รัฐสภาไทย…สานพลังเพื่อความปลอดภัยทางถนน

รัฐสภา 18 ธ.ค.- รัฐสภาไทย…สานพลังเพื่อความปลอดภัยทางถนน ตั้งเป้าปี 2570 ลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางถนนให้เหลือ 8,474 รายต่อปี ชี้ มีจุดอ่อนในการบังคับใช้ กม.-ไรเดอร์ ดูมือถือตอนขับขี่ สวนทางข้อ กม. พร้อมขอทุกภาคส่วนบูรณาการไปสู่เป้าหมายร่วมกัน


นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานสภาผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง เป็นประธานเปิดงาน “รัฐสภาไทย…สานพลังเพื่อความปลอดภัยทางถนน” ครั้งที่ 2 โดยมีพลเอก เกรียงไกร ศรีรักษ์ รองประธานวุฒิสภา คนที่หนึ่ง ,ผู้แทนองค์การอมามัยโลก ประจำประเทศไทย , กองทุนสนับสนุนการสร้างเสริมสุขภาพ (สสส) หน่วยงานภาครัฐ ภาคเอกชน และภาคีเครือข่าย เข้าร่วม

นายพิเชษฐ์ เชื้อเมืองพาน รองประธานผู้แทนราษฎร คนที่หนึ่ง กล่าวเปิดงานและปาฐกถาพิเศษ ว่า ปัญหาอุบัติเหตุทางถนนเป็นความท้าทายต่อชีวิต ซึ่งเรามีแผนแม่บทฉบับที่ 5 (ปี 2565-2570) กำหนดเป้าหมายลดการเสียชีวิตจากอุบัติเหตุทางท้องถนนให้เหลือ 12 คน ต่อประชากร 100,000 คน หรือ 8,474 รายต่อปี ภายในปี 2570 จึงต้องพยายามรณรงค์ไปสู่เป้าหมายให้อุบัติเหตุลดลง


นายพิเชษฐ์ กล่าวว่า การตั้งคณะกรรมการพิจารณาศึกษาแนวทางการป้องกันและลดอุบัติเหตุเพื่อสร้างความปลอดภัยทางถนน และอนุกรรมการอีก 4 ด้าน จะเป็นหลักในการดำเนินการอย่างเข้มแข็ง เพราะถ้าไม่มีการขับเคลื่อน ไม่ว่าจะทั้ง งบประมาณ กฎหมาย และการบังคับใช้ สถิติการเกิดอุบัติเหตุก็จะยังคงอยู่ ซึ่งส่งผลต่อจีดีพีของประเทศ เพราะคนในวัยทำงาน หัวหน้าครอบครัวต้องบาดเจ็บและเสียชีวิต หลายเหตุการณ์ เช่น กรณีหมอกระต่าย และ รถบัสเด็กนักเรียนที่เกิดเหตุไฟไหม้ ทำให้เราจะต้องมีความเข้มงวดเพื่อลดความสูญเสีย

พลเอกเกรียงไกร กล่าวว่า อุบัติเหตุส่งผลกระทบต่อชีวิตของประชาชนมาอย่างยาวนาน ประเทศไทยมีอัตราการเสียชีวิตในปี 2566 อยู่ในอันดับที่ 18 ของโลก ซึ่งสูงสุดในภูมิภาคเอเชีย การสูญเสียเกิดขึ้นมากในกลุ่มผู้ใช้จักรยานยนต์ เด็กและเยาวชน ซึ่งเป็นกำลังสำคัญของประเทศในอนาคต ดังนั้น ต้องมีความร่วมมือจากทุกภาคส่วน โดยเฉพาะอย่างยิ่งภาคนิติบัญญัติ รัฐสภา ซึ่งมีส่วนในการบัญญัติกฎหมาย เพื่อลดอุปสรรคในการดำเนินการ

ด้านผู้แทนองค์การอมามัยโลก ประจำประเทศไทย กล่าวว่า องค์การอนามัยโลกยืนหยัดเคียงข้างประเทศไทย ซึ่งความไม่ปลอดภัยทางถนน ไม่ใช่ปัญหาเฉพาะชีวิตและทรัพย์สิน แต่เป็นอุปสรรคต่อการพัฒนาประเทศในภาพรวม ซึ่งข้อมูลปัจจุบันแสดงให้เห็นว่าเราอาจไปไม่ถึงเป้าหมายได้ หากไม่เร่งมือป้องกันการสูญเสีย เช่น การใช้รถจักรยานยนต์ ที่หลายคนมองเป็นการประหยัดและรวดเร็ว แต่ทำให้เกิดความสูญเสียจำนวนมาก รัฐสภามีหน้าที่สำคัญ มีศักยภาพและเครื่องมือในการขับเคลื่อน เปลี่ยนแปลงอย่างเป็นระบบ ทั้งในเรื่องของข้อกฎหมาย การจัดทำงบประมาณ การกำกับดูแลและการสนับสนุน ซึ่งการจัดตั้งคณะกรรมการ และอนุกรรมการ ถือเป็นความก้าวหน้าในประวัติศาสตร์ สะท้อนให้เห็นแนวทางที่ครอบคลุม แสดงให้เห็นถึงความหวังในการผนึกกำลังของทุกหน่วยงาน เพื่อจัดการความปลอดภัยทางถนนแบบองค์รวม


นอกจากนี้ ภายในงาน มีเวทีเสวนา “รัฐสภาไทย…สานพลังเพื่อความปลอดภัยทางถนน” โดย นายศุภชัย สมเจริญ ประธานอนุกรรมการด้านกฎหมายและการบังคับใช้กฎหมาย กล่าวว่า อนุกรรมการมีบทบาทดำเนินการ และจัดทำข้อกฎหมาย เพื่อนำเสนอความเห็น โดยข้อเสนอเชิงนโยบายในการลดอุบัติเหตุจากการเมาแล้วขับ พบว่าประเด็นปัญหาที่สำคัญ เรื่องการบังคับใช้กฎหมายยังมีจุดอ่อน และจะต้องยกระดับการบังคับใช้กฎหมายอย่างเข้มแข็ง ผลักดันแนวทางปฎิบัติให้กฎหมายเมาแล้วขับ สามารถปฏิบัติให้เกิดผลตามเจตนารมย์ของกฎหมายได้ ทั้งนี้ ต้องมีบทลงโทษผู้สนับสนุนให้เด็ก เยาวชนดื่มสุรา อีกทั้งเห็นว่า ต้องให้องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น มีบทบาทมากยิ่งขึ้นในการดูแลความปลอดภัยทางถนนในช่วงเทศกาลปีใหม่

นายสุรชัย เลี้ยงบุญเลิศชัย ประธานอนุกรรมการด้านโครงสร้างพื้นฐานและด้านยานพาหนะ กล่าวว่า สาเหตุหลักของอุบัติเหตุ มาจาก คน ถนน และยานพาหนะ ซึ่งการแก้ปัญหายังไม่บรรลุเป้าหมาย เพราะติดกับ วิธีการบริหารจัดการ และหน่วยงานที่มีหน้าที่ในการจัดการปัญหานี้ ได้บูรณาการงานร่วมกันแล้วหรือไม่ พร้อมยกตัวอย่าง การฝ่าฝืนกฎหมายจราจร ที่พนักงานขนส่งในแอพพลิเคชั่นต่างๆ ดูโทรศัพท์มือถือในขณะขับขี่ เพื่อดูเส้นทาง ซึ่งสวนทางกับตัวบทกฎหมาย ที่ห้ามใช้โทรศัพท์มือถือขณะขับขี่.-315 -สำนักข่าวไทย

ดูข่าวเพิ่มเติม

Top Viewed • อ่านมากสุด

ดูทั้งหมด

พปชร.เปิดตัวว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา

พปชร. เปิดตัวทัพใหญ่ ว่าที่ผู้สมัครภาคอีสาน ลั่นพร้อมสู้ศึกเลือกตั้งทุกเวลา เผยเลือดไหลเข้าพรรคพร้อมรับใช้ประชาชนอีกมาก

สาวถูกงูเห่ากัดใช้เบตาดีนทา สุดท้ายถูกหามเข้า ICU

อุทาหรณ์ สาวโพสต์โดนงูเห่ากัดตอนตี 5 ล้างแผล ทาเบตาดีนสู้พิษงู ลุกไปเข้าเวรเช้าต่อ ก่อนภาพตัด ถูกหามเข้าไอซียู

ตร.ไซเบอร์บุกค้น 9 จุด รวบรอบ 2 “มินนี่” เจ้าแม่เว็บพนัน

ตำรวจ บช.สอท. นำกำลังพร้อมหมายค้น ปูพรม 9 จุด ทั้งในกรุงเทพฯ จังหวัดเลย และจังหวัดใกล้เคียง จับกุมผู้ต้องหาเครือข่ายพนันออนไลน์ “มินนี่” กว่า 30 หมายจับ

เตือนพายุฤดูร้อนไทยตอนบน ฉ.1 มีผล 6-8 มี.ค.นี้

กรมอุตุฯ ออกประกาศเตือนพายุฤดูร้อนบริเวณประเทศไทยตอนบน ฉบับที่ 1 มีผลกระทบช่วงวันที่ 6-8 มี.ค.68 เกิดพายุฝนฟ้าคะนอง ลมกระโชกแรง และลูกเห็บตกบางแห่ง

ข่าวแนะนำ

นางสงกรานต์ปี 68 นาม “ทุงสะเทวี” ธัญญาหาร-ประชาชนสุขสมบูรณ์

ฝ่ายโหรพราหมณ์ กองพระราชพิธี สำนักพระราชวัง ประกาศสงกรานต์ ปี 2568 วันที่ 14 เมษายน เป็นวันมหาสงกรานต์ นางสงกรานต์ ทรงนามว่า ทุงสะเทวี

ขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์จากเมียวดีกลับจีน รอบ 2

เริ่มแล้วปฏิบัติการขนเหยื่อและแก๊งคอลเซ็นเตอร์ชาวจีนจากเมืองเมียวดี กลับจีน รอบ 2 จำนวน 4 วัน 19 เที่ยวบิน รวมกว่า 1,400 คน

ฮั้วเลือก สว.

DSI รับเรื่อง “ฮั้วเลือก สว.” เป็นคดีพิเศษ

6 มี.ค. – คณะกรรมการคดีพิเศษมีมติรับการฮั้วเลือก สว. เป็นคดีพิเศษตามมาตรา 21 (1) คือเข้าข่ายการฟอกเงิน ด้วยมติเห็นชอบ 11 เสียง นายภูมิธรรม เวชยชัย รองนายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงกลาโหม พร้อมด้วย พ.ต.อ.ทวี สอดส่อง รัฐมนตรีว่าการกระทรวงยุติธรรม และคณะกรรมการคดีพิเศษ (กคพ.) ร่วมประชุมพิจารณาคดีเรื่องสืบสวนที่ 151/2567 กรณีการคัดเลือกสมาชิกวุฒิสภา (สว.) ที่มีกระบวนการหรือพฤติการณ์ที่ไม่ได้เป็นไปด้วยสุจริตหรือเที่ยงธรรม เป็นคดีพิเศษหรือไม่ ซึ่งเป็นการนัดประชุมครั้งที่ 2 ภายหลังส่งเรื่องให้คณะอนุกรรมการกลั่นกรองด้านอาชญากรรมระหว่างประเทศและอาชญากรรมพิเศษ เป็นพิจารณาให้ได้ข้อยุติก่อนเสนอคณะกรรมการคดีพิเศษในวันนี้ โดยในช่วงการเปิดประชุม พ.ต.ต.ยุทธนา แพรดำ อธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ ในฐานะเลขานุการคณะกรรมการ ได้รายงานว่า วันนี้มีผู้เข้าร่วมประชุม 19 คน ลาประชุม 3 คน ประกอบด้วย คณะกรรมการผู้ทรงคุณวุฒิ 2 คน คือ พล.ต.อ.สุทิน ทรัพย์พ่วง ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการสอบสวนคดีอาญา และ พล.ต.ท.สำราญ นวลมา ผู้ทรงคุณวุฒิด้านการป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน […]

คุมตัว “มินนี่” และพวกฝากขัง ค้านประกัน

ตำรวจไซเบอร์คุมตัว “มินนี่” และพวกรวม 10 คน เอี่ยวเว็บพนัน ฝากขังศาลอาญา พร้อมคัดค้านประกันตัว หลังพบกระทำผิดซ้ำ ด้านเจ้าตัวยันไม่ได้ติดต่อผู้ใหญ่ให้ช่วย