ทำเนียบรัฐบาล 4 ม.ค.-โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เผย นายกฯ ขอบคุณทุกส่วนราชการ รวมถึงพรรคร่วมรัฐบาลที่ร่วมทำงาน พร้อมขอให้ร่วมกันทำงานต่อไป เล็งออกมาตรการช่วยเหลือประชาชนเพื่อความต่อเนื่องในปี 2565
นายธนกร วังบุญคงชนะ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยถึงข้อสั่งการของ พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม ในการประชุมคณะรัฐมนตรี ว่า นายกรัฐมนตรี ขอบคุณทุกส่วนส่วนราชการ ที่ช่วยกันทำงานในช่วงวันหยุดที่ผ่านมา ทั้งข้าราชการในฝ่ายนโยบายและฝ่ายปฏิบัติการทุกระดับในการปฏิบัติหน้าที่ในการเฝ้าระวัง ป้องกันการแพร่ระบาดโควิด-19 รวมฝ่ายความมั่นคงและฝ่ายปกครองที่ช่วยดูแลแนวชายแดน ดูแลพี่น้องประชาชนที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์ประเทศเพื่อนบ้าน รวมถึงหน่วยงาน กระทรวงต่าง ๆ ที่ร่วมกันมอบของขวัญปีใหม่ ผ่านโครงการและความช่วยเหลือประชาชน อาทิ การลดค่าไฟ โครงการสินเชื่อดอกเบี้ยต่ำ ทัวร์เที่ยวไทย ช่วยขับเคลื่อนทำให้เศรษฐกิจหมุนเวียน รวมถึงโครงการคนละครึ่ง เฟส 4 ที่จะเริ่มดำเนินการในปี 2565 นี้ โดยนายกรัฐมนตรีได้กำชับให้ทุกส่วนราชการดำเนินเดินหน้ากิจการ แผนงาน เพื่อให้ประชาชนได้รับประโยชน์อย่างต่อเนื่องในปี 2565 ต่อไป
นายธนกร กล่าวว่า นายกรัฐมนตรี ยังได้กล่าวขอบคุณกระทรวงมหาดไทย กรุงเทพมหานคร กรมป้องกันและบรรเทาสาธารณภัย ทหาร ตำรวจ ตำรวจจราจร และอาสาสมัครจราจร ที่ทุ่มเททำงานป้องกันการเกิดอุบัติเหตุ ในช่วงปีใหม่ที่ผ่านมาและฝากถึงพี่น้องประชาชน ขอให้ร่วมกันเรียนรู้ ปรับตัว ช่วยกันเตือนให้มีสติ ในการใช้รถใช้ถนนอย่างปลอดภัย ร่วมกันลดอุบัติเหตุและความสูญเสียในอนาคตด้วย
โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี กล่าวด้วยว่า ในโอกาสนี้ นายกรัฐมนตรียังกล่าวให้กำลังใจพรรคร่วมรัฐบาล ขอให้เริ่มการทำงานในปี 2565 ทันที โดยขอให้ใช้เวลาให้เกิดประโยชน์ เร่งสร้างผลสำเร็จให้มากที่สุด พร้อมกล่าวขอบคุณหัวหน้าพรรคร่วมรัฐบาล ที่ร่วมกันแก้ปัญหามากว่า 2 ปี และกำลังย่างเข้าสู่ปีที่ 3 ที่สำคัญคือ รัฐบาลต้องแก้ทุกเรื่องที่มีผลกระทบต่อประชาชน โดยเฉพาะเศรษฐกิจในประเทศ รายได้ประชาชน โดยหน่วยงานที่เกี่ยวข้องต้องเตรียมมาตรการรองรับภาวะเศรษฐกิจที่ผันผวน ราคาวัตถุดิบที่สูงขึ้น ซึ่งนายกรัฐมนตรีรับทราบถึงสถานการณ์ราคาหมูแพง ซึ่งได้สั่งการกระทรวงพาณิชย์ ให้เร่งดูแล แก้ไขทั้งระบบ ตั้งแต่ผู้เลี้ยงหมูถึงการจัดจำหน่ายแล้ว
นายธนกร กล่าวว่า นอกจากนิ้นายกรัฐมนตรียังได้รายงานที่ประชุม เกี่ยวกับสถานการณ์เศรษฐกิจในประเทศที่ผ่านมา มีการปรับตัวดีขึ้น จำนวนนักท่องเที่ยวต่างประเทศเดินทางเข้าประเทศมามากขึ้น การใช้จ่ายภาครัฐดีขึ้น ตลาดแรงงานปรับตัวดีขึ้น ดุลการค้าเกินดุล ขณะเดียวกันเงินเฟ้อเพิ่มขึ้นจากสถานการณ์น้ำท่วม โรคติดต่อ ราคาพลังงานโลกปรับตัวสูง และการแพร่ระบาดโควิด-19 ทั่วโลกที่ยังรุนแรง รัฐบาลจึงต้องกลับมาดำเนินการควบคุมการแพร่ระบาดอย่างเข้มงวด และพยายามลดผลกระทบต่อเศรษฐกิจ รวมทั้งเตรียมความพร้อมทั้งสถานพยาบาล และการรักษาพยาบาล โดยขอความร่วมมือประชาชน หมั่นตรวจคัดกรองตนเองด้วย ATK ด้วย
ทั้งนี้ นายกรัฐมนตรียังห่วงใยการรับรู้ข้อมูลข่าวสาร โดยเฉพาะสถานการณ์โควิด-19 จากโซเซียลมีเดีย ขอให้ประชาชนติดตามและรับฟังข้อมูลจาก ศบค. กระทรวงสาธารณสุข และบุคลากรทางการแพทย์ ชี้แจงเป็นหลัก และขอให้กระทรวงสาธารณสุขนำเสนอสถานการณ์ต่างประเทศ ซึ่งยกตัวอย่างบางประเทศที่มียอดการระบาดสูงเป็นแสนรายต่อวัน เพื่อให้ประชาชนร่วมกันศึกษา ทำความเข้าใจ เรียนรู้หลักการในการวิเคราะห์ เพื่อสร้างการรับรู้ ลดความสับสนอีกด้วย.-สำนักข่าวไทย