกับทุกคนและขอบคุณเชื่อว่าหลายคนเดินทางมา
ไกล จึงอยากให้ได้รับความประทับใจจากการพูดคุยกลับไป ส่วนข้อเสนอที่ตัวแทนออกมาพูดได้แนวความคิดหลายอย่าง และสิ่งที่ตนคิดและสนับสนุนตลอดคือการเรียนรู้ไม่ว่าจะอายุเท่าไหร่ก็มีสิทธิ์เรียนรู้ ซึ่งนายกฯจะได้เห็นแง่มุมของแต่ละจังหวัด เพราะอยู่กรุงเทพฯจะรู้ดีกับคนจังหวัดนั้นไม่ได้ และขั้นตอนแรกคือต้องเปิดใจรับฟังความเห็น ไม่ว่าจะอายุมากหรือน้อยไม่สำคัญสำคัญที่จะเปิดใจหรือไม่ จึงจะเป็นสิ่งที่เริ่มต้นที่ดี
นายกฯ กล่าวว่า รัฐบาลพยายามสื่อสารเรื่องการกระตุ้นเศรษฐกิจ และสิ่งสำคัญคือทำงานแบบบูรณาการทุกภาคส่วนทั้งเอกชน รัฐบาล และประชาชน ทั้งสามส่วนนี้ต้องร่วมมือกันเพราะเรื่องเศรษฐกิจเป็นเรื่องใหญ่ เกี่ยวกับปากท้องและประเทศชาติ ที่ทุกคนต้องช่วยกัน เรามองภาพว่ารัฐบาล ประชาชนเอกชน คือหุ้นส่วนกันขาใดจะอ่อนแอไม่ได้ รัฐบาลมุ่งทำอย่างเดียวโดยไม่อาศัยความช่วยเหลือเอกชนไม่ได้ เศรษฐกิจจะไม่โต
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า รู้สึกดีที่ได้มาเห็นเจเนอเรชั่นที่ต่อมาจากรุ่นก่อนและนำมาขยายต่อยอดจากคนรุ่นเก๋าทำไว้แล้ว ทั้งนายสนั่น ที่ได้ทำไว้ เป็นคนที่มีพลังงานและความทุ่มเททั้งแรงกายแรงใจ ตรงนี้สำคัญมากเพราะเวลามุ่งมั่นกับอะไรและได้ลงมือทำเป็นสิ่งที่ประเมินค่าไม่ได้ และจะมีความหมายให้เกิดผลได้อย่างชัดเจน เมื่อหลายคนมีไอเดียที่ดี รัฐบาลจะได้เรียนรู้ได้และเป็นไอเดียที่ดีที่เสนอให้พบเจอกันมากขึ้นในลักษณะกลุ่มที่ไม่ใหญ่เกินไปเพื่อรับฟังความเห็นได้ครบ เพราะการประชุมห้องใหญ่เป็นไปตามพิธีแต่ไม่ได้ความคิดเห็นแนวคิดจริงๆ เพื่อให้รัฐบาลรับฟังว่าแต่ละจังหวัดและแต่ละพื้นที่ที่ผ่านการคุยกันมาแล้วมีอะไรที่จะเป็นแนวคิดให้ประเทศชาติพัฒนาไปในทางที่ได้ใจประชาชนและเกิดผลแท้จริงเมื่อฟังและก็อย่าทำขอไปพิจารณาพิจารณาว่าจะทำอะไรได้บ้าง
นายกรัฐมนตรี กล่าวว่า เอสเอ็มอี มี 75% ของประเทศ กระทรวงการคลัง จึงมีนโยบายออกมารัฐบาลจะต้องช่วยเหลือ เมื่อประเทศเกิดวิกฤติ เอสเอ็มอีจะได้รับผลกระทบ รัฐบาลจึงเน้นย้ำเพื่อให้ฟื้นกลับมาและลืมตาอ้าปากได้ มิฉะนั้นเมื่อเจอวิกฤตแล้วสายป่านไม่ยาวพอลงทุนน้อยก็จะหมดไป รัฐบาลมองเห็นความจำเป็นตรงนี้และเห็นให้สนับสนุนต่อไป ขอให้กำลังใจทุกคนว่าทุกคนเป็นกำลังสำคัญที่จะพัฒนาประเทศชาติให้พัฒนาต่ออย่างยั่งยืนและมั่นคงและต้องอาศัยความร่วมมือทุกภาคส่วนให้ประเทศก้าวไปข้างหน้าอย่างแข็งแรงและมั่นคงได้.-316.-สำนักข่าวไทย