fbpx

กำชับผู้ว่าฯ เข้มสกัดโควิดคู่ปลอดภัยทางถนน

กระทรวงมหาดไทย 30 ธ.ค.- มท.1 กำชับผู้ว่าฯ ทั่วประเทศ เข้มมาตรการสกัดโควิด-19 ควบคู่ความปลอดภัยทางถนนช่วงเทศกาลปีใหม่


พล.อ.อนุพงษ์ เผ่าจินดา รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย เปิดเผยว่า พล.อ.ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม มีความห่วงใยประชาชนที่กำลังจะเดินทางกลับไปยังภูมิลำเนาในช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่เพื่อพบปะครอบครัว เยี่ยมญาติผู้ใหญ่ หรือเดินทางไปท่องเที่ยวยังสถานที่ต่าง ๆ ซึ่งบางส่วนเริ่มทยอยเดินทางกันแล้ว และบางส่วนกำลังจะเดินทางในช่วงเย็นวันนี้ (30 ธ.ค.) โดยสั่งการให้กระทรวงมหาดไทยร่วมกับหน่วยงานที่เกี่ยวข้องดำเนินมาตรการสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) อย่างเข้มข้น รวมทั้งอำนวยความสะดวกดูแลประชาชนที่ใช้รถใช้ถนนสัญจรไปยังสถานที่ต่าง ๆ เพื่อเสริมสร้างความปลอดภัยในการใช้รถใช้ถนนควบคู่การสกัดกั้นการระบาดของโรคโควิด-19

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ในส่วนของการป้องกันและสกัดกั้นการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ได้สั่งการไปยังผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัด และกรุงเทพมหานครกำชับและติดตามการจัดกิจกรรมส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ของผู้จัดหรือผู้ประกอบการ ให้เป็นไปตามมาตรการด้านสาธารณสุขอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะอย่างยิ่ง การปฏิบัติตามแนวทางความปลอดภัยองค์กร (COVID-Free Setting) ทั้งด้านด้านสุขอนามัยและความปลอดภัย (Clean and Safe) เช่น คัดกรองผู้เข้าร่วมงานด้วยการวัดอุณหภูมิ มีระบบลงทะเบียน การรักษาระยะห่าง (Distancing) การกำหนดเส้นทางเข้า-ออกชัดเจน และควบคุมจำกัดจำนวนผู้ร่วมงานและด้านการระบายอากาศ รวมทั้งกำหนดแนวปฏิบัติสำหรับผู้จัดงาน พนักงาน (COVID FREE Personnel) ทั้งการได้รับวัคซีนครบตามเกณฑ์ การคัดกรองความเสี่ยงพร้อมบันทึกประวัติ โดยเน้นย้ำให้ขอความร่วมมือประชาชนปฏิบัติตามมาตรการป้องกันการติดเชื้อโควิด-19 ขั้นสูงสุด (Universal Prevention) และหมั่นตรวจหาเชื้อโควิด-19 ด้วยชุดตรวจ ATK สม่ำเสมอ โดยขอให้เป็นเรื่องที่ประชาชนทุกคนต้องตระหนักและป้องกันอย่างสูงสุด


“กำชับผู้ว่าราชการจังหวัดทุกจังหวัดให้ดำเนินการตามแผนและมาตรการป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่ ทั้งเรื่องการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มงวด ควบคู่ไปกับการสร้างจิตสำนึกด้านความปลอดภัยทางถนน ให้ความสำคัญกับการบูรณาการตั้งจุดตรวจด่านชุมชน เพื่อป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนน  การลดปัจจัยเสี่ยงด้านถนนและสภาพแวดล้อม ปิดจุดเสี่ยงด้านกายภาพบนท้องถนนต่าง ๆ โดยเฉพาะทางร่วม ทางแยกและทางกลับรถ โดยให้ตรวจสอบสภาพถนน ติดตั้งป้ายให้ชัดเจน บริเวณจุดตัดทางรถไฟให้มีความปลอดภัย รวมถึงประชาสัมพันธ์ผู้ใช้รถใช้ถนนให้รตรวจสอบยานพาหนะให้พร้อมสำหรับการเดินทาง ตรวจสอบสภาพรถโดยสารสาธารณะและรถโดยสารไม่ประจำทางให้มีความปลอดภัย” พล.อ.อนุพงษ์ กล่าว

รัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย กล่าวว่า ช่วงเทศกาลส่งท้ายปีเก่าต้อนรับปีใหม่ 2565 นี้ กระทรวงมหาดไทยมีความพร้อมป้องกันและลดอุบัติเหตุทางถนนควบคู่กับการดำเนินการตามมาตรการและแนวทางการเฝ้าระวัง ป้องกัน และควบคุมโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิดโ€“19) อย่างเข้มแข็งและต่อเนื่อง หากมีกิจกรรมใดไม่ปฏิบัติตามมาตรการที่กำหนดหรือกระทำผิดกฎหมาย ให้ดำเนินการตามกฎหมาย ไม่ละเว้น.-สำนักข่าวไทย   


ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

รวบผู้ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพที่นนทบุรี นำตัวเข้าเซฟเฮาส์

รวบตัวชายไทย อายุประมาณ 35-40 ปี ต้องสงสัยคดีฆ่าหั่นศพ ภายในซอยจัดสรรสวิง 2 ถนนบ้านกล้วย-ไทรน้อย ต.พิมลราช อ.บางบัวทอง จ.นนทบุรี ตำรวจนำตัวเข้าเซฟเฮาส์ อยู่ระหว่างสอบสวนและรวบรวมพยานหลักฐาน

ผู้ว่าการ ธปท.เตือน ครม. หวั่นดิจิทัลวอลเล็ตก่อหนี้จำนวนมาก

ทำเนียบฯ 24 เม.ย.- ผู้ว่าการ ธปท. ทำหนังสือถึง ครม. เตือนเดินหน้าดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท หวั่นก่อหนี้จำนวนมาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย (ธปท.) ได้ทำหนังสือถึงสำนักเลขาธิการคณะรัฐมนตรี ลงวันที่ 22 เมษายน 2567 เพื่อเสนอความเห็นประกอบการพิจารณาในการประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) วันที่ 23 เม.ย.2567 มองว่า โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท เป็นโครงการขนาดใหญ่ของประเทศ  ต้องใช้เงินจำนวนมาก อาจก่อให้เกิดภาระหนี้ผูกพันต่อรัฐบาลในอนาคตดังนี้ 1.ความจำเป็น โครงการเติมเงินดิจิทัลวอลเล็ต 10,000 บาท และผลกระทบต่อเสถียรภาพทางการคลังของประเทศ ควรดูแลครอบคลุมเฉพาะกลุ่มเป้าหมาย  เพื่อเป็นการแบ่งเบาภาระค่าครองชีพ ช่วยกระตุ้นเศรษฐกิจอย่างมีประสิทธิผลคุ้มค่า และใช้งบประมาณลดลง  โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง ยังไม่ฟื้นตัวเต็มที่ เช่น กลุ่มผู้มีรายได้น้อย หรือผู้ถือบัตรสวัสดิการฯ 15 ล้านคน ซึ่งดำเนินการได้ทันที และใช้งบประมาณเพียง 150,000 ล้านบาท และควรทำแบบแบ่งเป็นระยะ (phasing) เพื่อลดผลกระทบต่อเสถียรภาพการคลัง  […]

“สารวัตรแจ๊ะ” ยื่นฟ้องหมิ่น “ทนายรัชพล” กล่าวหาจับแพะติดคุกฟรีปีกว่า

“สารวัตรแจ๊ะ” พร้อมทนายความ ยื่นฟ้องหมิ่นประมาททนายดัง และฟ้องแพ่งเรียกค่าเสียหาย 5 ล้านบาท ยันไม่ได้นําตัวไปเซฟเฮาส์ ด้านทนายเผยพบหลักฐานทนายคู่กรณีบีบผู้เสียหายกลับคําให้การ แบ่งเงินคนละครึ่ง

ข่าวแนะนำ

“บิ๊กต่าย” ยันทำตามหน้าที่ ไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก”

“บิ๊กต่าย” แถลงข่าวการจับยาเสพติด ยันไม่ได้เป็นคู่ขัดแย้ง “บิ๊กโจ๊ก” ย้ำทำตามหน้าที่รักษาการฯ ไม่มีเวลาเอาสมองไปคิดเรื่องปลดป้ายชื่อ

ระทึกถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิดอีก

วิ่งหนีอลหม่าน! ถังสารแอมโมเนียโรงน้ำแข็งระเบิด ย่านตลาดสดเทศบาลนางัว อ.น้ำโสม จ.อุดรธานี คาดสาเหตุจากอากาศร้อนจัด

อุตุฯ เผยไทยตอนบนอากาศร้อนจัด-กลางวันฟ้าหลัว

กรมอุตุฯ เผยไทยตอนบนมีอากาศร้อนจัดกับมีฟ้าหลัวตอนกลางวัน แนะหลีกเลี่ยงการทำงานหรือการประกอบกิจกรรมในที่โล่งแจ้งเป็นระยะเวลานาน ส่วนกรุงเทพฯ-ปริมณฑล อากาศร้อนจัดบางแห่ง โดยมีฝนฟ้าคะนอง 10%

ญาติคาใจ ตำรวจทำเกินกว่าเหตุ

เหตุการณ์ตำรวจ สภ.จอหอ จังหวัดนครราชสีมา ขับรถกระบะไล่ล่า เฉี่ยวชนรถจักรยานยนต์คนร้ายคดีลักทรัพย์ จนมีผู้เสียชีวิต 2 ราย ญาติคาใจการทำหน้าที่ของตำรวจว่า น่าจะทำเกินกว่าเหตุ ไม่เป็นไปตามยุทธวิธี ล่าสุด ผู้บังคับการตำรวจภูธรจังหวัดนครราชสีมา สั่งตั้งกรรมการตรวจสอบข้อเท็จจริงแล้ว